
ก่อนที่จะมีโอกาสได้ไปญี่ปุ่นครั้งแรก
เรามักจะถามตัวเองอยู่เสมอว่า "ทำไมใครๆถึงชอบไปญี่ปุ่น"
"ญี่ปุ่นมีอะไรดีนะ ทำไมใครๆถึงได้ไปแล้วไปอีก ครั้งเดียวไม่เคยพอ"
แต่พอย้อนกลับมาดูตัวเองในทริปนี้ มันก็กลายเป็นญี่ปุ่นครั้งที่ 3 ของเราไปซะแล้ว
ครั้งนี้เราเดินทางกัน 3 คนจาก DMK-NGO เมื่อวันที่ 30 ตค.-3 พย.
ไปกับสายการบิน Thai Airasia X ไฟลท์ที่ XJ638 เวลา 06.55 น.
ดังนั้นเราจึงตัดสินใจไปนอนที่สนามบินกัน เพื่อป้องกันการตกเครื่อง

ด้วยความเคยชิน จับจองพื้นที่เหมาะๆแล้วหลับให้สบาย พักหลังๆนี้แอร์สนามบินหนาวหนักมาก
ใครจะมานอนก็เตรียมผ้าห่มกันมาให้ดีเด้อ

เราซื้อซิมและแลกเงินที่สนามบินเลย ที่สนามบินเรททุกธนาคารจะเท่าๆกัน
ส่วนซิมเราเลือกใช้ Sim 2 Fly ของ AIS ราคา 399 บาทใช้ได้ 7 วัน


ตื่นเช้าล้างหน้าล้างตาแล้วไปเช็คอินกัน

ราคาตั๋วก็มีรวมน้ำหนักกระเป๋าให้ด้วยนะ
ครั้งนี้เราใช้กระเป๋าของ MOOF49 ไซส์ 24" มีสายรัดกระเป๋าปักชื่อเราได้ด้วยเท่มากกก
ตามไปตำได้ที่
https://www.facebook.com/moof49shop/



เนื่องจากเราบินไฟลท์ปฐมฤกดิ์ในครั้งนี้ ข้างๆเคาท์เตอร์เช็คอินก็เลยมีบูทกิจกรรมเล็กๆให้เล่น
พร้อมมีของรางวัลสำหรับคนที่มาเล่นทุกคนด้วยนะ





หลงรักแสงเช้าที่สนามบินทุกครั้งเลย มันละมุนจริงๆนะ ไม่เชื่อลองบินไฟลท์เช้าดู




ที่นั่งกว้างสบายมากๆ ขึ้นไปก็มีผ้าปิดตาแจกอีก ไฟลท์แรกนี่ดีจริงๆ
หลับยาวๆไปเจอกันอีกที่ทีนาโกย่าจ้าาาาา

ถีงแล้วจ้าาา Chubu Centrair International Airport, Nagoya




เดินงงๆอยู่ซักพักก็งมๆหาที่ซื้อตั๋วนั่งรถไฟเข้าเมืองกัน


พอไปถึง Nagoya Station เราก็มุ่งหน้าไปที่ออฟฟิต JR กันก่อนเพื่อเอา JR Pass ที่เราซื้อมาจากประเทศไทยมาแลก
รอบนี้เราจองเป็น JR all pass หรือ Japan Rail Pass มาเป็นพาสที่ใช้ได้ทั่วญี่ปุ่นตั้งแต่เหนือจรดใต้เลย
เราซื้อแบบ 7 วันกับ KKday ราคาค่อนข้างดีเลยทีเดียว ถูกกว่าอีกหหลายๆเจ้าเลยนะ
ดูรายละเอียดพาสอื่นๆและซื้อพาสได้ที่
https://bit.ly/2S6dPwT
กว่าจะงงๆทำนู่นทำนี่เสร็จที่นี่ก็มืดซะแล้ว อยู่ญี่ปุ่นสี่ห้าโมงเย็นก็จะมืดแล้ว
ไม่เหมือนที่ไทย บางวันหกโมงเย็นยังแดดเปรี้ยงอยู่เลย
เข้าที่พักกันเถอะ เราจองที่พักล่วงหน้ามาจาก Booking เป็นห้องไพรเวทรวมสามคนในโฮสเทล
ชื่อว่า 300Hostel Nagoya Osu Kannon





ที่พักสะอาดมาก ค่อนข้างดีเลยทีเดียว มีห้องครัวและมีอินเตอร์เน็ตให้ใช้ด้วย
เราจองมาในราคา 13800 เยน 3 คน
เก็บของกับเรียบร้อยออกไปทัวร์เมืองแล้วก็หาอะไรกินกันเถอะ
มานาโกย่าเมนูที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือ ข้าวหน้าปลาไหล นั่นเอง

ร้านนี้ตั้งอยู่ในห้าง Matsuzakaya ใกล้ๆ sakae station


บริเวณหน้าร้าน ห้างนี้ค่อนข้างเงียบอะ ไม่ค่อยมีคนเลย


แต่พอเข้ามาในร้านคือคนเยอะมาก เค้าว่าร้านนี้เป็ฯต้นตำรับด้วยนะ

เซ็ทนี้ราคา 5100 บาทราคาค่อนข้างแรงมาก แต่บอกเลยว่าคุ้มนะ
เพราะว่าเยอะมาก กินสองคนสามคนยังได้

ส่วนอันนี้เป็นก้างปลาไหลทอดกรอบโรยเกลืออร่อยดี
ต่อไปก็เดินไปเที่ยวแถวๆ Oasis และ Nagoya TV Tower
เรียกได้ว่าที่นี่เป็นแลนด์มาร์คของย่านนี้เลยก็ว่าได้





