สวัสดีค่ะ เราเพิ่งไปเที่ยวรัสเซียมาเมื่อ 30 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคมที่ผ่านมา เลยอยากแชร์ประสบการณ์ที่เจอค่ะ
จุดประสงค์ของการแชร์ครั้งนี้คืออยากให้คนที่มีแผนว่าจะไปเที่ยวรัสเซียเห็นภาพคร่าวๆ ว่า ที่เที่ยวแต่ละที่เป็นอย่างไร อาหารการกิน ความปลอดภัยไหม เดินทางสะดวกไหม ค่าใช้จ่ายสูงหรือเปล่า ฯลฯ
หวังว่าข้อมูลของเราน่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่มีแผนจะไปเที่ยวรัสฌซียไม่มากก็น้อยค่ะ ถ้ามีอะไรผิดพลาด ไม่ถูกต้อง กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า ณ ที่นี้เลยค่ะ ถ้าเจอข้อมูลตรงไหนไม่ถูกต้อง ท้วงติงได้เลยนะคะ จะได้แก้ไขค่ะ
ขออนุญาติเริ่มเลยนะคะ
Visa และการเตรียมตัว
1. เรื่อง Visa นี่น่าจะพอทราบกันอยู่แล้วนะคะว่าคนไทยสามารถเดินทางเข้ารัสเซียได้โดยไม่ต้องมี Visa แต่อยู่ได้ไม่เกิน 30 วันนะคะ
2. รีวิวที่เราอ่านบางอันจะบอกว่าจนท.ตม.บางคนจะไม่รุ้ว่าคนไทยเข้ารัสเซียได้โดยไม่ต้องมี Visa เลยโดนถามหรือส่งเข้าห้องเย็น รีวิวบางอันก็บอกว่าจนท.ที่เจอทราบข้อมูลนี้เลยผ่านฉลุย ของเราจนท.ถามแค่ว่ามาเที่ยวเหรอ จากนั้นก็อนุญาติให้เราเข้าประเทศค่ะ
3. เราไม่เจอเหตุการณ์ในข้อ 2 นะคะ เดาว่าจนท.น่าจะมีการ update ข้อมูลกันแล้วค่ะ
4. ที่นี่ไม่ต้องกรอกใบตม. หลังจากอนุมัติให้เข้าประเทศได้เราจะได้กระดาษเล็กมาใบนึง อย่าทำหายนะคะ ต้องคืนให้จนท.ตอนขาออก
5. ทางที่ดีพอถึงรร.ไปยืมแม็กมาเย็บติดเล่มไว้เลยค่ะ
6. เอกสารที่ได้มาจากจนท.ตม. หน้าตาเป็นแบบรูปข้างล่างนี้ค่ะ เพิ่มเติมคือเราจะได้ชื่อและนามสกุลเป็นภาษารัสเซีย
7. ทางการรัสเซียกำหนดให้เราต้องแจ้งจนท.ท้องถิ่นนั้นๆ ว่าเราเข้าพักที่ไหน ถ้าเป็นรร. ทางรร.จะจัดการเรื่องนี้ให้เรา ส่วนถ้าใครพักแบบ Homestay เช่น ที่พักใน Airbnb อาจจะยุ่งยากนิดนึงค่ะ เพราะเจ้าของที่พักบางเจ้าไม่รู้กฏนี้
8. เรื่องการลงทะเบียนนี่จริงๆ เป็นหน้าที่ของเจ้าของที่พักนะคะ แต่เราอาจจะต้องแจ้งเขาอีกทีเผื่อเขาลืมหรือไม่รู้ว่าต้องทำ อย่าลืมขอสำเนาเขาไว้ชุดนึงก็ดีค่ะ
9. หน้าตาของเอกสารเป็นแบบด้านล่างนี้ค่ะ เห็นบอกว่าต้องยื่นให้จนท.ตม.ตอนออกจากประเทศ
10. บางรร.จะเก็บค่าลงทะเบียนด้วยค่ะ รร.แรกที่ Moscow ทำฟรี ส่วนรร.ที่ St. Petersburg รร.คิดค่าลงทะเบียน 500 rub ค่ะ
11. เรื่อง Visa และการลงทะเบียนเข้าพักมีเพียงเท่านี้ค่ะ เรื่องต่อไปคือเรื่องเสื้อผ้าค่ะ
12. เราไปเที่ยวตอนต้นเดือนธ.ค. (30 พ.ย.-10 ธ.ค.) ซึ่งตรงกับหน้าหนาวพอดี ดังนั้นเรื่องเสื้อหนาวต้องจัดเต็มค่ะ
