ใครชอบก็มาให้กำลังใจด้วยนะครับ ใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมอะไรถามมาได้เลยครับ เริ่มเลยครับ เริ่มจากวีซ่านะครับ ผมขออธิบายแค่เรื่องเอกสารแบบง่ายๆที่คุณควรจะมีก่อน นั่นคือหลักฐานการเงิน มีกี่บัญชี ลงหุ้น หรือ ประกัน อะไร ขนมาให้หมด ใบรับรองการทำงาน สำหรับคนที่ทำงานอิสระก็หลักฐานว่าทำอะไรบ้างให้ชัดเจน รวมถึงหลักฐานตั๋วเครื่องบินที่จองไว้ก่อนโดยไม่ต้องจ่าย และสุดท้ายกับการจองที่พัก ผมจองผ่านเวบไซด์โดยที่เอาแบบไม่ต้องจ่ายก่อนหน่ะครับ โดยผมจองอันที่มันยกเลิกฟรี โดยมีระยะเวลาที่ยกเลิกฟรีจนถึงวันที่ทำวีซ่าไปแล้วซัก 4-5วัน มาเริ่มกันเลย อุปกรณ์ถ่ายรูปผมพกไปแค่มือถือSamsung S9 ไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใดนะครับ แค่เท่านั้น เพราะขี้เกียจแบกกล้องเพราะแค่แบกกระเป๋าย้ายไปย้ายมาก็น่าจะเหนื่อยแล้ว คุณแค่ต้องวางแผนจะไปไหนวันไหนบ้างศึกษาเส้นทางในการไปจะทำให้คุณใช้เวลาน้อยลงเยอะ แนะนำว่าถ้าจะเที่ยวให้สนุกอย่าไปหน้าหนาว เพราะร้านจะปิดเร็ว ท้องฟ้าก็มืดเร็ว รวมทั้งฝนก็จะตกเยอะจนถ่ายรูปไม่สวย Google Maps ช่วยชีวิตท่านได้เยอะ การจองรถไฟให้จองผ่านเวบจะถูกกว่ามากของผมจองแบบล่วงหน้าวันนึงเพราะเผื่อเราเปลี่ยนแพลน ผมเลือกสายการบิน Etihad เพราะราคาโอเค อาจจะมีสายการบินที่ถูกกว่าแต่ด้วยคุณภาพผมก็กลัว เพราะตัวเองเป็นคนที่ไม่สามารถนั่งรวดเดียวยาวๆได้ เพราะอึดอัด ขอ 6-8 ชม. ลงมายึดเส้นหน่อยเถอะ แต่ก็เป็นครั้งแรกที่ขึ้น Etihad คุณภาพจริงๆก็ไม่ต่างกับเอมิเรตเลยแต่อาหารโอเคกว่า เคยขึ้นเอมิเรตเจออาหารออกอาหรับคนไทยอย่างผมแม้จะเป็นคนที่ชอบลองกินอาหารหลากหลายประเทศก็เถอะและเคยกินอาหารอาหรับในไทยแล้วแต่บอกเลยกลิ่นเครื่องเทศของแท้แรงกว่าเยอะ หลังจากที่เราลงมาถึงสนามบิน Heathrow ในกรุงลอนดอน ก็มาทำตามขั้นตอนต่างๆ ซื้อSimของค่าย Three เพราะมีโปรเนตบุฟเฟ่ครับ จ่ายแบบเหมา แต่สัญญาณก็พอได้ ที่ต้องเอาแบบเหมาเพราะว่าสามารถแชร์HotSpotได้เยอะครับ เลยยอมจ่ายจะได้ซื้อแค่เบอร์เดียว แล้วก็ซื้อOysterนั่งรถไฟออกมาที่สถานีที่พักเพื่อนำกระเป๋าไปเก็บกันก่อน พอถึงสถานีอีกสิ่งนึงที่ควรจะทำคือบัตร Railcard มันคุ้มมากแต่ทำที่สนามบินไม่ได้ มันลดค่ารถไฟไปได้ 1 ใน 3 เลย มีหลาย Conditions แต่ของผมใช้ Twotogether เนื่องจากไปกันสองคนกับแฟน  หลังจากนั้นก็เริ่มตลุย British Museum ส่วนตัวเป็นคนขี้กลัว เลยไม่กล้าถ่ายหน้ามัมมี่หรืออะไรแบบนี้ กลัวมัมมี่โผล่จากรูป 555สงสัยจะดูหนังมากไป
หลังจากนั้นก็กินฮอตด๊อกง่ายๆ เพราะหิวมากเนื่องจากแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรกันเลย แล้วก็ไปเดินถ่ายรูปกับBig Ben ที่กำลังซ่อมอยู่
กับ London Eye
เดินชิวๆแล้วเข้าเมืองไปที่ Oxford St. เดินเล่น
หลังจากนั้นเราก็กลับไปสลบกันยาวๆ ตื่นมาวันที่สองก็เริ่มตลุยต่อกับHarry Potter เราก็ไปที่สถานี Watford Junction ก่อน แล้วต่อรถไปที่ Studio ซึ่งคนที่จะขึ้นต้องจองตั๋วมาก่อนแล้ว ซึ่งผมกะไปซื้อหน้างาน ก็เลยเข้าเวบแล้วจองมันตรงนั้น ความซวยก็บังเกิดคือผมดันกดไปสองรอบอ้าว ยิงข้ามคาน(ชิพหาย) นั่งเซงตลอดทาง พอไปถึงไปคุยกับเค้าเตอร์ทีแรกเค้าก็จะไม่ยอม แต่สุดท้ายผมก็คุยไปคุยมาจนเค้ายอมrefundให้ในบัตรเครดิต
เราใช้เวลาอยู่ที่นี่จนถึงบ่ายแก่ๆ แล้วก็กลับไปเดินเล่นในเมือง จากนั้นก็กลับที่พัก เนื่องจากแฟนผมไม่ค่อยถนัดกับอาหารฝรั่ง นางเลยจัดบะหมี่กึ่งรสต้มยำที่เตรียม เพราะเชื่อคำของผมว่า อาหารในอังกฤษหาอร่อยยาก แต่ของหวานไม่ค่อยพลาด วันที่สาม เราขอพักเที่ยวชิวในเมืองโดยไปที่ Tower Bridge
พระราชวัง Buckingham
โบสถ์

