สวัสดีค่ะ
กระทู้นี้จะมารีวิวทริปที่เพิ่งไปเที่ยวมาเมื่อต้นเดือนธันวาคมนะคะ ไปอังกฤษ- สกอตแลนด์ วันที่ 2 -11 ธันวา 2017 ( 10วัน 9คืน)
ออกตัวก่อนว่ากระทู้นี้อาจจะไม่มีภาพสวยๆนะคะ เนื่องความตั้งใจแรกของทริปนี้ จะเป็นทริปชิวๆ (แต่ทำไปทำมาก็ไม่ค่อยชิวเท่าไหร่ 555) ภาพที่ได้ส่วนใหญ่ก็จะมาจากไอโฟนค่ะ แต่อยากจะมาเขียนไว้เป็นความทรงจำ และเป็นการแชร์ข้อมูลให้กับเพื่อนๆในพันทิป เผื่อใครมีแพลนจะไป เพราะเราก็ได้ข้อมูลหลายๆอย่างจากในพันทิปเช่นกันค่ะ
ทริปนี้วางแพลนกันยาว เริ่มต้นจากเจอโปรตั๋วเครื่องบินของสายการบินการ์ตาร์ที่ออกมาตอนเดือนมกรา ถูกมากๆ ได้มาที่ราคาประมาณ 17K
ก็รีบจองเลย ล่วงหน้ากันเป็นปี นานลืมเลยค่ะ เราเลือกช่วงเดินทางเดือนธันวาเพราะเป็นช่วงที่งานซาๆ มีวันหยุดเยอะ ตามประสามนุษย์ออฟฟิศอย่างเรา จะได้ลาน้อยที่สุด และ จะได้มีเวลาเก็บเงินเที่ยวด้วย
ครั้งนี้เราเดินทางกันสองคนพี่น้องค่ะ ตอนแรกที่กดจองตั๋ว คิดกันว่าจะไปชิลๆ กินๆนอนๆช้อปๆอยู่ที่ลอนดอน เพราะทุกทริปที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เราจะไปหลายที่มากๆจนเรารู้สึกว่าเร่งรีบเกินไปมั้ย อยากดื่มด่ำบ้าง ...แต่เอาเข้าจริงเสิร์ชหาที่เที่ยวไปมาก็มีที่น่าสนใจหลายที่ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แพลนเที่ยวเยอะไปบ้าง มืดเร็วไปไม่ทันบ้าง จนออกมาเป็นทริปจริงตามนี้ค่ะ...
2-Dec-17 BKK-(DOHA)- LONDON / นั่งรถบัสจากลอนดอน ไป เอดินบะระ,สกอตแลนด์
3-Dec-17 ถึง Edinburgh Bus Station ตอนเช้า/ เที่ยว Edinburgh Christmas market, Edinburgh Castle,
Shopping at Princess Street ,Edinburgh
4-Dec-17 Loch Lomond / William Forte
5-Dec-17 นั่งรถไฟกลับLondon / พักผ่อนตามอัธยาศัย(นอน 555)
6-Dec-17 Buckingham Palace/ Green Park/Big Ben/ London Eyes/Winter Wonderland
7-Dec-17 Stonehenge/Cotswold(Bibury)/Bicester Village
8-Dec-17 London Bridge/ Borough Market/Harrods
9-Dec-17 Shopping at Oxford street, Bond street, Marble Arch stations
10-Dec-17 British Museum/ Shopping at Oxford Street & Harrods
11-Dec-17 LONDON- (DOH)-BKK
ทำวีซ่า
เราทำกันประมาณเดือนตุลาคม(2เดือนก่อนเดินทาง) ตอนแรกเราก็เตรียมเอกสารไปเยอะแยะมากมาย เพราะเคยทำเชงเก้นวีซ่ามาก่อน แต่พอเอาเข้าจริงๆ เขาเก็บไปแค่ ข้อ 1-4 ด้านล่าง ที่เหลือที่เรายื่นไปคืนเรากลับมาหมดตอนไปรับเล่มคืน
