เทศกาลฉลองคริสมาสต์ (วันคล้ายวันประสูติของพระเยซู) จะเริ่มอีกไม่กี่สิบชั่วโมงจึงมีเกร็ดเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ มาเล่าสู่กันฟังเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศตอนนี้ บางท่านอาจจะรู้มาก่อนแล้วก็ถือว่าทบทวนความจำก็แล้วกัน
ส่วนสำคัญในความรุ่งโรจน์และการแพร่กระจายอย่างกว้างขวางของศาสนาคริสต์หลังการจากไปของพระเยซูแล้วนั้นนอกจากความดีงามของตัวพระเยซูเองแล้ว
แมรี่ แม็กดาลีนน์ก็มีส่วนผลักดันศาสนาคริสต์ให้เป็นที่รู้จักกันดีและแพร่หลายทั่วโลกด้วย
เธอเป็นใคร?? นักประวัติศาสตร์ศาสนา,สารคดี,และล่าสุดภาพยนต์ดังที่ชื่อ "รหัสลับดาวินซี" ชี้ขาดแบบไม่มีกั๊กว่าเธอคือภรรยาของพระเยซูนั่นเอง ช่างเถอะ...เธอจะเป็นใครก็แล้วแต่ แต่ที่ทุกคนเห็นตรงกันคือเธอมีตัวตนจริงและเป็นพระสาวกที่ซือสัตย์ต่อพระเยซูเสมอมา พระคัมภีร์ไบเบิ้ลได้เอ่ยชื่อเธอเอาไว้อย่างให้ความสำคัญทีเดียว ชื่อเธอจะถูกเอ่ยนำหน้าพระสาวกคนอื่นๆ เสมอ และเด่นที่สุดเห็นจะเป็นตอนที่พระเยซูถูกตรงไม้กางเขน พระสาวกที่ไปยืนร้องให้สะอึกสะอื้นดูการทรมานพระองค์แถวหน้าฝูงชนก็คือแมรี่ แม็กดาลีนน์กับแมรี่ (พระมารดาของพระเยซู) และหลังจากการปลงพระศพลงจากไม้กางเขนคนที่เข้าไปประคองพระศพแล้วโน้มพระเศียรของพระเยซูมาซบบนตักก็คือแมรี่ แม็กดาลีนน์
หลังการสิ้นพระชนม์ของพระเยซู เหล่าพระสาวกก็กระจัดกระจายแยกย้ายกันไป ยังมีแต่แมรี่ แม็กดาลีนน์ที่ยังแสดงความอาลัยต่อพระองค์โดยไปเยี่ยมเยือนหลุมฝังศพ แล้ววันนั้นก็พบว่าพระศพได้หายไป จากนั้นก็ได้พบกับพระเยซูซึ่งฟื้นพระชนม์ชีพกลับมาอีก แมรี่ แม็กดาลีนน์เป็นคนแรกที่พระเยซูปรากฏตัวให้เห็นหลังจากการฟื้นคืนชีพของพระองค์ และแมรี่ แม็กดาลีนน์นำข่าวนี้มาบอกต่อเพื่อนๆ และสาวกคนอื่นๆ ......ศรัทธาที่เคยมีต่อองค์พระเยซูของหลายๆ คนก็เริ่มถูกปลุกขึ้นมาอีก จุดเริ่มต้นของการแพร่กระจายของศาสนาคริสต์ไปทั่วโลกเริ่มต้นจากจุดนี้ (ในความคิดของผม) ด้วยความเป็นผู้หญิง แมรี่ แม็กดาลีนน์ และถูกพระสาวกบางคนที่ไม่ชอบ (ตั้งแต่พระเยซูมีชีวิตอยู่) แมรี่ได้ถูกกีดกันและอิจฉา จนเธอเองต้องพยายามทำตัวอยู่ห่างคนเหล่านั้น แต่ยังคงทำหน้าที่สอนศาสนาคริสต์ตามรอยพระเยซูมาตลอดชีวิต ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เธอมาใช้ชีวิตบั้นปลายชีวิตที่หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งปัจจุบันหมู่บ้านแห่งนี้กลายเป็นแห่งท่องเที่ยว (ตัวผมเองก็ได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือนมา)
หลังจากที่ศาสนาคริสต์ได้ลงหลักปักฐานอย่างแน่นหนาจนเวลาล่วงเลยมาห้าร้อยกว่าปี.....ประวัติของแมรี่ แม็กดาลีนน์ก็ถูกเขียนโดยสำนักวาติวันว่าเธอเป็นหญิงโสเภณีมาก่อนๆ สถานะความเป็นโสเภณีของเธอถูกทำให้เชื่อมานับสิบศตวรรษ จนสุดท้ายไม่นานมานี้ก็มีการประกาศจากสำนักวาติกันว่าเป็นการเข้าใจผิด แล้วคืนสถานะความเป็นหญิงสาวกที่รับใช้พระเยซูอย่างใกล้ชิดและซื่อสัตย์ตลอดมา.......กว่าจะสิ้นตราบาป!!
