สวัสดีต้อนรับ 2562 ครับ และก็ขออภัยที่รายการเดอะแร็ปเปอร์ทำให้คุกกี้คึกคะนองไประบายในที่ต่างๆนะครับ ^^
จะเล่าให้ทราบ
ตอนเกิดที่ยังไม่จำความ จากท้องแม่ ผมคือคนมีหรือไม่มีพลังกันแน่
แต่ตอนที่จำความและเรียนอนุบาลผมไม่จำเป็นต้องท่องซ้ำซาก ผมรับเข้าครั้งเดียว ปัจจัยเกรดสูงมาจากไอคิวทำข้อสอบ ผมเป็นอัจฉริยะ
พลังอ่านทีเดียวผมจำได้สามบรรทัด
ไม่ขยันครับ ชีวิตวัยเด็กไม่แข่งขัน ช่วงประถมผมอาจจะดื้อ นิสัยแย่อยู่แล้ว เพื่อนๆมันก็ไม่ค่อยมาชอบนะ แต่เปลี่ยนนิสัยไปเองตอนมหาลัย เพื่อนยิ่งไม่ชอบผมเข้าไปใหญ่
พลังของผมพิสูจน์ให้เห็นความเก่งเป็นอัจฉริยะตอนม.ต้นห้องคิงมาตลอด ผมจึงมีการศึกษาสูงขึ้น รักษาระดับหนึ่งในห้องคิงผมเชื่อเลยว่าม.1-2 ผมคือคนเรียนเกียรตินิยมแพทยศาสตร์ ถึงแม้ไม่เคยทำจริงๆ
ตั้งแต่ที่ผมขึ้นม.3 เป็นต้นมา สมองผมก็เปลี่ยนไป ผมอ่านครั้งเดียวแล้วไม่จำ ไม่สู้ ชีวิตไปเตร็ดเตร่อยู่หลายปี ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะไปทางไหน แต่เข้าสายวิทย์เพราะอยากเป็นหมอสัตว์ นรกกินกบาลเพราะสันดานตัวเองทำวีรกรรมกับสังคม แต่ไม่ทำกับผู้ใหญ่กับเพื่อนผู้หญิงก็เท่านั้น
ตอนเตร็ดเตร่หลายปี เล่นสนุกไปวันๆ เอาแต่ฟังเพลง ชอบคิดเพลง ประสาทสมองผมเสียเลยจากตอนนั้น
จบม.หกแล้วได้เกรดแค่สองไม่ได้เป็นหมอ
ผมเริ่มเปลี่ยนนิสัย ให้ใจไปทุ่มเทกับหนังสืออีกครั้ง เพราะมหาลัยแรกที่ผมเข้าเป็นเหมือนกับผมเลยล่ะ(ไอ้ความชั่วน่ะ)
มันรักหรือเกลียดกันแน่ แต่คนมันเกลียดกันเยอะนะ
เคยลองจ่ายเงินเรียนหมอสัตว์เอกชน ผมคือไอ้ห่วยแล้วก็ออกกลางคัน เริ่มลองบุหรี่ มันเริ่มจากหมอสัตว์นี่แหละ แต่ที่ตัดสินใจซื้อบุหรี่จริงคือจุฬาสูบบุหรี่ ถ้าคุณไม่เชื่อ ผมจะย้อนเวลาไปหาหลักฐานยังไงล่ะเนี่ย
ผมแค่ค้นหาคำตอบชีวิตของผม สูบบุหรี้ก็เป็นการค้นหาชีวิต ทำไมผมไม่ค่อยมีอะไร
สูบบุหรี่น่ะ กำลังคิดว่าตัวเองจะได้พลังจดจำ นอกจากจะไม่ได้กลับไปเหมือนเดิมแล้ว ยังต้องมาเสพติดบุหรี่มาจนปัจจุบัน เอ่อ ผมรู้ว่าสูบบุหรี้แล้วไม่ใช่หมอ ไม่ใช่จุฬาก็ยังสูบ เวรกรรมของผมเอง
แสดงว่าตอนเด็กเล็กไม่ใช่คำตอบของตัวตนอย่างผม ตัวตนของผมคือสมองทึบล่ะมั้ง ตอนมีพลังสมองเผลอทำตัวแย่เท่ากับว่าผมไม่น่าคบจริงๆ
ครับ ผมผ่านมหาลัยมาหลายที่ หาเส้นทางที่ใช่ และใส่ใจกับสิ่งที่ชอบในปัจจุบัน
