***
ขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่ช่วยกด+จนกระทู้ได้ผ่านสายตาชาวพันทิพมากขึ้น
เข้ามาวันนี้ตกใจทำไมคนเม้นเยอะจัง ^_^ ***
การเข้ามาของเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
ทำให้สินค้าที่เป็นสินค้าเทคโนโลยีโดยตรง เช่น คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน สมาร์ททีวี
เกิดปรากฏการณ์ตายไว และเกิดอย่างมหาศาล
บางรุ่นมีเวลาออกมาดูโลกแค่ 2 เดือน ก็จากโลกนี้ไปโดยไร้ความจดจำ
บางรุ่นหวังจะมาแทนที่รุ่นพี่(รุ่นที่ออกมาก่อน) โดยปกติควรจะพัฒนาความสามารถขึ้นมา
แต่ ณ ปีนี้ กลับไม่ใช่ แค่เป็นการเปลี่ยนชุด เปลี่ยนโฉม แค่นั้น
ทำให้ดำรงอยู่บนโลกนี้ได้ไม่นานเช่นกัน
ยกตัวอย่างรุ่นที่สร้างปรากฏการณ์สักหน่อย
ซัมซุง J7 (J700) เปิดตัวเดือนกรกฎาคม ปี 2558 ที่ราคา 8,900 บาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.siamphone.com/spec/en/samsung/galaxy_j7.htm
ถือเป็นการพลิกโฉมทางฝั่งซัมซุงครั้งสำคัญ
สมาร์ทโฟนขนาดจอ 5.5 นิ้ว แรม 1.5 กิ๊ก รอม 16 กิ๊ก
สเปคแบบนี้ถ้าย้อนไปเมื่อ ปี 2555 นั่นคือปีที่ ซัมซุง Note 2 (N7100)
ออกมา ที่สเปคนี้ ในราคา 22,500 บาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ https://www.siamphone.com/spec/en/samsung/galaxy_note_ii.htm
จากตัวอย่าง2รุ่นที่ยกมา ก็พอจะเห็นว่า จาก 2555 ถึง 2558 ราคาปรับลดลงมาเท่าตัว
แน่นอนว่า เวลานี้ ธันวาคม 2561 ผ่านมาครบ 3 ปี ก็มีรุ่นมาแทนที่ เช่นกัน
ซัมซุง J4+ ด้วยสโลแกน จอใหญ่ ราคาน่ารัก ก็ตามสโลแกนจริงๆ
เปิดตัวมาในราคา 4,690 บาท จอ6นิ้ว เมื่อ กันยายน 2561
ประมาณได้ว่า ราคาลดลงมาครึ่งหนึ่งของ J7
(วิวัฒนาการของJ7 J7->J7 2016 -> J7 Prime -> J7 Pro -> J7 plus)
จริงๆก่อนหน้านั้น มีรุ่น J7 Core มายืนแทน J7 ในราคา 7,290 บาท เมื่อ กรกฎาคม 2560
ต่อด้วย J4 ในราคา 5,490 เมื่อ พฤษภาคม 2561
มองเห็นอะไรมั้ย สิ่งที่ตกจริงๆ ไม่ใช่ความสามารถของโทรศัพท์
แต่เป็นราคาต่างหาก ที่มีการปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
ด้วยต้นทุนทางเทคโนโลยีถูกลง(ส่วนประกอบของตัวโทรศัพท์ อุปกรณ์บนแผงวงจร หน้าจอ)
J7 ณ วันนู้น กับ J4+ ณ วันนี้ ความแตกต่างด้านประสิทธิภาพอาจจะต่างกันเล็กน้อย
ของใหม่ย่อมดีกว่า แต่ก็ไม่ถึงกับต่างมาก
จุดที่ดีที่สุดคือราคาปรับตัวมาจนซื้อได้ง่าย
คำว่าตกรุ่นในความรู้สึกของคนทั่วไป ที่ชอบพูดหยอกล้อกัน
หรือพูดด้วยความเคยชินว่าโทรศัพท์ตกรุ่น
หรือเห็นโทรศัพท์ออกใหม่มาเดือนเว้นเดือน ว่าตามไม่ทันบ้าง
ล้วนเป็นแค่ความรู้สึกที่ออกจะฝังหัว หรือสะกดจิตตัวเอง
เพื่อสนองความต้องการ หรือ ความอยากได้ มือถือรุ่นใหม่มากกว่า