1. พาสปอร์ตตัวจริง อายุเหลืออย่างน้อย 6เดือน
2. ใบสมัครที่กรอกและปริ๊น พอกรอกเอกสารเสร็จ จ่ายตังค์แล้วจะสามารถเลือกวันเข้ายื่นเอกสารได้
(ขั้นตอนที่เราปวดหัวที่สุดคือตอนกรอกเอกสาร เพราะถามเยอะมาก ละเอียดมาก ก็ค่อยๆกรอกไปเซฟไปนะคะ )
3. Bank statement ( อันนี้เราไปขอที่แบงค์ ให้เขาเซ็นต์และประทับตราให้ เขาไม่ได้คิดเงินตรงนี้)
4. ใบรับรองการทำงาน
5. ตั๋วเครื่องบิน ( สถานทูตส่งเอกสารคืน)
6. ตารางการเดินทาง ( สถานทูตส่งเอกสารคืน)
7. ใบจองโรงแรม( สถานทูตส่งเอกสารคืน)
ของเราพอถึงวันนัดก็ไปยื่นที่ ตึกเทรนดี้ ตอนที่เราทำใช้เวลาประมาณ 1เราสัปดาห์ก็ได้วีซ่าค่ะ
จองโรงแรม
โรงแรมที่ Edinburgh เราจองผ่าน Booking.com ชื่อ Queens Hostel ทำเลค่อนข้างดี และห้องก็กว้างสะอาดสะอ้าน ถึงแม้จะไม่ใช่โรงแรมจ๋า แต่ก็สะดวกสบาย เดินไป Princess Street สถานีรถบัส สถานีรถไฟได้
โรงแรมที่ London เราเลือกจองที่พัก จาก Airbnb เป็นครั้งแรก เป็นห้องอพาร์ทเม้นแชร์กับเจ้าของห้อง แต่ไม่ค่อยใช่แนวทางเท่าไหร่ ไม่ประทับใจ
รถบัส>>> www.nationalexpress.com
รถไฟ >>> www.thetrainline.com
Day1
เราออกเดินทางกันเช้าของวันที่ 2 ธ.ค. ครั้งนี้ออกกันเช้าหน่อยเผื่อมีปัญหาอะไรจะได้พอมีเวลา แต่ทุกอย่างก็เรียบร้อยดี มีเวลาเข้าเลานจ์ของคิงพาวเวอร์ อาหารค่อนข้างโอเคเลย โจ๊กไก่อร่อย และ เดินดูของใน duty freeนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้อะไร เพราะเล็งไปช้อปกันที่อังกฤษกัน
ได้เวลาเดินทางแล้ว ลุ้นมากเพราะไฟล์ทมีเวลาไปต่อเครื่องที่โดฮาแค่ 45นาที แม้เครื่องออกตรงเวลา แต่วันนี้คงจะมีไฟล์ทเยอะ เครื่องบินรอต่อคิวtake off กันยาวเกือบ30นาทีได้ จนเราคิดว่าไม่น่าจะทันแน่ แต่ด้วยพลังซิ่งของกัปตันทำเวลาถึงโดฮาได้ตรงเวลา และโชคดีที่เกทที่เปลี่ยนเครื่องอยู่ใกล้ๆ เลยทำให้เราต่อเคริองได้ทันเวลา แถมมีเวลาเหลืออีกนิดหน่อย
ไฟล์ทจากโดฮาไปลอนดอนก็เรียบร้อยดี โดยรวมการขึ้นสายการบินการ์ตาร์ครั้งแรกก็ดี แต่อาหารออกจะจำเจไปสักหน่อย แต่ก็ไม่ได้ถือเป็นปัญหา
ไฟล์ทนี้ลงจอดที่สนามบินฮีทโธรว์ terminal 5 ถึงประมาณห้าโมงครึ่ง
