สวัสดีค่ะ นี่ก็เป็นรีวิวที่สองของเราค่ะ ครั้งนี้ก็ไปญี่ปุ่นอีกแล้ว เป็นประเทศที่ไปแล้วไม่เบื่อจริงๆ ครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นครั้งที่ 4 ค่ะ

ถ้าใครสนใจไปดูรีวิว Season 1 ของเรา ตามลิงค์นี้ได้เลยค่ะ https://ppantip.com/topic/36644251

เข้าเรื่องเลยนะคะ เราไปญี่ปุ่นคราวนี้ ด้วยเหตุผลเดิม คือ ได้ตั๋วถูกอีกแล้ว ได้ตั๋วถูกจริงแต่ค่าที่พักไม่ถูกตามเลย ครั้งนี้ไปเที่ยวญี่ปุ่น 1 สัปดาห์ วันที่ 10 – 17 /05/18 เราเดินทางด้วยการบินไทยค่ะ BNE-BKK-NRT-NRT-BKK-BNE

การเดินทาง เราใช้ JR East Pass Nagano-Niigata 5 DAYS, One way Skyliner  + 24 hrs pass, รถไฟ+รถบัสไป Kamikochi
โรงแรมที่พัก Mitsunoi Roykan (Gunma) 1 คืน, Takasaki Washington Plaza Hotel 2 คืน, Super Hotel Ueno-Irayaguchi 4 คืน
Internet: Ninja Net sim 7GB 30 days
บริการพิเศษ : บริการส่งกระเป๋า แมวดำค่ะ

Plan:
Day 1 BNE-BKK-NRT-Tokyo Station-Echigo Yuzawa Station-Minakami Onsen (NEX+JR East Pass)
Day 2 Minakami Onsen-Takaragawa Onsen-Takasaki
Day 3 Takasaki-Matsumoto-Kamikochi-Takasaki (JR East Pass)
Day 4 Takasaki-Karuizawa-Ueno (JR East Pass)
Day 5 Ueno-Odaiba-Yokahama-Asakusa-Ueno (JR East Pass)
Day 6 Ueno-Nikko-Ueno (JR East Pass)
Day 7 Ueno-Harajuku-Shinjuku-Ginza-Akihabara-Ueno (24 hr Pass + IC card)
Day 8 Ueno-Asakusa-Tokyo Endo Museum-Ueno-NRT-BKK (24 hr Pass + Skyliner 0ne trip)

วันที่ 1 ของการเดินทาง :
เราเดินทางจากบริสเบนออสเตรเลียประมาณบ่าย2 แล้วไปเปลี่ยนเครื่องที่สุวรรณภูมิ แล้วถึงนาริตะตอน 7โมงเช้า หลังจากเดินออกจากเครื่องบิน เราก็เดินตามทางมาเรื่อยๆ ก็จะเจอ Immigration เราก็ผ่านมาด้วยดี โดยไม่โดนถามอะไรเลย จากนั้น ก็ไปเอากระเป๋าที่สายพาน เราโชคดีที่ได้กระเป๋าไวค่ะ

คือด้วยความที่เราต้องเดินทางไปออนเซนแถวกุนมะและพัก1 คืน การเดินทางต้องเปลี่ยนรถไฟบ่อย เราเลยแพ็คกระเป๋าใหม่ โดยนำของจำเป็นใส่กระเป๋าสะพายหลัง ส่วนกระเป๋าใหญ่ เราก็ส่งไปที่โรงแรมที่จะพักคืนที่ 2 เลยคะ เราใช้บริการแมวดำค่ะ (แนะนำว่าให้ติดต่อกับทางโรงแรมก่อนค่ะว่าเค้ารับฝากมั้ย เพราะว่าบางที่เค้าไม่รับฝากนะคะ) หลังจากทำเรื่องส่งกระเป๋าแล้ว ที่นี้ก็ตัวปลิวแล้วค่ะ ต่อไปคือการแลกพาส เนื่องจากเช้ามาก JR OFFICE ยังไม่เปิด แต่ที่ JR counter มีจนทอยู่ แต่ไม่มีคิวเลย เราก็เข้าไปถามว่าแลกJR Passได้มั้ย จนทก็บอกได้ เค้าก็จัดแจงทำเอกสาร แล้วเราก็บอกว่าเราจะจองที่นั่ง NEX ไป โตเกียว แล้วขอจอง Shinkansen ไปมินากามิ จังหวัดกุนมะด้วย จนทจองตั๋วให้เรียบร้อย (พอเราจองเสร็จมาดูแถวอีกที แถวยาวเลย) ทีนี้เราก็ไปขึ้นรถไฟกันค่ะ ขอตัดภาพมาที่ชานชลาที่สถานีโตเกียวเลยนะคะ

