สวัสดีค่า หมูเองค่ะ
ห่างหายจากการตั้งหรือตอบกระทู้ไปนาน แต่จริงๆหมูก็ยังสิงวนเวียนอยู่ในห้องการ์ตูนนะคะ ก็ตามหัวกระทู้นั่นล่ะค่ะ หมูเป็นคนคอการ์ตูน ละครนี่แทบไม่ดูเลย หรือถึงดูก็เป็นการดูแบบข้ามแบบผ่านเอาพอฟินให้หัวใจได้รู้สึกกระชุ่มกระชวยเท่านั้นเอง
คิดอยู่นานเหมือนกันนะคะว่าจะตั้งกระทู้นี้ดีไหม เพราะเพื่อนๆพี่ๆหลายคนได้บอกความรู้สึกที่ตรงใจหมูเกี่ยวกับชาติเสือพันธุ์มังกรไปเกือบหมดแล้ว แต่หมูเองก็อยากเป็นหนึ่งในกระบอกเสียงกำลังใจไปถึงนักแสดงและทีมงานทุกคนของเรื่องนี้ด้วย
จริงๆเรื่องชาติเสือพันธุ์มังกรนี้หมูก็ไม่ได้ตั้งใจจะดูนะคะ ถึงจะเคยอ่านนิยายของคุณปราณธรมาหลายเรื่องอยู่ แต่หมูเป็นคนไม่ถนัดนิยายแนวจีนๆ เลยเลือกที่จะพักดองเรื่องนี้ไว้ แต่แล้วชะตาฟ้าก็ลิขิตค่ะ กลางดึกคืนหนึ่ง...น่าจะเป็นบ่ายๆของทางเมืองไทยนะคะ ไข่เจียวที่หมูทอดกินตอนเย็นก็ยกทัพมาโจมตีโดยที่หมูไม่ได้ตั้งตัว หมูเลยเลือกโทรศัพท์มือถือมาเป็นกำลังช่วยรบ และระหว่างที่ทั้งรับทั้งรุก หมูก็สั่งมือถือให้เปิด YouTube หาอะไรดูแก้สถานการณ์วิกฤต แล้วในหน้าแนะนำก็มีเพลง “จากนี้ขอมีเพียงเธอ” ขึ้นอยู่ อะไรดลใจก็ไม่รู้นะคะ หมูเลยกดเข้าไปดู เห็นฉากที่เจมส์หรือเฮียโฮ่วหยิบปืนขึ้นมาดูด้วยแววตาแข็งกร้าวแต่สับสัน แถมเนื้อเพลงที่ว่า “ฝันเลือนราง อยู่บนเส้นทางที่มืดดำ ชีวิตต้องทำอะไรที่ไม่อยากทำ” ก็สะกดหมูไว้จนเกือบลืมศึกหนักที่กำลังเผชิญอยู่เลยทีเดียว และยิ่งดูไปเรื่อยๆ ออร่าความเท่ความหล่อของเฮียก็ยิ่งพุ่งเข้ากระแทกตา บวกกับฉากที่เจมส์และเดียร์น่าอยู่ใกล้ๆกัน มันมีความลงตัวละมุนละไมอย่างบอกไม่ถูก ดังนั้นพอจบเพลง หมูก็ต่อด้วยเพลง “อย่าบอกให้ฉันหยุดรักเธอ” ทันที
และหลังจากที่หมูชนะสงครามมาได้อย่างหวุดหวิดและนอนพักฟื้นกำลังเรียบร้อยแล้ว เช้าวันต่อมาหมูก็รีบหาข้อมูลของละครเรื่องนี้อย่างสุดความสามารถ เป็นโชคของหมูด้วยนะคะ ที่ละครฉายที่ไทยคืนนั้นพอดี หมูเลยไม่ต้องรอนานอะไรเลย ได้ดูตอนแรกทันทีทันใจ
เกริ่นมายาวมาก(ถึงมากที่สุด) ได้เวลาเข้าเรื่องสักทีนะคะ
ดูฉากแรกก็ติดงอมแงมแล้วค่ะ