ทริปนี้เป็นทริปที่ไม่ได้เตรียมตัวแบบจริงจังเท่าไหร่ ไม่ได้ศึกษาว่าเข้าเมืองยังไง แค่คิดว่าไม่อยากนั่ง tube เลยเลือกที่จะไปหาที่ขึ้นรถบัส ถามและก็ซื้อตั๋วตรงนั้นเลย ไปลงที่Victoria Station รถในลอนดอนนี่ติดใช้ได้เลย กว่าจะถึง Victoria Station ก็เกือบ 2ทุ่ม แต่รถบัสที่เราจองไว้จะไป Edinburgh รอบตั้งสี่ทุ่มครึ่ง เราเลยเดินซุปเปอร์แถวนั้นเล่นๆ ร้านส่วนใหญ่ก็ปิดหมดแล้ว เพราะหน้าหนาวสี่โมงเย็นก็มืดแล้ว ร้านค้าปิดตั้งแต่ 6โมงเย็น ว่าจะหาร้านซื้อซิมเลยไม่ได้ซื้อ อยู่ๆกันไปแบบไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่มีข้อมูลใดๆทั้งสิ้น 555
รถบัสที่นี่มีดีเลย์ด้วยแหละ แต่ไม่นานมาก แต่ยังดีที่พนักงานมาบอกว่าดีเลย์ นั่งๆนอนๆไป 9 ชั่วโมง แวะตามที่พักรถนิดหน่อยก็มาถึง Edinburgh bus station ก็ดีนะ ได้อารมณ์ไปอีกแบบ 555
DAY2
ด้วยความที่ไม่มีอินเตอร์เน็ตและไม่ได้เซฟแผนที่จาก Edinburgh Bus Station ไป โรงแรม เราเลยงงๆ ท่ามกลางอากาศหนาวๆ ถามคนแถวนั้น ก็ใจดีเปิดแผนที่ให้ เดินไปนิดหน่อยก็ถึง Queens Hostel เราขอเตียงเสริมไป เลยได้อัพเกรดเป็นห้อง family ห้องใหญ่เลย สะอาดดีมาก ถือว่าคุ้มราคา(ลืมถ่ายรูปมา มัวแต่ตื่นเต้นกับห้อง 555)เนื่องจากตอนเราไปถึงยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน เราเลยเอากระเป๋าไปฝากล้างหน้าล้างตาแล้วออกไปเดินเล่นกัน ตอนแรกกะจะไปแค่ Edinburgh Castle แต่เดินไปเรื่อยๆก็เจอร้านรวงมากมาย ( มารู้ทีหลังว่าเป็นแถวย่านถนน Princess Street )เลยแวะ ช้อปนิดหน่อย ร้านPrimark พวกเสื้อกันหนาวลดราคาถูกดี แต่เขาว่าคุณภาพก็ตามราคานะ แต่ก็ไม่รู้สิ สำหรับเราก็ถือว่าถูกเมื่อเทียบกับซื้อในไทย
ตอนช่วงที่เราไปมันอยู่ใกล้เทศกาลคริสมาสต์บรรยากาศก็จะคึกคักมาก ร้านค้าต่างๆก็จะลดราคาด้วยแหละ และเราเจอเขาจัด Edinburgh Christmas Market โดยบังเอิญ ก็จะมีของกินของขาย สวนสนุก เหมือนงานวัดบ้านเรา คือดีต่อใจมากมาช่วงนี้ ได้อารมณ์ เฟสติวัลสุดๆ เหมือนที่เห็นตามในหนัง ในทีวีเลย ฟินมากกกก
หลังจากเราเดินเล่น หาอะไรกินในตลาดคริสมาสต์เสร็จ ก็มุ่งหน้าเดินไปที่ Edinburgh Castle เอาตามตรงก็คือไม่ค่อยอินเท่าไหร่ เสียค่าเสียหายไป 17 ปอนด์ ตอนเย็นไปกินอาหารทะเล ไม่ไกลจากโรงแรมชื่อร้าน Cadiz รสชาดก็ใช้ได้เลยค่ะ
DAY3
วันรุ่งขึ้น ตื่นเช้ามาก็ลุ้นระทึก คือรถของเพื่อนพี่ที่เอามาจอดตั้งแต่เมื่อวานจอดได้แค่ถึงประมาณ แปดโมงครึ่ง และที่นี่คือจอดเกินนิดนึงโดนปรับบานเลยนะจ๊ะ ดีว่าขับออกไปได้ฉิวเฉียดมากๆ ตอนแรก ว่าจะไป highland แต่จริงๆแล้วhighland นี่คือพื้นที่มันกว้างใหญ่ไพศาลมาก เลยไม่รู้จะไปไหน
ที่แพลนไว้ก็ยังไม่ใช่ เราเลยตัดสินใจไปที่ Loch Lomond กับ William Forte เพราะไม่ไกลมาก
