ผม : “เอ๊ย เธอ เวียดนามกลางที่เคยคุยกันไว้ เราว่า 5 วันกำลังดีอะ ลองดูค่าตั๋วเครื่องบินกันมั้ย”
พนักงานสองหน่อผู้ใช้เวลางานแอบบอสมานั่งหาตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวที่ต้องสะดุ้งโหยงทุกครั้งเมื่อเห็นเงาคนวูบผ่านหลังจอคอม ทำหน้าตาซีเรียสคิ้วขมวดประหนึ่งกำลังตั้งใจทำงาน
=>ตั๋วไปกลับ 5 วัน หกพันกว่าบาทต่อคน.......................
=>ตั๋วไปกลับ 8 คืน 7 วัน สามพันกว่าบาทต่อคน....................
กุมขมับนั่งกดเครื่องคิดเลขดีดลูกคิด เทียบราคากับชั่งน้ำหนักวันลาพร้อมกับแกะขนมส่วนกลางของแผนกมานั่งกินกันไปพลางเป็นห่อที่สาม ทันใดนั้นเหมือนมีอะไรซักอย่างมาดลใจ ภาพของตาลุงเครายาวในชุดนักปราชญ์จีนยืนลูบเคราโบกพัดไปมาได้ปรากฏขึ้นในส่วนลึกของจิตใจพร้อมเปร่งเสียงทะลุมาในความมืดมิด
“เวลาเป็นสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้นะไอ้หลาน ไปแล้วไปลับโบกมือจากไม่ย้อนคืน”
เหมือนกับแสงสว่างวาบขึ้นมาในใจ ผมวิ่งไปกุมมือตาลุงนักปราชญ์พร้อมหันกลับมาสบตาเจ้าหมู.........
8 คืน 7 วันสิวะ!!! เอาถูกเข้าว่าโว้ยยยยย!!
ภาพตัดกลับไปที่ตาลุงนักปราชญ์นั่งยองๆกุมขมับอยู่ในความมืดมิด
............................................
............................
................
....
นี่จึงเป็นที่มาของทริปนี้ที่กดกันไปถึง 8 คืน 7 วัน ปะ!!!เริ่ม!!!
21 พฤศจิกายน 2561 : ดอนเมือง => สนามบินดานัง => ฮอยอัน
22 พฤศจิกายน 2561 : ฮอยอัน
23 พฤศจิกายน 2561 : ฮอยอัน
24 พฤศจิกายน 2561 : ฮอยอัน => ดานัง => เหว้
25 พฤศจิกายน 2561 : เหว้ => ดานัง => บานาฮิลล์
26 พฤศจิกายน 2561 : บานาฮิลล์ => ดานัง
27 พฤศจิกายน 2561 : ดานัง
28 พฤศจิกายน 2561 : ดานัง => ดอนเมือง
เตรียมตัวก่อนไป
1. การคิดเงิน
จาก ด่ง(VND)เป็นบาท(THB) ให้เอาเงินด่งคูณด้วย 0.00142 จะมีค่าเท่ากับเงินบาทไทย หรือถ้าจะเอาง่ายกว่านั้น ให้หาร 5000 แล้วคูณด้วย 7.5 แต่เนื่องจากสกิลการคิดเลขที่เท่ากับลิงถือลูกท้อของพวกผม 2 คน เอาเป็นว่า หาร 5000 คูณ 8 น่าจะพอไหวสำหรับเซลล์สมองอยู่
2.APP maps.me
โคตรสุดยอดแห่งวิวัฒนาการสำหรับคนที่สัญญากับตัวเองไว้ว่าไปเที่ยวไหนจะไม่ซื้อซิมเน็ตเด็ดขาด ไอ้หมอนี่คือคำตอบ!!! APP แผนที่แบบ Offline ที่สามารถโหลดแผนที่เก็บไว้ในเครื่องได้ก่อน พร้อมกับมาร์คจุดที่เที่ยวหรือที่พักเอาไว้ดูได้ยามเป็นมนุษย์หลังเขา สัญญาณเน็ตเข้าไม่ถึง จงโหลดมาซะ!! (สนใจติดต่อเป็นสปอนเซอร์ได้ที่เบอร์088-24......เดี๋ยวๆๆๆๆ นี่ก็ขายของเกิ๊น)
อนึ่ง การรีวิวนี้จะบรรยายทุกความคิดทุกความรู้สึกของตัวผมเอง น้ำจะเยอะอยู่หน่อยๆ ใครที่ต้องการเฉพาะเนื้อหาสำคัญให้ข้ามไปอ่านในคอมเมนท์สรุปที่...........................ไม่มีโว้ย บังคับอ่านไปด้วยกันนี่แหละ กรั้กๆๆ
อสอง ไม่มี ให้ย้อนกลับไปอ่านอนึ่ง.
