ไม่คิดอยากจะอินเทรนด์กับใครเขาในโลกโซเชียลเท่าไรนักหรอก เนื่องด้วยอายุเริ่มต้นนับหนึ่งและกำลังจะเป็นน้องใหม่ในสังคมผู้สูงวัย แต่ OMG ปรากฏว่าสัปดาห์ที่ผ่านมามีแต่ภาพหลุด คลิปเด่น แชร์กันให้ว่อนในห้องไลน์เกือบ 99.99%
ข่าวคราวที่ไม่อยากรู้ ไม่อยากเห็น ไม่อยากแชร์ ก็มากระแทกตา พาลกระทบต่อมความรู้สึกจนได้ แม้มิได้มีเจตนา หรือจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ตามที
ทำไม??? คนเรามันเป็นไปได้ถึงขนาดนี้
นี่คือคำถามแรกที่แว่บขึ้นมา และเมื่อลองอ่านเข้าไปในรายละเอียดแล้วก็ยิ่งรู้สึกสมเพช และผิดหวังอย่างแรงกับความเป็นเพศแม่
เห็นทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวนิดๆ หน่อยๆ ก็ต้องร้อง..อก..อีป้าจะแตก!!!
สงสารทุกคนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนครอบครัวของคนเหล่านี้ แต่ก็ต้องมีคำถามว่า ..การศึกษาของมนุษย์มิได้ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง หรือให้เป็นอาภรณ์ห่มกายและจิตใจให้รู้จักชั่งน้ำหนักการประพฤติดีประพฤติงามกันบ้างเลยหรืออย่างไรหนอ
จะเรียกว่า มนุษย์ป้าหัวโบ (ราณ) ก็เอาเถิด จิกกัดกันมาเลย โดยเฉพาะที่มีการเอาสีข้างถู โอดครวญโทษว่าการเมืองเป็นพิษ ความรักประชาธิปไตยเป็นเหตุให้ต้องกลายเป็น "เหยื่อ" โซเชียล
ป้าว่ามันคนละประเด็นเลยนะ เพราะข้อสำคัญคือ นี่ใช่พฤติกรรมที่เหมาะสมของผู้หญิงไหม ถ้าคุณยังเป็นแค่คนที่กำลังดูใจ ศึกษาสัมพันธ์ระหว่างกันและกัน หรือแม้แต่เป็นคนรักก็ตาม ในฐานะครูบาอาจารย์แล้ว คงเป็นตัวอย่างที่ไม่เหมาะสมใดๆ ทั้งสิ้น
ประเด็นละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ก็อีกเช่นเดียวกัน...คนที่ถ่ายคลิป และนำมาเผยแพร่ สมควรต้องถูกประณาม แต่คนที่เป็นพระเอกกับนางเอกในคลิปนี่สิ ไม่รู้สึกมีจิตสำนึกเลยหรือว่า บุคคลสาธารณะที่ประกาศจะปฏิ รูปสังคมไทยนั้น ควรจะต้องมีความประพฤติที่เป็นแบบอย่างที่ดีทั้งในที่ลับและที่แจ้ง มิเช่นนั้นก็คงไม่ต่างจากพวกมือถือดาบปากคาบคัมภีร์...จริงไหม??
เหตุฉาวที่เกิดขึ้นในโลกโซเชียล มันคือ เภทภัยของเทคโนโลยีในยุคดิจิตอล หรือไม่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่มองข้ามไม่ได้คือ ศีลธรรมและจริยธรรมสำนึกของมนุษย์ ถ้าทุกคนมีมากพอ หรือให้ความสำคัญ และตระหนักรู้อยู่เสมอ กิเลสกับตัณหาในตัวของมนุษย์ทุกคน ก็จะไม่ผุดออกมาผิดที่ผิดทางและไม่รู้จักกาลเทศะอย่างแน่นอน.