ออกตั้งแต่แปดโมงกว่าๆ กว่าจะกลับมาถึงตัวเมืองEdinburgh ก็ค่ำเหมือนกัน แถมขากลับเราไม่ยอมกลับทางเดิม ลองทางใหม่ ซึงเป็นเปลี่ยวไปอีก ปั๊มไม่มี ห้องน้ำก็ไม่มี ทางก็มืด เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า มาทางไหนกลับทางนั้น เซฟสุดนะจ๊ะ
กลับมาพักได้แป๊บนึง ก็ออกไปเดิน Christmas Market อีกครั้ง และก็หาข้าวเย็นกินกัน วันนี้ดีใจได้กิน Yo Sushi ได้รสชาดความเป็นเอเชียขึ้นมาบ้าง
มีเรื่องขำเรื่องนึง เมื่อวานเราไปหาซื้อซิมส์ในร้านสะดวก เขาเขียน 99.9 P เราก็แบบ ทำไมมันแพงจังวะเกือบ100ปอนด์เลยหรอ กลับมานั่งคิด นอนคิด ก็เอ๊ะ หรือมันจะไม่ใช่หน่วยปอนด์ เป็นเพนนี หรือเปล่า วันนี้เลยกลับไปที่ร้าน และก็จริงๆด้วย โอ๊ยย โง่จังเรา555 เลยเพิ่งได้ใช้เน็ตเลยเนี่ย ...ค่าซิมส์ประมาณ 1ปอนด์ เติมเงินอีก15 pound ได้เน็ตมา 4 GB ค่ะ
----
ต่อกระทู้ในคอมเม้นท์นะคะ
[CR] อังกฤษ-สกอตแลนด์ 10วัน 9คืน มนุษย์เงินเดือนก็เที่ยวเองได้ งบไม่แรง
กระทู้นี้จะมารีวิวทริปที่เพิ่งไปเที่ยวมาเมื่อต้นเดือนธันวาคมนะคะ ไปอังกฤษ- สกอตแลนด์ วันที่ 2 -11 ธันวา 2017 ( 10วัน 9คืน)
ออกตัวก่อนว่ากระทู้นี้อาจจะไม่มีภาพสวยๆนะคะ เนื่องความตั้งใจแรกของทริปนี้ จะเป็นทริปชิวๆ (แต่ทำไปทำมาก็ไม่ค่อยชิวเท่าไหร่ 555) ภาพที่ได้ส่วนใหญ่ก็จะมาจากไอโฟนค่ะ แต่อยากจะมาเขียนไว้เป็นความทรงจำ และเป็นการแชร์ข้อมูลให้กับเพื่อนๆในพันทิป เผื่อใครมีแพลนจะไป เพราะเราก็ได้ข้อมูลหลายๆอย่างจากในพันทิปเช่นกันค่ะ
ทริปนี้วางแพลนกันยาว เริ่มต้นจากเจอโปรตั๋วเครื่องบินของสายการบินการ์ตาร์ที่ออกมาตอนเดือนมกรา ถูกมากๆ ได้มาที่ราคาประมาณ 17K
ก็รีบจองเลย ล่วงหน้ากันเป็นปี นานลืมเลยค่ะ เราเลือกช่วงเดินทางเดือนธันวาเพราะเป็นช่วงที่งานซาๆ มีวันหยุดเยอะ ตามประสามนุษย์ออฟฟิศอย่างเรา จะได้ลาน้อยที่สุด และ จะได้มีเวลาเก็บเงินเที่ยวด้วย
ครั้งนี้เราเดินทางกันสองคนพี่น้องค่ะ ตอนแรกที่กดจองตั๋ว คิดกันว่าจะไปชิลๆ กินๆนอนๆช้อปๆอยู่ที่ลอนดอน เพราะทุกทริปที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เราจะไปหลายที่มากๆจนเรารู้สึกว่าเร่งรีบเกินไปมั้ย อยากดื่มด่ำบ้าง ...แต่เอาเข้าจริงเสิร์ชหาที่เที่ยวไปมาก็มีที่น่าสนใจหลายที่ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แพลนเที่ยวเยอะไปบ้าง มืดเร็วไปไม่ทันบ้าง จนออกมาเป็นทริปจริงตามนี้ค่ะ...
