สวัสดีครับ บล้อกนี้เป็นบล้อกแรกของผม พิมผิดถูกยังไงขออภัยด้วยครับ
ก่อนอื่นพูดก่อนเลย ที่บอกเป็นโรคประจำตัวคือ ก้ามเนื้อฝั่งซ้ายของร่างกายทั้งหมด(เป็นหนักที่มือและขา) สั่งการได้ไม่ 100% คือจะไม่สามารถทำตามที่สมองสั่งการได้บางอย่าง แล้วก็จะมีอาการเกร็งในช่วงเวลาที่ตื่นเต้น หรือทำตัวไม่ถูก ซึ่งเกิดจาก ตอนวัยเด็กมีลิ่มเลือดไปอุดตันที่สมองซีกขวา(ตอนนี้หลุดไปเองแล้วแต่หมอบอกว่ามันฟื้นฟูมาได้แค่ส่วนเดียว)
และด้วยอาการนี้ทำให้ผมกลายเป็นคนที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง ไม่ค่อยกล้าแสดงออกเหตุเพราะว่ากลัวคนอื่นจะมองว่าเราเป็นอะไรทำไมเกร็ง ทำไมทำมือแบบนั้น ทำไมท่าเดินแปลกๆ ช่วง ป.1-4 ก้ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกครับ พอช่วงป.5 เป็นช่วงที่ย้ายโรงเรียนมาเพราะมีปัญหาทางบ้าน คือย้ายบ้านด้วยนั่นแหละครับ พอย้ายมาก็ดันกลายเป็นคนโดนล้อ โดนแบบทำนั่นทำนี่ไม่ได้หรอก โดนตั้งฉายา โดนแกล้งต่างๆนาๆเลยครับ จนข่วงป.5 นี่แหละที่ผมเริ่มไม่อยากคุยไม่อยากพูดกับใคร เพราะไม่อยากโดนอะไรแบบนั้นอีก เริ่มมองโลกแง่ร้ายขึ้น ทำให้ผมเริ่มไม่มีเพื่อน ไม่มีใครสนใจ ด้วยความไม่กล้าแสดงออกและโรคที่ทำให้มือซ้ายเกร็งทำให้ไม่มีความสามารถอะไรที่โดดเด่น กีฬาก็เล่นได้ไม่ดีเพราะใช้ได้แค่มือเดียว เรียนไม่เก่ง ดนตรีตีฉิ่งได้ครับ ทำให้กลายเป็นคนจาง ไม่มีคนสนใจ ต่างกลับพี่ชายที่มีแต่คนชื่อชมเรียนดี กีฬาได้ ดนตรีเก่ง หล่ออีก ทำให้คนในโรงเรียนเปรียบเทียบ ว่าทำไมผมเป็นงี้ ทำไมไม่เหมือนพี่ชาย ยิ่งเจ็บหนักเลยครับ
พอขึ้น ม.4 ผมเจอครูประจำชั้นที่ขี้วีนอีกครับ ประมาณว่าใครไม่ทำอะไรด่า ใครไม่ช่วยงานด่า ซึ่งผมจะเป็นคนประเภทที่ ของสามารถยกได้ หนักเบายกได้เหมือนคนทั่วไป แต่ด้วยความที่มันเกร็งจะทำงานพวก ประดิษประดอยไม่ได้ ซึ่งเขาเป็นครูการงานครับ พอวิชาเขา พวกใบตองเย็บ ผูก ผมทำไม่ได้เลยครับ จนหมดความพยายามผมก็ไม่ทำ พอครูเห็นไม่ทำว๊ากครับ ผมเคยบอกครูแล้วว่าทำอันนี้ไม่ได้มันเกร็งลองทำแล้วครูกลับตอบส่งๆ มองหางตาว่า "โว้ะ ไปให้เพื่อนช่วยสิ" ซึ่งการเป็นคนไม่มีสังคมอยู่แล้ว แล้วจะให้เพื่อนช่วยยังไง พอมีงานโรงเรียน ผมก็ไปช่วยเพื่อนยกของเนี่ยแหละครับครูคนนั้นดันบอก "ออกมานี่เลย อย่าไปยกแขนยิ่งไม่ดีอยู่" แต่พอผมนั่งดูเขาก็บอก "ทำไมไม่ช่วยเพื่อน" ผมก็ไม่รู้ว่าผมสามารถทำอะไรได้บ้าง มันยิ่งทำให้ไม่กล้าทำอะไรเข้าไปใหญ่ พอมีงานอะไรถึงไม่ใช่ในโรงเรียน ทำให้ผมเป็นคนที่ทำให้กลัวไม่กล้าช่วยไม่กล้าทำ กลัวใครมาว่าแบบนั้นอีก