เจมส์ มาร์ หรือ เฮียโฮ่ว คือเสาหลักของเรื่องนี้จริงๆค่ะ ฉากเปิดตัวเฮียที่ให้เจมส์บู๊กลางสายฝนคือภาพที่ตรึงใจหมูมากๆ เจมส์เป็นคนที่มีท่วงท่าต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์ แข็งแกร่งดุดันและสง่า บุคลิกของเฮียโฮ่วที่เจมส์เล่นก็มีมิติหลากหลาย เวลาอยู่กับคนในครอบครัว เฮียโฮ่วจะมีความอ่อนโยนคอยดูแลเอาใจใส่ ถึงจะมีความดุซึนเดเระกับอาจูบ้างในช่วงแรกๆ แต่หลังๆมานี้เฮียขยันขายอ้อยให้อาจูเหลือเกิน (จนหมูคิดว่าถ้ากิจการโรงสีข้าวของเฮียไปไม่รอด เฮียก็จะสามารถหันมาเปิดธุรกิจค้าอ้อยได้อย่างแน่นอน) หากเวลาอยู่กับญาติผู้ใหญ่ เฮียก็จะมีความอ่อนน้อมถ่อมตน และกับคนที่ต้องปกครอง เฮียก็จะมีความเป็นผู้นำและรัศมีของอำนาจแผ่ล้น หมูว่าตัวละครลิ้มบุ่นโฮ่วนี่เล่นได้ยากมากนะคะ เพราะเขาเป็นคนแบกความทุกข์ไว้ในใจ ยอมทำเพื่อคนอื่นตอบแทนบุญคุณโดยที่แทบจะไม่ปริปากปฏิเสธ ดังนั้นการสื่ออารมณ์ขัดแย้งต่อความรู้สึกผิดชอบชั่วดีจึงจำเป็นต้องแสดงออกทางแววตามากกว่าอย่างอื่น ซึ่งเจมส์ทำออกมาได้ดีอย่างไม่มีที่ติเลยสำหรับหมู อีกอย่างที่ชอบคือวิธีใช้เสียงของเจมส์ บางฉากที่ต้องใช้อารมณ์ เสียงที่ส่งออกมาของเจมส์มีพลังและสั่นนิดๆคล้ายเสือคำรามจริงๆเลยค่ะ คิดไม่ออกเลยนะคะ ว่าใครเหมาะที่จะมาเล่นบทนี้นอกจากเจมส์ เขาเกิดมาเพื่อเป็นเฮียโฮ่วจริงๆค่ะ
เดียร์น่า ฟลีโป หรือ เตียงจู รักอาจูค่ะ อาจูคือสีสันที่แต่งแต้มชีวิตเฮียโฮ่วและละครเรื่องนี้ เราได้เห็นพัฒนาการของอาจูตั้งแต่เป็นเด็กที่ขี้งอนเอาแต่ใจ พูดจาตรงจนติดจะโผงผาง ถึงแม้ว่าโตแล้วนิสัยเหล่านั้นจะยังไม่หายไปทั้งหมด แต่เธอก็มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ตัวอาจูเองมีความซับซ้อนไม่ต่างจากเฮียโฮ่วเลย ความแค้น บุญคุณ และความรักต่อสู้กันในใจของเธอแทบตลอดเวลา มีหลายครั้งที่อาจูต่อล้อต่อเถียงเฮียโฮ่ว ซึ่งถ้าเป็นนางเอกเรื่องอื่นหมูคงถอนหายใจแก้รำคาญไปแล้ว แต่เดียร์น่าเล่นเป็นอาจูที่หมูทั้งรักทั้งเอ็นดู ยิ่งเวลาเธอร้องไห้ น้ำตาแต่ละหยดที่เดียร์น่ากลั่นออกมามันไม่ได้แค่ทิ่มแทงใจเฮียโฮ่วคนเดียว แต่คนดูอย่างหมูยังอดเจ็บปวดไปด้วยไม่ได้ ยอมรับฝีมือเดียร์น่าจริงๆค่ะ อีกเหตุผลที่หมูไม่รู้สึกรำคาญอาจูอาจเพราะสิ่งที่อาจูพูดมักมีพื้นฐานอยู่บนความถูกต้อง ยกตัวอย่างฉากในตอนที่ 10 ที่ผ่านมา อาจูโวยวายใส่เฮียโฮ่วที่ทำตามคำสั่งของพี่อ้ายกักตุนข้าวไว้ หมูเห็นหลายคนพูดว่าอาจูเรื่องเยอะ ทำไมไม่เข้าใจเฮียบ้าง คุณแม่ของหมูเองก็บอกว่านางเอกเริ่มวุ่นวาย แต่หมูกลับรู้สึกนับถือที่อาจูไม่มัวแต่นิ่งดูดายเวลาที่เห็นคนอื่นเดือดร้อน ที่สำคัญ หมูว่าที่อาจูพูดแบบนั้นเพราะอาจูรักและเป็นห่วงเฮียของเธอ เธอรู้ว่าท้ายที่สุดแล้ว คนที่จะเสียใจที่สุดที่ทำแบบนี้ก็คือเฮียโฮ่ว