2-Dec-17 BKK-(DOHA)- LONDON / นั่งรถบัสจากลอนดอน ไป เอดินบะระ,สกอตแลนด์
3-Dec-17 ถึง Edinburgh Bus Station ตอนเช้า/ เที่ยว Edinburgh Christmas market, Edinburgh Castle,
Shopping at Princess Street ,Edinburgh
4-Dec-17 Loch Lomond / William Forte
5-Dec-17 นั่งรถไฟกลับLondon / พักผ่อนตามอัธยาศัย(นอน 555)
6-Dec-17 Buckingham Palace/ Green Park/Big Ben/ London Eyes/Winter Wonderland
7-Dec-17 Stonehenge/Cotswold(Bibury)/Bicester Village
8-Dec-17 London Bridge/ Borough Market/Harrods
9-Dec-17 Shopping at Oxford street, Bond street, Marble Arch stations
10-Dec-17 British Museum/ Shopping at Oxford Street & Harrods
11-Dec-17 LONDON- (DOH)-BKK
ทำวีซ่า
เราทำกันประมาณเดือนตุลาคม(2เดือนก่อนเดินทาง) ตอนแรกเราก็เตรียมเอกสารไปเยอะแยะมากมาย เพราะเคยทำเชงเก้นวีซ่ามาก่อน แต่พอเอาเข้าจริงๆ เขาเก็บไปแค่ ข้อ 1-4 ด้านล่าง ที่เหลือที่เรายื่นไปคืนเรากลับมาหมดตอนไปรับเล่มคืน
1. พาสปอร์ตตัวจริง อายุเหลืออย่างน้อย 6เดือน
2. ใบสมัครที่กรอกและปริ๊น พอกรอกเอกสารเสร็จ จ่ายตังค์แล้วจะสามารถเลือกวันเข้ายื่นเอกสารได้
(ขั้นตอนที่เราปวดหัวที่สุดคือตอนกรอกเอกสาร เพราะถามเยอะมาก ละเอียดมาก ก็ค่อยๆกรอกไปเซฟไปนะคะ )
3. Bank statement ( อันนี้เราไปขอที่แบงค์ ให้เขาเซ็นต์และประทับตราให้ เขาไม่ได้คิดเงินตรงนี้)
4. ใบรับรองการทำงาน
5. ตั๋วเครื่องบิน ( สถานทูตส่งเอกสารคืน)
6. ตารางการเดินทาง ( สถานทูตส่งเอกสารคืน)
7. ใบจองโรงแรม( สถานทูตส่งเอกสารคืน)
ของเราพอถึงวันนัดก็ไปยื่นที่ ตึกเทรนดี้ ตอนที่เราทำใช้เวลาประมาณ 1เราสัปดาห์ก็ได้วีซ่าค่ะ
จองโรงแรม
โรงแรมที่ Edinburgh เราจองผ่าน Booking.com ชื่อ Queens Hostel ทำเลค่อนข้างดี และห้องก็กว้างสะอาดสะอ้าน ถึงแม้จะไม่ใช่โรงแรมจ๋า แต่ก็สะดวกสบาย เดินไป Princess Street สถานีรถบัส สถานีรถไฟได้
โรงแรมที่ London เราเลือกจองที่พัก จาก Airbnb เป็นครั้งแรก เป็นห้องอพาร์ทเม้นแชร์กับเจ้าของห้อง แต่ไม่ค่อยใช่แนวทางเท่าไหร่ ไม่ประทับใจ
รถบัส>>> www.nationalexpress.com
รถไฟ >>> www.thetrainline.com
Day1
