ฝันร้ายกำลังมาเยือน Apple | ปัจจุบันราคาของหุ้น Apple ลดลง 37% ภายในเวลาไม่ถึงสามเดือน หายไปกว่า 13 ล้านล้าน บาท

กระทู้ข่าว


ฝันร้ายกำลังมาเยือน Apple / โดย ลงทุนแมน

ใครจะไปคิดว่า
ฝันร้ายของ Apple คือ “การเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่”

เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
Apple กลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีแห่งแรก
ที่มีมูลค่าพุ่งสูงเกินกว่าหนึ่งล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

หนึ่งเดือนต่อมา..

Apple ได้ประกาศเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ทั้งสามรุ่น iPhone XS, iPhone XS Max และ iPhone XR
ซึ่งนักวิเคราะห์จำนวนมากต่างได้คาดการณ์ว่า Apple จะเติบโตขึ้นหลังจากการเปิดตัวครั้งนี้

แต่เรื่องนี้กลับผิดคาด

Apple ต้องเผชิญกับปัญหา iPhone XR ซึ่งเป็นรุ่นเล็กที่สุดในบรรดารุ่นใหม่ทั้งสามรุ่น มียอดสั่งซื้อน้อยกว่าคาด จนต้องลดจำนวนการผลิตลง

และหลังจากนั้นไม่นาน ปัญหานี้ก็ได้เกิดขึ้นกับ iPhone XS และ iPhone XS Max เช่นกัน

กลายเป็นว่า Apple ต้องสั่งลดกำลังการผลิต iPhone รุ่นใหม่ที่เปิดตัวทั้งหมด

นอกจากนั้นทางบริษัท Foxconn ผู้ผลิต iPhone ให้กับ Apple ยังได้ออกมาประกาศอีกว่าจะลดจำนวนพนักงานทั่วไปลงอีก 10%

พร้อมกันนี้ยังวางแผนที่จะลดค่าใช้จ่ายสำหรับธุรกิจ iPhone ลงเป็นมูลค่าทั้งหมด 6 พันล้านหยวน หรือคิดเป็นเงินไทยเกือบ 3 หมื่นล้านบาท

เรื่องทั้งหมดนี้สะท้อนถึงแนวโน้มในอนาคตที่ไม่ค่อยสดใสของ Apple เท่าไรนัก

ในเดือนพฤศจิกายน Apple ได้กล่าวถึงตัวเลขประมาณการของไตรมาสที่ 4 ว่ารายได้ทั้งหมดของบริษัทจะอยู่ที่ประมาณ 89,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 92,880 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

และที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ ทาง Apple กล่าวว่า ต่อจากนี้ไปบริษัทจะไม่รายงานยอดขายที่อยู่ในรูปแบบของจำนวนเครื่องอีกต่อไปแล้ว

เรื่องนี้น่าสนใจที่ว่า Apple จงใจเน้นขายเครื่องที่ราคาสูงขึ้น แต่ทำให้จำนวนเครื่องขายได้น้อยลง

การประกาศในครั้งนั้นได้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อบริษัท Apple เป็นอย่างมาก
ส่งผลให้หุ้นของบริษัท Apple ปรับลดลงมากถึง 6.4% ภายในวันเดียว

แต่ความโชคร้ายของบริษัท Apple ก็ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น

ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น จากกรณีการจับตัว CFO ของบริษัท Huawei ที่สนามบินของประเทศแคนาดา

เรื่องนี้ได้สร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลจีน และลุกลามไปถึงบริษัทจีนหลายๆแห่ง
จนถึงขั้นที่ว่าบางบริษัทประกาศว่า พนักงานที่ใช้ iPhone อาจจะไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง

ส่วนคนไหนที่ต้องการจะเปลี่ยนจาก iPhone มาใช้ Huawei ทางบริษัทจะมอบเงินบางส่วนให้สำหรับการเปลี่ยนสมาร์ตโฟนในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ทางบริษัท Apple ยังไม่ได้มีการพูดถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเรื่องนี้

