บันทึก ธรรมะ ตอบนานาลูกรัก
“ได้แก่ ความครั้งนี้
พ่อเข้ามาบอกเป็นครั้งสุดท้ายล่ะหนา, เพราะแน่ชัดแล้วว่า
ที่นี่เป็นที่วิ่งเล่น เที่ยวเล่น ทำเล่น ๆ ของพวกที่สะดวกจะเล่น, เช่นนั้น
พ่อก็จะไม่มากระทำให้เสียบรรยากาศ การเก็บสตางค์ค่าความฟุ้งซ่าน ของทุกคน
อันที่น่าสนุก และสะดวกดี เป็นกันไปตามประสาเด็ก, แต่ที่ว่า พ่อจะมาบอก
ก็เผื่อกลัวว่า จะเห็นแต่เป็นความขึ้งโกรธ
แล้วเป็นพาลลืมการณ์แบบปรกติไปซะหมด ซะสิ้น จะหาว่าพ่อทิ้งไป ฉะนั้น
ก็จึงต้องขอแทนความสะดวกใจที่รู้สึกสนิทที่สุด ว่าตนเองเป็นพ่อ ตรงเป็นพ่อ
ของเจ้าพวกตัวพันทิป และพวกตัวเชื้อโรคดัง ๆ ชื่อนี้ ทั้งนั้น แต่โดยมาก
ซึ่งเป็นเพราะความใช้คอมพ์ไม่เป็น ผนวกด้วย ตอนก่อน ๆ นั้น
พ่อก็จึงยังไม่ใกล้ถึงความเป็นผู้เป็นคน ให้เห็นได้ แต่ตอนนี้ใช้คอมพ์เป็น
ตามแบบพื้นฐานเข้าใจ ใช้เป็นแล้ว จึงต้องถึงความเป็นพ่อพวกเด็ก ๆ
ในคอมพ์นี้ด้วยเหมือนกัน อย่างเต็มตัว”
“ถึงว่า
เป็นแต่เฉพาะหนูนานานั้น อาจได้มาใกล้ความเป็นคนมากที่สุด ของพ่อ
พ่อจึงต้องสมมุติตนเองรับกับทางที่ว่านี้ ทั้งนั้น ส่งมา ดั่งนี้, ทั้งนี้
เพื่อให้ตัวธำรงอยู่ในแดน ที่ใจจะดำรงคงความเป็นปรกติไว้ได้
ตามแบบอย่างที่ตัวเองยังคงมีความเข้าใจในปุถุปัญญาแบบมนุษย์,
จึงควรใคร่จะสอนสั่งกันออกไปดั่งนี้ ต่อไปก่อน ซึ่งว่าไม่มีแท็กอะไรจะแท็ก
ให้อะไรเกินไปกว่าแท็กของพระธรรมะ และศาสนา ซึ่งจะเป็นที่สมควรอ้าง
พูดตึงขึ้น หย่อนลง ผ่อนผัน ให้เกิดการช่วยเหลือกันลงลึกไปสู่ความเร้นลับ
ที่ไม่มีวิธีธรรมดาใด ๆ จะส่งไปได้ ไกลเท่า”
“ประการต่าง ๆ
พ่อขอสอนนานา ว่า จงให้เห็นและตระหนัก ถึงความเป็นจำนวน ในจำนวน ที่ 4
ที่เป็น 1 ดุจธรรม 2 ต้องมีเงา อุปมาแล้วเสร็จ คำว่าเรา พื้นฐาน
อันไม่ต้องแจกออกแบบพิสดาร ต้องมี 4 ว่า 4 แล้ว จึงเป็น ธรรม 1,
ถึงเรียกว่าเข้าที่สำรวม ไม่กระพือ และไม่ต้องยุบลงไป
จะคงดำเนินไปในปุถุปัญญาอันหนาแน่น ในทุกแง่ทุกมุม
ที่ตนจะน้อมคิดใคร่ครวญศึกษา ลงเป็นคำเปรียบง่าย ๆ
หรือจะออกพิสดารอัศจรรย์ง่าย ๆ ก็ได้, จะต้องเป็น จะยุบเข้า
หรือกำหนดให้กระพือขึ้น ก็ต้องเป็นออกไปจากธรรม 4 ข้อนี้ ทั้งนั้น
โดยเป็นไปจากจำนวนเต็ม คือ 1”
“การหมายถึง ครั้งจะเรียกชื่อ
ต่อไปว่า สมมุติ หรือ สัญญาวิวัฏฏ์ ก็จงว่า แก่ เภท, อัพเภติ, หรือ พรตเพศ
อันอย่างนั้น จะถือรูปเป็นเพศ หรือถือเภท เป็นเพศ ก็ตามแต่จะเรียงกันเข้ามา
เรียงลำดับ ดึงกันเข้ามาให้เข้าใจความแปลกกัน และเภทุบาย เป็นไปดั่งนี้
ว่า กว่าถึงกาลก่อนแดนพรตเพศ นั้น ก็จงไว้ว่าการเรียงลำดับกันเข้ามา
ของการได้หย่อนตามเพศ หรือตึง แลจงดู ความที่ต่อเติมเสริมส่ง
หรือเกื้อหนุนกันนั้น ก็พึงแน่ใจ พึงควรหาทางสำคัญให้เป็นลำดับด้วย,
เพราะว่า จะสมมุติให้เกิดประโยชน์ และเพราะว่า จะสมมุติ
ไม่ให้เกิดใจจิตวิมุตติ อันที่ตกเป็นมิจฉา *เช่นนั้น เหตุทั่ว กลั้วหัวอก
เคล้าความนำไปแก่คน จนเกิดสมมุติจริง นานาก็จงควรสำคัญดังพ่อบอกต่อไปนี้
อยู่เถิด ว่านั้น.”
