ปรับแต่งพัฒนาการลูก ที่มีความบกพร่อง ที่อาจไม่จบ ป.6 จนเข้ามหาลัย แล้วคว้า เกรดเฉลี่ย ถึงเกียรติ์นิยมจนได้.

ดังนั้นผู้ปกครอง หรือ พ่อ-แม่ ของเด็กที่มีปัญหาในการบกพร่อง ในการเรียนของลูก หรือเรียกว่า เด็กโง่ ในวัยประถม แม้ทางการแพทย์ ตรวจวัดและยืนยันว่า บกพร่อง ในการอ่าน การเขียนจริง  ก็ไม่ควรท้อถอย หรือถอดใจไปเสียก่อน  ดังลูกชายของผมคนนี่.

       สืบเนื่องมาจากกระทู้เก่า เมื่อ กุมภาพัน 2559 ที่เคยตั้งไว้.
         https://ppantip.com/topic/34797770

       แต่เขาก็ต้องพยายามกว่าเด็กทั่วไปที่เก่ง เขาเคยเปรยๆว่า   เขาต้องพยายามมากกว่าคนอื่นๆ ที่เก่ง ที่ไม่ต้องพยายามมากก็ทำเกรดได้ดี (อยู่ห้องพักห้องเดียวกัน ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น เรียนเอกญี่ปุ่นเช่นกัน) เขาต้องอ่านทบทวนมากกว่าจึงพอทำได้ แต่ก็ไม่เท่าเขา.

       ออ. เขาเอาหลักการที่ผมได้สอนเชาตั้งแต่ ป.4-ป.6 เขียนติดเป็นป้ายให้เชาอ่านและเห็นทุกวัน ในกระทู้เก่าดังนี้.
---------------------------------------------------------------------------
ผมได้สอนแนะนำการเรียนเก่งให้ลูกทำ  ทำให้ได้ 5 ข้อ

        1. ในห้องเรียนตั้งใจเรียนทำความเข้าใจตามที่ครูสอน ให้ใจลอยน้อยลง
        2. กลับบ้านทำการบ้านให้เสร็จทุกข้อ
        3. อ่านทบทวนทั้งหมดที่เรียนมาในวันนั้น
        4. ถ้ามีเวลาอ่านบทเรียนที่จะ เรียนในวันต่อไป
        5. ก่อนสอบปลายภาค ต้องอ่านหนังสือจบทุกวิชา 2 รอบ

      เขียนแปะไว้ ตัวใหญ่ๆ ให้เขาได้เห็นทุกวัน  
-------------------------------------------------------------------------

    ในตอนชั้นประถม มัธยม เขาทำข้อ 4 ข้อ 5 ไม่ค่อยได้   แต่ในช่วงเรียน มหาลัย เขาต้องทำมากกว่าคนเก่งอื่นๆ เป็นเท่า 2 เท่าตัว.

    เขาทำเกรดมาอย่างดี ตั้งแต่ปี 1. เกรต 3.6x เพราะเขาได้เข้าเรียนในคณะที่ใช่สาขาที่ชอบ นั้นเอง  แต่เมื่ออยู่ปี 3 แม่เขาและผมเมื่อบอกเขาว่า เอาให้ได้เกรียรติ์นิยมเหมือนพี่ที่ได้ไปแล้วนะลูก  เขาก็ตอบว่า อึม..เกียรติ์นิยม ไม่เห็นมีความสำคัญอะไรเลย.

     ขึ้นปี 4 เทอมแรกเขาจึงปล่อยตัว ไปเที่ยวบ้างสังสรรบ้าง  ในช่วงระหว่างสอบ ยังไม่เสร็จเขาก็ไปเทียวต่างจังหวัด ไปดูคอนเสริต อยู่เลย คือเขาปล่อยตัวตามสบายมากขึ้นนั้นเอง เกรดก็ตกมาอวบนั้นเอง แต่สอบปลายภาค ปี.4 เทอม 1.  เขายังคว้าเกรดเฉลียทั้งหมดที่ 3.27  คือถึงเกียรติ์นิยมนั้นเอง  คือไม่เคยสอบตกสักวิชา ไม่เคยติด D สักวิชา เรียนภาคปกติไม่เคยลงเรียนช่วง ชัมเมอร์  คือติดเกณฑ์ เกียรติ์นิยม ตามพี่เขาไปอีกคน

     เพราะเทอมที่ 2 ของปีที่ 4 นั้น เป็นการไปฝึกงานเท่านั้น  ซึ่งเขารอที่จะไปฝึกงาน ในต้นเดือน มกราคม นี้.

   ดังนั้น ผู้ปกครอง หรือ พ่อ-แม่ ไม่ควรท้อใจ หรือ ถอดใจเสียก่อน เมื่อลูกบกพร่องในการเรียน แม้ทางการแพทย์จะสรุปผลมาแล้วก็ตาม แต่ก็สามารถส่งเสรีมเขาให้เก่งขึ้นได้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่