ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ...นี่คือกระทู้แรกของผม
*เนื้อหาในกระทู้นี้เอามาจากเฟซส่วนตัวผมเอง และเพิ่มข้อมูลเพิ่มเติมนิดๆ ครับ*
Introduction...
ตั้งแต่ที่วงนี้เปิดตัวมาด้วยเพลง "Aitakatta / 365 วันกับเครื่องบินกระดาษ / Oogoe Diamond"
ผมรู้สึกเฉยๆ
จนกระทั่งเพลง "คุกกี้เสี่ยงทาย" ออกมาเมื่อเดือนพฤศจิกาปีก่อน
ความฮิตของเพลงนี่นี้คือ...สุดขีดเลยก็ว่าได้ ทำให้วงนี้กลายเป็นขวัญใจมหาชนไปทันที
และเกิดวัฒนธรรมโอตะอย่างจริงๆ จังๆ
ผมเองก็โดนฤทธิ์ Earworm จากคุกกี้ไปด้วย
ผ่านมาปี 2561 เธอก็ได้เรียกเสียงเชียร์จากโอตะด้วยเพลง "วันแรก" และ "River"
กลางปีนั้น ก็ได้เปิดตัวสมาชิกรุ่นสองตามมา พร้อมกับเพลงรองเปิดตัวของพวกเธอ "ฤดูใหม่" ซึ่งคอสตูมนี่สดใสสุดๆ
"เธอคือเมโลดี้" กลายเป็นอีกหนึ่งในเพลงโปรดในดวงใจผมไปแล้ว
และล่าสุด "BNK Festival" ก็คึกคักไปอีกแบบ
-
ที่กล่าวมาข้างต้นคือข้อเท็จจริง
แต่นับจากนี้...คือมุมมองและประสบการณ์ตรงของผม
-
ตั้งแต่วงนี้เปิดตัวมาเมื่อปี 2560...
"ผมยังไม่เป็นโอตะ และไม่มีโอชิใครเลย"
แต่พอติดตามแบบผ่านไปผ่านมา
(ฟังเพลงหลักและก็เพลงรอง เป็นบางครั้งบางเพลง เพลงแรกสุดที่ผมรู้จักและได้ยินคือ Oogoe Diamond
ส่วนคุกกี้เสี่ยงทาย คือเพลงแรกที่ผมรู้จัก BNK48 อย่างจริงจัง)
ผมคิดว่าวงนี้มีเสน่ห์นะ เพลงก็เข้าท่า
แล้วก็พอรู้จักสมาชิกวงนี้เกือบจะทุกคน
* สำหรับรุ่นแรก "เฌอปราง" คือชื่อแรกที่รู้จัก ส่วนรุ่นสอง "มิวนิก" คือสมาชิกที่ผมพอคุ้นหูและเคยดูผลงานพอผ่านตา *
ความพิสมัยวงนี้เริ่มเพิ่มขึ้นเมื่อผมได้ดูหนัง AppWar ที่อรอุ๋งร่วมแสดง (ฉากเปิดตัวของเธอยังคงติดตาผมจนถึงทุกวันนี้)
แล้วก็ได้รู้จักตัวตนของพวกเธอผ่านหนังของพี่เต๋อ ทุบตึกอย่าง
Girl Don't Cry
สารคดีที่ตีแผ่เส้นทางจากวันเปิดตัวจนถึงซิงเกิล "วันแรก" ว่าผ่านอะไรมาบ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เท่าที่จำได้ (สปอย)... เฌอปรางต้องเลิกกับแฟนเพื่อมาเป็นสมาชิก BNK48 และ น้ำใสบอกพี่เต๋อว่า "ไม่ชอบหนังจบปลายเปิด"
หนังเรื่องนี้บ่งชี้ได้ว่า..."ความพยายามไม่เคยทำร้ายสักคนที่ตั้งใจ"
จนกระทั่งจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิตผมก็มาถึง...
