#ตัวเต็มมาแล้ว #รีวิวทำตา2ชั้น
พร้อมรูปตั้งแต่วันแรก ถึง1เดือน แบบละเอียดยิบ  แค่ทำตา2ชั้น ก็สวยขึ้นตั้งเยอะ55555+ (อันนี้คิดเอง)

#รีวิวทำตา2ชั้น บอกก่อนว่าเป็นคนตาโตกระบอกตากว้างอยู่แล้ว ชั้นตาก็มีอยู่แล้ว แต่ด้วยไขมันบนเปลือกตา และอายุที่มากขึ้น หนังมามันเลยปิดลงมาเยอะ ทำให้ชั้นตาไม่สวย และพออายุมากๆขึ้นตาข้างซ้ายมันก็แทบจะกลายเป็น 3 ชั้น  ตอนหลังๆก็จะใช้เทปกาวติดเพื่อให้ชั้นตาสวยงาม ใช้แบบตาข่าย สวยเนียนกริปบางคนเลยไม่รู้ว่าเรามีปัญหาชั้นตาค่ะ แต่เราก็อยากจะสวยตลอดเวลาไม่ต้องมาคอยแปะกาวพกพาอุปกรณ์เสริม จึงเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับการศัลยกรรมตา 2 ชั้น ตั้งใจจะทำแบบกรีด เพื่อความสวยคมชัด แต่ครั้งแรกมักไม่เป็นอย่างที่คิด ไม่ได้กรีด แต่ได้เจาะ
   2 ชั้น แบบ เจาะ .. คืออันที่จริงเรารู้ปัญหาของเราอยู่แล้ว ศึกษาข้อมูลได้พักนึกจึงตัดสินใจไปคลีนิค ไปๆมาๆ หมอกล่อมให้ทำแบบเจาะ ด้วยเหตุผลว่า  ตาโตกระบอกตากว้างอยู่แล้ว ชั้นตาก็มีอยู่แล้ว แค่แบบเจาะก็จะทำให้สวยชัดขึ้นได้ ไม่ต้องกรีด เราก็เชื่อหมอ เพราะเขาเป็นหมอ !! คือหมอจะวาดแนวชั้นตา และเจาะ 3 จุด เพื่อให้ดูสวยงามขึ้น
   ทำแล้วสวยขึ้นจริงค่ะ สวยอยู่ประมาณ 6-9 เดือน จากนั้นก็เริ่มกลับมาสภาพเดิม ทำไมหมอไม่เชื่อเรา !!!  หลังจากเจาะได้ 2 ปี ก็ศึกษาใหม่อีกรอบ ครั้งนี้จะต้องได้กรีดเท่านั้น ก็เปลี่ยนหมอค่ะ  แอบเจ็บใจเล็กน้อย ตาเราเคยเจาะมาก็ถือว่าเป็นเคสแก้ค่ะ เคสแก้ต้องเพิ่มเงิน 3-5 พันแล้วแต่หมอ
   วิธีการเลือกของเราก็ เช่นเคยค่ะ เราจะเปรียบเทียบความแตกต่าง ของราคา แพงมาก กับราคาทั่วๆไป สิ่งที่ได้มันแตกต่างกันอย่างไร แล้วสิ่งที่เราตัดสินใจเลือกก็คือ
1. ฝีมือของหมอ ต้องเป็นหมอที่มีชื่อเสียงพอสมควรด้าน ศัลยกรรมตา 2 ชั้น โดยวิธีการกรีด
2. คลีนิค ไม่ดูน่ากลัวเกินไปก็พอ เพราะเขาก็ผ่านมาตรฐานอยู่แล้ว ไม่ใช่หมอเถื่อนคลีนิคเถื่อน
3. ราคาที่เราพอใจจ่าย  เราพอใจจ่าย ที่ราคา ไม่เกิน 16,000 ค่ะ  เป็นแสนไม่เอา ห้าพันก็ไม่ไหว ไม่อยากไปเป็นเคสให้หมอฝึกหัด

เลือกแล้วก็เตรียมตัวค่ะ เลือกวันเพราะต้องพักฟื้นอย่างน้อย 4 วัน ต้องเตรียมอาหาร และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกระหว่างพักฟื้น

