Dell เป็นแบรนด์ที่หลายๆคนน่าจะรู้จักกันอยู่แล้วและเป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องของประกันหลังการขายที่ดีอันดับต้นๆเลยก็ว่าได้ครับแน่นอนว่าเป็นจุดเด่นของเค้าเลยแหละส่วนสินค้านั้นก็ออกมาตอบโจทย์การใช้งานได้ค่อนข้างครบทุกกลุ่มลูกค้า ทั้งสายใช้งานทั่วไป ทำงานจริงจัง หรือจะเป็นสายเกมมิ่ง ก็มีให้เลือกใช้งานได้ค่อนข้างเยอะเลยครับ ในวันนี้เราจะมาลองใช้งานกับรุ่นที่เป็นสายเกมของทาง Dell แต่ยังไม่ถึงขั้นจริงจังแบบ Alienware อยู่ในเรทราคาที่จับต้องได้ง่ายและสเปคไม่เป็นรองใครเลยนั้นเองครับ คือเจ้า Dell G7 G15 7588 สายเกมรุ่นท็อปสุดในตอนนี้
Dell G7 7588 นั้นมีจุดเด่นที่น่าสนใจหลากหลายเลยแหละ ใช้ชิป Intel Core i7-8750H + NVIDIA GeForce GTX 1060 Max-Q DDR4 ขนาด 16 + SSD อีก 256GB มีหน้าจอ 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล IPS แบบด้าน และพอร์ตเชื่อมต่อมาให้ครบมากๆยังมี Thunderbolt 3 มาให้ด้วยนั้นเองครับ และยังเป็น Gaming Laptop ที่มาพร้อมกับ ที่สแกนลายนิ้วมือไม่กี่รุ่นเลยด้วยนะความปลอดภัยยังจัดมาให้ดีมากๆเลย
DELL G7 15 มีทั้งหมด 2 เรทราคาครับ แต่ทั้ง 2 รุ่นนั้นไม่มี Windows แถมมาให้นะครับต้องซื้อแยกเอง !
- i7-8750H + GTX 1050Ti + RAM 8GB + SSD 128GB + HDD 1TB ราคา 34,990 บาท
- i7-8750H + GTX 1060 Max-Q + RAM 16GB + SSD 128GB + HDD 1TB ราคา 49,990 บาท
UNBOX
- ตัวเครื่อง Dell G7 15 7588
- Adaptor ชาร์จไฟ
- คู่มือ
DESIGN
ทางด้านการออกแบบนั้นต้องบอกว่าในบรรดารุ่นทั้งหมดของ G Series หรือรุ่นก่อนหน้านี้ รุ่นนี้ออกแบบมาได้ลงตัวที่สุด และสวยที่สุดสำหรับแอดมินนะชอบมากเลย ดีไซน์มันโดดเด่นและแตกต่างดีจริงๆและเป็น Gaming ที่ใช้โทนขาวฟ้า เจ้าเดียวเลยแหละ ทำให้มันใช้งานทั่วไปได้สบาย ผู้หญิงใช้งานได้สบายครับไม่ดุดันเกินไป เรื่องของงานประกอบ วัสดุ อันนี้จับแล้วรู้สึดถึงความแน่นของตัวเครื่อง แบรนด์นี้ขึ้นชื่อเรื่องนี้อยู่แล้วครับไว้ใจได้สบาย และอีกอย่างที่รู้สึกนอกเหนือจากงานประกอบคือ ความเนี๊ยบของรอยต่อพวกนี้ทำได้ดีมากๆ และตัวเครื่องมีความหนา + หนักพอสมควรเลยแหละครับ เป็นไม่กี่รุ่นในท้ายปี 2018 ที่ค่อนข้างหนา หนัก และ ขอบจอยังหนามากเลยด้วย