และนั่นคือสิ่งที่หมูชอบที่สุดของละครเรื่องนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกนางเอกนี่ล่ะค่ะ หมูยกให้เฮียโฮ่วกับอาจูเป็นที่หนึ่งของพระนางในใจตอนนี้เลย ความรักของทั้งคู่มันมากกว่ารักอย่างที่เฮียโฮ่วบอกอาเจ๊กไม่มีผิด เฮียมอบชีวิตใหม่ให้อาจู ส่วนอาจูก็เป็นที่พักพิงทางใจของเฮีย ทั้งคู่เป็นที่ปรึกษา เป็นพี่เป็นน้อง เป็นครอบครัว เป็นคนที่จะอยู่เคียงข้างรับฟังและติติงตักเตือนกันเวลาที่มีใครทำไม่ถูกไม่ควร หมูชอบที่เวลามีอะไร (ส่วนมาก)ทั้งคู่จะบอกกล่าวกันตรงๆ หรือถึงไม่พูด ทั้งคู่ก็รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ หลายครั้งที่หมูกังวลว่าจะมีอดีตหรือความลับอะไรมาทำให้ทั้งคู่ผิดใจกัน แต่กลับกลายเป็นว่าไม่มีเรื่องอย่างนั้นเลย หมูไม่ชอบถ้าพระเอกนางเอกทะเลาะกันหรือเข้าใจผิดกันเอามากๆ เพราะบางทีหมูก็มองว่าทำไมต้องมาโกรธหรือน้อยใจกันด้วยเรื่องแค่นี้ แต่สำหรับละครเรื่องนี้ หมูกลับเข้าใจทั้งเฮียทั้งอาจู เฮียอยากปกป้องอาจูไม่ให้ต้องเจ็บตัวอีก แถมคำว่าบุญคุณก็รัดคอ(ยืมคำพูดของอาจู) ส่วนอาจู ต้องเห็นคนที่ฆ่าพ่อแม่ของตัวเองอยู่บ่อยๆ ทั้งยังโดนทำร้าย แถมคนที่รักที่สุดก็แสดงตัวเหมือนจะเข้าข้างคนคนนั้น จะเสียใจน้อยใจก็ไม่แปลก แต่หลังจากที่ทั้งคู่เข้าใจกันแล้ว ความหวานที่เฮียขยันหลอดขยันเติมก็ทำเอาหมูแทบเอวเคล็ด เพราะบิดไปบิดมาอายม้วนไม่น้อยกว่าจูเลย ฉากรักของเรื่องนี้ถูกจริตหมูมาก มันไม่หวือหวา แต่มันอบอุ่นและลึกซึ้ง ถึงขนาดที่อาจูยอมละทิ้งความแค้นที่มีต่ออาเจ๊กของเฮียได้ ฉากนั้นหมูเข้าใจอย่างถ่องแท้เลยว่าทำไมเฮียโฮ่วถึงรักอาจูมาก เพราะความรักของอาจูยิ่งใหญ่เหลือเกิน
ตัวละครอื่นๆเองก็โดดเด่นไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง อาเจ็กฮง (คุณอาทนงศักดิ์) โอ๊วแปะ (คุณอาสันติสุข) แปะฮ้อ (คุณอามนตรี) และ คุณพ่อการันต์ (คุณอาสานติ) ทั้งสี่เปรียบเสมือนตัวบ้านและหลังคาที่คอยโอบอุ้มนักแสดงทุกคน ผลักดันละครเรื่องนี้ให้แน่นหนาและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เรื่องฝีมือการแสดงนั้นไม่ต้องพูดถึง ทุกๆฉากที่ทั้งสี่ร่วมแสดงคือผลงานคุณภาพ คุณอาทนงศักดิ์ทำให้หมูทั้งเกลียดทั้งสงสารอาเจ็กฮง อาเจ็กต้องดิ้นรนเอาตัวและครอบครัวให้รอดมานาน นานจนลืมนึกถึงชีวิตจิตใจของคนอื่น