21 พฤศจิกายน 2561
Danang internationnal airport
พวกเราสองคนที่ตั๋วเครื่องบินบินตรงจากดอนเมืองถึงดานังโดยเวลาที่ถึงสนามบินเป็นเวลาประมาณ 1ทุ่ม โดยการเข้าประเทศเวียดนามสำหรับคนไทยไม่ต้องกรอกใบเข้าประเทศครับ กำ passport แล้วเดินสวยๆเข้าไปได้เลย
เอาจริงๆผมว่าหรูกว่าสนามบินดอนเมืองมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ความสะอาดกับแสงไฟสีขาวที่ส่งเสริมให้สถานที่นี้มันจรัสแสงแห่งความสวยงามจนตาแทบบอด
Danang => Hoi an
ตัวเลือกสำหรับการเดินทางไปฮอยอันนั้น ทำได้หลักๆ 4 วิธี
1. เดินไปขึ้นรถบัส
สาย 1 ที่ป้ายรถเมลล์ข้างนอกสนามบิน ค่าใช้จ่ายคนละ 20 kVND (แต่เท่าที่อ่านมารถเมลล์หมดตั้งแต่ 6 โมงเย็น วิธีนี้จึงตีตกไป โฮว)
2. นั่ง Shuttle bus
ด้วยอัตราคนละ 6 USD ที่หน้าประตูทางออกสนามบิน (อ่านมาจากเว็ปต่างประเทศ)
3. นั่งแท็กซี่
อันนี้ไม่รู้ข้อมูลแฮะ ผ่านๆ
4. ติดต่อที่พักที่ฮอยอันให้เอารถมารับ
คันละ 11 USD ซึ่งเมื่อคิดดูแล้ว......ผมมากันสองคน คนละ 5.5 USD เองนี่หว่า!!! เอาๆๆๆๆๆๆ (เมลล์คุยกันกับที่พักและถามราคากันมาตั้งแต่อยู่ไทยแล้วครับ)
เมื่อเดินออกมาหน้าสนามบินก็เจอกับคนขับรถของพวกผมที่ยืนถือป้ายรอต้อนรับปะปนอยู่พร้อมกับคนขับรถหรือทัวร์ของคนอื่น...............ยืนชูเฉยๆก็ได้โว้ย โบกไปมาอย่างนั้นนึกว่าอยู่ในคอนเสิร์ต แทบจะเดินไปยื่นแท่งไฟให้
บ๊ะ!!! โตโยต้า มาพร้อมกับอาตี๋พนักงานขับรถที่เดินยิ้มแฉ่งจนตาปิดมาช่วยยกกระเป๋ายัดใส่ท้ายรถพร้อมกับเปิดประตูให้ ประหนึ่งทางผมและเจ้าหมูเป็นราชา
การขับรถในเวียดนามนั้นไม่ว่าถนนจะโล่งขนาดเอาโกล์หนูมาตั้งเตะฟุตบอลกันได้ยังไง ก็จะขับไม่เกิน 60 km/hr เด็ดขาด ถึงขนาดจังหวะที่แซงกันนี่ยังแซงกันด้วยความเร็วหกสิบนิดๆ เสียงแตรที่ได้ยินมาตลอดทาง แม้บางครั้งจะเป็นแตรด้วยความเกรี้ยวกราดขนาดไหนก็ตาม การแซงขึ้นหน้ามาปาดคู่อริเพื่อประกาศศักดาว่าถึงข้าจะเป็นหนูแฮมสเตอร์แต่ก็หยามไม่ได้นะโว้ยยยย.............แซงกันด้วยความเร็ว 60 นิดๆ == น่าร๊ากกกก เหมือนดูหนูแฮมสเตอร์อารมณ์บูดกลิ้งดึ๊บๆแข่งกัน
ส่วนเอ็งไอ้ตี๋ ตอนขับรถก็เลิกยิ้มได้แล้ว !!! ลุ้นชิบผายว่าเอ็งลืมตาขับรถอยู่รึเปล่า!!!