เหตุเกิดเมื่อปลายเดือนกันยายน 2561...
เมื่อน้ำอัดลมยี่ห้อหนึ่งที่พวกเธอเป็นพรีเชนเตอร์
ได้ออกลายสมาชิกทั้ง 6 คน (เฌอปราง ปัญ ปูเป้ ตาหวาน เนย และก็จ๋า) คนละสองลาย
"แต่ผมเอาแค่คนละลายเดียวก็เกินพอ"
ผมไปสอยสะสมลายน้องปัญก่อนเป็นคนแรกเลย
ต่อๆ มาก็สอยลายแคปเฌอ
เนย
จ๋า ตาหวาน
แล้วมาจบที่คุณปู๊ป
จุดนี้แหละที่ทำให้ผมโดนเพื่อนคนสองคนแซวว่า "ไหนบอกไม่ติ่ง" ทุกครั้งที่เล่าให้เขาฟัง
ผมถามเพื่อนคนหนึ่งว่า "คำที่เรียกโอตะที่ชอบทุกคนนี่คืออะไรเหรอ"
พอเขาคนนี้ตอบเรามาว่า "DD" นี่แหละคือจุดพลิกผันของคนฟังเพลงคนหนึ่งอย่างผม...คือ
"ผมกลายเป็นโอตะวงนี้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา"
เอาตรงๆ นับตั้งแต่เพลงคุกกี้ดัง สินค้าต่างๆ ก็เข้ามารุมจีบ เริ่มจากนมถั่วเหลือง ครีมย้อมผม บริการรถแท็กซี่ ชาเขียว ขนมขบเคี้ยว เป็นต้น
นิตยสารหลายหัวจองตัวพวกเธอขึ้นปกและให้สัมภาษณ์
อย่างที่ห้องสมุดมข. มีแพรวและ The Guitar Mag ที่พวกเธอขึ้นปกอยู่
โดยเฉพาะนิตยสารของคอหนัง Starpics ที่กลับมาอีกครั้ง (หลังจากปิดตัว "ชั่วคราว" ช่วงสงกรานต์)
ด้วยปกพวกเธอ 2 ฉบับติด ผมเองก็ได้ไปสอยทั้งสองเล่มด้วย
ล่าสุดกับ Desserto ขนมหวานที่ดื่มได้ "อันนี้เป็นแบรนด์ของ BNK48 เองเลย คุณไข่เป็นตัวชูโรง - เจ้าของเดียวกันกับน้ำผลไม้ If"
"ผมไปสอยลายน้องจิ๊บ ลูกพี่เจนนิส มายด์ คุณไข่ ปู๊ป แล้วก็ป้าแก้ว"
คำว่า DD (ที่ตอนแรกเข้าใจว่าชอบทุกคน แต่พออิซึรินะให้นิยามว่า
MD ต่างหากที่แปลว่าชอบทุกคนทั้งวง ทำให้คำที่เราเข้าใจไปก่อนหนั้านั่นว่า จริงๆ แล้วมันแปลว่า
"ชอบใครก็ได้แต่ไม่ทุกคน") มีความหมายมากสำหรับผม
เพราะ...สมาชิกทุกคนล้วนมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
เช่น...(เอาเท่าที่นึกออกนะ)
- เฌอปราง: หนึ่งในไอดอลของคนรุ่นใหม่
- ไข่มุก: ครัวคุณไข่ (ครั้งหนึ่งเคยฝันไปว่า ผมเห็นเธอนั่งรถตู้คันเดียวกันกับผมด้วย)
- ปัญ: น้องฉลามตาตี่
- เจนนิษฐ์: ลูกพี่
- มายด์: กาตุ๋ยหลานย่าโม
- เปี่ยม: กุหลาบไฟ
- ปูเป้: คุณปู๊ป
- โมบาย: เช็นเตอร์คุกกี้เสี่ยงทาย
- มิวสิก: สิกกะจู
- จิ๊บ: ยิ้มสดใส
- อร: มะงึกๆ อุ๋งๆ
- เจน: สลอธ
- อิซึรินะ: สมาชิกย้ายจาก AKB48
- ซัทจัง: น้องเล็กประจำรุ่น 1
- มิวนิก: หลีกมิวนัก อดีต Disney Club เช็นเตอร์เพลงฤดูใหม่
- ขมิ้น: สาวขอนแก่น
- แพนด้า: มากเสน่ห์
- แนทเธอลีน: เทพธิดาชาวสวน
- อย่างนี้ๆ เป็นต้น
จนกระทั่งช่วงที่ผมเป็นโอตะมาเกือบ 2 เดือน...