คุณอาสันติสุขในบทโอ๊วแปะก็เป็นตัวอย่างของคนที่เต็มไปด้วยจิตริษยาไม่รู้จักพอ ฉากเผชิญหน้าของพี่น้องร่วมสาบานสองคนนี้เป็นหนึ่งในที่สุดของที่สุดสำหรับชาติเสือพันธุ์มังกรจริงๆ ส่วนคุณพ่อการันต์ของคุณอาสานติก็คือคนที่กลบเกลื่อนความโลภของตนโดยอ้างว่าตัวเองทำเลวเพราะถ้าตนไม่ทำ คนอื่นก็จะทำ และท้ายที่สุดแล้ว กรรมก็ตามสนองทั้งสามคน ไม่มีใครมีความสุขในวินาทีสุดท้ายของชีวิตเลยสักคน ดีหน่อยที่ยังมีแปะฮ้อคอยสอนข้อคิดดีๆให้ทั้งพระนาง รวมถึงคนดูอย่างเราๆด้วย ทุกครั้งที่แปะฮ้ออยู่ในฉาก หมูมักจะมีรอยยิ้มอยู่เสมอ คุณอามนตรีแสดงเป็นแปะฮ้อได้น่ารักจริงๆค่ะ อ้อ อีกคนที่น่ารักมากๆก็คือ อาม่ากิมเอ็ง (คุณยายน้ำเงิน) คุณยายทำให้หมูนึกถึงอาม่าของตัวเอง อาม่าที่คอยดูแลบ้านและข้าวปลาอาหารให้ทุกคน คอยเป็นกำลังใจและยินดีกับความสำเร็จของลูกหลานด้วยความรัก
ส่วนนักแสดงรุ่นเล็กทุกคนก็ไม่น้อยหน้า โดยเฉพาะ พี่อ้าย (พี่เฟิสท์) พันเดช (พี่ต๊ะ) และ ไต้เกียว (สายไหม)
พี่อ้ายที่รักน้องชายบุญธรรมด้วยความจริงใจ แต่ก็ไม่สามารถก้าวข้ามความเห็นแก่ตัวของตัวเองไปได้ และพันเดชที่ต้องการความรักจากพ่อ จนตามืดบอดเลือกเดินเส้นทางที่ผิดเพื่อแย่งชิงทุกอย่างจากพี่ชายต่างแม่ ฉากที่ทั้งคู่ปะทะกันต่อหน้าผู้เป็นพ่อ ถือเป็นอีกฉากหนึ่งที่พิสูจน์ฝีมือพี่เฟิสท์และพี่ต๊ะได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ มันบีบคั้นอารมณ์จนแทบจะระเบิดออกมา และทั้งคู่ก็ระเบิดออกมาจริงๆ รวมถึงคุณอาสานติด้วย
และที่ขาดไม่ได้คือไต้เกียว ตัวละครที่หมูมองว่าสำคัญที่สุด เพราะเป็นคนก่อกำเนิดเรื่องราวเกือบทั้งหมดให้เฮียของเราต้องแก้แล้วแก้อีก ความทะเยอทะยานของเธอทำให้ใครหลายคนต้องเสียเลือดเสียเนื้อ แต่ผลกรรมก็เริ่มที่จะวิ่งตามเธอทันแล้ว แล้วจุดจบของเธอจะเป็นยังไงกันหนอ
สุดท้ายนี้หมูอยากจะขอบคุณผู้กำกับและทีมงานที่ถ่ายทำตัดต่อละครเรื่องนี้ด้วยความใส่ใจ ทำให้งานภาพและเสียงออกมาสวยงามลื่นไหล ขอบคุณอาปิ่นที่หยิบนิยายเรื่องนี้มาทำละคร ขอบคุณคนเขียนบทโทรทัศน์ที่เขียนให้ทุกตัวละครและเหตุการณ์ในเรื่องน่าติดตามค้นหา ขอบคุณเจ้าของบทประพัทธ์อย่างคุณปราณธรที่สร้างสรรค์เรื่องราวดีๆให้เราได้อ่าน ทุกๆคนทำให้หมูมีความสุขกับการที่ได้ดูละครเรื่องนี้ ชาติเสือพันธุ์มังกรเป็นละครที่หมูรักที่สุด เป็นแหล่งคำสอนข้อคิดในการใช้ชีวิตให้กับหมู ขอบคุณจริงๆค่ะ
มาร่วมลุ้นกับสองตอนสุดท้ายไปด้วยกันนะคะ