หลังจากที่รถแฮมเสตอร์ของพวกรากลิ้งดึ๊บๆกันมาประมาณ 45 นาที ช่วงเวลาแห่งการอวดก็เริ่มขึ้น ผมควักมือถือขึ้นมาอวดเจ้าหมูเตรียมพร้อมเริ่มขายของ สคริปในหัวจงมา
สคริปในใจ : “เนี่ย โชคดีนะเนี่ยที่เราเป็นคนเตรียมพร้อม เราโหลด MAP me พร้อมแผนที่มาแล้วเรียบร้อย ไอ้วงกลมกระพริบๆนี่คือตำแหน่งเราตอนนี้นะ ส่วนที่มาร์คกลมๆไว้ข้างหน้าก็คือที่พักของเราในคืนนี้ ต้องรอบคอบกับฉลาดแค่ไหนถึงได้เตรียมพร้อมขนาดนี้ โชคดีแล้วที่ให้เราเป็นคนนำทัพการเที่ยวในครั้งนี้ จงชมข้า จงชาบูแก่ข้า!!!”
โม้ชิบผาย โม้ขนาดนั่งนึกย้อนไปยังขนลุกตัวเอง
กำลังจะอ้าปากโม้เอาความดีความชอบเข้าตัวเอง ซักพักไอ้ตี๋มันจอดรถเฉย!!!! จากแผนที่ที่ปักหมุดไว้ยังอีกเกือบห้าร้อยเมตร!! ไอ้ตี๋!!! อธิบายมา!!!
อาตี๋ตาปิดผู้ซึ่งเดาไม่ได้ว่าขับรถลืมตารึเปล่า : “ถึงแล้วครับ”
ว๊อทททททททททททททททท หลอกพาตูมาฆ่ารึเปล่าฟระ
หน้าตาผมเลิ้กลั้กมากขนาดที่อาตี๋คงรู้สึกได้จึงชี้ไปที่ป้ายเล็กๆที่แขวนอยู่หน้าซอย
ผม,เจ้าหมู : เอ๊อะ!!