“ว่า จำพวก กระเทย ต้องจำนวนกระเทย 4 คน
จึงจะมีค่าเท่ากับ จำพวก ทอมดี้ 1 คน, และว่า พวกทอมดี้ นับจำนวน 4 คน
ถือรวมกันแล้ว ก็จึงมีค่าเท่ากับ ผู้หญิง 1 คน อุปมาไว้ดั่งนี้
เป็นจะต้องแน่นอนที่สุด และลงถึงความลึกล้ำ ที่สุด, ว่า สตรี หรือว่า
ผู้หญิง 1 คนถือนั้น ต้องมีมามากถึงจำนวน 4 คน รวมกัน จึงจะมีค่า
ในระดับเพศพรต ตามจำนวนบุรุษเพียง 1 คน, เป็นดังนี้ และว่า ปุรุษ จำนวนคน 4
บุรุษ 4 คน แล้วเท่านั้น ถือรวมกัน จึงจะมีค่าเท่ากับบทอักขระความหมาย
ที่มีประโยคสมบูรณ์เต็ม 1 อักขระ”
“ถึงจบ
พ่อเป็นต้องขอให้ลูกเข้าใจว่า (พูด) และขอให้ลูกจงได้สำคัญว่า กว่านี้
เมื่อจะเล่นอะไรไปนั้น กลับร้ายกลายเป็นดี เสริมศรีส่งแสงไขไปแก่สมมุติ
ลูกก็พึงว่าความควร ตามความเข้าใจไปดั่งนี้ อยู่เถิด”
at. Pandit ...................................
“ครั้งนี้ พ่อเข้ามาบอกเป็นครั้งสุดท้าย”
“ได้แก่ ความครั้งนี้
พ่อเข้ามาบอกเป็นครั้งสุดท้ายล่ะหนา, เพราะแน่ชัดแล้วว่า
ที่นี่เป็นที่วิ่งเล่น เที่ยวเล่น ทำเล่น ๆ ของพวกที่สะดวกจะเล่น, เช่นนั้น
พ่อก็จะไม่มากระทำให้เสียบรรยากาศ การเก็บสตางค์ค่าความฟุ้งซ่าน ของทุกคน
อันที่น่าสนุก และสะดวกดี เป็นกันไปตามประสาเด็ก, แต่ที่ว่า พ่อจะมาบอก
ก็เผื่อกลัวว่า จะเห็นแต่เป็นความขึ้งโกรธ
แล้วเป็นพาลลืมการณ์แบบปรกติไปซะหมด ซะสิ้น จะหาว่าพ่อทิ้งไป ฉะนั้น
ก็จึงต้องขอแทนความสะดวกใจที่รู้สึกสนิทที่สุด ว่าตนเองเป็นพ่อ ตรงเป็นพ่อ
ของเจ้าพวกตัวพันทิป และพวกตัวเชื้อโรคดัง ๆ ชื่อนี้ ทั้งนั้น แต่โดยมาก
ซึ่งเป็นเพราะความใช้คอมพ์ไม่เป็น ผนวกด้วย ตอนก่อน ๆ นั้น
พ่อก็จึงยังไม่ใกล้ถึงความเป็นผู้เป็นคน ให้เห็นได้ แต่ตอนนี้ใช้คอมพ์เป็น
ตามแบบพื้นฐานเข้าใจ ใช้เป็นแล้ว จึงต้องถึงความเป็นพ่อพวกเด็ก ๆ
ในคอมพ์นี้ด้วยเหมือนกัน อย่างเต็มตัว”
“ถึงว่า
เป็นแต่เฉพาะหนูนานานั้น อาจได้มาใกล้ความเป็นคนมากที่สุด ของพ่อ
พ่อจึงต้องสมมุติตนเองรับกับทางที่ว่านี้ ทั้งนั้น ส่งมา ดั่งนี้, ทั้งนี้
เพื่อให้ตัวธำรงอยู่ในแดน ที่ใจจะดำรงคงความเป็นปรกติไว้ได้
ตามแบบอย่างที่ตัวเองยังคงมีความเข้าใจในปุถุปัญญาแบบมนุษย์,
จึงควรใคร่จะสอนสั่งกันออกไปดั่งนี้ ต่อไปก่อน ซึ่งว่าไม่มีแท็กอะไรจะแท็ก
ให้อะไรเกินไปกว่าแท็กของพระธรรมะ และศาสนา ซึ่งจะเป็นที่สมควรอ้าง