ผมหลงเสน่ห์ของสมาชิกคนหนึ่ง
- เธอมาจากญี่ปุ่น
- อยู่ไทยมา 10 ปี
- พูดไทย อิ๊ง และญี่ปุ่นได้ (เธอจบมัธยมจาก American School of Bangkok ที่แม่พี่แพม ลิตา เป็นเจ้าของ)
- เกิดเดือนและปีเดียวกันกับผม
เธอคือ...
"มิโอริ" โอชิคนแรกในชีวิต
เธอเป็นแรงบันดาลใจให้ผมอยากเรียนญี่ปุ่น...มากกว่าเดิม
ครั้งหนึ่งผมเคยฝันไปว่า...ผมพามิโอริกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นอีก 2 คน มาเที่ยวบึงสีฐานด้วยแหละ
อย่างไรก็ตามนั้น ถึงแม้ว่าผมจะมีโอริคนแรกไปแล้ว แต่ความเป็น DD ก็ยังเป็นอยู่อย่างนั้นเหมือนเดิม
-
เอาตรงๆ นับแต่ผมเป็นโอตะ คำว่า BNK48 ก็ซึมเข้าสายเลือดทีละนิดๆ
อินมากจนถึงขั้นที่ว่า
ผมเขียนเรื่องราวของวงนี้ลง Journal
ซึ่งเป็นงานวิชา English paragraph and sentences writing (วิชาเอกของคณะและสาขาผมเอง แต่เป็นหลักสูตรเก่านะ)
แต่จุดสำคัญของ BNK48 ที่มีอิทธิพลต่อชีวิตผมก็คือ...
"การแปลเพลงจากญี่ปุ่นเป็นไทยตามทำนอง"
ใช่แล้ว ผมชอบการแปลเป็นชีวิตจิตใจเลย
ที่ผ่านมาผมแปลเพลงสากลยุคเก่าลง Bloggang (เจ้าของเดียวกับ Pantip) และก็ IG เป็นงานอดิเรก
โดยแปลตามทำนองสไตล์เพลงหนังดิสนีย์ (ที่มีพี่จ้อน ธานี พูนสุวรรณ เป็นผู้แปลเนื้อร้องมาโดยตลอด)
การแปล/เขียนเพลงจากภาษาแม่(ญี่ปุ่น)ให้ติดหูคนไทยเป็นเรื่องยาก
เพราะเงื่อนไขนานา (คือ ต้องครบทุกประเด็นในเพลง พยางค์ห้ามขาดและเกิน ห้ามบิดทำนอง เป็นต้น)
แต่...