หันกลับมาอีกทีไอ้ตี๋ยิ้มตาปิดโบกมือหยอยๆสตาร์ตรถออกไปแล้วโว้ยยยย
หลังจากยืนงงๆโง่ๆด้วยกันอยู่สองคนซักพัก ตาลุงคนหนึ่งเดินออกมาจากซอยพร้อมแสดงตัวว่าเป็นคนของที่พักเพื่อมารับพวกเราสองคน และด้วยความเชื่อคนง่ายกับยังมึนๆอยู่ก็เดินตามเข้าไปในซอยเฉยก็มาถึงที่พักคืนแรกของพวกผม
Duck house
บ้านพักชื่อสุดน่ารักที่แผนที่ใน map me กับ booking ไม่เห็นจะตรงกับหน้างงานจริงเลยฟระ ขนาดห้องที่กำลังดีกับคนสองคนและมีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานอยู่บ้าง แถมละแวกนั้นยังมีร้านขายอาหารข้างทางอยู่ร้านสองร้านตรงปากซอยก็พอจะไหวอยู่
ข้อดี
1. ราคาน่ารักน่าคบหามากเพราะราคานี้รวมอาหารเช้าเข้าไปด้วย
2. ไม่ใกล้ไม่ไกลจากส่วน Old quarter เท่าไหร่นัก แถมวิวริมน้ำระหว่างทางเดินก็คุ้มค่ากับการเดินชมตลอดทาง
3. คุณคิมเจ้าของห้องพักจะให้เรา ADD friend Line ของเธอไว้ สามารถติดต่อกันได้สะดวกและภาษาอังกฤษเธอค่อนข้างแข็งแรงดีในระดับหนึ่ง
4. คุณคิมกับตาลุง(ซึ่งมารู้ทีหลังว่าเป็นพ่อคุณคิม)เฟรนด์ลี่กับให้ความช่วยเหลือได้ดีมากกกก ฟิลเหมือนไปเป็นคนในครอบครับเค้าอีกคน
5. มีไวไฟ เครื่องดื่มในตู้เย็นถูกกว่าซื้อโชวห่วยข้างนอกบางร้านอีก
6. ราคาทัวร์ที่ซื้อผ่านคุณคิมถือว่าไม่แรงมากนักเมื่อเทียบกับที่หาข้อมูลมาจากเว็ปนอก
7. อาหารเช้าหลากหลายและรสชาติดีในระดับหนึ่ง
ข้อเสีย
1. นี่ถ้านั่งรถมาเองนี่บรรลัยไส้ไปละ แผนที่กับหน้างานอยู่โคตรห่างกันเลยโว้ยยยยย แล้วป้ายที่พักก็หน่อยนึง มืดๆใครจะไปเห็นฟะ นี่ที่พักหรือดันเจี้ยนลับ
2. ตาลุงพูดอังกฤษแทบไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพยายามสื่อสารอย่างเต็มที่ เวลาอยากได้อะไรแนะนำคุยกับคุณคิมผ่านไลน์ดีกว่า หรือเต็มกลืนจริงๆลุงจะโทรหาคุณคิมแล้วต่อสายให้
3. คุณคิมทำงานประจำ กลางวันไม่อยู่ กว่าจะกลับบ้านมาอีกทีก็สามทุ่ม!!!!! อะเหรื้ออออ คุณคิ๊มมมมมมมม
4. ร้านขายของค่อนข้างไกล แต่จะแคร์อะไร ในเมื่อของในตู้เย็นมันถูกกว่าข้างนอก
หลังจากที่จัดแจงเก็บของกับปรับลมหายใจจากอาการกลัวเนื่องจากคิดว่าไอ้ตี๋ลวงมาฆ่าหมก เราก็ได้เจอกับคุณคิมครับ ซึ่งก็ได้ซื้อทัวร์ เกาะจามในวันรุ่งขึ้นและ My son(หมี่เซิน) ในวันถัดไป หลังจากนั้นก็...........ท่องราตรีกั๊น!!!!!
ภาพทางเดินเลียบคลองจากที่พักไปที่ Old quarter นั้งประดับไปด้วยแสงไฟสีเดย์ไลท์จากบ้านริมคลองทอดยาวไปข้างหน้า พร้อมกับโต๊ะแล้วเก้าอี้ซักผ้าที่ขายอาหารยาวไปสุดลูกหูลูกตา ความเงียบและความผ่อนคลายค่อยๆเกาะกินและหล่อหลอมพวกเราจนทำให้ลื่นไหลไปกับบรรยากาศโดยไม่รู้ตัว
.
.
จนเดินมาถึง Old quarter นี่แหละโง้ย ความสงบหายไปแบบปุบปับเหมือนนั่งจิบชาฟังเพลงอยู่ริมผาแล้วโดนกลุ่มคนขนาดใหญ่โดดถีบขาคู่ลงมา
คนเยอะชิบผาย!!!!