"ป้าเอง"
มนุษย์ป้าหัวโบ(ราณ) โดย ป้าเอง (โจ หมี)
ไม่คิดอยากจะอินเทรนด์กับใครเขาในโลกโซเชียลเท่าไรนักหรอก เนื่องด้วยอายุเริ่มต้นนับหนึ่งและกำลังจะเป็นน้องใหม่ในสังคมผู้สูงวัย แต่ OMG ปรากฏว่าสัปดาห์ที่ผ่านมามีแต่ภาพหลุด คลิปเด่น แชร์กันให้ว่อนในห้องไลน์เกือบ 99.99%
ข่าวคราวที่ไม่อยากรู้ ไม่อยากเห็น ไม่อยากแชร์ ก็มากระแทกตา พาลกระทบต่อมความรู้สึกจนได้ แม้มิได้มีเจตนา หรือจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ตามที
ทำไม??? คนเรามันเป็นไปได้ถึงขนาดนี้
นี่คือคำถามแรกที่แว่บขึ้นมา และเมื่อลองอ่านเข้าไปในรายละเอียดแล้วก็ยิ่งรู้สึกสมเพช และผิดหวังอย่างแรงกับความเป็นเพศแม่
เห็นทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวนิดๆ หน่อยๆ ก็ต้องร้อง..อก..อีป้าจะแตก!!!
สงสารทุกคนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนครอบครัวของคนเหล่านี้ แต่ก็ต้องมีคำถามว่า ..การศึกษาของมนุษย์มิได้ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง หรือให้เป็นอาภรณ์ห่มกายและจิตใจให้รู้จักชั่งน้ำหนักการประพฤติดีประพฤติงามกันบ้างเลยหรืออย่างไรหนอ
จะเรียกว่า มนุษย์ป้าหัวโบ (ราณ) ก็เอาเถิด จิกกัดกันมาเลย โดยเฉพาะที่มีการเอาสีข้างถู โอดครวญโทษว่าการเมืองเป็นพิษ ความรักประชาธิปไตยเป็นเหตุให้ต้องกลายเป็น "เหยื่อ" โซเชียล
ป้าว่ามันคนละประเด็นเลยนะ เพราะข้อสำคัญคือ นี่ใช่พฤติกรรมที่เหมาะสมของผู้หญิงไหม ถ้าคุณยังเป็นแค่คนที่กำลังดูใจ ศึกษาสัมพันธ์ระหว่างกันและกัน หรือแม้แต่เป็นคนรักก็ตาม ในฐานะครูบาอาจารย์แล้ว คงเป็นตัวอย่างที่ไม่เหมาะสมใดๆ ทั้งสิ้น
ประเด็นละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ก็อีกเช่นเดียวกัน...คนที่ถ่ายคลิป และนำมาเผยแพร่ สมควรต้องถูกประณาม แต่คนที่เป็นพระเอกกับนางเอกในคลิปนี่สิ ไม่รู้สึกมีจิตสำนึกเลยหรือว่า บุคคลสาธารณะที่ประกาศจะปฏิ รูปสังคมไทยนั้น ควรจะต้องมีความประพฤติที่เป็นแบบอย่างที่ดีทั้งในที่ลับและที่แจ้ง มิเช่นนั้นก็คงไม่ต่างจากพวกมือถือดาบปากคาบคัมภีร์...จริงไหม??
เหตุฉาวที่เกิดขึ้นในโลกโซเชียล มันคือ เภทภัยของเทคโนโลยีในยุคดิจิตอล หรือไม่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่มองข้ามไม่ได้คือ ศีลธรรมและจริยธรรมสำนึกของมนุษย์ ถ้าทุกคนมีมากพอ หรือให้ความสำคัญ และตระหนักรู้อยู่เสมอ กิเลสกับตัณหาในตัวของมนุษย์ทุกคน ก็จะไม่ผุดออกมาผิดที่ผิดทางและไม่รู้จักกาลเทศะอย่างแน่นอน.
"ป้าเอง"