ชาติเสือพันธุ์มังกร...จากใจคนชาติหมูพันธุ์การ์ตูน
ห่างหายจากการตั้งหรือตอบกระทู้ไปนาน แต่จริงๆหมูก็ยังสิงวนเวียนอยู่ในห้องการ์ตูนนะคะ ก็ตามหัวกระทู้นั่นล่ะค่ะ หมูเป็นคนคอการ์ตูน ละครนี่แทบไม่ดูเลย หรือถึงดูก็เป็นการดูแบบข้ามแบบผ่านเอาพอฟินให้หัวใจได้รู้สึกกระชุ่มกระชวยเท่านั้นเอง
คิดอยู่นานเหมือนกันนะคะว่าจะตั้งกระทู้นี้ดีไหม เพราะเพื่อนๆพี่ๆหลายคนได้บอกความรู้สึกที่ตรงใจหมูเกี่ยวกับชาติเสือพันธุ์มังกรไปเกือบหมดแล้ว แต่หมูเองก็อยากเป็นหนึ่งในกระบอกเสียงกำลังใจไปถึงนักแสดงและทีมงานทุกคนของเรื่องนี้ด้วย
จริงๆเรื่องชาติเสือพันธุ์มังกรนี้หมูก็ไม่ได้ตั้งใจจะดูนะคะ ถึงจะเคยอ่านนิยายของคุณปราณธรมาหลายเรื่องอยู่ แต่หมูเป็นคนไม่ถนัดนิยายแนวจีนๆ เลยเลือกที่จะพักดองเรื่องนี้ไว้ แต่แล้วชะตาฟ้าก็ลิขิตค่ะ กลางดึกคืนหนึ่ง...น่าจะเป็นบ่ายๆของทางเมืองไทยนะคะ ไข่เจียวที่หมูทอดกินตอนเย็นก็ยกทัพมาโจมตีโดยที่หมูไม่ได้ตั้งตัว หมูเลยเลือกโทรศัพท์มือถือมาเป็นกำลังช่วยรบ และระหว่างที่ทั้งรับทั้งรุก หมูก็สั่งมือถือให้เปิด YouTube หาอะไรดูแก้สถานการณ์วิกฤต แล้วในหน้าแนะนำก็มีเพลง “จากนี้ขอมีเพียงเธอ” ขึ้นอยู่ อะไรดลใจก็ไม่รู้นะคะ หมูเลยกดเข้าไปดู เห็นฉากที่เจมส์หรือเฮียโฮ่วหยิบปืนขึ้นมาดูด้วยแววตาแข็งกร้าวแต่สับสัน แถมเนื้อเพลงที่ว่า “ฝันเลือนราง อยู่บนเส้นทางที่มืดดำ ชีวิตต้องทำอะไรที่ไม่อยากทำ” ก็สะกดหมูไว้จนเกือบลืมศึกหนักที่กำลังเผชิญอยู่เลยทีเดียว และยิ่งดูไปเรื่อยๆ ออร่าความเท่ความหล่อของเฮียก็ยิ่งพุ่งเข้ากระแทกตา บวกกับฉากที่เจมส์และเดียร์น่าอยู่ใกล้ๆกัน มันมีความลงตัวละมุนละไมอย่างบอกไม่ถูก ดังนั้นพอจบเพลง หมูก็ต่อด้วยเพลง “อย่าบอกให้ฉันหยุดรักเธอ” ทันที
และหลังจากที่หมูชนะสงครามมาได้อย่างหวุดหวิดและนอนพักฟื้นกำลังเรียบร้อยแล้ว เช้าวันต่อมาหมูก็รีบหาข้อมูลของละครเรื่องนี้อย่างสุดความสามารถ เป็นโชคของหมูด้วยนะคะ ที่ละครฉายที่ไทยคืนนั้นพอดี หมูเลยไม่ต้องรอนานอะไรเลย ได้ดูตอนแรกทันทีทันใจ
เกริ่นมายาวมาก(ถึงมากที่สุด) ได้เวลาเข้าเรื่องสักทีนะคะ
ดูฉากแรกก็ติดงอมแงมแล้วค่ะ