พูดตึงขึ้น หย่อนลง ผ่อนผัน ให้เกิดการช่วยเหลือกันลงลึกไปสู่ความเร้นลับ
ที่ไม่มีวิธีธรรมดาใด ๆ จะส่งไปได้ ไกลเท่า”
“ประการต่าง ๆ
พ่อขอสอนนานา ว่า จงให้เห็นและตระหนัก ถึงความเป็นจำนวน ในจำนวน ที่ 4
ที่เป็น 1 ดุจธรรม 2 ต้องมีเงา อุปมาแล้วเสร็จ คำว่าเรา พื้นฐาน
อันไม่ต้องแจกออกแบบพิสดาร ต้องมี 4 ว่า 4 แล้ว จึงเป็น ธรรม 1,
ถึงเรียกว่าเข้าที่สำรวม ไม่กระพือ และไม่ต้องยุบลงไป
จะคงดำเนินไปในปุถุปัญญาอันหนาแน่น ในทุกแง่ทุกมุม
ที่ตนจะน้อมคิดใคร่ครวญศึกษา ลงเป็นคำเปรียบง่าย ๆ
หรือจะออกพิสดารอัศจรรย์ง่าย ๆ ก็ได้, จะต้องเป็น จะยุบเข้า
หรือกำหนดให้กระพือขึ้น ก็ต้องเป็นออกไปจากธรรม 4 ข้อนี้ ทั้งนั้น
โดยเป็นไปจากจำนวนเต็ม คือ 1”
“การหมายถึง ครั้งจะเรียกชื่อ
ต่อไปว่า สมมุติ หรือ สัญญาวิวัฏฏ์ ก็จงว่า แก่ เภท, อัพเภติ, หรือ พรตเพศ
อันอย่างนั้น จะถือรูปเป็นเพศ หรือถือเภท เป็นเพศ ก็ตามแต่จะเรียงกันเข้ามา
เรียงลำดับ ดึงกันเข้ามาให้เข้าใจความแปลกกัน และเภทุบาย เป็นไปดั่งนี้
ว่า กว่าถึงกาลก่อนแดนพรตเพศ นั้น ก็จงไว้ว่าการเรียงลำดับกันเข้ามา
ของการได้หย่อนตามเพศ หรือตึง แลจงดู ความที่ต่อเติมเสริมส่ง
หรือเกื้อหนุนกันนั้น ก็พึงแน่ใจ พึงควรหาทางสำคัญให้เป็นลำดับด้วย,
เพราะว่า จะสมมุติให้เกิดประโยชน์ และเพราะว่า จะสมมุติ
ไม่ให้เกิดใจจิตวิมุตติ อันที่ตกเป็นมิจฉา *เช่นนั้น เหตุทั่ว กลั้วหัวอก
เคล้าความนำไปแก่คน จนเกิดสมมุติจริง นานาก็จงควรสำคัญดังพ่อบอกต่อไปนี้
อยู่เถิด ว่านั้น.”
“ว่า จำพวก กระเทย ต้องจำนวนกระเทย 4 คน
จึงจะมีค่าเท่ากับ จำพวก ทอมดี้ 1 คน, และว่า พวกทอมดี้ นับจำนวน 4 คน
ถือรวมกันแล้ว ก็จึงมีค่าเท่ากับ ผู้หญิง 1 คน อุปมาไว้ดั่งนี้
เป็นจะต้องแน่นอนที่สุด และลงถึงความลึกล้ำ ที่สุด, ว่า สตรี หรือว่า
ผู้หญิง 1 คนถือนั้น ต้องมีมามากถึงจำนวน 4 คน รวมกัน จึงจะมีค่า
ในระดับเพศพรต ตามจำนวนบุรุษเพียง 1 คน, เป็นดังนี้ และว่า ปุรุษ จำนวนคน 4
บุรุษ 4 คน แล้วเท่านั้น ถือรวมกัน จึงจะมีค่าเท่ากับบทอักขระความหมาย
ที่มีประโยคสมบูรณ์เต็ม 1 อักขระ”
“ถึงจบ
พ่อเป็นต้องขอให้ลูกเข้าใจว่า (พูด) และขอให้ลูกจงได้สำคัญว่า กว่านี้
เมื่อจะเล่นอะไรไปนั้น กลับร้ายกลายเป็นดี เสริมศรีส่งแสงไขไปแก่สมมุติ
ลูกก็พึงว่าความควร ตามความเข้าใจไปดั่งนี้ อยู่เถิด”
at. Pandit ...................................