[CR] แบกเป้เที่ยวเวียดนามกลาง ฮอยอัน เหว้ ดานัง บานาฮิลล์ 8 คืน 7 วัน ด้วยงบ12,000กับน้ำหนักที่หายไป 1 กิโล!
ผม : “เอ๊ย เธอ เวียดนามกลางที่เคยคุยกันไว้ เราว่า 5 วันกำลังดีอะ ลองดูค่าตั๋วเครื่องบินกันมั้ย”
พนักงานสองหน่อผู้ใช้เวลางานแอบบอสมานั่งหาตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวที่ต้องสะดุ้งโหยงทุกครั้งเมื่อเห็นเงาคนวูบผ่านหลังจอคอม ทำหน้าตาซีเรียสคิ้วขมวดประหนึ่งกำลังตั้งใจทำงาน
=>ตั๋วไปกลับ 5 วัน หกพันกว่าบาทต่อคน.......................
=>ตั๋วไปกลับ 8 คืน 7 วัน สามพันกว่าบาทต่อคน....................
กุมขมับนั่งกดเครื่องคิดเลขดีดลูกคิด เทียบราคากับชั่งน้ำหนักวันลาพร้อมกับแกะขนมส่วนกลางของแผนกมานั่งกินกันไปพลางเป็นห่อที่สาม ทันใดนั้นเหมือนมีอะไรซักอย่างมาดลใจ ภาพของตาลุงเครายาวในชุดนักปราชญ์จีนยืนลูบเคราโบกพัดไปมาได้ปรากฏขึ้นในส่วนลึกของจิตใจพร้อมเปร่งเสียงทะลุมาในความมืดมิด
เหมือนกับแสงสว่างวาบขึ้นมาในใจ ผมวิ่งไปกุมมือตาลุงนักปราชญ์พร้อมหันกลับมาสบตาเจ้าหมู.........
8 คืน 7 วันสิวะ!!! เอาถูกเข้าว่าโว้ยยยยย!!
ภาพตัดกลับไปที่ตาลุงนักปราชญ์นั่งยองๆกุมขมับอยู่ในความมืดมิด
............................................
............................
................
....
นี่จึงเป็นที่มาของทริปนี้ที่กดกันไปถึง 8 คืน 7 วัน ปะ!!!เริ่ม!!!
21 พฤศจิกายน 2561 : ดอนเมือง => สนามบินดานัง => ฮอยอัน
22 พฤศจิกายน 2561 : ฮอยอัน
23 พฤศจิกายน 2561 : ฮอยอัน
24 พฤศจิกายน 2561 : ฮอยอัน => ดานัง => เหว้
25 พฤศจิกายน 2561 : เหว้ => ดานัง => บานาฮิลล์
26 พฤศจิกายน 2561 : บานาฮิลล์ => ดานัง
27 พฤศจิกายน 2561 : ดานัง
28 พฤศจิกายน 2561 : ดานัง => ดอนเมือง
จาก ด่ง(VND)เป็นบาท(THB) ให้เอาเงินด่งคูณด้วย 0.00142 จะมีค่าเท่ากับเงินบาทไทย หรือถ้าจะเอาง่ายกว่านั้น ให้หาร 5000 แล้วคูณด้วย 7.5 แต่เนื่องจากสกิลการคิดเลขที่เท่ากับลิงถือลูกท้อของพวกผม 2 คน เอาเป็นว่า หาร 5000 คูณ 8 น่าจะพอไหวสำหรับเซลล์สมองอยู่
โคตรสุดยอดแห่งวิวัฒนาการสำหรับคนที่สัญญากับตัวเองไว้ว่าไปเที่ยวไหนจะไม่ซื้อซิมเน็ตเด็ดขาด ไอ้หมอนี่คือคำตอบ!!! APP แผนที่แบบ Offline ที่สามารถโหลดแผนที่เก็บไว้ในเครื่องได้ก่อน พร้อมกับมาร์คจุดที่เที่ยวหรือที่พักเอาไว้ดูได้ยามเป็นมนุษย์หลังเขา สัญญาณเน็ตเข้าไม่ถึง จงโหลดมาซะ!! (สนใจติดต่อเป็นสปอนเซอร์ได้ที่เบอร์088-24......เดี๋ยวๆๆๆๆ นี่ก็ขายของเกิ๊น)
อนึ่ง การรีวิวนี้จะบรรยายทุกความคิดทุกความรู้สึกของตัวผมเอง น้ำจะเยอะอยู่หน่อยๆ ใครที่ต้องการเฉพาะเนื้อหาสำคัญให้ข้ามไปอ่านในคอมเมนท์สรุปที่...........................ไม่มีโว้ย บังคับอ่านไปด้วยกันนี่แหละ กรั้กๆๆ
อสอง ไม่มี ให้ย้อนกลับไปอ่านอนึ่ง.
