มันสูง มันพอลุยได้ ระดับราคาในอินโดประมาณนี้ครับ (เฉพาะออโต้)

VIOS (Ativ) IDR 304,250,000-326,150,000 (681,800-730,500 บาท)
C-HR IDR 488,650,000-490,150,000 (1,094,405-1,097,800 บาท)
RUSH IDR 252,150,000-263,550,000 (564,700-590,300 บาท)
SIENTA IDR 252,250,000-300,050,000 (565,000-672,000 บาท)

ส่วนบ้านเรา
VIOS 609,000-789,000
SIENTA 750,000-825,000
C-HR ไม่ HV 979,000-1,039,000

ดูจาก Sienta เหมือนบ้านเราจะบวกแรง
ถ้า RUSH มาสัก 700,000-780,000 จะเป็นไปได้ไหม แล้วทำตลาดแทนวีออสไปเลย
เห็นได้ข่าวว่าเลิกผลิตไลน์วีออสไปแล้วด้วย ตัววีออสส่งออกก็กลายเป็นเอทีฟไปหมดแล้ว

เมื่อเทียบกับ Xpander 779,000-849,000 บาท
Xpander จะแพงกว่า แต่ได้ช่วงล่างมิตซูคือนุ่มหนึบ
ส่วน RUSH จะได้ช่วงล่างแข็งๆ ไว้ลุยๆ ที่น่าจะสืบทอดมาจากอแวนซ่า
บางรีวิวก็ว่าใช้ได้ บางรีวิวก็ว่ามันคืออแวนซ่า
ส่วนอีกรุ่นที่จะลืมไม่ได้คือ BR-V ราคา 750,000-820,000 บาท
ซึ่งจะเป็นรุ่นที่ให้พลังและอัตราสิ้นเปลืองที่ดีที่สุด

ถ้า RUSH มาราคาไม่แรง คงพอสู้ Xpander ได้ และทำตลาดแทนวีออสไปเลยด้วย
เพราะไม่ได้ผลิตแล้ว ข่าวรุ่นใหม่ก็ไม่เห็นจะมีวี่แวว โตโยต้าคงทุ่มผลิตเก๋งเล็ก
แค่เอทีฟตัวเดียว

คิดว่าไงครับ?  

ส่วน RUSH จะมาแย่งตลาด Sienta กับ C-HR ไหม?
Sienta นำเข้าอยู่แล้วคงไม่ซีเรียส แถมเป็น MPV ประตูเลื่อน คนละ segment
ส่วน C-HR เป็นรถ SUV แนวแฟชั่น เน้นนุ่มหนึบ เตี้ย
ก็คนละแนวกับ RUSH ไปเลย RUSH จะเหมือน SUV ฟอร์จูนเนอร์น้อยราคาประหยัด
มากกว่า ถ้าบ้านไหนเอื้อมไม่ถึงฟอร์ ก็คงจะมี RUSH นี่แหล่ะที่ตอบโจทย์
ส่วนเรื่องช่วงล่าง รถประเภทนี้ เปลี่ยนโช๊คสปริงกันเป็นว่าเล่นอยู่แล้วตามใจชอบ
เพราะของเดิมๆ ก็คงจะกระโดดๆ

ลุ้นเล็กๆ ครับลุ้นเล็กๆ ถ้ามี RUSH ก็ถือว่าเป็นสีสันใหม่อีกครั้ง
หลังจาก Wish, Prius ที่ไม่เวิร์ค ส่วน Sienta, C-HR ต้องดูกันต่อไปว่าจะรุ่งหรือรุ่งริ่ง

3 รุ่นนี้จะได้ประจัญหน้ากันในบ้านเราหรือไม่ ในรีวิวนี้ Xpander คือผู้ชนะเลิศ
โดยราคาของทั้งสามรุ่นนั้นเท่าๆ กัน จึงน่าคิดว่า โตโยต้าไทยจะยอมตั้งราคามาถูกกว่า
BR-V หรือ Xpander หรือ ? ถ้าดูตามสไตล์ที่ผ่านมาแล้วไม่น่าเป็นไปได้

ถ้าโตโยต้าไม่คิดที่จะให้ RUSH มาทำตลาดคล่อมวีออสที่กำลังจะเลิกราไป
เพราะผมแค่คิดเองเออเองอยู่คนเดียว ราคาก็อาจจะมาพอๆ กันแบบนี้
Xpander 779,000-849,000 บาท
BR-V 750,000-820,000 บาท
RUSH 760,000-830,000 บาท (เดา)