- ครูแมน-ครูเอ๊ะ ละอองฟอง
- ครูปิ๋ม (คนเขียนเนื้อหมื่นเส้นทาง)
- พี่กอล์ฟ Superbaker (คนเขียน-แปลเนื้อ Shonichi)
- พี่บอยตรัย (คนเขียนเนื้อ Anata to Christmas Eve เพลงอำลาของแจนจัง)
- และล่าสุดกับความภูมิใจของชาวกาลพฤกษ์มอดินแดง พี่รัฐ Tattoo Color (เขียนเนื้อ BNK Festival)
เป็นผู้ที่ทำให้คนไทยเข้าใจเนื้อเพลงเหล่านี้ได้เข้าท่า พร้อมกับภาษาที่สวยและติดหู (โดยเฉพาะ ฤดูใหม่ และ เธอคือเมโลดี้)
บุคคลเหล่านี้แหละคือแรงบันดาลใจให้ผมหัดแปลเพลงญี่ปุ่นเป็นงานอดิเรก
และจุดๆ นี้เอง ทำให้ผมอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นเพิ่มเติม เพราะได้อิ๊งอย่างเดียวคงรุ่งริ่งแน่ๆ
-
ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา BNK48 ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมไปแล้วจริงๆ
และเป็นบันดาลใจให้ผมชอบบางสิ่งบางอย่างให้สุดขีด (ทั้งหัดแปลเพลงญี่ปุ่นและติดตามวงนี้)
ล่าสุด (นับถึง 30 ธค)
- สั่งเครื่องเขียน Kimi Wa Melody ผ่านเว็บสมใจ กว่าจะได้ของนี่ 2 สัปดาห์ (ล่าสุดไปสอยสีไม้และยางลบ BNK48 ด้วย)
*สมุดลายคุณปู๊ป สิกกาจู และน้องหลามปัญ ผมเอาไปให้เพื่อนเป็นของขวัญช่วง Season's greetings ไปแล้ว*
- โดเนทโหวตให้มิโอริเพื่อให้เธอกลับมาเป็นเซ็มบัตสึอีกครั้ง
- ตามล่า Desserto ลายอื่นๆ
- ยังมีอีกเพียบ
ยังมีความรู้สึกดีๆ ต่อวงนี้อีกมาก แต่พิมพ์ไม่หมดหรอกครับ
ด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีของโอตะสาย DD และโอชิมิโอริอย่างผม
จะสนับสนุนวงนี้ต่อไปเท่าที่ผมจะทำได้ครับ
-
จาก...โอตะ DD มือใหม่
เขียนเมื่อ 25 - 29 ธ.ค. 2561
บันทึกประสบการณ์โอตะ BNK48 แบบมือใหม่ "3 เดือนกว่า (จนวันนี้) ที่ได้รู้จัก"
*เนื้อหาในกระทู้นี้เอามาจากเฟซส่วนตัวผมเอง และเพิ่มข้อมูลเพิ่มเติมนิดๆ ครับ*
Introduction...
ตั้งแต่ที่วงนี้เปิดตัวมาด้วยเพลง "Aitakatta / 365 วันกับเครื่องบินกระดาษ / Oogoe Diamond"
ผมรู้สึกเฉยๆ
จนกระทั่งเพลง "คุกกี้เสี่ยงทาย" ออกมาเมื่อเดือนพฤศจิกาปีก่อน
ความฮิตของเพลงนี่นี้คือ...สุดขีดเลยก็ว่าได้ ทำให้วงนี้กลายเป็นขวัญใจมหาชนไปทันที
และเกิดวัฒนธรรมโอตะอย่างจริงๆ จังๆ
ผมเองก็โดนฤทธิ์ Earworm จากคุกกี้ไปด้วย
ผ่านมาปี 2561 เธอก็ได้เรียกเสียงเชียร์จากโอตะด้วยเพลง "วันแรก" และ "River"
กลางปีนั้น ก็ได้เปิดตัวสมาชิกรุ่นสองตามมา พร้อมกับเพลงรองเปิดตัวของพวกเธอ "ฤดูใหม่" ซึ่งคอสตูมนี่สดใสสุดๆ
"เธอคือเมโลดี้" กลายเป็นอีกหนึ่งในเพลงโปรดในดวงใจผมไปแล้ว
และล่าสุด "BNK Festival" ก็คึกคักไปอีกแบบ
-
ที่กล่าวมาข้างต้นคือข้อเท็จจริง
แต่นับจากนี้...คือมุมมองและประสบการณ์ตรงของผม
-
ตั้งแต่วงนี้เปิดตัวมาเมื่อปี 2560...