การออกแบบโดยรวมนั้นมาพร้อมโทนสีเงินขาว โทนสว่างครับ ตัดด้วยสีฟ้าในพวกของโลโก้ ช่องระบายความร้อน ต่างๆและตัดด้วยโทนเข้มข้างในจอ แป้นพิมพ์ต่างๆครับ ดีไซน์มาพร้อมความดุดันดีไซน์คล้ายช่องลมหน้าหลังสวยงามสีดำเข้มตัดกับโทนสว่างของตัวเครื่องได้ดีเลยแหละ สวยกว่าสีดำล้วนเยอะครับ ชอบดีไซน์มันจริงๆนะ
วัสดุฝาหลังและรวมๆนั้นเป็นพลาสติก แต่มันทำออกมาคุณภาพการสัมผัสดีมากจริงๆครับให้ไปลงกันดูได้เลย เป็นพลาสติดสีขาวเงินสะท้อนแสงได้ค่อนข้างโดดเด่น โลโก้มาโทนฟ้าเงางามเลยแหละ ส่วนของฐานด้านหลังนั้นเป็นช่องลมระบายความร้อนทั้ง 2 ข้างที่ข้างในเป็นสีฟ้านะครับและเป็นขีดๆ พร้อมกับโลโก้รุ่น G7 เอาจริงๆชอบการออกแบบในส่วนแถบสีดำทั้งหน้าหลังนะมันสวยจริงๆ ตัดกับการออกแบบทั้งหมดได้ดี ตัวเครื่องดูบางและเท่ได้อีกด้วยครับ
เมื่อเปิดมาข้างในมาในโทนสีเข้มออกไปทางน้ำเงินเข้มๆและโทนสีดำครับตัดกับบอดี้โดยรวมเลยแหละ ด้านแป้นพิมพ์ทั้งหลาย ที่วางมือมีเนื้อที่ค่อนข้างเยอะครับ และตัวเครื่องมันใหญ่มากในยุคนี้หลายๆค่ายเริ่มทำเล็กๆบางๆแต่ทาง G7 นั้น ยังคงความใหญ่หนาไว้อยู่ครับ ก็แปลกดีเหมือนกันทางด้านขอบหน้าจอก็ถือว่าหนามากๆจริงเหมือนย้อนกลับไปหลายปีซึ่งถ้ามองในตลาดมันจะขอบบางกันทั้งหมดแล้วครับ จุดนี้ไม่ค่อยชอบเท่าไรนักในการออกแบบแต่ใช้งานก็ไม่มีผลอะไรเท่าไรครับเป็นเรื่องของการออกแบบ และตัวกล้องมีมาข้างบนพร้อมยางแนวยางรอบๆขอบจอครับ
มาดูกันที่ด้านล่างกันหน่อยการใช้วัสดุพลาสติกดำด้าน และเป็นค่ายที่ยังทำออกมาดีและขอชื่นชมคือมันถอดออกมาเซอร์วิสได้ดีมากเปลี่ยนอะไรได้ง่ายและรักษาได้งาน ฝาหลังถอดได้ด้วย น็อตตัวเดียวเท่านั้น ! และยางรองกันลื่นมาให้แนวยาวจัดเต็มทั้ง ขอบบนและล่างครับ จะเห็นว่าวัสดุ ขอบข้างเป็นพลาสติกโทนขาว ตรงฝาฐานเป็นพลาสติกด้านสีดำ และ ขอบท้ายเครื่องเป็นอลูมิเนียมนะครับ แต่รอยต่องานประกอบโคตรดีอันนี้ชอบมาก ส่วนช่องระบายมาให้ทั้ง 2 ข้างที่เป็นที่อยู่ของพัดลมทั้ง 2 ตัวครับ มีขนาดค่อนข้างใหญ่และดูดลมได้ดีเลยแหละ แต่จะระบายดีไหมไปรอดูกัน
จากภาพแรกจะให้เห็นถึงการใช้วัสดุ โทนสีที่ตัดกันและหลากหลายครับ บอดี้โดยรวมเป็นพลาสติกสีขาวเงินๆ ฝาข้างในเป็นโทนสีน้ำเงินเข้มไปทางดำ และ ขอบจอเป็นสีดำล้วนครับ แต่มาดูฐานข้างหลังจอนั้นเป็นวัสดุอลูมิเนียมสีเงินด้าน แต่อยู่ด้วยกันอย่างลงตัวและงานรอยต่อทำได้ดีเลยแหละ เมื่อมองด้านข้างและด้านหน้าจะเห็นการออกแบบที่สวยงามครับ ตัดขอบสวยด้านหน้าเป็นตระแกรงดำออกแบบเดียวกับด้านหลังแต่ทำมุมคนละแบบกันครับ เอาจริงๆน่าจะเป็นรุ่นที่ออกแบบได้สวยอันดับต้นๆเลยแหละ แต่เสียดายที่มันแอบหนาไปหน่อยกับในยุค 2018 ปลายๆปีแบบนี้
