ชเตฟเฟ่น คอเรล อดีตนักเตะวัย 47 ปี ผู้เคยลงสนามให้แก่กลัดบัคในบุนเดสลีกา 51 เกม และปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าทีมแมวมอง ได้พูดคุยเกี่ยวกับการย้ายทีมของอลาสซาน เพลอา การทำงานของทีม และเม็ดเงินหลายล้านในวงการฟุตบอลปัจจุบัน
================================================
แปลจาก:
https://tinyurl.com/yczf65sd
ต้นฉบับภาษาเยอรมัน:
Borussias Chefscout über Plea-Deal
เครดิตภาพ:
https://twitter.com/borussia
================================================
มักซ์ เอเบริล ผู้อำนวยการกีฬาชื่นชมคุณมากเลยนะ ในเรื่องดีลของอลาสซาน เพลอา
คอเรล: ความชื่นชมนั้นแด่ทีมสเกาท์ทั้งหมด และแน่นอนว่าพวกเรายินดีมากในเรื่องนั้น
================================================
จริงหรือเปล่าที่โบรุสเซียคอยเฝ้าสังเกตเพลอามาตั้งแต่ตอนที่เขาอายุ 18 จนถึงตอนนี้ก็เจ็ดปีแล้ว?
คอเรล: เรารู้จักเพลอาเป็นเวลานานมากแล้ว แต่มันยังไม่ถึงจังหวะเหมาะสมที่จะเซ็นเขาสักที แต่นั่นคืองานที่เราทำ ตระเตรียมเอาไว้เพื่อรอยคอยโอกาสที่เหมาะสมที่การย้ายตัวมีความเป็นไปได้ ปรัชญาของเราคือการทำความรู้จักนักเตะให้ดี และนานพอที่จะบอกว่าได้ เขาจะเหมาะกับโบรุสเซียมึนเช่นกลัดบัค เรื่องนี้ต้องอาศัยทีมสเกาท์ที่มีประสบการณ์มาก ซึ่งทางเราได้ก่อร่างสร้างตัวในช่วงหลายปีมานี้ ภายใต้ความดูแลของ มาริโอ วอสเซน หัวหน้าใหญ่ของแผนกแมวมอง
================================================
การได้ทำความรู้จักกับตัวนักเตะมันสำคัญแค่ไหน?
คอเรล: ผมคิดว่านั่นเป็นปัจจัยที่เป็นกุญแจตัดสินสำหรับเพลอา เขาพูดเองว่าตัวเขารู้สึกว่า พวกเรารู้จักเขาดี สามารถประเมินจุดแข็ง จุดอ่อน และสไตล์ของฟุตบอลที่เขาอยากเล่นได้ นั่นเป็นเรื่องในแง่ของกีฬา แน่นอนว่าในฐานะนักเตะ คุณเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะต้องทำงานกับใคร มันเป็นเรื่องที่ดีสำหรับการเริ่มต้น เราเดินทางไปฝรั่งเศสสองสามครั้ง แล้วเขาก็ทำการตัดสินใจสำหรับตัวเองหลังจากนั้น (โดยอาศัยสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้าในการตัดสินใจ)
================================================
โบรุสเซียต้องลงทุนในการโปรโมทในกรณีที่การแข่งขันสูงแบบนี้มากน้อยขนาดไหน?
คอเรล: ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เราได้สร้างชื่อเสียงไว้ค่อนข้างดีทีเดียว เดี๋ยวนี้คุณมีโอกาสไปเล่นบอลยุโรปกับโบรุสเซียได้แล้ว อาจจะไม่ใช่ทุกปี แต่จะเป็นทุกปีต่อจากนี้ไปนี่แหละ แต่เหนือสิ่งอื่นใด เราพิสูจน์แล้วว่า ที่โบรุสเซียสามารถเป็นก้าวต่อไปได้ แม้แต่สำหรับนักเตะที่มีประสบการณ์ อย่างเช่นลาร์ส ชตินเดิล, ธอร์กัน อาซาร์ และมัทเธียส กินเทอร์ พวกเขาล้วนแล้วแต่เคยเล่นในลีกสูงสุดมาก่อนจะเซ็นสัญญา แต่ก็ยังสามารถพัฒนาสู่ก้าวต่อไปได้ที่โบรุสเซีย
================================================
คุณดูนักเตะคนนึงบ่อยขนาดไหนในช่วงเวลาเจ็ดปีนั่น?