"ผมยังไม่เป็นโอตะ และไม่มีโอชิใครเลย"
แต่พอติดตามแบบผ่านไปผ่านมา
(ฟังเพลงหลักและก็เพลงรอง เป็นบางครั้งบางเพลง เพลงแรกสุดที่ผมรู้จักและได้ยินคือ Oogoe Diamond
ส่วนคุกกี้เสี่ยงทาย คือเพลงแรกที่ผมรู้จัก BNK48 อย่างจริงจัง)
ผมคิดว่าวงนี้มีเสน่ห์นะ เพลงก็เข้าท่า
แล้วก็พอรู้จักสมาชิกวงนี้เกือบจะทุกคน
* สำหรับรุ่นแรก "เฌอปราง" คือชื่อแรกที่รู้จัก ส่วนรุ่นสอง "มิวนิก" คือสมาชิกที่ผมพอคุ้นหูและเคยดูผลงานพอผ่านตา *
ความพิสมัยวงนี้เริ่มเพิ่มขึ้นเมื่อผมได้ดูหนัง AppWar ที่อรอุ๋งร่วมแสดง (ฉากเปิดตัวของเธอยังคงติดตาผมจนถึงทุกวันนี้)
แล้วก็ได้รู้จักตัวตนของพวกเธอผ่านหนังของพี่เต๋อ ทุบตึกอย่าง Girl Don't Cry
สารคดีที่ตีแผ่เส้นทางจากวันเปิดตัวจนถึงซิงเกิล "วันแรก" ว่าผ่านอะไรมาบ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หนังเรื่องนี้บ่งชี้ได้ว่า..."ความพยายามไม่เคยทำร้ายสักคนที่ตั้งใจ"
จนกระทั่งจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิตผมก็มาถึง...
เหตุเกิดเมื่อปลายเดือนกันยายน 2561...
เมื่อน้ำอัดลมยี่ห้อหนึ่งที่พวกเธอเป็นพรีเชนเตอร์
ได้ออกลายสมาชิกทั้ง 6 คน (เฌอปราง ปัญ ปูเป้ ตาหวาน เนย และก็จ๋า) คนละสองลาย
"แต่ผมเอาแค่คนละลายเดียวก็เกินพอ"
ผมไปสอยสะสมลายน้องปัญก่อนเป็นคนแรกเลย
ต่อๆ มาก็สอยลายแคปเฌอ
เนย
จ๋า ตาหวาน
แล้วมาจบที่คุณปู๊ป
จุดนี้แหละที่ทำให้ผมโดนเพื่อนคนสองคนแซวว่า "ไหนบอกไม่ติ่ง" ทุกครั้งที่เล่าให้เขาฟัง
ผมถามเพื่อนคนหนึ่งว่า "คำที่เรียกโอตะที่ชอบทุกคนนี่คืออะไรเหรอ"
พอเขาคนนี้ตอบเรามาว่า "DD" นี่แหละคือจุดพลิกผันของคนฟังเพลงคนหนึ่งอย่างผม...คือ
"ผมกลายเป็นโอตะวงนี้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา"
เอาตรงๆ นับตั้งแต่เพลงคุกกี้ดัง สินค้าต่างๆ ก็เข้ามารุมจีบ เริ่มจากนมถั่วเหลือง ครีมย้อมผม บริการรถแท็กซี่ ชาเขียว ขนมขบเคี้ยว เป็นต้น
นิตยสารหลายหัวจองตัวพวกเธอขึ้นปกและให้สัมภาษณ์
อย่างที่ห้องสมุดมข. มีแพรวและ The Guitar Mag ที่พวกเธอขึ้นปกอยู่
โดยเฉพาะนิตยสารของคอหนัง Starpics ที่กลับมาอีกครั้ง (หลังจากปิดตัว "ชั่วคราว" ช่วงสงกรานต์)
ด้วยปกพวกเธอ 2 ฉบับติด ผมเองก็ได้ไปสอยทั้งสองเล่มด้วย