ขาพับขอบรุ่นนี้เป็นขาพับแบบตรงกลางนะครับ มีความแข็งแรงแน่นหนาพอสมควร เวลาพับก็จับได้ทั้งตรงกลางหรือขอบซ้ายขวา ก็สามารถดึงลงมาปิดเปิดได้แบบสบายไม่รู้สึกว่าจะเอนอะไรแต่อย่างใดครับ ไม่มีปัญหาในส่วนของขาพับหน้าจอที่อยู่ตรงกลาง และรุ่นนี้เป็น Gaming ไม่กี่ตัวที่มีสแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วย ! และทำงานได้ดีไวที่ฝังมากับปุ่มเปิดปิดเครื่อง แน่นอนว่าเวลาเราเปิดจาก Sleep มันก็จะสแกนนิ้วไปในตัวเลยทำให้ไวและไม่ยุ่งยากเลยแหละ
SPEC
- Core i7-8750H 6C/12T 2.2/4.1 GHz
- RAM DDR4 16GB
- GTX 1060 Max-Q 6 GB
- M.2 SSD 128GB – 512GB
- หน้าจอ IPS Anti Glare ลดแสงสะท้อนขนาด 15 นิ้ว ความละเอียด Full HD 1920 x 1080
- WiFi 802.11 ac MIMO 2×2, BT 5.0
- พอร์ต
1 x HDMI 2.0
3 x USB3.1
1 x Thunderbolt 3
1 x SD card reader
1 x RJ45 LAN
1 x Headphone/Mic
- มีสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Power
- ขนาด 25 x 389 x 275 มิลลิเมตร
- สีดำ Licorice Black , สีขาว Alpine White
- หนัก 2.65
PERFORMANCE
มาพร้อมกับ Intel Core i7-8750H มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.20 GHz สูงสุดถึง 4.10 GHz และติดตั้ง การ์ดจอ มาให้คือ GTX 1060 MAX-Q และ การ์ดจอออนบอร์ดมาคือ Intel UHD Graphics 630 และการใช้งานนั้นต้องบอกว่าแรงอยู่แล้วครับสำหรับสเปคนี้ รวมถึงมาพร้อมกับ SSD 256GB อีกด้วยใช้งานได้แรงเลยแหละ
ตัวนี้มี Intel UHD Graphics 630 มาให้ด้วย รวมกับ NVIDIA GeForce GTX 1060-MAX-Q การใช้งาน GPU ตัวนี้มันทำให้ความลื่นไหลที่ประมวลผลออกมาทำได้ดี ครับทั้งในการทำงาน เล่นเกม และ ดับประสิทธิภาพออกมาได้เต็มที่มากๆครับ
PCMark 10 ในตัวคะแนนการทดสอบนั้นได้3,723 คะแนน ทำงานคงไม่ต้องกังวล ตอบโจทย์ทำงาน ทั่วไปแทบจะทุกรูปแบบครับ ทั้งการใช้งานของตระกูล Word ไปยังตัดต่อ 4K รองรับได้สบายด้วยความแรงทั้ง CPU -GPU ที่รองรับกันอย่างดี จากการทดสอบเสร็จแล้วนั้น ความร้อนตัวเครื่องวัดได้ที่ CPU – 85 GPU 60 องศาครับผมสภาพ ไม่มีแอร์ นะครับผม ความร้อนเอาจริงๆถือว่าค่อนข้างเอาเรื่องเหมือนกันครับ