จนล่าสุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา Tim Cook ซีอีโอของบริษัท Apple ได้ออกมาเขียนจดหมายถึงนักลงทุน ซึ่งได้มีการปรับประมาณการรายได้ของบริษัทลงอีกจาก 89,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงมาเหลือเพียง 84,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น

Tim Cook ให้เหตุผลว่า สาเหตุของการปรับลดประมาณการในครั้งนี้มาจากยอดขายของ iPhone ที่ลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีนและกลุ่มตลาดเกิดใหม่ โดยอ้างว่าเป็นผลมาจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวเป็นอย่างมากในปีที่ผ่านมา

แต่จริงๆแล้วในเวลาเดียวกันสมาร์ตโฟนสัญชาติจีน เช่น Huawei กลับมียอดขายในประเทศเพิ่มขึ้น

Tim Cook พยายามบอกว่าถึงแม้ iPhone ซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัทจะปรับตัวลดลง แต่สำหรับรายได้ส่วนอื่นๆของบริษัทก็ยังคงมีการเติบโตอยู่ และ iPad เองก็เริ่มมีการฟื้นตัวกลับมาอีกครั้งจากการออก iPad Pro หลังจากที่ยอดขายตกลงอย่างต่อเนื่องมานาน

แต่ดูเหมือนว่านักลงทุนจะไม่ค่อยสนใจกับการเติบโตในส่วนอื่นๆนอกเหนือจาก iPhone ตามที่ Tim Cook ได้กล่าวไว้ ส่งผลให้หุ้นของ Apple ปรับตัวลดลงถึง 8% ทันทีหลังการประกาศจดหมายฉบับนี้

หุ้นของบริษัท Apple เคยทำจุดสูงสุดที่ราคา 233.47 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น
ปัจจุบันราคาของหุ้น Apple อยู่ที่ 146 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ลดลง 37% ภายในเวลาไม่ถึงสามเดือน

ถ้าเทียบเป็นมูลค่าบริษัท เราก็จะพบว่าหายไปเกือบ 4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
หรือคิดเป็นเงินไทยที่มากถึง 13 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว

จากบริษัทที่เคยมีมูลค่ามากสุดในโลก ก็ได้เป็นแค่อดีต เพราะถูกบริษัทอื่นแซงหน้าไป

ที่น่าสนใจคือ การชะลอตัวของบริษัท Apple ในครั้งนี้เริ่มส่งสัญญาณมานานแล้ว

เพราะในช่วงเวลาที่ผ่านมา ยอดขายของจำนวน iPhone ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัดมาตั้งแต่ปี 2015 แล้ว
ซึ่งการเติบโตของบริษัทในช่วงที่ผ่านมาถูกแทนที่ด้วยการปรับขึ้นราคาสินค้า

จนกระทั่งถึงในรุ่นของ iPhoneX ที่การปรับราคาขึ้น เริ่มส่งผลกระทบต่อการขายของ Apple จนทำให้บริษัทต้องยอมที่จะลดราคาของ iPhoneX หลังจากเปิดตัวได้เพียงเดือนเดียวเท่านั้น

ซึ่งสุดท้ายแล้ว ปัญหานี้ก็ได้กลับมาบานปลายอีกครั้งใน iPhone ทั้งสามรุ่นล่าสุดอย่างที่เราเห็นกัน

สิ่งที่ท้าทายต่อจากนี้ของ Apple ก็คงจะเป็นการสร้างสิ่งใหม่ที่แตกต่างกว่าเดิมให้กับ iPhone
เพื่อให้ผู้ซื้อรู้สึกยอมรับได้กับราคาที่ปรับเพิ่มขึ้น

และถ้าทำไม่สำเร็จ Apple อาจจะต้องเสียส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ตโฟนไปเรื่อยๆ และจะยังคงอยู่กับฝันร้ายนี้ต่อไป..
----------------------

ที่มา https://www.facebook.com/longtunman/photos/a.113656345833649/480445919154688?type=3&sfns=cl

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่