ถ้าเราไม่ได้จำเป็นต้องใช้สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด เพื่อการทำงาน
ก็ไม่ควรไปทำให้ความสุขของตัวเองลดลง เพียงเห็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ออกมา
กระทู้นี้อยากบอกให้ทุกคนที่ไม่พร้อมจะไปหยิบรุ่นใหม่ๆในราคสูงลิบ
ไม่ต้องไปสนใจหรอก ของในมือที่มี ไม่ได้แย่อะไรนะ
ขอให้ทุกคนมีความสุขกับสมาร์ทโฟนที่ใช้อยู่
ส่วนเสริม-ทู้นี้ไม่ได้พูดถึงกลุ่มที่มีกำลังทรัพย์ เพราะการซื้อเครื่องใหม่ รุ่นใหม่ ไม่ใช่ปัญหาของกลุ่มนี้
กลุ่มที่มีปัญหาคือ คนที่มีเครื่องในมืออยู่แล้ว อาจจะเป็นรุ่นปีที่แล้ง หรือ 2ปีที่แล้ว
ที่ยังใช้งานได้ดี ทุกอย่างปกติ แต่อาจจะไปคุยกับคนซื้อรุ่นใหม่บ้าง
คุยกับเพื่อนบ้าง แล้วไปเจอคำว่าตกรุ่น พออยู่กับตัวเองคนเดียว
ก็ยังคิดไม่ตกว่า มือถือตัวเองตกรุ่นจริงๆเหรอ อาจจะพาลคิดไปว่า ต้องถอยใหม่แล้ว
ต้องเอารุ่นล่าสุดแล้ว ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องเงิน ก็ไม่เป็นไร
แต่บางคนเงินเก็บไม่มี บางคนมีบัตรรูดได้ ถ้าไปซื้อก็กลายเป็นการก่อหนี้
มันไม่ได้เดือดร้อนคนที่เขียนกระทู้หรอก แต่มันอาจจะเดือดร้อน คนที่คุณต้องดูแลก็ได้
ถึงไม่เดือดร้อน ก็ทำให้ ต้องคอยไปจ่ายหนี้ทุกเดือนๆ เงินเก็บก็ไม่มี
สุดท้ายได้มือถือที่อาจจะดีกว่าเดิมหน่อยเดียว หรือถ่ายรูปดีกว่าแค่นั้น
เพราะการจะได้มือถือที่ดี เมื่อเทียบกับรุ่นเดิมแบบชัดเจน
ในระยะเวลาผ่านไป ปี 2ปี ก็ต้องซื้อที่ราคาเดิม
ตรงนี้อาจจะไม่เคยคิดกันว่า ซื้อมาดีกว่าเดิมทำไม ในเมื่อใช้เหมือนเดิม
เฟส ไลน์ ยูทูป ถ่ายรูปนิดหน่อย
สรุปแบบเน้นตรงนี้อีกทีว่า
ถ้ามีกำลังทรัพย์ และมีการใช้งานมากขึ้น เช่น ขายของออนไลน์ ถ่ายรูปทำงาน
ต้องการใช้มือถือที่ดีขึ้น ซื้อเลยไม่ต้องถามใคร
ถ้ามีกำลังทรัพย์ แต่ใช้งานเท่าเดิม ทั่วไป ไม่เน้นถ่ายรูป ก็ซื้อได้เลยไม่ต้องถามใคร
ถ้าไม่มีกำลังทรัพย์ ต้องใช้งานมากขึ้น คุ้มมั้ยกับเงินที่จะได้เพิ่มมา
เช่น ซื้อมือถือแล้วทำงานได้กำไรมากขึ้น เดือนละ 3,000 ซื้อเครื่อง 20,000บาท
ใช้เวลา 7 เดือนถึงได้ค่าตัวกลับมา มองแล้วโอเคก็จัดไป
กลับกัน ได้เงินเพิ่มเดือนละ 1000-2000 ซื้อ 20,000 บาท ก็นานขึ้นไปอีก คุ้มมั้ย พิจารณาดู
แต่พอได้ค่าตัวกลับมา สิ่งที่เกิดขึ้นกับมือถือเครื่องนั้นคือ ตกรุ่น เหมือนเดิม
เอาไงละ ซื้อใหม่อีกมั้ย กรณีได้เงินหลักหมื่นหลักแสน ไม่ต้องคิดมาก ซื้อได้เลย คงพอเห็นภาพนะ
กลุ่มที่อยากบอกถึงมากที่สุด กลุ่มที่ไม่มีกำลังทรัพย์ และใช้งานทั่วไป ใช้แค่โซเชียล ถ่ายรูปบ้าง
ใช้ของเดิมก็ได้ ไม่เป็นไรหรอก จะไปทุกข์กับคำว่าตกรุ่นทำไม
ที่มาเขียนกระทู้นี้ เพราะคนรอบตัวมาพูดแนวนี้ แล้วก็เครียด ทุกข์ กับสิ่งที่มันไม่ได้เป็นจริง