เจมส์ มาร์ หรือ เฮียโฮ่ว คือเสาหลักของเรื่องนี้จริงๆค่ะ ฉากเปิดตัวเฮียที่ให้เจมส์บู๊กลางสายฝนคือภาพที่ตรึงใจหมูมากๆ เจมส์เป็นคนที่มีท่วงท่าต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์ แข็งแกร่งดุดันและสง่า บุคลิกของเฮียโฮ่วที่เจมส์เล่นก็มีมิติหลากหลาย เวลาอยู่กับคนในครอบครัว เฮียโฮ่วจะมีความอ่อนโยนคอยดูแลเอาใจใส่ ถึงจะมีความดุซึนเดเระกับอาจูบ้างในช่วงแรกๆ แต่หลังๆมานี้เฮียขยันขายอ้อยให้อาจูเหลือเกิน (จนหมูคิดว่าถ้ากิจการโรงสีข้าวของเฮียไปไม่รอด เฮียก็จะสามารถหันมาเปิดธุรกิจค้าอ้อยได้อย่างแน่นอน) หากเวลาอยู่กับญาติผู้ใหญ่ เฮียก็จะมีความอ่อนน้อมถ่อมตน และกับคนที่ต้องปกครอง เฮียก็จะมีความเป็นผู้นำและรัศมีของอำนาจแผ่ล้น หมูว่าตัวละครลิ้มบุ่นโฮ่วนี่เล่นได้ยากมากนะคะ เพราะเขาเป็นคนแบกความทุกข์ไว้ในใจ ยอมทำเพื่อคนอื่นตอบแทนบุญคุณโดยที่แทบจะไม่ปริปากปฏิเสธ ดังนั้นการสื่ออารมณ์ขัดแย้งต่อความรู้สึกผิดชอบชั่วดีจึงจำเป็นต้องแสดงออกทางแววตามากกว่าอย่างอื่น ซึ่งเจมส์ทำออกมาได้ดีอย่างไม่มีที่ติเลยสำหรับหมู อีกอย่างที่ชอบคือวิธีใช้เสียงของเจมส์ บางฉากที่ต้องใช้อารมณ์ เสียงที่ส่งออกมาของเจมส์มีพลังและสั่นนิดๆคล้ายเสือคำรามจริงๆเลยค่ะ คิดไม่ออกเลยนะคะ ว่าใครเหมาะที่จะมาเล่นบทนี้นอกจากเจมส์ เขาเกิดมาเพื่อเป็นเฮียโฮ่วจริงๆค่ะ
เดียร์น่า ฟลีโป หรือ เตียงจู รักอาจูค่ะ อาจูคือสีสันที่แต่งแต้มชีวิตเฮียโฮ่วและละครเรื่องนี้ เราได้เห็นพัฒนาการของอาจูตั้งแต่เป็นเด็กที่ขี้งอนเอาแต่ใจ พูดจาตรงจนติดจะโผงผาง ถึงแม้ว่าโตแล้วนิสัยเหล่านั้นจะยังไม่หายไปทั้งหมด แต่เธอก็มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ตัวอาจูเองมีความซับซ้อนไม่ต่างจากเฮียโฮ่วเลย ความแค้น บุญคุณ และความรักต่อสู้กันในใจของเธอแทบตลอดเวลา มีหลายครั้งที่อาจูต่อล้อต่อเถียงเฮียโฮ่ว ซึ่งถ้าเป็นนางเอกเรื่องอื่นหมูคงถอนหายใจแก้รำคาญไปแล้ว แต่เดียร์น่าเล่นเป็นอาจูที่หมูทั้งรักทั้งเอ็นดู ยิ่งเวลาเธอร้องไห้ น้ำตาแต่ละหยดที่เดียร์น่ากลั่นออกมามันไม่ได้แค่ทิ่มแทงใจเฮียโฮ่วคนเดียว แต่คนดูอย่างหมูยังอดเจ็บปวดไปด้วยไม่ได้ ยอมรับฝีมือเดียร์น่าจริงๆค่ะ อีกเหตุผลที่หมูไม่รู้สึกรำคาญอาจูอาจเพราะสิ่งที่อาจูพูดมักมีพื้นฐานอยู่บนความถูกต้อง ยกตัวอย่างฉากในตอนที่ 10 ที่ผ่านมา อาจูโวยวายใส่เฮียโฮ่วที่ทำตามคำสั่งของพี่อ้ายกักตุนข้าวไว้ หมูเห็นหลายคนพูดว่าอาจูเรื่องเยอะ ทำไมไม่เข้าใจเฮียบ้าง คุณแม่ของหมูเองก็บอกว่านางเอกเริ่มวุ่นวาย แต่หมูกลับรู้สึกนับถือที่อาจูไม่มัวแต่นิ่งดูดายเวลาที่เห็นคนอื่นเดือดร้อน ที่สำคัญ หมูว่าที่อาจูพูดแบบนั้นเพราะอาจูรักและเป็นห่วงเฮียของเธอ เธอรู้ว่าท้ายที่สุดแล้ว คนที่จะเสียใจที่สุดที่ทำแบบนี้ก็คือเฮียโฮ่ว