3D MARK นั้น ทำคะแนนเรียกได้ว่าสูงเลยแหละ รวมถึงการทดสอบทั้ง 3 แบบนะครับคะแนนทำได้ดีเลยแหละ ตัว TIMESPY ที่เน้นไปเจาะกลุ่มคอมพิวเตอร์ระดับท็อป เกมมิ่ง ทำคะแนนได้ 3769 เลยทีเดียว และ ทดสอบอื่นๆที่รองลงมานั้น แตะ หมื่นต้นๆ และ Sky Driver 27304 เลยครับ ส่วนทางด้านการประมวลผลในด้าน 3D Mark สบายๆ ส่วนในเรื่องความร้อน แอดมินทดสอบต่อเนื่อง 3 แบบและวัดความร้อนนั้นประมาณ CPU 89 และ GPU 72
CINEBENCH R15 นั้น ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูง 866 และ FPS 100 เลยทีเดียวแน่นอนว่าจากการทดสอบมันน่าประทับใจอย่างมาก ประมวลผลหนักๆได้แบบสบาย ความร้อนนั้นประมาณ CPU 80 และ GPU 62 ไม่มีแอร์ ความร้อนแอบสูงพอสมควรเลยครับ รุ่นนี้ยังติดตั้ง SSD 256GB แบบ M.2 SATA 3 ที่บอกเลยว่าทำได้ไวกว่า HDD ความจุ 1TB ที่ให้มาชัดเจน โยนไฟล์ไวๆ ทำงานเล่นเกมสบาย การอ่านที่ 482 MB/s และเขียนที่ 466 MB/s ส่วน HDD 1TB นั้นอ่านที่ 102MB/s เขียนที่ 90MB/s ครับผม
SCREEN
สำหรับหน้าจอในเรื่องของการออกแบบอาจจะดูย้อนยุคไปหน่อยด้วยขอบจอที่ค่อนข้างหนาทั้ง 4ด้านเลยแหละเมื่อเทียบกับคู่แข่งหลายๆตัวครับ แต่ถ้าเราไม่มองเรื่องการออกแบบนั้นตัวจอรุ่นนี้จัดได้ว่าคุณภาพเอาเรื่องเลยทีเดียวครับตัวจอนั้นมาพร้อมกับจอ 15.6 นิ้ว แบบ IPS และหน้าจอแบบด้านนะครับทำให้การใช้งานข้างนอกสถานที่ เจอแสงอะไรนั้นจะค่อนข้างสบายตา และใช้งานได้ง่ายกว่ารวมถึงลดแสงสะท้อนได้ดีมาก เนื่องด้วยจอแบบนี้ทำให้การใช้งานด้านเล่นเกมก็ตอบโจทย์ได้ดี แต่ถ้าใครเน้นความสวยสดคมชัดอาจจะสู้พวกหน้าจอแบบเงาพวกนั้นไม่ได้นั้นเองครับ
ในเรื่องคุณภาพของตัวจอในรุ่นนี้ต้องบอกว่าเป็นอีกรุ่นที่ทำออกมาได้ดี ทั้งมุมมอง ความคมชัด ความดำสนิทของตัวจอภาพนั้นใช้งานได้สบายๆในการเล่นเกม ใช้งานเข้าเว็บทั่วไปครับสบายๆเลยแหละ แต่ถ้าใครเอามาทำงานหนักหน่อยที่เป็นสายงานที่ต้องการความแม่นยำนั้นอาจจะต้องคาริเบรตกันหน่อยครับ ตัวจอนั้นถ้าเอากันตรงๆคือถวามแม่นยำของสีนั้นไม่ได้ดีมากเท่าที่ควรครับสำหรับการแต่งภาพ ทำอะไรพวกนี้ แต่เรื่องความสว่างที่ใช้งานนั้นบอกเลยว่าทำได้ดีเลยแหละสู้แสงได้ดี หรี่ลงได้เยอะเวลาใช้งานกลางคืนต่างๆครับ ความสว่าง มุมมองตัวนี้ทำได้ค่อนข้างดี
[SR] รีวิว Dell G7 15 7588 Gaming Notebook ตัวเทพจาก Dell พร้อม GTX 1060 !
Dell เป็นแบรนด์ที่หลายๆคนน่าจะรู้จักกันอยู่แล้วและเป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องของประกันหลังการขายที่ดีอันดับต้นๆเลยก็ว่าได้ครับแน่นอนว่าเป็นจุดเด่นของเค้าเลยแหละส่วนสินค้านั้นก็ออกมาตอบโจทย์การใช้งานได้ค่อนข้างครบทุกกลุ่มลูกค้า ทั้งสายใช้งานทั่วไป ทำงานจริงจัง หรือจะเป็นสายเกมมิ่ง ก็มีให้เลือกใช้งานได้ค่อนข้างเยอะเลยครับ ในวันนี้เราจะมาลองใช้งานกับรุ่นที่เป็นสายเกมของทาง Dell แต่ยังไม่ถึงขั้นจริงจังแบบ Alienware อยู่ในเรทราคาที่จับต้องได้ง่ายและสเปคไม่เป็นรองใครเลยนั้นเองครับ คือเจ้า Dell G7 G15 7588 สายเกมรุ่นท็อปสุดในตอนนี้
Dell G7 7588 นั้นมีจุดเด่นที่น่าสนใจหลากหลายเลยแหละ ใช้ชิป Intel Core i7-8750H + NVIDIA GeForce GTX 1060 Max-Q DDR4 ขนาด 16 + SSD อีก 256GB มีหน้าจอ 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล IPS แบบด้าน และพอร์ตเชื่อมต่อมาให้ครบมากๆยังมี Thunderbolt 3 มาให้ด้วยนั้นเองครับ และยังเป็น Gaming Laptop ที่มาพร้อมกับ ที่สแกนลายนิ้วมือไม่กี่รุ่นเลยด้วยนะความปลอดภัยยังจัดมาให้ดีมากๆเลย
DELL G7 15 มีทั้งหมด 2 เรทราคาครับ แต่ทั้ง 2 รุ่นนั้นไม่มี Windows แถมมาให้นะครับต้องซื้อแยกเอง !
- i7-8750H + GTX 1050Ti + RAM 8GB + SSD 128GB + HDD 1TB ราคา 34,990 บาท
- i7-8750H + GTX 1060 Max-Q + RAM 16GB + SSD 128GB + HDD 1TB ราคา 49,990 บาท
UNBOX
- ตัวเครื่อง Dell G7 15 7588
- Adaptor ชาร์จไฟ
- คู่มือ
DESIGN
ทางด้านการออกแบบนั้นต้องบอกว่าในบรรดารุ่นทั้งหมดของ G Series หรือรุ่นก่อนหน้านี้ รุ่นนี้ออกแบบมาได้ลงตัวที่สุด และสวยที่สุดสำหรับแอดมินนะชอบมากเลย ดีไซน์มันโดดเด่นและแตกต่างดีจริงๆและเป็น Gaming ที่ใช้โทนขาวฟ้า เจ้าเดียวเลยแหละ ทำให้มันใช้งานทั่วไปได้สบาย ผู้หญิงใช้งานได้สบายครับไม่ดุดันเกินไป เรื่องของงานประกอบ วัสดุ อันนี้จับแล้วรู้สึดถึงความแน่นของตัวเครื่อง แบรนด์นี้ขึ้นชื่อเรื่องนี้อยู่แล้วครับไว้ใจได้สบาย และอีกอย่างที่รู้สึกนอกเหนือจากงานประกอบคือ ความเนี๊ยบของรอยต่อพวกนี้ทำได้ดีมากๆ และตัวเครื่องมีความหนา + หนักพอสมควรเลยแหละครับ เป็นไม่กี่รุ่นในท้ายปี 2018 ที่ค่อนข้างหนา หนัก และ ขอบจอยังหนามากเลยด้วย