การเดินทางไปมินากามิ ที่จังหวัดกุนมะ ต้องนั่งชินคันเซน ไปที่ Takasaki หรือ Echigo Yuzawa ก็ได้ค่ะ แล้วไปเปลี่ยนเป็นรถไฟท้องถิ่นค่ะ ด้วยความอยากนั่งชินคันเซนสองชั้น เราก็เลือกไปลงที่ Echigo Yuzawa ค่ะ จะบอกว่าเป็นการที่เลือกผิดมาก เพราะว่าอากาศหนาวมาก แถมฝนตกอีก อุณหภูมิ 12 องศาจ้า  แล้วอยู่บนภูเขา ฝนตกทีมองไม่เห็นท้องฟ้ากันเลยทีเดียว เพราะเมฆต่ำมาก 555 โชคดีที่มี Tourist Centre ให้เข้าไปนั่งอุ่นๆ ระหว่างรอรถไฟ

หลังจากดินทางด้วยรถไฟท้องถิ่น ก็ถึงสถานีมินากามิค่ะ สถานีนี้เป็นสถานีเล็กๆ มีร้านขายของกับร้านอาหารไม่กี่ร้านเองค่ะ  พอเราไปถึง รถทางเรียวกังยังไม่มารับ เราก็ไปหาข้างกลางวันกิน อากาศหนาวแบบนี้ เราก็จัดโชยุราเมนไปเลยค่ะ รสชาติถือว่าอร่อยใช่ได้เลยค่ะ

ทานเสร็จ ก็เดินเล่นซักหน่อย สถานีนี้สามารถต่อรถไป Takaragawa Onsen ได้ค่ะ ซึ่งเราแพลนที่จะไปในวันถัดไปค่ะ พอถึงเวลารถของเรียวกังก็มารับค่ะ นั่งรถแป๊บเดียวค่ะ คืนนี้ เราพักที่ mitsunoi เป็นเรียวกังขนาดใหญ่ มีหลายอาคาร และมีออนหลายบ่อค่ะ ห้องที่จองเป็นห้องสไตล์ญี่ปุ่นมีห้องน้ำ และห้องอาบน้ำในตัวค่ะ ที่ห้องพักมีแอร์ค่ะ แต่ไม่มีฮีตเตอร์ ถ้าหนาว แจ้งขอฮีตเตอร์ได้ค่ะ พนักงานที่นี่บาองคนพูดภาษาอังกฤษได้ค่ะ ตอนเราจองเป็นการจองแบบพักคนเดียว รวม อาหารเย็น และเช้า buffet , private onsen 45 นาที มีบริการรถรับส่งไปสถานีรถไฟค่ะ แต่ต้องแจ้งทางเรียวกังก่อนนะคะ
ห้องพักค่ะ

บรรยากาศภายใน กับ ภายนอกเรียวกังค่ะ

ห้องออนเซนส่วนตัวค่ะ

อาหารเป็นบุฟเฟต์ค่ะ


วันที่2 ของการเดินทาง :
ปรากฏว่ามีเหตุสุดวิสัยส่วนตัว เลยทำให้ไป Takaragawa onsen ไม่ได้ค่ะ เลยนั่งรถไปตรงมาที่ Takasaki เลย พอถึงก็ไปเช็คอินที่โรงแรม Takasaki Washington Plaza hotel ห่างจากสถานีรถไฟประมาณ 3 นาที ที่เราเลือกพักที่นี่ เพื่อเป็นศุนย์กลางไปยังที่เที่ยวต่างๆค่ะ

แถวที่พักมีร้านอาหารเยอะค่ะ แต่มื้อแรกเราเลือกที่จะทานยากิโทริค่ะ ซื้อที่สถานีรถไฟ Takasaki ค่ะ ส่วนข้าวป้ันก็ Family Mart ค่ะ

มื้อค่ำเราทานแกงกะหรี่ญี่ปุ่นค่ะ อร่อยมากค่ะ

เราทานมื้อค่ำน้อย เพื่อสิ่งนี้ค่ะ


วันที่ 3  ของการเดินทาง :
วันนี้เราจะเดินทางไป Matsumoto กับ Kamikochi ค่ะ เราออกเดินทางแต่เช้าค่ะถึง Matsumoto สายๆ เราก็นังรถบัสไปลงที่ปราสาทค่ะ

ถ่ายรูปด้านนอกเสร็จ ก็เข้าไปในปราสาทค่ะ ขณะเดิน ถ่ายรูปอย่างเมามัน อยู่ๆก็เกิดเหตุการณ์คาดไม่ถึงเกิดขึ้น โทรศัพท์ อยู่ดีๆก็ดังแปลก แถมมีขอความภาษาญี่ปุ่นปารกฏที่หน้าจอ

ซักพัก โทรศัพท์ของคนอื่นก็ดัง แล้วไม่นานจากนั้น ปราสาทสั่นค่ะ แผ่นดินไหวนั่นเอง เราก็ทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ เราเห็นบางคนจับเสาไว้ เราก็จับบ้าง บางคนลงไปนั่งกับพื้น โชคดีที่ไหวไม่แรงมาก จากนั้นทุกคนก็เดินชมตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังจากเดินชมปราสาทเสร็จ ท้องหิวพอดี คิดอะไรไม่ออก ก็ IPPUDO แล้วกัน

ทานเสร็จ กำลังจะจ่ายเงิน เงยหน้ามาเจอน้องพนักงาน โอ้ยยยย เขินนนน อารมณ์เหมือนเจอคู่แท้ 555 น้องหน้าตาดีมาก นึกว่าเจมส์จิมารับจ๊อบที่นี่ 555 เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมา

เราเดินกลับไปที่สถานีรถไฟค่ะ ใช้เวลาไม่นาน พอถึงสถานี เราสองจิตสองใจอยู่ว่าจะขึ้นไป kamikochi ดีมั้ยเพราะว่าวันนี้อากาศหนาว และ เราไม่มีเสื้อหนาวค่ะ กลัวหนาวแล้วจะไม่สบาย แต่คิดยังไงไม่รู้ ไปซื้อตั๋วเฉยเลย 555 เราเดินทางโดยรถไฟ และ รถบัสค่ะ พอถึงที่หมาย เราเดินตรงไปที่แม่น้ำเลย พอเห็นวิวแล้ว OMG มันสวยมากเลย น้ำใสมากๆ ทุกอย่างมันสวยจริงๆ ให้ภาพบรรยายแล้วกันค่ะ

ขากลับเรานั่งรถบัส กับรถไฟ ก่อนกลับ Takasaki เราทางไก่ทอดร้านดังที่สถานีก่อนค่ะ


วันที่ 4 ของการเดินทาง :
วันนี้เราเดินทางไป Karuizawa แล้วก็เดินทางเข้าโตเกียว เรา check out แล้วเอากระเป๋าไปฝากที่ Locker ที่สถานีรถไฟค่ะ วันนี้อากาศหนาวมาก เราเดินไปที่ Kyu Karuizawa Ginza Dori ค่ะ มีรถบัสนะคะ แต่เราเลือกเดินเพราะว่าแดดไม่ร้อน

ตอนเดินกลับมาที่สถานีรถไฟ เราเจอร้านขาย Dorayaki คะ ซื้อแล้วมานที่ร้านมีชาร้อนเสิร์ฟให้ค่ะ เข้ากับขนมดีนักแล

จากนั้นเราก็เดินไปที่ outletค่ะ  แล้วฝนก็เริ่มตก ลมแรง หนาวมากค่ะ เราเดินรอบ แต่เราไม่ใช่ขาช๊อป เราไม่ได้อะไรเลยค่ะ จากนั้นก็ไปเอากระเป๋าเดินทาง แล้วเดินทางเข้าโตเกียว วันนี้ที่โตเกียว มีงานThai Festival ค่ะ เราก็อยากไป คืนนี้เราพักที่ Super Hotel Ueno-Iraya หลังจากเช็คอิน ก็จะออกไปงาน ฝนก็ตกหนักมาก ตัดสินใจไปแบบเปียกนี่แหล่ะ ก็เลยถ่ายรูปได้มาแค่นี้ อาหารไทยที่ซื้อมาจากงาน Thai Festival


** พื้นที่ใกล้หมด เดี๋ยวมาต่อนะคะ