และนั่นคือสิ่งที่หมูชอบที่สุดของละครเรื่องนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกนางเอกนี่ล่ะค่ะ หมูยกให้เฮียโฮ่วกับอาจูเป็นที่หนึ่งของพระนางในใจตอนนี้เลย ความรักของทั้งคู่มันมากกว่ารักอย่างที่เฮียโฮ่วบอกอาเจ๊กไม่มีผิด เฮียมอบชีวิตใหม่ให้อาจู ส่วนอาจูก็เป็นที่พักพิงทางใจของเฮีย ทั้งคู่เป็นที่ปรึกษา เป็นพี่เป็นน้อง เป็นครอบครัว เป็นคนที่จะอยู่เคียงข้างรับฟังและติติงตักเตือนกันเวลาที่มีใครทำไม่ถูกไม่ควร หมูชอบที่เวลามีอะไร (ส่วนมาก)ทั้งคู่จะบอกกล่าวกันตรงๆ หรือถึงไม่พูด ทั้งคู่ก็รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ หลายครั้งที่หมูกังวลว่าจะมีอดีตหรือความลับอะไรมาทำให้ทั้งคู่ผิดใจกัน แต่กลับกลายเป็นว่าไม่มีเรื่องอย่างนั้นเลย หมูไม่ชอบถ้าพระเอกนางเอกทะเลาะกันหรือเข้าใจผิดกันเอามากๆ เพราะบางทีหมูก็มองว่าทำไมต้องมาโกรธหรือน้อยใจกันด้วยเรื่องแค่นี้ แต่สำหรับละครเรื่องนี้ หมูกลับเข้าใจทั้งเฮียทั้งอาจู เฮียอยากปกป้องอาจูไม่ให้ต้องเจ็บตัวอีก แถมคำว่าบุญคุณก็รัดคอ(ยืมคำพูดของอาจู) ส่วนอาจู ต้องเห็นคนที่ฆ่าพ่อแม่ของตัวเองอยู่บ่อยๆ ทั้งยังโดนทำร้าย แถมคนที่รักที่สุดก็แสดงตัวเหมือนจะเข้าข้างคนคนนั้น จะเสียใจน้อยใจก็ไม่แปลก แต่หลังจากที่ทั้งคู่เข้าใจกันแล้ว ความหวานที่เฮียขยันหลอดขยันเติมก็ทำเอาหมูแทบเอวเคล็ด เพราะบิดไปบิดมาอายม้วนไม่น้อยกว่าจูเลย ฉากรักของเรื่องนี้ถูกจริตหมูมาก มันไม่หวือหวา แต่มันอบอุ่นและลึกซึ้ง ถึงขนาดที่อาจูยอมละทิ้งความแค้นที่มีต่ออาเจ๊กของเฮียได้ ฉากนั้นหมูเข้าใจอย่างถ่องแท้เลยว่าทำไมเฮียโฮ่วถึงรักอาจูมาก เพราะความรักของอาจูยิ่งใหญ่เหลือเกิน
ตัวละครอื่นๆเองก็โดดเด่นไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง อาเจ็กฮง (คุณอาทนงศักดิ์) โอ๊วแปะ (คุณอาสันติสุข) แปะฮ้อ (คุณอามนตรี) และ คุณพ่อการันต์ (คุณอาสานติ) ทั้งสี่เปรียบเสมือนตัวบ้านและหลังคาที่คอยโอบอุ้มนักแสดงทุกคน ผลักดันละครเรื่องนี้ให้แน่นหนาและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เรื่องฝีมือการแสดงนั้นไม่ต้องพูดถึง ทุกๆฉากที่ทั้งสี่ร่วมแสดงคือผลงานคุณภาพ คุณอาทนงศักดิ์ทำให้หมูทั้งเกลียดทั้งสงสารอาเจ็กฮง อาเจ็กต้องดิ้นรนเอาตัวและครอบครัวให้รอดมานาน นานจนลืมนึกถึงชีวิตจิตใจของคนอื่น