ส่งรูปให้ทางคลีนิค แล้วโทรคุยกับหมอก็นัดวันทำเลยค่ะ ให้น้องพาไป ไปถึงหมอก็เช็คตาเรา แล้วคุยความต้องการอีกที ตอนแรกอยากได้ 2 ชั้นแบบชัดๆเลย เผื่อยุบสุดๆแล้วจะได้สวยๆ  พอคุยกับหมอแล้วก็ได้ดั่งใจเลยค่ะ หมอตามใจเรา เพราะเราก็ศึกษาความเป็นไปได้มาแล้ว สรุปกรีดยาวและตัดไขมันด้วยเพื่อตกแต่งหนังตาให้สวยงาม แต่กรีดในที่นี้ คือ กรีดที่ชัดตาจุดเดิมไม่ได้ขยับสูงขึ้น เพียงแต่ว่า กรีดแล้ว ตัดเอาหนังบางส่วนและไขมันออก หมอลองจิ้มๆและให้ส่องกระจกดูว่าจะออกมาประมาณนี้ เราก็โอเคค่ะ

ขึ้นเตียงไม่นาน เจ็บสุดคือตอนฉีดยาชา (อันนี้รู้อยู่อล้วเพราะเคยลอกต้อเนื้อ ซึ่งสาหัสกว่านี้เยอะ)  หมอก็ค่อยๆกรีดค่ะ ค่อยทำ เย็บไปส่องไป เช็คความบาลาซไปด้วยตลอด ใจเย็นมากๆค่ะ น่าจะไม่ถึง 1 ชม. ก็เสร็จเรียบร้อย ดูจากแผลวันแรกก็คิดว่าน่าจะสวยแน่ๆๆ
หมอก็แนะนำวิธีปฏิบัติดูแลค่ะ ก็ห้ามโดนน้ำจนกว้าจะตัดไหม ห้ามจับห้ามแกะ ห้ามทานของแสลง แต่ๆๆๆ  เราเพิ่งเข้าใจคำว่า “ความดันขึ้นตา” ก็ตอนนี้ค่ะ  ตอน อึ   ซึ่งเราไม่เคยรู้มาก่อน เอาตรงๆคือ ถ้ากรีดตามา ต้องห้ามเบ่งขี้ค่ะ  เรานี้ แผลปริเลือดไหลลงมาอาบแก้ม เลือดสดๆเป็นทาง อันนี้ก็ถือว่าเป็นความรู้ทั่วไปละกันนะคะ 5555+


3 วันแรกบวมมากๆ เราเป็นคนบวมง่ายอยู่แล้วอันนี้รู้ตัวเลย

แต่ด้วยงานแล้วมันหยุดหลายวันไม่ได้  ประกอบกับเราเป็นคนไม่ได้อะไรมากกับเรื่องแบบนี้ ก็ไปทำงานทั้งบวมๆและไหมบนเปลือกตาระเกะระกะ แล้วเวลาเจอใคร เราก็จะทักทายเขาก่อนด้วยคำว่า “นี่ๆดูซิ เราไปทำตา 2 ชั้นมา” ^__^

ใกล้วันตัดไหมมันจะคันมากๆๆๆ  พอตัดไหมปุ๊ป รู้สึกโอเคมากๆ รู้เลยว่ามันต้องสวย ก็ตามภาพเลยค่ะ แต่ละช่วงถ่ายไว้หมด 1 เดือนแรก เห่อมาก แต่งตา ถ่ายภาพซูมอวดชาวบ้าน

โปรดให้อภัยทางเราด้วย สำหรับเรื่องคิ้ว  ตอนนั้นมันไม่รู้ตัวจริงๆๆๆ


อันนี้ 1 เดือน



เกือบ 2 เดือนเริ่มเข้าที่

ตอนนี้ก็น่าจะ1ปี9เดือน แล้วนะคะ ชอบตาตัวเองมากๆ คิดอยู่เสมอว่าตัดสินใจถูก



เราว่าการเลือกหมอในการศัลกรรมตา 2 ชั้น มันสำคัญมากๆ  ตรงตานี้ผิดนิดนึงชีวิตเปลี่ยนเลยนะ เราวิเคราะห์ข้อดีของเคสเรา ดังนี้นะคะ  เป็นคนตาโต กระบอกตากว้างอยู่แล้ว ชั้นตาก็มีอยู่แล้ว  ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เคสเราไม่ยากเท่าไหร่ สำหรับใครที่อยากจะทำตา 2 ชั้น ด้วยปัญหาที่แตกต่างกันก็แนะนำให้เลือกหมอดีๆนะคะ  ส่วนเคสของเรา เราไม่บอกว่าหมอไหนเพราะไม่ได้สปอนเซอร์ 555   ถ้าจะทำจริงเดี๋ยวแจ้งชื่อหมอชื่อคลีนิคค่ะ เม้นกระทู้ให้ด้วยนะ
  ปล.สนับสนุนให้ผู้หญิงทุกคนสวยยิ่งๆขึ้นค่ะ