ซึ่งปัจจุบันผมอยู่ปี 1 นะครับ ที่คิดมาก เพราะผมดูเป็นคนไม่เก่งสักด้าน ไม่ดีสักอย่าง ต่อให้ตอนนี้เข้ามหาลัยแล้วแต่ก็ไม่รู้ว่าจบมาตนจะทำงานอะไรชอบอะไรอยู่ดี แล้วก็ยังเป็นคนจางเหมือนเดิมไม่มีอะไรโดดเด่น ไม่มีความสามารถอะไร เพื่อนตอนมัธยมก็เหมือนไม่นับเราในกลุ่มเวลามีงานอะไรที่โรงเรียนเก่าก้นัดกันทุกคน แต่ไม่ชวนเรา คือทุกคนเป็นวงดนตรีเดียวกันครับในกลุ่มก็จะมีแค่ผมที่เล่นอะไรไม่ได้เลย รู้สึกเป็นส่วนเกินมากครับจึงออกมาดีกว่า กลุ่มเพื่อนที่สนิทก็มีครับ แต่เป็นกลุ่มเพื่อนที่เล่นเกมด้วยกัน เกมตู้ในห้างอะครับ ก็จะมีกลั่มนี้กลุ่มเดียวที่โอเคไปไหนไปกัน ส่วนมากจะมีปัญหากับการกล้าแสดงออก ความไม่มั่นใจในตัวเอง จึงทำให้ตัวเองดูจางมากเลยครับ ในกลุ่มเพื่อนอื่นๆ ยิ่งเครียดที่ชอบเอาตัวเองไปเปรียบกับพี่ชาย และครอบครัวเวลามีเรื่องอะไรก็จะไม่ไว้ใจให้เราทำ จะมอบหมายให้แต่พี่ชาย ยิ่งทำมห้ตัวเองคิดมาก ทำให้รู้สึกแย่เข้าไปใหญ่เลยครับ
อาจยาวไปนิดนึงนะครับ แต่พยายามจะเล่าให้ละเอียดที่สุด กับสิ่งที่เจอมา
สุดท้ายนี่เป็นบล้อกแรกผิดพลาดประการใด ขออภัยอีกครั้งครับ
เป็นคนมีโรคประจำตัว แล้วยิ่งทำให้เข้าสังคมไม่เก่งทำยังไงดีครับ ?
ก่อนอื่นพูดก่อนเลย ที่บอกเป็นโรคประจำตัวคือ ก้ามเนื้อฝั่งซ้ายของร่างกายทั้งหมด(เป็นหนักที่มือและขา) สั่งการได้ไม่ 100% คือจะไม่สามารถทำตามที่สมองสั่งการได้บางอย่าง แล้วก็จะมีอาการเกร็งในช่วงเวลาที่ตื่นเต้น หรือทำตัวไม่ถูก ซึ่งเกิดจาก ตอนวัยเด็กมีลิ่มเลือดไปอุดตันที่สมองซีกขวา(ตอนนี้หลุดไปเองแล้วแต่หมอบอกว่ามันฟื้นฟูมาได้แค่ส่วนเดียว)
และด้วยอาการนี้ทำให้ผมกลายเป็นคนที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง ไม่ค่อยกล้าแสดงออกเหตุเพราะว่ากลัวคนอื่นจะมองว่าเราเป็นอะไรทำไมเกร็ง ทำไมทำมือแบบนั้น ทำไมท่าเดินแปลกๆ ช่วง ป.1-4 ก้ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกครับ พอช่วงป.5 เป็นช่วงที่ย้ายโรงเรียนมาเพราะมีปัญหาทางบ้าน คือย้ายบ้านด้วยนั่นแหละครับ พอย้ายมาก็ดันกลายเป็นคนโดนล้อ โดนแบบทำนั่นทำนี่ไม่ได้หรอก โดนตั้งฉายา โดนแกล้งต่างๆนาๆเลยครับ จนข่วงป.5 นี่แหละที่ผมเริ่มไม่อยากคุยไม่อยากพูดกับใคร เพราะไม่อยากโดนอะไรแบบนั้นอีก เริ่มมองโลกแง่ร้ายขึ้น ทำให้ผมเริ่มไม่มีเพื่อน ไม่มีใครสนใจ ด้วยความไม่กล้าแสดงออกและโรคที่ทำให้มือซ้ายเกร็งทำให้ไม่มีความสามารถอะไรที่โดดเด่น กีฬาก็เล่นได้ไม่ดีเพราะใช้ได้แค่มือเดียว เรียนไม่เก่ง ดนตรีตีฉิ่งได้ครับ ทำให้กลายเป็นคนจาง ไม่มีคนสนใจ ต่างกลับพี่ชายที่มีแต่คนชื่อชมเรียนดี กีฬาได้ ดนตรีเก่ง หล่ออีก ทำให้คนในโรงเรียนเปรียบเทียบ ว่าทำไมผมเป็นงี้ ทำไมไม่เหมือนพี่ชาย ยิ่งเจ็บหนักเลยครับ