คุณอาสันติสุขในบทโอ๊วแปะก็เป็นตัวอย่างของคนที่เต็มไปด้วยจิตริษยาไม่รู้จักพอ ฉากเผชิญหน้าของพี่น้องร่วมสาบานสองคนนี้เป็นหนึ่งในที่สุดของที่สุดสำหรับชาติเสือพันธุ์มังกรจริงๆ ส่วนคุณพ่อการันต์ของคุณอาสานติก็คือคนที่กลบเกลื่อนความโลภของตนโดยอ้างว่าตัวเองทำเลวเพราะถ้าตนไม่ทำ คนอื่นก็จะทำ และท้ายที่สุดแล้ว กรรมก็ตามสนองทั้งสามคน ไม่มีใครมีความสุขในวินาทีสุดท้ายของชีวิตเลยสักคน ดีหน่อยที่ยังมีแปะฮ้อคอยสอนข้อคิดดีๆให้ทั้งพระนาง รวมถึงคนดูอย่างเราๆด้วย ทุกครั้งที่แปะฮ้ออยู่ในฉาก หมูมักจะมีรอยยิ้มอยู่เสมอ คุณอามนตรีแสดงเป็นแปะฮ้อได้น่ารักจริงๆค่ะ อ้อ อีกคนที่น่ารักมากๆก็คือ อาม่ากิมเอ็ง (คุณยายน้ำเงิน) คุณยายทำให้หมูนึกถึงอาม่าของตัวเอง อาม่าที่คอยดูแลบ้านและข้าวปลาอาหารให้ทุกคน คอยเป็นกำลังใจและยินดีกับความสำเร็จของลูกหลานด้วยความรัก
ส่วนนักแสดงรุ่นเล็กทุกคนก็ไม่น้อยหน้า โดยเฉพาะ พี่อ้าย (พี่เฟิสท์) พันเดช (พี่ต๊ะ) และ ไต้เกียว (สายไหม)
พี่อ้ายที่รักน้องชายบุญธรรมด้วยความจริงใจ แต่ก็ไม่สามารถก้าวข้ามความเห็นแก่ตัวของตัวเองไปได้ และพันเดชที่ต้องการความรักจากพ่อ จนตามืดบอดเลือกเดินเส้นทางที่ผิดเพื่อแย่งชิงทุกอย่างจากพี่ชายต่างแม่ ฉากที่ทั้งคู่ปะทะกันต่อหน้าผู้เป็นพ่อ ถือเป็นอีกฉากหนึ่งที่พิสูจน์ฝีมือพี่เฟิสท์และพี่ต๊ะได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ มันบีบคั้นอารมณ์จนแทบจะระเบิดออกมา และทั้งคู่ก็ระเบิดออกมาจริงๆ รวมถึงคุณอาสานติด้วย
และที่ขาดไม่ได้คือไต้เกียว ตัวละครที่หมูมองว่าสำคัญที่สุด เพราะเป็นคนก่อกำเนิดเรื่องราวเกือบทั้งหมดให้เฮียของเราต้องแก้แล้วแก้อีก ความทะเยอทะยานของเธอทำให้ใครหลายคนต้องเสียเลือดเสียเนื้อ แต่ผลกรรมก็เริ่มที่จะวิ่งตามเธอทันแล้ว แล้วจุดจบของเธอจะเป็นยังไงกันหนอ
สุดท้ายนี้หมูอยากจะขอบคุณผู้กำกับและทีมงานที่ถ่ายทำตัดต่อละครเรื่องนี้ด้วยความใส่ใจ ทำให้งานภาพและเสียงออกมาสวยงามลื่นไหล ขอบคุณอาปิ่นที่หยิบนิยายเรื่องนี้มาทำละคร ขอบคุณคนเขียนบทโทรทัศน์ที่เขียนให้ทุกตัวละครและเหตุการณ์ในเรื่องน่าติดตามค้นหา ขอบคุณเจ้าของบทประพัทธ์อย่างคุณปราณธรที่สร้างสรรค์เรื่องราวดีๆให้เราได้อ่าน ทุกๆคนทำให้หมูมีความสุขกับการที่ได้ดูละครเรื่องนี้ ชาติเสือพันธุ์มังกรเป็นละครที่หมูรักที่สุด เป็นแหล่งคำสอนข้อคิดในการใช้ชีวิตให้กับหมู ขอบคุณจริงๆค่ะ
มาร่วมลุ้นกับสองตอนสุดท้ายไปด้วยกันนะคะ