ล่าสุดกับ Desserto ขนมหวานที่ดื่มได้ "อันนี้เป็นแบรนด์ของ BNK48 เองเลย คุณไข่เป็นตัวชูโรง - เจ้าของเดียวกันกับน้ำผลไม้ If"
"ผมไปสอยลายน้องจิ๊บ ลูกพี่เจนนิส มายด์ คุณไข่ ปู๊ป แล้วก็ป้าแก้ว"
คำว่า DD (ที่ตอนแรกเข้าใจว่าชอบทุกคน แต่พออิซึรินะให้นิยามว่า MD ต่างหากที่แปลว่าชอบทุกคนทั้งวง ทำให้คำที่เราเข้าใจไปก่อนหนั้านั่นว่า จริงๆ แล้วมันแปลว่า "ชอบใครก็ได้แต่ไม่ทุกคน") มีความหมายมากสำหรับผม
เพราะ...สมาชิกทุกคนล้วนมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
เช่น...(เอาเท่าที่นึกออกนะ)
- เฌอปราง: หนึ่งในไอดอลของคนรุ่นใหม่
- ไข่มุก: ครัวคุณไข่ (ครั้งหนึ่งเคยฝันไปว่า ผมเห็นเธอนั่งรถตู้คันเดียวกันกับผมด้วย)
- ปัญ: น้องฉลามตาตี่
- เจนนิษฐ์: ลูกพี่
- มายด์: กาตุ๋ยหลานย่าโม
- เปี่ยม: กุหลาบไฟ
- ปูเป้: คุณปู๊ป
- โมบาย: เช็นเตอร์คุกกี้เสี่ยงทาย
- มิวสิก: สิกกะจู
- จิ๊บ: ยิ้มสดใส
- อร: มะงึกๆ อุ๋งๆ
- เจน: สลอธ
- อิซึรินะ: สมาชิกย้ายจาก AKB48
- ซัทจัง: น้องเล็กประจำรุ่น 1
- มิวนิก: หลีกมิวนัก อดีต Disney Club เช็นเตอร์เพลงฤดูใหม่
- ขมิ้น: สาวขอนแก่น
- แพนด้า: มากเสน่ห์
- แนทเธอลีน: เทพธิดาชาวสวน
- อย่างนี้ๆ เป็นต้น
จนกระทั่งช่วงที่ผมเป็นโอตะมาเกือบ 2 เดือน...
ผมหลงเสน่ห์ของสมาชิกคนหนึ่ง
- เธอมาจากญี่ปุ่น
- อยู่ไทยมา 10 ปี
- พูดไทย อิ๊ง และญี่ปุ่นได้ (เธอจบมัธยมจาก American School of Bangkok ที่แม่พี่แพม ลิตา เป็นเจ้าของ)
- เกิดเดือนและปีเดียวกันกับผม
เธอคือ..."มิโอริ" โอชิคนแรกในชีวิต
เธอเป็นแรงบันดาลใจให้ผมอยากเรียนญี่ปุ่น...มากกว่าเดิม
ครั้งหนึ่งผมเคยฝันไปว่า...ผมพามิโอริกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นอีก 2 คน มาเที่ยวบึงสีฐานด้วยแหละ
อย่างไรก็ตามนั้น ถึงแม้ว่าผมจะมีโอริคนแรกไปแล้ว แต่ความเป็น DD ก็ยังเป็นอยู่อย่างนั้นเหมือนเดิม
-
เอาตรงๆ นับแต่ผมเป็นโอตะ คำว่า BNK48 ก็ซึมเข้าสายเลือดทีละนิดๆ
อินมากจนถึงขั้นที่ว่า
ผมเขียนเรื่องราวของวงนี้ลง Journal
ซึ่งเป็นงานวิชา English paragraph and sentences writing (วิชาเอกของคณะและสาขาผมเอง แต่เป็นหลักสูตรเก่านะ)
แต่จุดสำคัญของ BNK48 ที่มีอิทธิพลต่อชีวิตผมก็คือ...