..."กว่าจะพ้นมนทิน" ผู้หญิงกับตราบาป.../วัชรานนท์
ส่วนสำคัญในความรุ่งโรจน์และการแพร่กระจายอย่างกว้างขวางของศาสนาคริสต์หลังการจากไปของพระเยซูแล้วนั้นนอกจากความดีงามของตัวพระเยซูเองแล้ว แมรี่ แม็กดาลีนน์ก็มีส่วนผลักดันศาสนาคริสต์ให้เป็นที่รู้จักกันดีและแพร่หลายทั่วโลกด้วย
เธอเป็นใคร?? นักประวัติศาสตร์ศาสนา,สารคดี,และล่าสุดภาพยนต์ดังที่ชื่อ "รหัสลับดาวินซี" ชี้ขาดแบบไม่มีกั๊กว่าเธอคือภรรยาของพระเยซูนั่นเอง ช่างเถอะ...เธอจะเป็นใครก็แล้วแต่ แต่ที่ทุกคนเห็นตรงกันคือเธอมีตัวตนจริงและเป็นพระสาวกที่ซือสัตย์ต่อพระเยซูเสมอมา พระคัมภีร์ไบเบิ้ลได้เอ่ยชื่อเธอเอาไว้อย่างให้ความสำคัญทีเดียว ชื่อเธอจะถูกเอ่ยนำหน้าพระสาวกคนอื่นๆ เสมอ และเด่นที่สุดเห็นจะเป็นตอนที่พระเยซูถูกตรงไม้กางเขน พระสาวกที่ไปยืนร้องให้สะอึกสะอื้นดูการทรมานพระองค์แถวหน้าฝูงชนก็คือแมรี่ แม็กดาลีนน์กับแมรี่ (พระมารดาของพระเยซู) และหลังจากการปลงพระศพลงจากไม้กางเขนคนที่เข้าไปประคองพระศพแล้วโน้มพระเศียรของพระเยซูมาซบบนตักก็คือแมรี่ แม็กดาลีนน์
หลังการสิ้นพระชนม์ของพระเยซู เหล่าพระสาวกก็กระจัดกระจายแยกย้ายกันไป ยังมีแต่แมรี่ แม็กดาลีนน์ที่ยังแสดงความอาลัยต่อพระองค์โดยไปเยี่ยมเยือนหลุมฝังศพ แล้ววันนั้นก็พบว่าพระศพได้หายไป จากนั้นก็ได้พบกับพระเยซูซึ่งฟื้นพระชนม์ชีพกลับมาอีก แมรี่ แม็กดาลีนน์เป็นคนแรกที่พระเยซูปรากฏตัวให้เห็นหลังจากการฟื้นคืนชีพของพระองค์ และแมรี่ แม็กดาลีนน์นำข่าวนี้มาบอกต่อเพื่อนๆ และสาวกคนอื่นๆ ......ศรัทธาที่เคยมีต่อองค์พระเยซูของหลายๆ คนก็เริ่มถูกปลุกขึ้นมาอีก จุดเริ่มต้นของการแพร่กระจายของศาสนาคริสต์ไปทั่วโลกเริ่มต้นจากจุดนี้ (ในความคิดของผม) ด้วยความเป็นผู้หญิง แมรี่ แม็กดาลีนน์ และถูกพระสาวกบางคนที่ไม่ชอบ (ตั้งแต่พระเยซูมีชีวิตอยู่) แมรี่ได้ถูกกีดกันและอิจฉา จนเธอเองต้องพยายามทำตัวอยู่ห่างคนเหล่านั้น แต่ยังคงทำหน้าที่สอนศาสนาคริสต์ตามรอยพระเยซูมาตลอดชีวิต ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เธอมาใช้ชีวิตบั้นปลายชีวิตที่หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งปัจจุบันหมู่บ้านแห่งนี้กลายเป็นแห่งท่องเที่ยว (ตัวผมเองก็ได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือนมา)
หลังจากที่ศาสนาคริสต์ได้ลงหลักปักฐานอย่างแน่นหนาจนเวลาล่วงเลยมาห้าร้อยกว่าปี.....ประวัติของแมรี่ แม็กดาลีนน์ก็ถูกเขียนโดยสำนักวาติวันว่าเธอเป็นหญิงโสเภณีมาก่อนๆ สถานะความเป็นโสเภณีของเธอถูกทำให้เชื่อมานับสิบศตวรรษ จนสุดท้ายไม่นานมานี้ก็มีการประกาศจากสำนักวาติกันว่าเป็นการเข้าใจผิด แล้วคืนสถานะความเป็นหญิงสาวกที่รับใช้พระเยซูอย่างใกล้ชิดและซื่อสัตย์ตลอดมา.......กว่าจะสิ้นตราบาป!!