อ่านครับ อ่านหนังสือหลายรอบนี่แหละ
ผมเรียนนิเทศเป็นสิ่งที่ชอบ ผมเข้าเอกชนแห่งหนึ่งที่ผมชอบทั้งๆที่พ่อแม่ไม่อยากจะส่งเสริมเนื่องจากสิ่งที่พ่อแม่ให้เรียนที่เคยให้ผมได้0.4รีไทร์
ผมขยันกับสิ่งที่ชอบ ปี1 ผมได้ 2.6 และ 3.16 ปี2 ผมได้ 3.16
ผมอยู่ปีสองแล้วล่ะ เพราะขยัน
คนที่มันดูธรรมดาจะไม่หยุดอยู่กับที่แบบผมตอนนี้ ให้เพื่อนแท้ของผมอาศัยปัจจัยหน่อยละกัน
1.ถ้ายังมีฐานะ ใช้เงินซื้ออาหารมาเติมพลัง มีเงินเข้าเรียนไม่มากก็ผ่อนละกัน
2.อ่านมันเข้าไปเถอะ ผมสารภาพ ผมอ่านหนังสือไม่ปกติ เพราะประสาทสมองผมเสียให้กับการฟังเพลงมาก่อน สติสตางค์สมาธิไม่ค่อยดี แถมบุหรี้ นอกนั้นคือเวรกรรมของผม ผมอ่านหนังสือมากกว่าสิบครั้งก็ประสาทสมองของผมแย่ บุหรี่ก็ทำลายสมองไปบ้าง
3.ไอคิว+ความชอบของคนต่างกัน ซึ่งตัวผมนับว่าถ้าเก่งอะไรแล้วมันเก่งโคตรเลยนะ
บทเรียนชีวิตจากผม : ไม่ต้องมีพลังก็ได้ พลังจำตอนเด็กมันก็แค่รู้มาก เรียนหนังสือจบไว บางคนแค่ขยันก็เกรดสูง
การเลือกเส้นทางที่ผิดที่พลาดไป มันเลยเสียเวลา
เอิ่ม ถ้ากลับไปใส่ใจกับการเรียนตอนมัธยม ผมอยากไปสายที่ใช่และสอบเข้ารัฐบาลได้แน่นอน ต้องขยันเข้าไว้แล้วมันจะดีเอง
ผมแค่เป็นคนมีไอคิวสูง ปัจจัยภายนอกที่ผมไม่อยากเป็นคนต้อยต่ำอยู่ทีเดิมก็แค่ฐานะ(เงินเติมพลัง) และ ลักษณะนิสัย(เปลี่ยนให้ใจมันพัฒนา ขยันกว่านิสัยเดิม)
เพื่อนแท้มันหายาก เพราะสังคมเพื่อนแท้ไม่ขยัน ไม่สู้ กันน่ะสิครับ เลว
เพื่อนแท้กลับไม่เคยพัฒนา ไม่ทำให้ผมบ้างหรอ
ไอ้พวกเกรดสูงตอนมัธยมมันไม่มีทางเข้าใจคนอย่างผมเลย พอเข้ามหาลัยแล้วผมไม่อยากอยู่สังคมเดิมอีก แต่เอาความรู้จากเขาละกัน มันให้ผมกลับไปเรียนรามคำแหง ก็ รามกับสุโขทัย พวกนี้ผมไหวซะเมื่อไหร่ ต้องหนีมาเอกชน ถ้าจะเรียนก็ต้องให้ผมมีพลังจดจำหนึ่งครั้งได้สามบรรทัดก่อน
มีเพื่อนที่อยู่ใกล้ชิดนานที่สุดก็เป็นแค่อดีต มีเพื่อนหน้าเด๋อมาตลอดเลยล่ะ มันเก่งไม่เก่งไม่รู้แหละ เชื่อว่ามันไม่ด้อยไปกว่าผม แต่มันจะไม่ยอมรับตัวผมอะดิที่ผมนิสัยเปลี่ยนให้พัฒนา แล้วมันก็หาว่าเป็นคนนิสัยดีๆนั้นมันต้องจุฬา ดูมันพูดสิ คนเรานิสัยดีขึ้นไม่เกี่ยวกับพลังสมองเปลี่ยนสักหน่อย
กระทู้นี้อาจจะมีการสื่อสารไม่ดี เพราะจขกทสติคล้ายออทิสติก หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับบางคนนะครับ
อัจฉริยะนั้นมันก็ใช่อัจฉริยะ แต่สูญเสียพลังที่เคยมีไปแล้ว
จะเล่าให้ทราบ
ตอนเกิดที่ยังไม่จำความ จากท้องแม่ ผมคือคนมีหรือไม่มีพลังกันแน่
แต่ตอนที่จำความและเรียนอนุบาลผมไม่จำเป็นต้องท่องซ้ำซาก ผมรับเข้าครั้งเดียว ปัจจัยเกรดสูงมาจากไอคิวทำข้อสอบ ผมเป็นอัจฉริยะ
พลังอ่านทีเดียวผมจำได้สามบรรทัด
ไม่ขยันครับ ชีวิตวัยเด็กไม่แข่งขัน ช่วงประถมผมอาจจะดื้อ นิสัยแย่อยู่แล้ว เพื่อนๆมันก็ไม่ค่อยมาชอบนะ แต่เปลี่ยนนิสัยไปเองตอนมหาลัย เพื่อนยิ่งไม่ชอบผมเข้าไปใหญ่
พลังของผมพิสูจน์ให้เห็นความเก่งเป็นอัจฉริยะตอนม.ต้นห้องคิงมาตลอด ผมจึงมีการศึกษาสูงขึ้น รักษาระดับหนึ่งในห้องคิงผมเชื่อเลยว่าม.1-2 ผมคือคนเรียนเกียรตินิยมแพทยศาสตร์ ถึงแม้ไม่เคยทำจริงๆ
ตั้งแต่ที่ผมขึ้นม.3 เป็นต้นมา สมองผมก็เปลี่ยนไป ผมอ่านครั้งเดียวแล้วไม่จำ ไม่สู้ ชีวิตไปเตร็ดเตร่อยู่หลายปี ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะไปทางไหน แต่เข้าสายวิทย์เพราะอยากเป็นหมอสัตว์ นรกกินกบาลเพราะสันดานตัวเองทำวีรกรรมกับสังคม แต่ไม่ทำกับผู้ใหญ่กับเพื่อนผู้หญิงก็เท่านั้น
ตอนเตร็ดเตร่หลายปี เล่นสนุกไปวันๆ เอาแต่ฟังเพลง ชอบคิดเพลง ประสาทสมองผมเสียเลยจากตอนนั้น
จบม.หกแล้วได้เกรดแค่สองไม่ได้เป็นหมอ
ผมเริ่มเปลี่ยนนิสัย ให้ใจไปทุ่มเทกับหนังสืออีกครั้ง เพราะมหาลัยแรกที่ผมเข้าเป็นเหมือนกับผมเลยล่ะ(ไอ้ความชั่วน่ะ)
มันรักหรือเกลียดกันแน่ แต่คนมันเกลียดกันเยอะนะ
เคยลองจ่ายเงินเรียนหมอสัตว์เอกชน ผมคือไอ้ห่วยแล้วก็ออกกลางคัน เริ่มลองบุหรี่ มันเริ่มจากหมอสัตว์นี่แหละ แต่ที่ตัดสินใจซื้อบุหรี่จริงคือจุฬาสูบบุหรี่ ถ้าคุณไม่เชื่อ ผมจะย้อนเวลาไปหาหลักฐานยังไงล่ะเนี่ย
ผมแค่ค้นหาคำตอบชีวิตของผม สูบบุหรี้ก็เป็นการค้นหาชีวิต ทำไมผมไม่ค่อยมีอะไร
สูบบุหรี่น่ะ กำลังคิดว่าตัวเองจะได้พลังจดจำ นอกจากจะไม่ได้กลับไปเหมือนเดิมแล้ว ยังต้องมาเสพติดบุหรี่มาจนปัจจุบัน เอ่อ ผมรู้ว่าสูบบุหรี้แล้วไม่ใช่หมอ ไม่ใช่จุฬาก็ยังสูบ เวรกรรมของผมเอง
แสดงว่าตอนเด็กเล็กไม่ใช่คำตอบของตัวตนอย่างผม ตัวตนของผมคือสมองทึบล่ะมั้ง ตอนมีพลังสมองเผลอทำตัวแย่เท่ากับว่าผมไม่น่าคบจริงๆ
ครับ ผมผ่านมหาลัยมาหลายที่ หาเส้นทางที่ใช่ และใส่ใจกับสิ่งที่ชอบในปัจจุบัน