คอเรล: เป็นตัวเลขสองหลักที่ค่อนข้างสูงทีเดียวเลยล่ะ สำหรับจำนวนรายงานที่เกี่ยวกับเขา เราอยากจะมองทุกอย่างที่เกี่ยวกับนักเตะ มองเขาในหลายๆ ตำแหน่ง ในทุกสถานการณ์ เพลอาเคยผ่านการเล่นเพื่อหนีตกชั้นมาแล้ว และเพื่อถ้วยแชมป์กับนีซ การกลับมาหลังจากบาดเจ็บหนัก ในฐานะนักเตะคนนึง เขาประสบมาแล้วแทบทุกอย่างก็ว่าได้
================================================
นั่นคือในฐานะของนักเตะ แต่คุณจะรู้จักเขาในฐานะคนๆ นึงได้ยังไง ว่าเขาเป็นคนอย่างไร?
คอเรล: เราเก็บข้อมูลจากหลายๆ ทาง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการได้พบกันต่อหน้าเพื่อที่จะรู้จักคนที่เรากำลังจะเซ็นสัญญา แน่นอน ว่าเขาต้องเป็นคนที่เข้ากับโครงสร้างของทีมได้
================================================
ลาร์ส ชตินเดิล บอกว่าเพลอาถ่อมตนมาก เป็นอย่างนั้นรึเปล่า?
คอเรล: ใช่ ผมว่าทุกคนคงจะสังเกตเรื่องนั้นเหมือนกัน เวลาคุณมองวิธีที่เขากระทำกับความสำเร็จ เขายกย่องทีมเสมอ เขาเป็นผู้เล่นที่เล่นเป็นทีม ไม่ใช่คนทำประตูที่เห็นแก่ตัว แต่เป็นผู้เล่นที่จะทำประตูเพื่อทีม ตัวเขาเองก็ต้องการให้เพื่อนร่วมทีมทำประตู และเล่นฟุตบอลในแบบเดียวกับเขา (น่าจะหมายถึง เล่นเป็นทีมโดยไม่เห็นแก่ตัว)
(ต่อ)
==== แปลบทสัมภาษณ์: คุยกับ Steffen Korell หัวหน้าทีมแมวมองกลัดบัค ====
================================================
แปลจาก: https://tinyurl.com/yczf65sd
ต้นฉบับภาษาเยอรมัน: Borussias Chefscout über Plea-Deal
เครดิตภาพ: https://twitter.com/borussia
================================================
มักซ์ เอเบริล ผู้อำนวยการกีฬาชื่นชมคุณมากเลยนะ ในเรื่องดีลของอลาสซาน เพลอา
คอเรล: ความชื่นชมนั้นแด่ทีมสเกาท์ทั้งหมด และแน่นอนว่าพวกเรายินดีมากในเรื่องนั้น
================================================
จริงหรือเปล่าที่โบรุสเซียคอยเฝ้าสังเกตเพลอามาตั้งแต่ตอนที่เขาอายุ 18 จนถึงตอนนี้ก็เจ็ดปีแล้ว?
คอเรล: เรารู้จักเพลอาเป็นเวลานานมากแล้ว แต่มันยังไม่ถึงจังหวะเหมาะสมที่จะเซ็นเขาสักที แต่นั่นคืองานที่เราทำ ตระเตรียมเอาไว้เพื่อรอยคอยโอกาสที่เหมาะสมที่การย้ายตัวมีความเป็นไปได้ ปรัชญาของเราคือการทำความรู้จักนักเตะให้ดี และนานพอที่จะบอกว่าได้ เขาจะเหมาะกับโบรุสเซียมึนเช่นกลัดบัค เรื่องนี้ต้องอาศัยทีมสเกาท์ที่มีประสบการณ์มาก ซึ่งทางเราได้ก่อร่างสร้างตัวในช่วงหลายปีมานี้ ภายใต้ความดูแลของ มาริโอ วอสเซน หัวหน้าใหญ่ของแผนกแมวมอง
================================================
การได้ทำความรู้จักกับตัวนักเตะมันสำคัญแค่ไหน?
