คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
เราเรียนที่อังกฤษตั้งแต่มปลาย เพื่อนเลยกระจายไปหลายมหาวิทยาลัยมากๆ บริษัทดูชื่อมหาวิทยาลัยมากกว่าค่ะ เกรดก็มีความสำคัญแต่ชื่อมหาวิทยาลัยก็สำคัญมากๆเหมือนกัน บริษัทท้อปๆที่อังกฤษส่วนใหญ่จะแบ่งมหาวิทยาลัยออกเป็นกลุ่มๆ แต่ละกลุ่มให้ค่าคะแนนไม่เท่ากัน อย่างเช่น Distinction จากมหาวิทยาลัยกลุ่มนี้ เทียบได้กับ Merit ของมหาวิทยาลัยอีกกลุ่มนึง Merit ยู top 30 ของโลก ได้งานที่อังกฤษง่ายกว่าคนที่เข้ามหาวิทยาลัย ranking ลงมาอีกกลุ่ม แต่ได้ distinction มากเลยค่ะ บางบริษัทในอังกฤษ เช่น McKinsey, BCG, Barclays เลือกรับแต่เด็กที่จบมหาวิทยาลัยท้อปๆอย่างเดียว
เพื่อนจากปตรีที่ไปต่อ LSE ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเรียนหนักกว่าสมัยปตรีมากๆ เคยเอาตารางเรียนและเนื้อหา MSc Finance ของ Imperial college, Manchester, Cass, London business school มาเทียบกันในกรุ้ปเพื่อนปตรี LSE นี่เรียนหนักแบบโดดไปเลย ไม่ได้ว่าที่อื่นนะ คือที่อื่นก็ไม่ได้เรียนง่าย แต่ต้องยอมรับเลยว่าLSEโหดจริงๆ ไม่ใช่จขกทคนเดียวที่รู้สึกแหละ ทุกคนเจอเหมือนกันหมด แต่จบออกมาคุ้มค่านะคะ พอทำงานมันได้รับการยอมรับกว่าจริงๆ หางานง่ายกว่า คอนเนคชั่นก็ดีกว่า ทำงานต่อในเมืองไทย เราไม่แน่ใจในความแตกต่างขนาดนั้น แต่ถ้าเป็นบริษัทข้ามชาติก็น่าจะมีผลระดับหนึ่งนะคะ สำหรับเรานะ ถ้าปัญหาสุขภาพของพ่อแม่ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น คืออยู่ในจุดที่สามารถเรียนต่อได้ เรามองว่าให้ทนเรียนไปดีกว่านะคะ มีโอกาสได้ไปอยู่ตรงนั้นแล้ว
เพื่อนจากปตรีที่ไปต่อ LSE ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเรียนหนักกว่าสมัยปตรีมากๆ เคยเอาตารางเรียนและเนื้อหา MSc Finance ของ Imperial college, Manchester, Cass, London business school มาเทียบกันในกรุ้ปเพื่อนปตรี LSE นี่เรียนหนักแบบโดดไปเลย ไม่ได้ว่าที่อื่นนะ คือที่อื่นก็ไม่ได้เรียนง่าย แต่ต้องยอมรับเลยว่าLSEโหดจริงๆ ไม่ใช่จขกทคนเดียวที่รู้สึกแหละ ทุกคนเจอเหมือนกันหมด แต่จบออกมาคุ้มค่านะคะ พอทำงานมันได้รับการยอมรับกว่าจริงๆ หางานง่ายกว่า คอนเนคชั่นก็ดีกว่า ทำงานต่อในเมืองไทย เราไม่แน่ใจในความแตกต่างขนาดนั้น แต่ถ้าเป็นบริษัทข้ามชาติก็น่าจะมีผลระดับหนึ่งนะคะ สำหรับเรานะ ถ้าปัญหาสุขภาพของพ่อแม่ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น คืออยู่ในจุดที่สามารถเรียนต่อได้ เรามองว่าให้ทนเรียนไปดีกว่านะคะ มีโอกาสได้ไปอยู่ตรงนั้นแล้ว
แสดงความคิดเห็น
ไปต่อหรือพอแค่นี้ดี
อย่างเช่น ถ้าจบ LSE มาแต่ได้ pass / low merit นี่ยังพอมีโอกาสหางานที่ดีๆในเมืองไทยได้ไหมครับ ถ้าเทียบกับคนที่จบจากสถาบันที่มีชื่อเสียงน้อยกว่าแต่ได้เกรดมากกว่า
พอดีปีนี้มาเรียนต่อโท LSE แต่บังเอิญที่บ้านพ่อแม่มีปัญหาสุขภาพ อาการน่าเป็นห่วงมาก ทำให้ช่วงหลังเกิดอาการเครียดและมี depression รู้สึกทรมานมาก
ใจนึงก็ยังอยากเรียนต่อเพราะเสียดายชื่อเสียงของ LSE อีกใจนึงก็ concern เรื่องที่บ้าน บวกกับอาการวิตกกังวลที่มีจะไป affect ผลการเรียนซึ่งอาจมีผลต่อการหางานในอนาคต
บางครั้งเคยแอบคิดว่าที่เข้า LSE ได้เพราะ
ฟลุคหรือเปล่า เพราะเพื่อนต่างชาติทุกคนที่เรียนด้วยกันเก่งกันมากเลย เข้าใจอะไรได้เร็วมาก เรื่องภาษาเราไม่ค่อยมีปัญหาแต่ที่หนักใจคือที่นี่เนื้อหายากและ progress เร็วมากเลย
เคยปรึกษาเพื่อนที่เรียนด้วยกันและ lecturers ส่วนใหญ่เขา encourage ให้เรียนต่อและบอกว่าเกรดป.โทไม่มีผลเท่าเกรดป.ตรี เขาดูสถาบันที่จบมามากกว่า แต่ส่วนใหญ่เพื่อนเราเป็นคนต่างชาติ เลยอยากมาฟังมุมมองของคนไทยว่าเหมือนกันไหมเพราะส่วนตัวยังไม่เคยมี formal work experience ที่นี่มาก่อนเลย
อาจจะยาวไปนิดต้องขออภัยด้วยและขอบคุณมากครับสำหรับทุกความเห็น พอดีหลังปีใหม่ก็จะเปิดเทอมสองเลยต้องรีบตัดสินใจว่าจะไปเรียนต่อดีไหม