เอาจากความจำนะ อาจมีผิดพลาดบ้าง

ปีกสามเหลี่ยมมันมีมุม sweep มาก ตอนที่เปิดมุมปะทะมากๆ ถึงจะเกิดการไหลแยกแต่ก็มี vortex ชุดที่ 2 มาเสริมทำให้บินที่มุมปะทะสูงๆได้ดี
ปีกสามเหลี่ยม (ยุโรป)
ข้อดีคือ เมื่อบินเหนือเสียง wave drag จะต่ำ เพราะค่า thickness to chord ต่ำ aerodynamic loads ที่กระทำกับปีกต่ำ พื้นที่ปีกมาก และสามารถใส่ถังน้ำมันที่ปีกได้ ไม่ต้องมีหางในแนวนอน
ข้อเสีย fraction drag และ induced drag สูง เพราะพื้นที่ปีกมาก เกิด deep stall ได้ง่ายจนบางรุ่นต้องมี suction ป้องกันการไหลแยก ต้องใช้ canard ใช้ flap ไม่ได้ aerodynamic center อยู่ข้างหลังมากเกินไป

ปีกสี่เหลี่ยมคางหมู (F22) มีจุดเด่นที่ประสิทธิภาพการบินช่วง transonic การส่งถ่ายการบินช่วง transonic ไปยัง supersonic จะดีกว่า
ข้อดี นิยมใช้กับเครื่องบิน stealth ไม่ต้องใช้ canard มี aerodynamic center อยู่ข้างหน้ามากกว่าแบบสามเหลี่ยมทำให้ใช้ flap และใช้หางแนวนอนได้
ข้อเสีย wave drag ในช่วงความเร็ว supersonic สูง aerodynamic loads บนโครงสร้างปีกสูง stall ที่มุมปะทะต่ำกว่าปีกสามเหลี่ยมเลยต้องมีการเสริมด้วย leading edge extension

ปีก 2 แบบนี้จะมีข้อดีข้อเสียที่ส่วนกลบกับพอดี ส่วนปีกแบบ conventional backward sweep wing ของรัสเซียจะอยู่กลางๆระหว่าง 2 แบบนี้

ในการออกแบบเครื่องบิน การเลือก configuration ต้องใช้หลักการ decision making โดยมี flight mission และ indicators หลายๆอันเป็นตัวชี้วัด
ดังนั้น จีน รัสเซีย เมกา และยุโรป จึงมีเครื่องบินที่แตกต่างกันไป แล้วแต่ข้อสรุปของทีมออกแบบ แต่ที่แน่ๆ เท่าที่ผมดูในยูทุ้ป เลิกมโนว่าเขา copy กันได้แล้วครับ flight mission ของแต่ละลำไม่เหมือนกันเลย
f22 เน้นบุกชาวบ้าน
j20 เน้นป้องกัน สามารถลาดตระเวณได้ไกลๆ (ประเทศจีน) บรรทุก payload และน้ำมันได้เยอะ
su 57 เน้นไปทางโรมรันพันตูกัน dog fight อะไรประมาณนั้น