อ่านครับ อ่านหนังสือหลายรอบนี่แหละ
ผมเรียนนิเทศเป็นสิ่งที่ชอบ ผมเข้าเอกชนแห่งหนึ่งที่ผมชอบทั้งๆที่พ่อแม่ไม่อยากจะส่งเสริมเนื่องจากสิ่งที่พ่อแม่ให้เรียนที่เคยให้ผมได้0.4รีไทร์
ผมขยันกับสิ่งที่ชอบ ปี1 ผมได้ 2.6 และ 3.16 ปี2 ผมได้ 3.16
ผมอยู่ปีสองแล้วล่ะ เพราะขยัน
คนที่มันดูธรรมดาจะไม่หยุดอยู่กับที่แบบผมตอนนี้ ให้เพื่อนแท้ของผมอาศัยปัจจัยหน่อยละกัน
1.ถ้ายังมีฐานะ ใช้เงินซื้ออาหารมาเติมพลัง มีเงินเข้าเรียนไม่มากก็ผ่อนละกัน
2.อ่านมันเข้าไปเถอะ ผมสารภาพ ผมอ่านหนังสือไม่ปกติ เพราะประสาทสมองผมเสียให้กับการฟังเพลงมาก่อน สติสตางค์สมาธิไม่ค่อยดี แถมบุหรี้ นอกนั้นคือเวรกรรมของผม ผมอ่านหนังสือมากกว่าสิบครั้งก็ประสาทสมองของผมแย่ บุหรี่ก็ทำลายสมองไปบ้าง
3.ไอคิว+ความชอบของคนต่างกัน ซึ่งตัวผมนับว่าถ้าเก่งอะไรแล้วมันเก่งโคตรเลยนะ
บทเรียนชีวิตจากผม : ไม่ต้องมีพลังก็ได้ พลังจำตอนเด็กมันก็แค่รู้มาก เรียนหนังสือจบไว บางคนแค่ขยันก็เกรดสูง
การเลือกเส้นทางที่ผิดที่พลาดไป มันเลยเสียเวลา
เอิ่ม ถ้ากลับไปใส่ใจกับการเรียนตอนมัธยม ผมอยากไปสายที่ใช่และสอบเข้ารัฐบาลได้แน่นอน ต้องขยันเข้าไว้แล้วมันจะดีเอง
ผมแค่เป็นคนมีไอคิวสูง ปัจจัยภายนอกที่ผมไม่อยากเป็นคนต้อยต่ำอยู่ทีเดิมก็แค่ฐานะ(เงินเติมพลัง) และ ลักษณะนิสัย(เปลี่ยนให้ใจมันพัฒนา ขยันกว่านิสัยเดิม)
เพื่อนแท้มันหายาก เพราะสังคมเพื่อนแท้ไม่ขยัน ไม่สู้ กันน่ะสิครับ เลว เพื่อนแท้กลับไม่เคยพัฒนา ไม่ทำให้ผมบ้างหรอ
ไอ้พวกเกรดสูงตอนมัธยมมันไม่มีทางเข้าใจคนอย่างผมเลย พอเข้ามหาลัยแล้วผมไม่อยากอยู่สังคมเดิมอีก แต่เอาความรู้จากเขาละกัน มันให้ผมกลับไปเรียนรามคำแหง ก็ รามกับสุโขทัย พวกนี้ผมไหวซะเมื่อไหร่ ต้องหนีมาเอกชน ถ้าจะเรียนก็ต้องให้ผมมีพลังจดจำหนึ่งครั้งได้สามบรรทัดก่อน
มีเพื่อนที่อยู่ใกล้ชิดนานที่สุดก็เป็นแค่อดีต มีเพื่อนหน้าเด๋อมาตลอดเลยล่ะ มันเก่งไม่เก่งไม่รู้แหละ เชื่อว่ามันไม่ด้อยไปกว่าผม แต่มันจะไม่ยอมรับตัวผมอะดิที่ผมนิสัยเปลี่ยนให้พัฒนา แล้วมันก็หาว่าเป็นคนนิสัยดีๆนั้นมันต้องจุฬา ดูมันพูดสิ คนเรานิสัยดีขึ้นไม่เกี่ยวกับพลังสมองเปลี่ยนสักหน่อย
กระทู้นี้อาจจะมีการสื่อสารไม่ดี เพราะจขกทสติคล้ายออทิสติก หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับบางคนนะครับ