สวัสดีเพื่อนๆทุกคนครับ อันนี้เป็นกระทู้แรก ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ
เมื่อวันที่ 20-27 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา จขกท ได้มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่น เดินทางกับแฟน 2 คนครับ เป็นทริปที่ค่อนข้างกระทันหัน ไม่ค่อยได้ plan อะไรล่วงหน้ามาละเอียดมาก อาจมีจุดบกพร่องให้ทุกคนลองปรับใช้นะครับ
วันแรก : Matsumoto พักในเมือง Nagano
วันที่ 2 : Kusatsu onsen
วันที่ 3 : Jikokudani Snow monkey park + เที่ยวใน Nagano เข้าโตเกียวช่วงเย็นๆ
วันที่ 4 : เที่ยว Kawagoe
วันที่ 5 : เที่ยว Nikko
วันที่ 6 : Tokyo disney sea
วันที่ 7 : เที่ยว Kawaguchiko
วันที่ 8 : เที่ยวในเมืองโตเกียว + ช้อปปิ้งก่อนกลับ
นอน Nagano 2 คืน นอนโตเกียว 5 คืนครับ เหตุผลคือขี้เกียจแบกกระเป๋าไปมาเลย นั่งรถไฟไปกลับเอาแต่ละวัน ใช้ Pass แบบคุ้มมากๆ อิอิ
ทริปนี้เป็นการไปญี่ปุ่นครั้งที่ 2 ของผมครับ เราเดินทางกับสายการบิน ANA จองไว้ล่วงหน้าประมาณ 3-4 เดือน ได้ราคาตั๋วไปกลับอยู่ที่ประมาณ 18,000 บาท (ถ้าใครโชคดีอาจได้ราคา 16,000 หรือน้อยกว่านี้นะครับ) เนื่อด้วยช่วงที่จอง สายการบิน low cost ทั้งหลาย ราคารวมอยู่ประมาณ 14,000-15,000 เลยทีเดียวครับ เราจึงเลือกบินกับ ANA ซึ่งก็ไม่ผิดหวังครับ
   เที่ยวบินของเรา NH808 ออกจากสุวรรณภูมิ เวลา 00.30 ถึงสนามบินนาริตะเวลา 8.25
   ขากลับเที่ยวบิน NH849 จากสนามบินฮาเนดะ เวลา 00.30 ถึงสุวรรณภูมิ 5.35  
เคานเตอร์เชคอินของ ANA อยู่ที่เคาน์เตอร์ L

ผู้โดยสารชั้น Economy โหลดกระเป๋าได้ใบละ 23 kg คนละ 2 ใบนะครับ ถือว่าเยอะมากๆ
ถึงเวลา Boarding แล้วววว
บรรยากาศในห้องผู้โดยสาร
อาหารว่างเป็น คุกกี้ชอคโกแลตชิพกับมัฟฟิน  ส่วนอาหารหลักจะเสิร์ฟเป็น Breakfast 2 ชม.ก่อน Landing ครับ อันนี้หน้าตาอาหารเช้ามีให้เลือก 2 แบบ มีแคลอรี่ให้ด้วย จขกท เลือกอันหนักเลยครับ อิอิ เป็น Omlette กับไส้กรอก อร่อยใช้ได้ครับ กินหมดเกลี้ยงเลย

อีกเมนูที่ไม่ได้เลือกจะเป็นข้าวต้มแซลมอนครับ ของคนข้างๆหอมมากเหมือนกัน

น่านฟ้าของญี่ปุ่น ใกล้จะถึงแล้ว
เห็นพระอาทิตย์ขึ้นพอดี     มีกระทู้นึงแนะนำว่า ถ้านั่งด้านซ้ายของเครื่องจะเห็นฟูจิ แต่จองไม่ทัน หุหุ
ถึงสนามบินนาริตะก่อนเวลาเล็กน้อยครับ ผ่าน ตม. รับกระเป๋าแล้วเราก็ไปแลกตั๋ว JR east Naganoก่อน ที่ JR east Travel service center ไม่ต้องกลัวหลงครับ มีป้ายบอกชัดเจน และคนต่อคิวค่อนข้างเยอะ = =

และนี่คือบัตรที่เราได้มาครับ เป็น JR east PASS Nagano-Niigata area ใช้ได้ Flexible 5 วันไม่จำเป็นต้องติดกัน ใน 14 วัน

  
เราเปิดใช้กันตั้งแต่วันแรกครับใช้นั่ง N'Ex ไปลงสถานโตเกียวและต่อ ชินคันเซ็นไป Nagano ที่สถานีโตเกียวคนเยอะมาก มีร้านขายข้าวกล่องเต็มไปหมด เลยของเข้าร้านนึงที่คนเยอะๆดูครับ
มีข้าวกล่องเบนโตะละลานตาไปหมด หลายราคาตั้งแต่ 500 เยนถึง 1,800 เยนก็มี

เลือกมาได้ เป็นข้าวหน้าปลาดิบรวม กับซูชิโรลครับ
ถึงสถานี JR Nagano ประมาณเที่ยงกว่า แวะถ่ายรูปเล่นก่อนเดินทางเข้าที่พัก 2 วันนี้ เราพักที่ Smile Hotel Nagano เดินจากสถานีประมาณ 800 เมตร ข้อเสียคือไกลและห้องค่อนข้างแคบ กางกระเป๋าเดินทางออกมาคือ ไม่มีที่เดินแล้วครับ แต่ข้อดีคือราคาไม่แพงมาก ตกคนละ 900 บาทต่อคืน มุฟเฟ่ต์อาหารเช้ารสชาติอร่อยใช้ได้
   เมือง Nagano ถูกล้มรอบด้วยหุบเขา คนไม่พลุกพล่าน สงบกว่าโตเกียว

ฝากกระเป๋ากับที่พักแล้ว ออกเดินทางไป Matsumoto เพื่อไปชมปราสาท Matsumoto หรือปราสาทอีกาดำกัน
นั่งรถไฟจากสถานี Nagano ไปลง สถานี Matsumoto เป็นรถ Limited express Shinano ใช้ JR east ได้ จองที่นั่งหรือไม่ก็ได้ครับ แต่ จขกท จองที่นั่งไม่ทันก็นั่งตู้ non-reserอe seat ไป ใช้เวลา 50 นาที เปิด google map ไปปราสาทอีกที รู้สึกจะเดินเกือบ 1 km ได้ครับ

ก่อนถึง มีตู้กดไอติม แวะกินแปปนุง ของ seventeen-ice (มารู้ทีหลังว่าในโตเกียวมีเยอะแยะ) มันดูน่ากิน เลยลองดูครับ ถึงแม้ข้างนอกจะหนาวมาก 555

ถึงทางเข้าแล้ว

วิวจากด้านล่าง

วิวมหาชน

เริ่มมืดแล้ว ถนนรอบๆปราสาทมีการประดับไฟด้วย

มาเดินเที่ยวถนน Nawate ต่อ แต่มืดแล้ว คนไม่ค่อยมีแล้วครับ

วันถัดไปเราจะไป Kusatsu onsen
Day 2
วันนี้เราจะไปเที่ยว Kusatsu onsen กัน  เริ่มต้นด้วย อาหารเช้าของโรงแรม Smile hotel nagano อร่อยมากๆครับ โดยเฉพาะเมนูนึงถ่ายไม่ทัน เป็นเนื้อบดใส่ชีส หมดเร็วมาก ข้าวญี่ปุ่นก็เหนียวนุ่ม  กินกับซุปมิโสะร้อนๆ

เปิดใช้งาน JR east Pass วันที่ 2 นั่งชินคันเซ็น จาก JR nagano station ไปลงที่สถานี Takasaki


แล้วต่อ JR Agatsuma line ไปที่สถานี Naganoharakusatsuguchi ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง

จากนั้นต่อรถบัสเพื่อไปยัง Kusatsu onsen ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ค่ารถบัส 700 เยน (๋JR east Pass ใช้ไม่ได้) จุดขึ้นรถบัสหาไม่ยากครับ เดินออกจากสถานีปุ๊บ จะมีคนคอยเรียกให้ขึ้นเลย เดินตามเขาไปเลยครับ