คอเรล: ผมคิดว่านั่นเป็นปัจจัยที่เป็นกุญแจตัดสินสำหรับเพลอา เขาพูดเองว่าตัวเขารู้สึกว่า พวกเรารู้จักเขาดี สามารถประเมินจุดแข็ง จุดอ่อน และสไตล์ของฟุตบอลที่เขาอยากเล่นได้ นั่นเป็นเรื่องในแง่ของกีฬา แน่นอนว่าในฐานะนักเตะ คุณเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะต้องทำงานกับใคร มันเป็นเรื่องที่ดีสำหรับการเริ่มต้น เราเดินทางไปฝรั่งเศสสองสามครั้ง แล้วเขาก็ทำการตัดสินใจสำหรับตัวเองหลังจากนั้น (โดยอาศัยสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้าในการตัดสินใจ)
================================================
โบรุสเซียต้องลงทุนในการโปรโมทในกรณีที่การแข่งขันสูงแบบนี้มากน้อยขนาดไหน?
คอเรล: ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เราได้สร้างชื่อเสียงไว้ค่อนข้างดีทีเดียว เดี๋ยวนี้คุณมีโอกาสไปเล่นบอลยุโรปกับโบรุสเซียได้แล้ว อาจจะไม่ใช่ทุกปี แต่จะเป็นทุกปีต่อจากนี้ไปนี่แหละ แต่เหนือสิ่งอื่นใด เราพิสูจน์แล้วว่า ที่โบรุสเซียสามารถเป็นก้าวต่อไปได้ แม้แต่สำหรับนักเตะที่มีประสบการณ์ อย่างเช่นลาร์ส ชตินเดิล, ธอร์กัน อาซาร์ และมัทเธียส กินเทอร์ พวกเขาล้วนแล้วแต่เคยเล่นในลีกสูงสุดมาก่อนจะเซ็นสัญญา แต่ก็ยังสามารถพัฒนาสู่ก้าวต่อไปได้ที่โบรุสเซีย
================================================
คุณดูนักเตะคนนึงบ่อยขนาดไหนในช่วงเวลาเจ็ดปีนั่น?
คอเรล: เป็นตัวเลขสองหลักที่ค่อนข้างสูงทีเดียวเลยล่ะ สำหรับจำนวนรายงานที่เกี่ยวกับเขา เราอยากจะมองทุกอย่างที่เกี่ยวกับนักเตะ มองเขาในหลายๆ ตำแหน่ง ในทุกสถานการณ์ เพลอาเคยผ่านการเล่นเพื่อหนีตกชั้นมาแล้ว และเพื่อถ้วยแชมป์กับนีซ การกลับมาหลังจากบาดเจ็บหนัก ในฐานะนักเตะคนนึง เขาประสบมาแล้วแทบทุกอย่างก็ว่าได้
================================================
นั่นคือในฐานะของนักเตะ แต่คุณจะรู้จักเขาในฐานะคนๆ นึงได้ยังไง ว่าเขาเป็นคนอย่างไร?
คอเรล: เราเก็บข้อมูลจากหลายๆ ทาง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการได้พบกันต่อหน้าเพื่อที่จะรู้จักคนที่เรากำลังจะเซ็นสัญญา แน่นอน ว่าเขาต้องเป็นคนที่เข้ากับโครงสร้างของทีมได้
================================================
ลาร์ส ชตินเดิล บอกว่าเพลอาถ่อมตนมาก เป็นอย่างนั้นรึเปล่า?
คอเรล: ใช่ ผมว่าทุกคนคงจะสังเกตเรื่องนั้นเหมือนกัน เวลาคุณมองวิธีที่เขากระทำกับความสำเร็จ เขายกย่องทีมเสมอ เขาเป็นผู้เล่นที่เล่นเป็นทีม ไม่ใช่คนทำประตูที่เห็นแก่ตัว แต่เป็นผู้เล่นที่จะทำประตูเพื่อทีม ตัวเขาเองก็ต้องการให้เพื่อนร่วมทีมทำประตู และเล่นฟุตบอลในแบบเดียวกับเขา (น่าจะหมายถึง เล่นเป็นทีมโดยไม่เห็นแก่ตัว)
(ต่อ)