การออกแบบโดยรวมนั้นมาพร้อมโทนสีเงินขาว โทนสว่างครับ ตัดด้วยสีฟ้าในพวกของโลโก้ ช่องระบายความร้อน ต่างๆและตัดด้วยโทนเข้มข้างในจอ แป้นพิมพ์ต่างๆครับ ดีไซน์มาพร้อมความดุดันดีไซน์คล้ายช่องลมหน้าหลังสวยงามสีดำเข้มตัดกับโทนสว่างของตัวเครื่องได้ดีเลยแหละ สวยกว่าสีดำล้วนเยอะครับ ชอบดีไซน์มันจริงๆนะ
วัสดุฝาหลังและรวมๆนั้นเป็นพลาสติก แต่มันทำออกมาคุณภาพการสัมผัสดีมากจริงๆครับให้ไปลงกันดูได้เลย เป็นพลาสติดสีขาวเงินสะท้อนแสงได้ค่อนข้างโดดเด่น โลโก้มาโทนฟ้าเงางามเลยแหละ ส่วนของฐานด้านหลังนั้นเป็นช่องลมระบายความร้อนทั้ง 2 ข้างที่ข้างในเป็นสีฟ้านะครับและเป็นขีดๆ พร้อมกับโลโก้รุ่น G7 เอาจริงๆชอบการออกแบบในส่วนแถบสีดำทั้งหน้าหลังนะมันสวยจริงๆ ตัดกับการออกแบบทั้งหมดได้ดี ตัวเครื่องดูบางและเท่ได้อีกด้วยครับ
เมื่อเปิดมาข้างในมาในโทนสีเข้มออกไปทางน้ำเงินเข้มๆและโทนสีดำครับตัดกับบอดี้โดยรวมเลยแหละ ด้านแป้นพิมพ์ทั้งหลาย ที่วางมือมีเนื้อที่ค่อนข้างเยอะครับ และตัวเครื่องมันใหญ่มากในยุคนี้หลายๆค่ายเริ่มทำเล็กๆบางๆแต่ทาง G7 นั้น ยังคงความใหญ่หนาไว้อยู่ครับ ก็แปลกดีเหมือนกันทางด้านขอบหน้าจอก็ถือว่าหนามากๆจริงเหมือนย้อนกลับไปหลายปีซึ่งถ้ามองในตลาดมันจะขอบบางกันทั้งหมดแล้วครับ จุดนี้ไม่ค่อยชอบเท่าไรนักในการออกแบบแต่ใช้งานก็ไม่มีผลอะไรเท่าไรครับเป็นเรื่องของการออกแบบ และตัวกล้องมีมาข้างบนพร้อมยางแนวยางรอบๆขอบจอครับ
มาดูกันที่ด้านล่างกันหน่อยการใช้วัสดุพลาสติกดำด้าน และเป็นค่ายที่ยังทำออกมาดีและขอชื่นชมคือมันถอดออกมาเซอร์วิสได้ดีมากเปลี่ยนอะไรได้ง่ายและรักษาได้งาน ฝาหลังถอดได้ด้วย น็อตตัวเดียวเท่านั้น ! และยางรองกันลื่นมาให้แนวยาวจัดเต็มทั้ง ขอบบนและล่างครับ จะเห็นว่าวัสดุ ขอบข้างเป็นพลาสติกโทนขาว ตรงฝาฐานเป็นพลาสติกด้านสีดำ และ ขอบท้ายเครื่องเป็นอลูมิเนียมนะครับ แต่รอยต่องานประกอบโคตรดีอันนี้ชอบมาก ส่วนช่องระบายมาให้ทั้ง 2 ข้างที่เป็นที่อยู่ของพัดลมทั้ง 2 ตัวครับ มีขนาดค่อนข้างใหญ่และดูดลมได้ดีเลยแหละ แต่จะระบายดีไหมไปรอดูกัน
จากภาพแรกจะให้เห็นถึงการใช้วัสดุ โทนสีที่ตัดกันและหลากหลายครับ บอดี้โดยรวมเป็นพลาสติกสีขาวเงินๆ ฝาข้างในเป็นโทนสีน้ำเงินเข้มไปทางดำ และ ขอบจอเป็นสีดำล้วนครับ แต่มาดูฐานข้างหลังจอนั้นเป็นวัสดุอลูมิเนียมสีเงินด้าน แต่อยู่ด้วยกันอย่างลงตัวและงานรอยต่อทำได้ดีเลยแหละ เมื่อมองด้านข้างและด้านหน้าจะเห็นการออกแบบที่สวยงามครับ ตัดขอบสวยด้านหน้าเป็นตระแกรงดำออกแบบเดียวกับด้านหลังแต่ทำมุมคนละแบบกันครับ เอาจริงๆน่าจะเป็นรุ่นที่ออกแบบได้สวยอันดับต้นๆเลยแหละ แต่เสียดายที่มันแอบหนาไปหน่อยกับในยุค 2018 ปลายๆปีแบบนี้