"การแปลเพลงจากญี่ปุ่นเป็นไทยตามทำนอง"
ใช่แล้ว ผมชอบการแปลเป็นชีวิตจิตใจเลย
ที่ผ่านมาผมแปลเพลงสากลยุคเก่าลง Bloggang (เจ้าของเดียวกับ Pantip) และก็ IG เป็นงานอดิเรก
โดยแปลตามทำนองสไตล์เพลงหนังดิสนีย์ (ที่มีพี่จ้อน ธานี พูนสุวรรณ เป็นผู้แปลเนื้อร้องมาโดยตลอด)
การแปล/เขียนเพลงจากภาษาแม่(ญี่ปุ่น)ให้ติดหูคนไทยเป็นเรื่องยาก
เพราะเงื่อนไขนานา (คือ ต้องครบทุกประเด็นในเพลง พยางค์ห้ามขาดและเกิน ห้ามบิดทำนอง เป็นต้น)
แต่...
- ครูแมน-ครูเอ๊ะ ละอองฟอง
- ครูปิ๋ม (คนเขียนเนื้อหมื่นเส้นทาง)
- พี่กอล์ฟ Superbaker (คนเขียน-แปลเนื้อ Shonichi)
- พี่บอยตรัย (คนเขียนเนื้อ Anata to Christmas Eve เพลงอำลาของแจนจัง)
- และล่าสุดกับความภูมิใจของชาวกาลพฤกษ์มอดินแดง พี่รัฐ Tattoo Color (เขียนเนื้อ BNK Festival)
เป็นผู้ที่ทำให้คนไทยเข้าใจเนื้อเพลงเหล่านี้ได้เข้าท่า พร้อมกับภาษาที่สวยและติดหู (โดยเฉพาะ ฤดูใหม่ และ เธอคือเมโลดี้)
บุคคลเหล่านี้แหละคือแรงบันดาลใจให้ผมหัดแปลเพลงญี่ปุ่นเป็นงานอดิเรก
และจุดๆ นี้เอง ทำให้ผมอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นเพิ่มเติม เพราะได้อิ๊งอย่างเดียวคงรุ่งริ่งแน่ๆ
-
ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา BNK48 ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมไปแล้วจริงๆ
และเป็นบันดาลใจให้ผมชอบบางสิ่งบางอย่างให้สุดขีด (ทั้งหัดแปลเพลงญี่ปุ่นและติดตามวงนี้)
ล่าสุด (นับถึง 30 ธค)
- สั่งเครื่องเขียน Kimi Wa Melody ผ่านเว็บสมใจ กว่าจะได้ของนี่ 2 สัปดาห์ (ล่าสุดไปสอยสีไม้และยางลบ BNK48 ด้วย)
*สมุดลายคุณปู๊ป สิกกาจู และน้องหลามปัญ ผมเอาไปให้เพื่อนเป็นของขวัญช่วง Season's greetings ไปแล้ว*
- โดเนทโหวตให้มิโอริเพื่อให้เธอกลับมาเป็นเซ็มบัตสึอีกครั้ง
- ตามล่า Desserto ลายอื่นๆ
- ยังมีอีกเพียบ
ยังมีความรู้สึกดีๆ ต่อวงนี้อีกมาก แต่พิมพ์ไม่หมดหรอกครับ
ด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีของโอตะสาย DD และโอชิมิโอริอย่างผม
จะสนับสนุนวงนี้ต่อไปเท่าที่ผมจะทำได้ครับ
-
จาก...โอตะ DD มือใหม่
เขียนเมื่อ 25 - 29 ธ.ค. 2561