สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
ให้ธรรมะ คือที่สุดแห่งทาน
นั่นหมายถึงผู้รับสามารถเข้าถึงนิพพานได้
หลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง
อีกทั้งยังนำธรรมนั้นไปเผยแพร่ต่อ
เราก็ได้จากทานอีกเป็นสองต่อ
ผู้ที่ได้ธรรมจากคนที่สองเผยแพร่ต่อให้คนที่สาม คนที่หนึ่งได้สามต่อ คนที่สองก็ได้สองต่อ
เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จากธรรมที่เราได้ให้ไว้แค่เพียงคนเดียว
นั่นหมายถึงผู้รับสามารถเข้าถึงนิพพานได้
หลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง
อีกทั้งยังนำธรรมนั้นไปเผยแพร่ต่อ
เราก็ได้จากทานอีกเป็นสองต่อ
ผู้ที่ได้ธรรมจากคนที่สองเผยแพร่ต่อให้คนที่สาม คนที่หนึ่งได้สามต่อ คนที่สองก็ได้สองต่อ
เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จากธรรมที่เราได้ให้ไว้แค่เพียงคนเดียว
ความคิดเห็นที่ 6
...ธรรมทาน เป็นทานสูงสุด เหนือกว่าสังฆทานและทานอื่นๆทั้งปวง...
สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาตา = การให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง
แต่ การให้ธรรมทาน ก็ยังสู้การถือศีลไม่ได้...คือ ถ้าถือศีลให้เคร่งครัด ไม่ว่าศีลแบบไหนก็ตาม จะได้บุญเหนือกว่าธรรมทานหรือสังฆทานทั้งปวง
แต่ การถือศีล ก็ยังสู้สมาธิไม่ได้... คือ ถ้าฝึกสมาธิจนได้จิตสงบรวมลงเป็นอัปปนาสมาธิ แม้แค่แว๊บเดียวเร็วเท่ากับช้างพับหู งูแลบลิ้น ก็จะได้บุญมากว่าถือศีลเคร่งครัดตลอด ๑๐๐ ปี
แต่ การได้สมาธิจนเป็นฌานอย่างแน่วแน่ชำนาญ ก็ยังสู้ได้วิปัสสนาปัญญาเห็นไตรลักษณ์ไม่ได้ ... คือ ถ้าฝึกจนได้วิปัสสนาปัญญา ถึงระดับ วิปัสสนาญาณที่ ๓ ขึ้นไป แค่แว๊บเดียว ก็จะได้บุญมากกว่าจิตเป็นสมาธิระดับฌานแน่วแน่ตลอด ๑๐๐ ปี
สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาตา = การให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง
แต่ การให้ธรรมทาน ก็ยังสู้การถือศีลไม่ได้...คือ ถ้าถือศีลให้เคร่งครัด ไม่ว่าศีลแบบไหนก็ตาม จะได้บุญเหนือกว่าธรรมทานหรือสังฆทานทั้งปวง
แต่ การถือศีล ก็ยังสู้สมาธิไม่ได้... คือ ถ้าฝึกสมาธิจนได้จิตสงบรวมลงเป็นอัปปนาสมาธิ แม้แค่แว๊บเดียวเร็วเท่ากับช้างพับหู งูแลบลิ้น ก็จะได้บุญมากว่าถือศีลเคร่งครัดตลอด ๑๐๐ ปี
แต่ การได้สมาธิจนเป็นฌานอย่างแน่วแน่ชำนาญ ก็ยังสู้ได้วิปัสสนาปัญญาเห็นไตรลักษณ์ไม่ได้ ... คือ ถ้าฝึกจนได้วิปัสสนาปัญญา ถึงระดับ วิปัสสนาญาณที่ ๓ ขึ้นไป แค่แว๊บเดียว ก็จะได้บุญมากกว่าจิตเป็นสมาธิระดับฌานแน่วแน่ตลอด ๑๐๐ ปี
แสดงความคิดเห็น
ในทัศนะพุทธศาสนา มีทานอะไรที่มีอานิสงส์มากกว่า "สังฆทาน"
อันนี้เรียกว่า การถวายสังฆทาน