คงไม่ต้องบอกนะ ว่าเขามีกำลังทรัพย์มั้ย
มือถือตกรุ่น ความจริงที่หลอกลวง
ขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่ช่วยกด+จนกระทู้ได้ผ่านสายตาชาวพันทิพมากขึ้น
เข้ามาวันนี้ตกใจทำไมคนเม้นเยอะจัง ^_^ ***
การเข้ามาของเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
ทำให้สินค้าที่เป็นสินค้าเทคโนโลยีโดยตรง เช่น คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน สมาร์ททีวี
เกิดปรากฏการณ์ตายไว และเกิดอย่างมหาศาล
บางรุ่นมีเวลาออกมาดูโลกแค่ 2 เดือน ก็จากโลกนี้ไปโดยไร้ความจดจำ
บางรุ่นหวังจะมาแทนที่รุ่นพี่(รุ่นที่ออกมาก่อน) โดยปกติควรจะพัฒนาความสามารถขึ้นมา
แต่ ณ ปีนี้ กลับไม่ใช่ แค่เป็นการเปลี่ยนชุด เปลี่ยนโฉม แค่นั้น
ทำให้ดำรงอยู่บนโลกนี้ได้ไม่นานเช่นกัน
ยกตัวอย่างรุ่นที่สร้างปรากฏการณ์สักหน่อย
ซัมซุง J7 (J700) เปิดตัวเดือนกรกฎาคม ปี 2558 ที่ราคา 8,900 บาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถือเป็นการพลิกโฉมทางฝั่งซัมซุงครั้งสำคัญ
สมาร์ทโฟนขนาดจอ 5.5 นิ้ว แรม 1.5 กิ๊ก รอม 16 กิ๊ก
สเปคแบบนี้ถ้าย้อนไปเมื่อ ปี 2555 นั่นคือปีที่ ซัมซุง Note 2 (N7100)
ออกมา ที่สเปคนี้ ในราคา 22,500 บาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จากตัวอย่าง2รุ่นที่ยกมา ก็พอจะเห็นว่า จาก 2555 ถึง 2558 ราคาปรับลดลงมาเท่าตัว
แน่นอนว่า เวลานี้ ธันวาคม 2561 ผ่านมาครบ 3 ปี ก็มีรุ่นมาแทนที่ เช่นกัน
ซัมซุง J4+ ด้วยสโลแกน จอใหญ่ ราคาน่ารัก ก็ตามสโลแกนจริงๆ
เปิดตัวมาในราคา 4,690 บาท จอ6นิ้ว เมื่อ กันยายน 2561
ประมาณได้ว่า ราคาลดลงมาครึ่งหนึ่งของ J7
(วิวัฒนาการของJ7 J7->J7 2016 -> J7 Prime -> J7 Pro -> J7 plus)
จริงๆก่อนหน้านั้น มีรุ่น J7 Core มายืนแทน J7 ในราคา 7,290 บาท เมื่อ กรกฎาคม 2560
ต่อด้วย J4 ในราคา 5,490 เมื่อ พฤษภาคม 2561
มองเห็นอะไรมั้ย สิ่งที่ตกจริงๆ ไม่ใช่ความสามารถของโทรศัพท์
แต่เป็นราคาต่างหาก ที่มีการปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
ด้วยต้นทุนทางเทคโนโลยีถูกลง(ส่วนประกอบของตัวโทรศัพท์ อุปกรณ์บนแผงวงจร หน้าจอ)
J7 ณ วันนู้น กับ J4+ ณ วันนี้ ความแตกต่างด้านประสิทธิภาพอาจจะต่างกันเล็กน้อย
ของใหม่ย่อมดีกว่า แต่ก็ไม่ถึงกับต่างมาก
จุดที่ดีที่สุดคือราคาปรับตัวมาจนซื้อได้ง่าย
คำว่าตกรุ่นในความรู้สึกของคนทั่วไป ที่ชอบพูดหยอกล้อกัน
หรือพูดด้วยความเคยชินว่าโทรศัพท์ตกรุ่น
หรือเห็นโทรศัพท์ออกใหม่มาเดือนเว้นเดือน ว่าตามไม่ทันบ้าง
ล้วนเป็นแค่ความรู้สึกที่ออกจะฝังหัว หรือสะกดจิตตัวเอง
เพื่อสนองความต้องการ หรือ ความอยากได้ มือถือรุ่นใหม่มากกว่า