พวกเราสองคนที่ตั๋วเครื่องบินบินตรงจากดอนเมืองถึงดานังโดยเวลาที่ถึงสนามบินเป็นเวลาประมาณ 1ทุ่ม โดยการเข้าประเทศเวียดนามสำหรับคนไทยไม่ต้องกรอกใบเข้าประเทศครับ กำ passport แล้วเดินสวยๆเข้าไปได้เลย
เอาจริงๆผมว่าหรูกว่าสนามบินดอนเมืองมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ความสะอาดกับแสงไฟสีขาวที่ส่งเสริมให้สถานที่นี้มันจรัสแสงแห่งความสวยงามจนตาแทบบอด
1. เดินไปขึ้นรถบัส
สาย 1 ที่ป้ายรถเมลล์ข้างนอกสนามบิน ค่าใช้จ่ายคนละ 20 kVND (แต่เท่าที่อ่านมารถเมลล์หมดตั้งแต่ 6 โมงเย็น วิธีนี้จึงตีตกไป โฮว)
2. นั่ง Shuttle bus
ด้วยอัตราคนละ 6 USD ที่หน้าประตูทางออกสนามบิน (อ่านมาจากเว็ปต่างประเทศ)
3. นั่งแท็กซี่
อันนี้ไม่รู้ข้อมูลแฮะ ผ่านๆ
4. ติดต่อที่พักที่ฮอยอันให้เอารถมารับ
คันละ 11 USD ซึ่งเมื่อคิดดูแล้ว......ผมมากันสองคน คนละ 5.5 USD เองนี่หว่า!!! เอาๆๆๆๆๆๆ (เมลล์คุยกันกับที่พักและถามราคากันมาตั้งแต่อยู่ไทยแล้วครับ)
เมื่อเดินออกมาหน้าสนามบินก็เจอกับคนขับรถของพวกผมที่ยืนถือป้ายรอต้อนรับปะปนอยู่พร้อมกับคนขับรถหรือทัวร์ของคนอื่น...............ยืนชูเฉยๆก็ได้โว้ย โบกไปมาอย่างนั้นนึกว่าอยู่ในคอนเสิร์ต แทบจะเดินไปยื่นแท่งไฟให้
บ๊ะ!!! โตโยต้า มาพร้อมกับอาตี๋พนักงานขับรถที่เดินยิ้มแฉ่งจนตาปิดมาช่วยยกกระเป๋ายัดใส่ท้ายรถพร้อมกับเปิดประตูให้ ประหนึ่งทางผมและเจ้าหมูเป็นราชา
การขับรถในเวียดนามนั้นไม่ว่าถนนจะโล่งขนาดเอาโกล์หนูมาตั้งเตะฟุตบอลกันได้ยังไง ก็จะขับไม่เกิน 60 km/hr เด็ดขาด ถึงขนาดจังหวะที่แซงกันนี่ยังแซงกันด้วยความเร็วหกสิบนิดๆ เสียงแตรที่ได้ยินมาตลอดทาง แม้บางครั้งจะเป็นแตรด้วยความเกรี้ยวกราดขนาดไหนก็ตาม การแซงขึ้นหน้ามาปาดคู่อริเพื่อประกาศศักดาว่าถึงข้าจะเป็นหนูแฮมสเตอร์แต่ก็หยามไม่ได้นะโว้ยยยย.............แซงกันด้วยความเร็ว 60 นิดๆ == น่าร๊ากกกก เหมือนดูหนูแฮมสเตอร์อารมณ์บูดกลิ้งดึ๊บๆแข่งกัน
ส่วนเอ็งไอ้ตี๋ ตอนขับรถก็เลิกยิ้มได้แล้ว !!! ลุ้นชิบผายว่าเอ็งลืมตาขับรถอยู่รึเปล่า!!!