ถึง Kusatsu onsen

เดินไปชมน้ำพุกลางเมือง

น้ำพุร้อนใจกลางเมือง เรียกว่า Yubatake

เดินชมเมืองไปเรื่อย

จาก Yubatake เราจะไปแช่บ่อ onsen รวมแบบ open air Sainokawara park เดินมาทางซ้ายมือ ขึ้นบันไดมาครับ มีป้ายบอกตลอด

ระหว่างทางเดินมาจะมีบ่อเล็กๆให้แช่เท้าได้

Sainokawara park open air-bath เป็นออนเซ็นกลางแจ้งของ Kusatsu onsen แยกชายหญิง ค่าเข้าคนละ 600 เยน แนะนำให้เอาผ้าเช็ดตัวมาด้วยนะครับ ผืนเล็กๆก็ยงดี เพราะที่นี่ ผืนเล็กราคา 300 เยน ผืนใหญ่พันกว่าเยน แต่ถ้าไม่ได้เตรียมมาจริงๆ ซื้อผืนเล็กก็พอครับ

พอเข้ามาด้านในจะมีลอคเกอร์ให้เก็บรองเท้า กับลอคเกอร์เก็บสิ่งของมีค่า เสียเพิ่มอีก 100 เยน จุดนี้คือต้องถอดเสื้อผ้าออกหมดละครับ >,<

บรรยากาศข้างในฟินมากกก ตอน จขกท ไปแช่ คือเริ่มมีหิมะตกปรอยๆ น้ำร้อนพอดีๆ แต่ข้อเสียของที่นี่คือ ไม่มีที่ให้อาบน้ำฟอกสบู่นะครับ คือให้แช่อย่างเดียว กับมีที่ตักน้ำล้างตัวตอนขึ้นมาแค่นั้น แล้วก็ ฝั่งผู้ชายเนี่ย กำแพงรั้วที่กั้น ก็ค่อนข้างเตี้ย ทางด้านนอกเป็นทางเดินขึ้นเขาที่มีนักท่องเที่ยวเดินขึ้นไป ก็คือ มองลงมาเห็นหมดเลยครับ = = แต่ฝั่งผู้หญิงรู้สึกจะมิดชิดอยู่
หลังแช่เสร็จเราก็เดินขึ้นไปต่อ แต่ก็ไม่รู้ว่าข้างบนมีอะไรเหมือนกันครับ เห็นนักท่องเที่ยวบางส่วนเดินขึ้นไป  

เดินตามทางขึ้นมาเรื่อยๆ เริ่มมีน้ำแข็งเกาะพื้น เดินลำบากนิดนึงครับ พอขึ้นมาด้านบนเหมือนเป็นถนนไปที่ไหนซักที่ ไม่แน่ใจครับ 555

ถ่ายรูปซักพักหิมะเริ่มตกหนักขึ้นเลยเดินกลับลงมา ซึ่งตอนเดินลงมา ก็มองไปเห็น onsen ฝั่งผู้ชายจริงๆครับ (ตอนตรูแช่อยู่คนก็คงเห็นหมดเหมือนกัน555 )

ขากลับหิมะลงรัวๆ

Yubatake ไอน้ำขึ้นหนากว่าตอนมา

ตอนลงมาก็ 17.00 น. เลยกลับไปหาข้าวเย็นกินแถวที่พักที่ Nagano ครับ สำหรับ Kusatsu-onsen ไม่ได้ประทับใจกับ open-air bath นัก แต่ถ้าใครมาพักที่นี่ คิดว่า Onsen ของโรงแรมที่นี่น่าจะดีมากๆๆเลยครับ น่าหาโอกาสมาพักซักคืน ขากลับนั่งรถบัสจาก Kusatsu osen กลับสถานี Naganoharakusatsuguchi ต่อ รถไฟ JR กลับ Takasaki แล้วขึ้น Shinkansen กลับ Nagano เหมือนเดิมเลยครับ