พอขึ้น ม.4 ผมเจอครูประจำชั้นที่ขี้วีนอีกครับ ประมาณว่าใครไม่ทำอะไรด่า ใครไม่ช่วยงานด่า ซึ่งผมจะเป็นคนประเภทที่ ของสามารถยกได้ หนักเบายกได้เหมือนคนทั่วไป แต่ด้วยความที่มันเกร็งจะทำงานพวก ประดิษประดอยไม่ได้ ซึ่งเขาเป็นครูการงานครับ พอวิชาเขา พวกใบตองเย็บ ผูก ผมทำไม่ได้เลยครับ จนหมดความพยายามผมก็ไม่ทำ พอครูเห็นไม่ทำว๊ากครับ ผมเคยบอกครูแล้วว่าทำอันนี้ไม่ได้มันเกร็งลองทำแล้วครูกลับตอบส่งๆ มองหางตาว่า "โว้ะ ไปให้เพื่อนช่วยสิ" ซึ่งการเป็นคนไม่มีสังคมอยู่แล้ว แล้วจะให้เพื่อนช่วยยังไง พอมีงานโรงเรียน ผมก็ไปช่วยเพื่อนยกของเนี่ยแหละครับครูคนนั้นดันบอก "ออกมานี่เลย อย่าไปยกแขนยิ่งไม่ดีอยู่" แต่พอผมนั่งดูเขาก็บอก "ทำไมไม่ช่วยเพื่อน" ผมก็ไม่รู้ว่าผมสามารถทำอะไรได้บ้าง มันยิ่งทำให้ไม่กล้าทำอะไรเข้าไปใหญ่ พอมีงานอะไรถึงไม่ใช่ในโรงเรียน ทำให้ผมเป็นคนที่ทำให้กลัวไม่กล้าช่วยไม่กล้าทำ กลัวใครมาว่าแบบนั้นอีก
ซึ่งปัจจุบันผมอยู่ปี 1 นะครับ ที่คิดมาก เพราะผมดูเป็นคนไม่เก่งสักด้าน ไม่ดีสักอย่าง ต่อให้ตอนนี้เข้ามหาลัยแล้วแต่ก็ไม่รู้ว่าจบมาตนจะทำงานอะไรชอบอะไรอยู่ดี แล้วก็ยังเป็นคนจางเหมือนเดิมไม่มีอะไรโดดเด่น ไม่มีความสามารถอะไร เพื่อนตอนมัธยมก็เหมือนไม่นับเราในกลุ่มเวลามีงานอะไรที่โรงเรียนเก่าก้นัดกันทุกคน แต่ไม่ชวนเรา คือทุกคนเป็นวงดนตรีเดียวกันครับในกลุ่มก็จะมีแค่ผมที่เล่นอะไรไม่ได้เลย รู้สึกเป็นส่วนเกินมากครับจึงออกมาดีกว่า กลุ่มเพื่อนที่สนิทก็มีครับ แต่เป็นกลุ่มเพื่อนที่เล่นเกมด้วยกัน เกมตู้ในห้างอะครับ ก็จะมีกลั่มนี้กลุ่มเดียวที่โอเคไปไหนไปกัน ส่วนมากจะมีปัญหากับการกล้าแสดงออก ความไม่มั่นใจในตัวเอง จึงทำให้ตัวเองดูจางมากเลยครับ ในกลุ่มเพื่อนอื่นๆ ยิ่งเครียดที่ชอบเอาตัวเองไปเปรียบกับพี่ชาย และครอบครัวเวลามีเรื่องอะไรก็จะไม่ไว้ใจให้เราทำ จะมอบหมายให้แต่พี่ชาย ยิ่งทำมห้ตัวเองคิดมาก ทำให้รู้สึกแย่เข้าไปใหญ่เลยครับ
อาจยาวไปนิดนึงนะครับ แต่พยายามจะเล่าให้ละเอียดที่สุด กับสิ่งที่เจอมา
สุดท้ายนี่เป็นบล้อกแรกผิดพลาดประการใด ขออภัยอีกครั้งครับ