และเนื่องจากเป็ฯช่วงก่อนวันฮาโลวีนจึงมีเด็กๆที่นี่มาแต่งตัวแต่งหน้ากัน
คือที่นี่เค้าจัดเต็มกันมากจริงๆ บรรยากาศสนุกมากกกกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ










หลังจากถ่ายรูปกับน้องๆเสร็จ เราเป็นพวกไม่ชอบกลับบ้านไว
แล้วก็เป็นพวกชอบออกตามหาร้านอิซากายะเพื่อนั่งชิลๆอยู่แล้ว
(ร้านอิซากายะ ก็อารมณ์คล้ายๆร้านนั่งชิลดื่มของบ้านเรานี่แหละ)
เลยลองหาแถวๆนี้ดู และก็ได้มาเจอกับร้านนี้ เหมือนจะเปิด 24 ชม.ด้วยนะ









ยังไงไม่รู้ แต่ปลาดิบและเบียร์อร่อยมาก พูดแล้วก็เปรี้ยวปากอยากกลับไป ฮ่าาาๆๆ
จบวันแรกกลับห้องไปนอนหลับพักผ่อน เพราะอยู่บนเครื่องนอนไม่ค่อยหลับคุยกับเพื่อนมาตลอดทาง
แล้วเดี่ยวมาเจอกันวันที่ 2 นะว่าเราจะพาไปที่ไหนอีกบ้าง
[CR] ปักหมุดใจกลางญี่ปุ่น ณ. Nagoya/Mie/Shizuoka/Kawaguchiko 5 วัน 4 คืน [Journeyaholic]
เรามักจะถามตัวเองอยู่เสมอว่า "ทำไมใครๆถึงชอบไปญี่ปุ่น"
"ญี่ปุ่นมีอะไรดีนะ ทำไมใครๆถึงได้ไปแล้วไปอีก ครั้งเดียวไม่เคยพอ"
แต่พอย้อนกลับมาดูตัวเองในทริปนี้ มันก็กลายเป็นญี่ปุ่นครั้งที่ 3 ของเราไปซะแล้ว
ครั้งนี้เราเดินทางกัน 3 คนจาก DMK-NGO เมื่อวันที่ 30 ตค.-3 พย.
ไปกับสายการบิน Thai Airasia X ไฟลท์ที่ XJ638 เวลา 06.55 น.
ดังนั้นเราจึงตัดสินใจไปนอนที่สนามบินกัน เพื่อป้องกันการตกเครื่อง
ใครจะมานอนก็เตรียมผ้าห่มกันมาให้ดีเด้อ
ส่วนซิมเราเลือกใช้ Sim 2 Fly ของ AIS ราคา 399 บาทใช้ได้ 7 วัน
ครั้งนี้เราใช้กระเป๋าของ MOOF49 ไซส์ 24" มีสายรัดกระเป๋าปักชื่อเราได้ด้วยเท่มากกก
ตามไปตำได้ที่ https://www.facebook.com/moof49shop/
พร้อมมีของรางวัลสำหรับคนที่มาเล่นทุกคนด้วยนะ
หลับยาวๆไปเจอกันอีกที่ทีนาโกย่าจ้าาาาา
รอบนี้เราจองเป็น JR all pass หรือ Japan Rail Pass มาเป็นพาสที่ใช้ได้ทั่วญี่ปุ่นตั้งแต่เหนือจรดใต้เลย
เราซื้อแบบ 7 วันกับ KKday ราคาค่อนข้างดีเลยทีเดียว ถูกกว่าอีกหหลายๆเจ้าเลยนะ
ดูรายละเอียดพาสอื่นๆและซื้อพาสได้ที่ https://bit.ly/2S6dPwT
กว่าจะงงๆทำนู่นทำนี่เสร็จที่นี่ก็มืดซะแล้ว อยู่ญี่ปุ่นสี่ห้าโมงเย็นก็จะมืดแล้ว
ไม่เหมือนที่ไทย บางวันหกโมงเย็นยังแดดเปรี้ยงอยู่เลย
เข้าที่พักกันเถอะ เราจองที่พักล่วงหน้ามาจาก Booking เป็นห้องไพรเวทรวมสามคนในโฮสเทล
ชื่อว่า 300Hostel Nagoya Osu Kannon
เราจองมาในราคา 13800 เยน 3 คน
เก็บของกับเรียบร้อยออกไปทัวร์เมืองแล้วก็หาอะไรกินกันเถอะ
มานาโกย่าเมนูที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือ ข้าวหน้าปลาไหล นั่นเอง
เพราะว่าเยอะมาก กินสองคนสามคนยังได้
ต่อไปก็เดินไปเที่ยวแถวๆ Oasis และ Nagoya TV Tower
เรียกได้ว่าที่นี่เป็นแลนด์มาร์คของย่านนี้เลยก็ว่าได้
คือที่นี่เค้าจัดเต็มกันมากจริงๆ บรรยากาศสนุกมากกกกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แล้วก็เป็นพวกชอบออกตามหาร้านอิซากายะเพื่อนั่งชิลๆอยู่แล้ว
(ร้านอิซากายะ ก็อารมณ์คล้ายๆร้านนั่งชิลดื่มของบ้านเรานี่แหละ)
เลยลองหาแถวๆนี้ดู และก็ได้มาเจอกับร้านนี้ เหมือนจะเปิด 24 ชม.ด้วยนะ
จบวันแรกกลับห้องไปนอนหลับพักผ่อน เพราะอยู่บนเครื่องนอนไม่ค่อยหลับคุยกับเพื่อนมาตลอดทาง
แล้วเดี่ยวมาเจอกันวันที่ 2 นะว่าเราจะพาไปที่ไหนอีกบ้าง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น