พร้อมกับไปถ่ายรูปซ้ำที่ London Eye จริงๆแล้วนางก็กะขึ้นแต่พอเห็นภาพคิวแต่จำนวนคนต่อหนึ่งกระเช้านางบอกไม่โอเลยถ่ายแค่แถวนั้น หลังจากนั้นก็เดินช้อปปิ้งสิครับ วันที่สี่ผมได้ซื้อทัวร์จะเรียกทัวร์ก็ไม่เชิง เรียกว่ารถพาเที่ยวดีกว่าโดยผมซื้อผ่านทางเนต ไปขึ้นรถตามที่บอกและเวลาที่บอก ระวังเรื่องเวลานะครับ เค้าไม่รอ พลาดก็พลาด ไม่มีสิทธิ์งอแง เราก็ไปนั่งรถไปสโตนเฮนจ์ ที่ซึ่งผมก็ไม่ได้อินอะไร คือมองมาตลอดว่าเป็นหินโง่ๆเอามาเรียง แต่คุณแฟนอยากไปก็จัดให้ ถ้าไปเองจะค่อนข้างลำบากนิดนึงผมเลยแนะนำว่าทางนี้ดีสุด หาราคาไม่แพงก็มี ของผมซื้อแบบโปรไฟไหม้ ได้ประมาณ30 ปอนด์ รวมค่าเข้าสโตนเฮนจ์และไปเที่ยวเมืองบาธ
หลังจากเที่ยวสโตนเฮนจ์เสร็จเราก็ไปบาธตามที่รถพาไป พอไปถึงเราก็เดินถ่ายรูปเล่นในเมืองก่อนเข้าไปโรมันบาธ ที่ซึ่งผมก็เคยมาแต่ไม่เข้าเพราะไม่อินอีกเช่นเคย แต่นางอินเลยเข้า
หลังจากนั้นก็หาไรกินง่ายๆก่อนจะขึ้นรถกลับเข้าเมือง  หาข้าวกินก่อนจะกลับเข้าที่พัก วันต่อมาเราต้องย้ายเมืองกันแล้วโดยวันนี้ต้องวิ่งสองเมืองอีกครั้ง โดยที่เราไป Oxfordก่อน แต่จะเข้าพักที่ Cardiff เราก็นั่งรถไฟไปลงที่ Oxford แล้วฝากกระเป๋าแบบเสียตังซึ่งที่สถานีรถไฟไม่มีนะครับ ลองไปหาที่ฝากจากที่พักใกล้ๆ หลังจากฝากของเราก็เที่ยวในเมืองทั้งวันก่อนจะมารับกระเป๋าในช่วงบ่ายแก่ๆ


และนั่งรถไฟไปต่อที่ Cardiff สิ่งแรกที่ทำคือมุ่งไปที่พักก่อนพักผ่อนครับ เช้าวันที่6 เราเริ่มต้นนั่งรถเมล์ไปลงที่ Cardiff Bay ถ่ายรูปนั่นนี่หลังจากถ่ายรูป
เสร็จก็ทานอาหารคราวนี้ผมแนะนำ Nando’s ซึ่งเป็นร้านไก่ย่างชื่อดัง สรุปนางบอกเอออันนี้อร่อยตั้งแต่มานี่อันนี้ดีสุด

บรรยากาศในเมือง
แล้วก็ไปต่อที่ Cardiff Castle
ก่อนจะย้ายเมืองอีกครั้งโดยเรากลับไปเอากระเป๋าและนั่งรถไฟไปที่ Birmingham เราก็ไปที่พัก หาไรกินง่ายๆแล้วก็พักผ่อน เช้าวันรุ่งขึ้นหลายคนอาจจะสงสัยมาทำไรเมืองนี้ แน่นอนครับ ไปเที่ยวโรงงาน Cadbury นางฟินกับช๊อกโกแลตไปเลย ถ้านางลงไปอาบได้คงทำไปแล้ว
หลังจากนั้นเราก็กลับมาที่Bullring อ่อ การไปจริงๆก็ไม่ยากแค่นั่งรถไฟไป แล้วเดินอีก10 นาที มาเที่ยวอังกฤษ เตรียมรองเท้าเดินสบายๆมานะครับ เพราะเดินเยอะแน่นอน หลังจากนั้นเราก็ไปต่อที่เมืองลิเวอร์พูล ที่ๆผมคุ้นเคยมากที่สุด