ขาพับขอบรุ่นนี้เป็นขาพับแบบตรงกลางนะครับ มีความแข็งแรงแน่นหนาพอสมควร เวลาพับก็จับได้ทั้งตรงกลางหรือขอบซ้ายขวา ก็สามารถดึงลงมาปิดเปิดได้แบบสบายไม่รู้สึกว่าจะเอนอะไรแต่อย่างใดครับ ไม่มีปัญหาในส่วนของขาพับหน้าจอที่อยู่ตรงกลาง และรุ่นนี้เป็น Gaming ไม่กี่ตัวที่มีสแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วย ! และทำงานได้ดีไวที่ฝังมากับปุ่มเปิดปิดเครื่อง แน่นอนว่าเวลาเราเปิดจาก Sleep มันก็จะสแกนนิ้วไปในตัวเลยทำให้ไวและไม่ยุ่งยากเลยแหละ
SPEC
- Core i7-8750H 6C/12T 2.2/4.1 GHz
- RAM DDR4 16GB
- GTX 1060 Max-Q 6 GB
- M.2 SSD 128GB – 512GB
- หน้าจอ IPS Anti Glare ลดแสงสะท้อนขนาด 15 นิ้ว ความละเอียด Full HD 1920 x 1080
- WiFi 802.11 ac MIMO 2×2, BT 5.0
- พอร์ต
1 x HDMI 2.0
3 x USB3.1
1 x Thunderbolt 3
1 x SD card reader
1 x RJ45 LAN
1 x Headphone/Mic
- มีสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Power
- ขนาด 25 x 389 x 275 มิลลิเมตร
- สีดำ Licorice Black , สีขาว Alpine White
- หนัก 2.65
PERFORMANCE
มาพร้อมกับ Intel Core i7-8750H มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.20 GHz สูงสุดถึง 4.10 GHz และติดตั้ง การ์ดจอ มาให้คือ GTX 1060 MAX-Q และ การ์ดจอออนบอร์ดมาคือ Intel UHD Graphics 630 และการใช้งานนั้นต้องบอกว่าแรงอยู่แล้วครับสำหรับสเปคนี้ รวมถึงมาพร้อมกับ SSD 256GB อีกด้วยใช้งานได้แรงเลยแหละ
ตัวนี้มี Intel UHD Graphics 630 มาให้ด้วย รวมกับ NVIDIA GeForce GTX 1060-MAX-Q การใช้งาน GPU ตัวนี้มันทำให้ความลื่นไหลที่ประมวลผลออกมาทำได้ดี ครับทั้งในการทำงาน เล่นเกม และ ดับประสิทธิภาพออกมาได้เต็มที่มากๆครับ
PCMark 10 ในตัวคะแนนการทดสอบนั้นได้3,723 คะแนน ทำงานคงไม่ต้องกังวล ตอบโจทย์ทำงาน ทั่วไปแทบจะทุกรูปแบบครับ ทั้งการใช้งานของตระกูล Word ไปยังตัดต่อ 4K รองรับได้สบายด้วยความแรงทั้ง CPU -GPU ที่รองรับกันอย่างดี จากการทดสอบเสร็จแล้วนั้น ความร้อนตัวเครื่องวัดได้ที่ CPU – 85 GPU 60 องศาครับผมสภาพ ไม่มีแอร์ นะครับผม ความร้อนเอาจริงๆถือว่าค่อนข้างเอาเรื่องเหมือนกันครับ