เราออกเดินทางกันเช้าของวันที่ 2 ธ.ค. ครั้งนี้ออกกันเช้าหน่อยเผื่อมีปัญหาอะไรจะได้พอมีเวลา แต่ทุกอย่างก็เรียบร้อยดี มีเวลาเข้าเลานจ์ของคิงพาวเวอร์ อาหารค่อนข้างโอเคเลย โจ๊กไก่อร่อย และ เดินดูของใน duty freeนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้อะไร เพราะเล็งไปช้อปกันที่อังกฤษกัน
ได้เวลาเดินทางแล้ว ลุ้นมากเพราะไฟล์ทมีเวลาไปต่อเครื่องที่โดฮาแค่ 45นาที แม้เครื่องออกตรงเวลา แต่วันนี้คงจะมีไฟล์ทเยอะ เครื่องบินรอต่อคิวtake off กันยาวเกือบ30นาทีได้ จนเราคิดว่าไม่น่าจะทันแน่ แต่ด้วยพลังซิ่งของกัปตันทำเวลาถึงโดฮาได้ตรงเวลา และโชคดีที่เกทที่เปลี่ยนเครื่องอยู่ใกล้ๆ เลยทำให้เราต่อเคริองได้ทันเวลา แถมมีเวลาเหลืออีกนิดหน่อย
ไฟล์ทจากโดฮาไปลอนดอนก็เรียบร้อยดี โดยรวมการขึ้นสายการบินการ์ตาร์ครั้งแรกก็ดี แต่อาหารออกจะจำเจไปสักหน่อย แต่ก็ไม่ได้ถือเป็นปัญหา
ไฟล์ทนี้ลงจอดที่สนามบินฮีทโธรว์ terminal 5 ถึงประมาณห้าโมงครึ่ง
ทริปนี้เป็นทริปที่ไม่ได้เตรียมตัวแบบจริงจังเท่าไหร่ ไม่ได้ศึกษาว่าเข้าเมืองยังไง แค่คิดว่าไม่อยากนั่ง tube เลยเลือกที่จะไปหาที่ขึ้นรถบัส ถามและก็ซื้อตั๋วตรงนั้นเลย ไปลงที่Victoria Station รถในลอนดอนนี่ติดใช้ได้เลย กว่าจะถึง Victoria Station ก็เกือบ 2ทุ่ม แต่รถบัสที่เราจองไว้จะไป Edinburgh รอบตั้งสี่ทุ่มครึ่ง เราเลยเดินซุปเปอร์แถวนั้นเล่นๆ ร้านส่วนใหญ่ก็ปิดหมดแล้ว เพราะหน้าหนาวสี่โมงเย็นก็มืดแล้ว ร้านค้าปิดตั้งแต่ 6โมงเย็น ว่าจะหาร้านซื้อซิมเลยไม่ได้ซื้อ อยู่ๆกันไปแบบไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่มีข้อมูลใดๆทั้งสิ้น 555
รถบัสที่นี่มีดีเลย์ด้วยแหละ แต่ไม่นานมาก แต่ยังดีที่พนักงานมาบอกว่าดีเลย์ นั่งๆนอนๆไป 9 ชั่วโมง แวะตามที่พักรถนิดหน่อยก็มาถึง Edinburgh bus station ก็ดีนะ ได้อารมณ์ไปอีกแบบ 555
DAY2
ด้วยความที่ไม่มีอินเตอร์เน็ตและไม่ได้เซฟแผนที่จาก Edinburgh Bus Station ไป โรงแรม เราเลยงงๆ ท่ามกลางอากาศหนาวๆ ถามคนแถวนั้น ก็ใจดีเปิดแผนที่ให้ เดินไปนิดหน่อยก็ถึง Queens Hostel เราขอเตียงเสริมไป เลยได้อัพเกรดเป็นห้อง family ห้องใหญ่เลย สะอาดดีมาก ถือว่าคุ้มราคา(ลืมถ่ายรูปมา มัวแต่ตื่นเต้นกับห้อง 555)เนื่องจากตอนเราไปถึงยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน เราเลยเอากระเป๋าไปฝากล้างหน้าล้างตาแล้วออกไปเดินเล่นกัน ตอนแรกกะจะไปแค่ Edinburgh Castle แต่เดินไปเรื่อยๆก็เจอร้านรวงมากมาย ( มารู้ทีหลังว่าเป็นแถวย่านถนน Princess Street )เลยแวะ ช้อปนิดหน่อย ร้านPrimark พวกเสื้อกันหนาวลดราคาถูกดี แต่เขาว่าคุณภาพก็ตามราคานะ แต่ก็ไม่รู้สิ สำหรับเราก็ถือว่าถูกเมื่อเทียบกับซื้อในไทย