ถ้าเราไม่ได้จำเป็นต้องใช้สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด เพื่อการทำงาน
ก็ไม่ควรไปทำให้ความสุขของตัวเองลดลง เพียงเห็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ออกมา
กระทู้นี้อยากบอกให้ทุกคนที่ไม่พร้อมจะไปหยิบรุ่นใหม่ๆในราคสูงลิบ
ไม่ต้องไปสนใจหรอก ของในมือที่มี ไม่ได้แย่อะไรนะ
ขอให้ทุกคนมีความสุขกับสมาร์ทโฟนที่ใช้อยู่
ส่วนเสริม-ทู้นี้ไม่ได้พูดถึงกลุ่มที่มีกำลังทรัพย์ เพราะการซื้อเครื่องใหม่ รุ่นใหม่ ไม่ใช่ปัญหาของกลุ่มนี้
กลุ่มที่มีปัญหาคือ คนที่มีเครื่องในมืออยู่แล้ว อาจจะเป็นรุ่นปีที่แล้ง หรือ 2ปีที่แล้ว
ที่ยังใช้งานได้ดี ทุกอย่างปกติ แต่อาจจะไปคุยกับคนซื้อรุ่นใหม่บ้าง
คุยกับเพื่อนบ้าง แล้วไปเจอคำว่าตกรุ่น พออยู่กับตัวเองคนเดียว
ก็ยังคิดไม่ตกว่า มือถือตัวเองตกรุ่นจริงๆเหรอ อาจจะพาลคิดไปว่า ต้องถอยใหม่แล้ว
ต้องเอารุ่นล่าสุดแล้ว ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องเงิน ก็ไม่เป็นไร
แต่บางคนเงินเก็บไม่มี บางคนมีบัตรรูดได้ ถ้าไปซื้อก็กลายเป็นการก่อหนี้
มันไม่ได้เดือดร้อนคนที่เขียนกระทู้หรอก แต่มันอาจจะเดือดร้อน คนที่คุณต้องดูแลก็ได้
ถึงไม่เดือดร้อน ก็ทำให้ ต้องคอยไปจ่ายหนี้ทุกเดือนๆ เงินเก็บก็ไม่มี
สุดท้ายได้มือถือที่อาจจะดีกว่าเดิมหน่อยเดียว หรือถ่ายรูปดีกว่าแค่นั้น
เพราะการจะได้มือถือที่ดี เมื่อเทียบกับรุ่นเดิมแบบชัดเจน
ในระยะเวลาผ่านไป ปี 2ปี ก็ต้องซื้อที่ราคาเดิม
ตรงนี้อาจจะไม่เคยคิดกันว่า ซื้อมาดีกว่าเดิมทำไม ในเมื่อใช้เหมือนเดิม
เฟส ไลน์ ยูทูป ถ่ายรูปนิดหน่อย
สรุปแบบเน้นตรงนี้อีกทีว่า
ถ้ามีกำลังทรัพย์ และมีการใช้งานมากขึ้น เช่น ขายของออนไลน์ ถ่ายรูปทำงาน
ต้องการใช้มือถือที่ดีขึ้น ซื้อเลยไม่ต้องถามใคร
ถ้ามีกำลังทรัพย์ แต่ใช้งานเท่าเดิม ทั่วไป ไม่เน้นถ่ายรูป ก็ซื้อได้เลยไม่ต้องถามใคร
ถ้าไม่มีกำลังทรัพย์ ต้องใช้งานมากขึ้น คุ้มมั้ยกับเงินที่จะได้เพิ่มมา
เช่น ซื้อมือถือแล้วทำงานได้กำไรมากขึ้น เดือนละ 3,000 ซื้อเครื่อง 20,000บาท
ใช้เวลา 7 เดือนถึงได้ค่าตัวกลับมา มองแล้วโอเคก็จัดไป
กลับกัน ได้เงินเพิ่มเดือนละ 1000-2000 ซื้อ 20,000 บาท ก็นานขึ้นไปอีก คุ้มมั้ย พิจารณาดู
แต่พอได้ค่าตัวกลับมา สิ่งที่เกิดขึ้นกับมือถือเครื่องนั้นคือ ตกรุ่น เหมือนเดิม
เอาไงละ ซื้อใหม่อีกมั้ย กรณีได้เงินหลักหมื่นหลักแสน ไม่ต้องคิดมาก ซื้อได้เลย คงพอเห็นภาพนะ
กลุ่มที่อยากบอกถึงมากที่สุด กลุ่มที่ไม่มีกำลังทรัพย์ และใช้งานทั่วไป ใช้แค่โซเชียล ถ่ายรูปบ้าง
ใช้ของเดิมก็ได้ ไม่เป็นไรหรอก จะไปทุกข์กับคำว่าตกรุ่นทำไม
ที่มาเขียนกระทู้นี้ เพราะคนรอบตัวมาพูดแนวนี้ แล้วก็เครียด ทุกข์ กับสิ่งที่มันไม่ได้เป็นจริง
คงไม่ต้องบอกนะ ว่าเขามีกำลังทรัพย์มั้ย