3D MARK นั้น ทำคะแนนเรียกได้ว่าสูงเลยแหละ รวมถึงการทดสอบทั้ง 3 แบบนะครับคะแนนทำได้ดีเลยแหละ ตัว TIMESPY ที่เน้นไปเจาะกลุ่มคอมพิวเตอร์ระดับท็อป เกมมิ่ง ทำคะแนนได้ 3769 เลยทีเดียว และ ทดสอบอื่นๆที่รองลงมานั้น แตะ หมื่นต้นๆ และ Sky Driver 27304 เลยครับ ส่วนทางด้านการประมวลผลในด้าน 3D Mark สบายๆ ส่วนในเรื่องความร้อน แอดมินทดสอบต่อเนื่อง 3 แบบและวัดความร้อนนั้นประมาณ CPU 89 และ GPU 72
CINEBENCH R15 นั้น ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูง 866 และ FPS 100 เลยทีเดียวแน่นอนว่าจากการทดสอบมันน่าประทับใจอย่างมาก ประมวลผลหนักๆได้แบบสบาย ความร้อนนั้นประมาณ CPU 80 และ GPU 62 ไม่มีแอร์ ความร้อนแอบสูงพอสมควรเลยครับ รุ่นนี้ยังติดตั้ง SSD 256GB แบบ M.2 SATA 3 ที่บอกเลยว่าทำได้ไวกว่า HDD ความจุ 1TB ที่ให้มาชัดเจน โยนไฟล์ไวๆ ทำงานเล่นเกมสบาย การอ่านที่ 482 MB/s และเขียนที่ 466 MB/s ส่วน HDD 1TB นั้นอ่านที่ 102MB/s เขียนที่ 90MB/s ครับผม
SCREEN
สำหรับหน้าจอในเรื่องของการออกแบบอาจจะดูย้อนยุคไปหน่อยด้วยขอบจอที่ค่อนข้างหนาทั้ง 4ด้านเลยแหละเมื่อเทียบกับคู่แข่งหลายๆตัวครับ แต่ถ้าเราไม่มองเรื่องการออกแบบนั้นตัวจอรุ่นนี้จัดได้ว่าคุณภาพเอาเรื่องเลยทีเดียวครับตัวจอนั้นมาพร้อมกับจอ 15.6 นิ้ว แบบ IPS และหน้าจอแบบด้านนะครับทำให้การใช้งานข้างนอกสถานที่ เจอแสงอะไรนั้นจะค่อนข้างสบายตา และใช้งานได้ง่ายกว่ารวมถึงลดแสงสะท้อนได้ดีมาก เนื่องด้วยจอแบบนี้ทำให้การใช้งานด้านเล่นเกมก็ตอบโจทย์ได้ดี แต่ถ้าใครเน้นความสวยสดคมชัดอาจจะสู้พวกหน้าจอแบบเงาพวกนั้นไม่ได้นั้นเองครับ
ในเรื่องคุณภาพของตัวจอในรุ่นนี้ต้องบอกว่าเป็นอีกรุ่นที่ทำออกมาได้ดี ทั้งมุมมอง ความคมชัด ความดำสนิทของตัวจอภาพนั้นใช้งานได้สบายๆในการเล่นเกม ใช้งานเข้าเว็บทั่วไปครับสบายๆเลยแหละ แต่ถ้าใครเอามาทำงานหนักหน่อยที่เป็นสายงานที่ต้องการความแม่นยำนั้นอาจจะต้องคาริเบรตกันหน่อยครับ ตัวจอนั้นถ้าเอากันตรงๆคือถวามแม่นยำของสีนั้นไม่ได้ดีมากเท่าที่ควรครับสำหรับการแต่งภาพ ทำอะไรพวกนี้ แต่เรื่องความสว่างที่ใช้งานนั้นบอกเลยว่าทำได้ดีเลยแหละสู้แสงได้ดี หรี่ลงได้เยอะเวลาใช้งานกลางคืนต่างๆครับ ความสว่าง มุมมองตัวนี้ทำได้ค่อนข้างดี
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้