ตอนช่วงที่เราไปมันอยู่ใกล้เทศกาลคริสมาสต์บรรยากาศก็จะคึกคักมาก ร้านค้าต่างๆก็จะลดราคาด้วยแหละ และเราเจอเขาจัด Edinburgh Christmas Market โดยบังเอิญ ก็จะมีของกินของขาย สวนสนุก เหมือนงานวัดบ้านเรา คือดีต่อใจมากมาช่วงนี้ ได้อารมณ์ เฟสติวัลสุดๆ เหมือนที่เห็นตามในหนัง ในทีวีเลย ฟินมากกกก
หลังจากเราเดินเล่น หาอะไรกินในตลาดคริสมาสต์เสร็จ ก็มุ่งหน้าเดินไปที่ Edinburgh Castle เอาตามตรงก็คือไม่ค่อยอินเท่าไหร่ เสียค่าเสียหายไป 17 ปอนด์ ตอนเย็นไปกินอาหารทะเล ไม่ไกลจากโรงแรมชื่อร้าน Cadiz รสชาดก็ใช้ได้เลยค่ะ
DAY3
วันรุ่งขึ้น ตื่นเช้ามาก็ลุ้นระทึก คือรถของเพื่อนพี่ที่เอามาจอดตั้งแต่เมื่อวานจอดได้แค่ถึงประมาณ แปดโมงครึ่ง และที่นี่คือจอดเกินนิดนึงโดนปรับบานเลยนะจ๊ะ ดีว่าขับออกไปได้ฉิวเฉียดมากๆ ตอนแรก ว่าจะไป highland แต่จริงๆแล้วhighland นี่คือพื้นที่มันกว้างใหญ่ไพศาลมาก เลยไม่รู้จะไปไหน
ที่แพลนไว้ก็ยังไม่ใช่ เราเลยตัดสินใจไปที่ Loch Lomond กับ William Forte เพราะไม่ไกลมาก
ออกตั้งแต่แปดโมงกว่าๆ กว่าจะกลับมาถึงตัวเมืองEdinburgh ก็ค่ำเหมือนกัน แถมขากลับเราไม่ยอมกลับทางเดิม ลองทางใหม่ ซึงเป็นเปลี่ยวไปอีก ปั๊มไม่มี ห้องน้ำก็ไม่มี ทางก็มืด เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า มาทางไหนกลับทางนั้น เซฟสุดนะจ๊ะ
กลับมาพักได้แป๊บนึง ก็ออกไปเดิน Christmas Market อีกครั้ง และก็หาข้าวเย็นกินกัน วันนี้ดีใจได้กิน Yo Sushi ได้รสชาดความเป็นเอเชียขึ้นมาบ้าง
มีเรื่องขำเรื่องนึง เมื่อวานเราไปหาซื้อซิมส์ในร้านสะดวก เขาเขียน 99.9 P เราก็แบบ ทำไมมันแพงจังวะเกือบ100ปอนด์เลยหรอ กลับมานั่งคิด นอนคิด ก็เอ๊ะ หรือมันจะไม่ใช่หน่วยปอนด์ เป็นเพนนี หรือเปล่า วันนี้เลยกลับไปที่ร้าน และก็จริงๆด้วย โอ๊ยย โง่จังเรา555 เลยเพิ่งได้ใช้เน็ตเลยเนี่ย ...ค่าซิมส์ประมาณ 1ปอนด์ เติมเงินอีก15 pound ได้เน็ตมา 4 GB ค่ะ
----
ต่อกระทู้ในคอมเม้นท์นะคะ