หลังจากที่รถแฮมเสตอร์ของพวกรากลิ้งดึ๊บๆกันมาประมาณ 45 นาที ช่วงเวลาแห่งการอวดก็เริ่มขึ้น ผมควักมือถือขึ้นมาอวดเจ้าหมูเตรียมพร้อมเริ่มขายของ สคริปในหัวจงมา
สคริปในใจ : “เนี่ย โชคดีนะเนี่ยที่เราเป็นคนเตรียมพร้อม เราโหลด MAP me พร้อมแผนที่มาแล้วเรียบร้อย ไอ้วงกลมกระพริบๆนี่คือตำแหน่งเราตอนนี้นะ ส่วนที่มาร์คกลมๆไว้ข้างหน้าก็คือที่พักของเราในคืนนี้ ต้องรอบคอบกับฉลาดแค่ไหนถึงได้เตรียมพร้อมขนาดนี้ โชคดีแล้วที่ให้เราเป็นคนนำทัพการเที่ยวในครั้งนี้ จงชมข้า จงชาบูแก่ข้า!!!”
โม้ชิบผาย โม้ขนาดนั่งนึกย้อนไปยังขนลุกตัวเอง
กำลังจะอ้าปากโม้เอาความดีความชอบเข้าตัวเอง ซักพักไอ้ตี๋มันจอดรถเฉย!!!! จากแผนที่ที่ปักหมุดไว้ยังอีกเกือบห้าร้อยเมตร!! ไอ้ตี๋!!! อธิบายมา!!!
อาตี๋ตาปิดผู้ซึ่งเดาไม่ได้ว่าขับรถลืมตารึเปล่า : “ถึงแล้วครับ”
ว๊อทททททททททททททททท หลอกพาตูมาฆ่ารึเปล่าฟระ
หน้าตาผมเลิ้กลั้กมากขนาดที่อาตี๋คงรู้สึกได้จึงชี้ไปที่ป้ายเล็กๆที่แขวนอยู่หน้าซอย
ผม,เจ้าหมู : เอ๊อะ!!