ซึ่งคนที่ชอบรถแนวฟอร์จูนเนอร์ ขับหลัง วางบนเฟรมถึกทน และยกสูง
ก็คงจะเลือก RUSH แต่ก็ไม่อยากให้ประมาณ Xpander เพราะขานั้นรีวิว
มาดีมากแบบล้นๆ ทุกสำนัก ถ้าอยากให้ RUSH เกิด โตโยต้าน่าจะเล่นสงครามราคา
ตัดราคาให้ต่ำกว่า Xpander พอสมควรสักหน่อย แม้ว่าในตลาดอินโด Xpander จะมาราคา
เท่าๆ RUSH ก็ตาม เพราะต้องถือว่ามิตซูทำรถมาดีมาก ส่วน RUSH ถ้าไม่ใช่คนที่ชอบ
หน้าตาฟอร์จูนเนอร์อยู่แล้ว อาจจะไม่เลือกก็ได้

ในรีวิวนี้ พูดชัดเจนว่า RUSH น่ะสวย แต่ไม่เหมาะกับการขับไกล
เพราะการขับไม่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ทั้งพลังเครื่องยนต์ และความสะเทือนของช่วงล่าง
ดังนั้น RUSH จึงเหมาะกับการขับช้าๆ ในเมือง Xpander จึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
อยู่ดีในด้านการขับ ความรู้สึกผ่อนคลาย ในการเดินทางไกล
โตโยต้าอาจจะต้องเลือก ไม่นำ RUSH เข้ามาเลยเพราะสู้ Xpander ไม่ได้แน่นอน
หรือจะสู้ให้สมน้ำสมเนื้อ ก็ต้องลดราคาให้ทดแทนข้อที่ด้อยกว่า Xpander หน่อย

ซึ่งในรีวิวนี้พูดชัดว่า ถ้าต่ำกว่า 100km/h RUSH พอโอเค แต่ถ้ามากกว่านั้น
รอบจะสูงมาก ซึ่งทำให้ RUSH ไม่เหมาะกับเดินทางไกลเท่าไหร่ ส่วนล้อ 17 นั้น
ทำให้รถสวย แต่ก็ส่งผ่านความสะเทือนเยอะ คือรุ่นนี้ถ้าจะเอา ก็เพราะคนที่ชอบรูปลักษณ์
แบบเบบี้ฟอร์จูนเนอร์จริงๆ เท่านั้น แต่ถ้าลองขับจริงจัง ก็คงจะเลือก Xpander กันหมด

ต้องยอมรับว่ารูปลักษณ์ของ RUSH ทำให้คนกลุ่มนึงอยากเป็นแฟนคลับกันเลยทีเดียว
แต่ถ้าตามดูรีวิวเยอะๆ ก็จะเริ่มเห็นภาพว่า RUSH ก็คือรถอแวนซ่าที่เปลี่ยนรูปทรงให้
ดูเหมือน SUV จนทำให้มีราคาสูงขึ้น แต่จริงๆ แล้วระดับของการขับขี่และตัวรถอาจจะ
ยกระดับมาจากอแวนซ่านิดเดียว...

นี่คือเหตุผลว่า Xpander ทำไมถึงทำยอดขายได้ถล่มทลาย เพราะการขับขี่ของคู่แข่งสู้ไม่ไหวนั่นเอง
ราคาของ RUSH ถ้าดูตามระดับการขับขี่ คงต้องต่ำกว่า Xpander ไปหนึ่งขั้น! เท่านั้นถึงจะสู้กันได้
ก็หวังว่าโตโยต้า ถ้าเอามาขายจริงๆ ควรจะพิจารณาตรงนี้ด้วย เพราะช่วงล่างแบบอแวนซ่า
แค่คนได้ลองขับแป๊ปเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นคนละระดับกับ Xpander
แม้จะขายความทนถึก แต่ก็ไม่ได้มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ

ถ้าตัว RUSH ทำราคาถูกกว่า Xpander ได้ แล้วมีคนยอมลองของ
เพื่อที่จะไปแต่งช่วงล่างต่อ RUSH อาจจะสู้กับ Xpander ได้ และอาจจะขายดีก็ได้
เพราะรถช่วงล่างไม่ดี ต้องราคาถูกจริงๆ คนถึงจะยอมไปแต่งต่อให้!