เมื่อเช้าเราพาแม่ไปใส่บาตรที่ตลาด ระหว่างที่กำลังเข็นรถแม่ผ่านขอทานที่นั่งอยู่เกือบๆ ร้านหัวมุมก็เห็นคนพิการขาไม่ดี เดินเหมือนคนเมา เดินไปใกล้ๆ ขอทานและให้เงินขอทาน เราเห็นก็รู้สึกดี โถ! ตัวเองก็พิการยังมีแก่ใจให้เงินขอทานด้วย (ขอทานแขนด้วน แต่ไม่รู้ว่าขาใช้การได้หรือเปล่า) แต่เนื่องคนพิการที่ขาไม่ดี การทรงตัวจึงมีปัญหา ก็เลยเซไปโดนเคานเตอร์ร้านที่อยู่ก่อนร้านหัวมุมซึ่งขายอะไรเราไม่แน่ใจ เพราะเหมือนยังจัดร้านไม่เสร็จ
ทีนี้แม่ค้าเลยตะโกนว่าขึ้นมา "ทำไมต้องไปเดินใกล้ๆ เค้า (หมายถึงขอทาน) แล้วก็จะไปล้มใส่เค้า" คนพิการเลยพูดกลับทำนองว่า เค้าทำอะไรเห็นรึเปล่า แม่ค้าร้านหัวมุมก็เหมือนช่วยพูดว่าสับทับกันเข้าไป ว่าอะไรบ้างเราไม่แน่ใจเพราะเรารีบเข็นรถแม่ผ่านไปเนื่องจากจะรีบไปใส่บาตรก่อน
พอถึงร้านใส่บาตร ไกลจากจุดเกิดเหตุพอสมควร แม่ค้าร้านขายของใส่บาตรก็พูดกันขึ้นมาว่า "เสียงอะไรดังโหวกเหวก" เราก็เลยเล่าว่า ดูสิคนพิการใจดีให้เงินขอทานแต่กลับโดนแม่ค้ารุมกันว่า หรืออาจจะด่าด้วย ความรู้สึกเราคือ "ทำดียังโดนว่าอีก"
แต่พอเข็นรถแม่กลับและไปแวะซื้อผลไม้ร้านหัวมุม (ตรงใกล้จุดเกิดเหตุ)ได้คุยกันถึงคนพิการคนนั้น สรุปว่า คนพิการคนนั้นเดินเซเพราะเมา แล้วแถมชอบเที่ยวขอเงินพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ถ้าไม่ได้ก็ชี้หน้าด่า สาปแช่งก็มี
แล้วที่แม่ค้าต้องด่าเพราะเซมาโดนเคาน์เตอร์แกที่หลังเคาน์เตอร์มีกะทะน้ำมันร้อนๆ อยู่ มันอันตรายมาก
สรุป เรื่องนี้ถ้าเราไม่ได้ไปซื้อผลไม้และคุยกับแม่ค้า ก็คงจะเข้าใจแม่ค้าผิดไป หาว่าไปรุมด่าคนพิการที่เค้าอุตส่าห์ทำดี ขนาดเราอยู่ในเหตุการณ์เรายังเข้าใจอะไรผิดๆ นับประสาอะไรกับข่าวหรือข้อความที่แชร์กันในโซเชียล ซึ่งคนส่วนใหญ่รุมตัดสินผิด-ถูก ทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้ข้อมูลเท็จจริงอะไรเลย
เจอกับตัวเมื่อเช้า ...อย่าตัดสินอะไรจากแค่ภาพที่เห็นและเสียงที่ได้ยิน ถามหรือคุยเลยจะเคลียร์กว่า
ทีนี้แม่ค้าเลยตะโกนว่าขึ้นมา "ทำไมต้องไปเดินใกล้ๆ เค้า (หมายถึงขอทาน) แล้วก็จะไปล้มใส่เค้า" คนพิการเลยพูดกลับทำนองว่า เค้าทำอะไรเห็นรึเปล่า แม่ค้าร้านหัวมุมก็เหมือนช่วยพูดว่าสับทับกันเข้าไป ว่าอะไรบ้างเราไม่แน่ใจเพราะเรารีบเข็นรถแม่ผ่านไปเนื่องจากจะรีบไปใส่บาตรก่อน
พอถึงร้านใส่บาตร ไกลจากจุดเกิดเหตุพอสมควร แม่ค้าร้านขายของใส่บาตรก็พูดกันขึ้นมาว่า "เสียงอะไรดังโหวกเหวก" เราก็เลยเล่าว่า ดูสิคนพิการใจดีให้เงินขอทานแต่กลับโดนแม่ค้ารุมกันว่า หรืออาจจะด่าด้วย ความรู้สึกเราคือ "ทำดียังโดนว่าอีก"
แต่พอเข็นรถแม่กลับและไปแวะซื้อผลไม้ร้านหัวมุม (ตรงใกล้จุดเกิดเหตุ)ได้คุยกันถึงคนพิการคนนั้น สรุปว่า คนพิการคนนั้นเดินเซเพราะเมา แล้วแถมชอบเที่ยวขอเงินพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ถ้าไม่ได้ก็ชี้หน้าด่า สาปแช่งก็มี
แล้วที่แม่ค้าต้องด่าเพราะเซมาโดนเคาน์เตอร์แกที่หลังเคาน์เตอร์มีกะทะน้ำมันร้อนๆ อยู่ มันอันตรายมาก
สรุป เรื่องนี้ถ้าเราไม่ได้ไปซื้อผลไม้และคุยกับแม่ค้า ก็คงจะเข้าใจแม่ค้าผิดไป หาว่าไปรุมด่าคนพิการที่เค้าอุตส่าห์ทำดี ขนาดเราอยู่ในเหตุการณ์เรายังเข้าใจอะไรผิดๆ นับประสาอะไรกับข่าวหรือข้อความที่แชร์กันในโซเชียล ซึ่งคนส่วนใหญ่รุมตัดสินผิด-ถูก ทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้ข้อมูลเท็จจริงอะไรเลย