หันกลับมาอีกทีไอ้ตี๋ยิ้มตาปิดโบกมือหยอยๆสตาร์ตรถออกไปแล้วโว้ยยยย
หลังจากยืนงงๆโง่ๆด้วยกันอยู่สองคนซักพัก ตาลุงคนหนึ่งเดินออกมาจากซอยพร้อมแสดงตัวว่าเป็นคนของที่พักเพื่อมารับพวกเราสองคน และด้วยความเชื่อคนง่ายกับยังมึนๆอยู่ก็เดินตามเข้าไปในซอยเฉยก็มาถึงที่พักคืนแรกของพวกผม
บ้านพักชื่อสุดน่ารักที่แผนที่ใน map me กับ booking ไม่เห็นจะตรงกับหน้างงานจริงเลยฟระ ขนาดห้องที่กำลังดีกับคนสองคนและมีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานอยู่บ้าง แถมละแวกนั้นยังมีร้านขายอาหารข้างทางอยู่ร้านสองร้านตรงปากซอยก็พอจะไหวอยู่
ข้อดี
1. ราคาน่ารักน่าคบหามากเพราะราคานี้รวมอาหารเช้าเข้าไปด้วย
2. ไม่ใกล้ไม่ไกลจากส่วน Old quarter เท่าไหร่นัก แถมวิวริมน้ำระหว่างทางเดินก็คุ้มค่ากับการเดินชมตลอดทาง
3. คุณคิมเจ้าของห้องพักจะให้เรา ADD friend Line ของเธอไว้ สามารถติดต่อกันได้สะดวกและภาษาอังกฤษเธอค่อนข้างแข็งแรงดีในระดับหนึ่ง
4. คุณคิมกับตาลุง(ซึ่งมารู้ทีหลังว่าเป็นพ่อคุณคิม)เฟรนด์ลี่กับให้ความช่วยเหลือได้ดีมากกกก ฟิลเหมือนไปเป็นคนในครอบครับเค้าอีกคน
5. มีไวไฟ เครื่องดื่มในตู้เย็นถูกกว่าซื้อโชวห่วยข้างนอกบางร้านอีก
6. ราคาทัวร์ที่ซื้อผ่านคุณคิมถือว่าไม่แรงมากนักเมื่อเทียบกับที่หาข้อมูลมาจากเว็ปนอก
7. อาหารเช้าหลากหลายและรสชาติดีในระดับหนึ่ง
ข้อเสีย
1. นี่ถ้านั่งรถมาเองนี่บรรลัยไส้ไปละ แผนที่กับหน้างานอยู่โคตรห่างกันเลยโว้ยยยยย แล้วป้ายที่พักก็หน่อยนึง มืดๆใครจะไปเห็นฟะ นี่ที่พักหรือดันเจี้ยนลับ
2. ตาลุงพูดอังกฤษแทบไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพยายามสื่อสารอย่างเต็มที่ เวลาอยากได้อะไรแนะนำคุยกับคุณคิมผ่านไลน์ดีกว่า หรือเต็มกลืนจริงๆลุงจะโทรหาคุณคิมแล้วต่อสายให้
3. คุณคิมทำงานประจำ กลางวันไม่อยู่ กว่าจะกลับบ้านมาอีกทีก็สามทุ่ม!!!!! อะเหรื้ออออ คุณคิ๊มมมมมมมม
4. ร้านขายของค่อนข้างไกล แต่จะแคร์อะไร ในเมื่อของในตู้เย็นมันถูกกว่าข้างนอก
หลังจากที่จัดแจงเก็บของกับปรับลมหายใจจากอาการกลัวเนื่องจากคิดว่าไอ้ตี๋ลวงมาฆ่าหมก เราก็ได้เจอกับคุณคิมครับ ซึ่งก็ได้ซื้อทัวร์ เกาะจามในวันรุ่งขึ้นและ My son(หมี่เซิน) ในวันถัดไป หลังจากนั้นก็...........ท่องราตรีกั๊น!!!!!
ภาพทางเดินเลียบคลองจากที่พักไปที่ Old quarter นั้งประดับไปด้วยแสงไฟสีเดย์ไลท์จากบ้านริมคลองทอดยาวไปข้างหน้า พร้อมกับโต๊ะแล้วเก้าอี้ซักผ้าที่ขายอาหารยาวไปสุดลูกหูลูกตา ความเงียบและความผ่อนคลายค่อยๆเกาะกินและหล่อหลอมพวกเราจนทำให้ลื่นไหลไปกับบรรยากาศโดยไม่รู้ตัว
.
.
จนเดินมาถึง Old quarter นี่แหละโง้ย ความสงบหายไปแบบปุบปับเหมือนนั่งจิบชาฟังเพลงอยู่ริมผาแล้วโดนกลุ่มคนขนาดใหญ่โดดถีบขาคู่ลงมา
คนเยอะชิบผาย!!!!
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้