13. อย่างที่ Moscow อุณหภูมิจะอยู่ที่ -8 ถึง -2 C แต่พอบวกเรื่องลมเข้าไปด้วยอุณหภูมิจะต่ำลงไปอีกค่ะ วันแรกที่มาถึงอุณหภูมิอยู่ที่ -8 C แต่จะรู้สึกเหมือน -18 C ค่ะ (ดูข้อมูลจากมือถือนะคะ) ชาไปทั้งหน้าเลยค่ะ วันอื่นๆ นี่ก็ไม่เบาค่ะ Feel like -16 ถึง -10 C เองค่ะ
14. ถุงมือกันหนาว หมวกกันหนาว เป็นของที่ต้องมีเลยค่ะ ถ้ายิ่งได้หมวกที่มีที่ปิดหูด้วยนี่ยิ่งดีเลยค่ะ หมวกไหมพรมธรรมดาๆ บางๆ เอาไม่อยู่นะคะ ต้องหนานิดนึงค่ะ
15. รองเท้าก็สำคัญค่ะ ถ้าเป็นรองเท้ากันหนาว กันลื่น และกันน้ำด้วยก็จะดีมากค่ะ
16. ถ้าเป็นรองเท้าใหม่เอี่ยม ลองใส่ดูให้แน่ใจก่อนนะค่ะว่ามันจะไม่กัด แฟนเราใช้รองเท้าที่เพิ่งซื้อ กันทุกอย่างยกเว้นกันรองเท้ากัด และดันลืมเอาไปใส่ให้มันนิ่มก่อนที่ไทย เลยโดนรองเท้ากัดเละเลยค่ะ
17. ถ้าใส่รองเท้าข้อสูง ถุงเท้าก็ควรจะเป็นแบบข้อสูงจะได้ช่วยลดการเสียดสีค่ะ เราดันลืมนึกถึงตรงนี้ไป มีแต่ถุงเท้าข้อสั้นๆ เลยต้องซื้อเพิ่มที่นี่
18. รัสเซียขึ้นชื่อเรื่องล้วงกระเป๋าเหมือนอิตาลีและฝรั่งเศส ดังนั้นกระเป๋าหน้าท้องและกระเป๋าตังแบบมีเชือกนี่เป็นของจำเป็นค่ะ
19. กระเป๋าหน้าท้องเราเคยใช้ของ Samsonite บางๆ นิ่มๆ ใส่สบายค่ะ แต่ข้อเสียคือสายรัดเป็นสายยืดๆ พอใช้ไปๆ สักทริป 2 ทริปสายมันจะย้วยค่ะ
20. อันใหม่ใช้ของ pacsafe ใส่สบายเช่นกันค่ะ และสายไม่ย้วย
21. ส่วนกระเป๋าตังมี 2 อันเช่นกัน ของเก่าใช้ Ripcurl ซึ่งดู Hip hop หน่อยๆ ส่วนอันใหม่ใช้ของ pacsafe ดูเรียบๆ ทั้ง 2 ใช้ดีเหมือนๆ กันค่ะ
22. Feature เพิ่มเติมของกระเป๋าหน้าท้องและกระเป๋าตังของ pacsafe คือทั้ง 2 ใบป้องกันสัญญาณ RFID ด้วยค่ะ ตามที่เราเข้าใจนะคะ คือถ้าบัตรเราเป็นแบบบัตรที่มี RFID ถ้าใครมีเครื่องอ่านสัญญาณก็สามารถดึงข้อมูลบัตรเราไปได้ค่ะ ส่วนบัตรที่ไม่มีเราไม่รู้ว่าเขาจะเอาข้อมูลบัตรเราด้วยวิธีนี้ได้หรือเปล่านะคะ แต่เราปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่านะคะ
23. อันที่อยากได้เพิ่มแต่ยังหาซื้อไม่ได้คือสายคล้องมือถือ pacsafe เองจริงๆ ก็มีขายแต่ราคารุนแรงเหลือเกิน ดูใน Amazon อันนึงไม่กี่ร้อยเอง รวมค่าส่งแล้วยังถูกกว่าด้วย
24. ถ้าต้องนั่งรถไฟข้ามเมืองโซ่คล้องกระเป๋าเดินทางก็จำเป็นเช่นกันค่ะ ของเก่าเราใช้แบบโซ่คล้องจักรยาน ดูทน ถึก สลิงเส้นใหญ่ แข็งแรง แต่ข้อเสียคือหนัก แข็ง ใช้งานได้ดีแต่ต้องออกแรงนิดนึงค่ะ มีกุญแจแบบไขในตัว
25. ส่วนสายของ pacsafe ใช้งานง่ายกว่า สะดวกกว่า เบากว่า พกง่าย ใช้ลีอคเป้ก็ได้ มีกุญแจแบบรหัส 4 หลักในตัว ไม่ต้องพกกุญแจเหมือนอันเก่า แต่ดูบอบบางกว่า อันนี้ไม่แน่ใจว่าอันไหนดีกว่ากันนะคะ เพราะไม่เคยลองงัดอันนี้
26. เรื่องภาษาไม่ใช่อุปสรรคค่ะ ป้ายบอกทาง เมนูอาหารร้านดังๆ ส่วนใหญ่มีภาษาอังกฤษตัวเล็กเขียนแนบไว้ พนง.ในร้านก็พอจะพูดภาษาอังกฤษได้ บางคนอาจจะพูดไม่คล่องนัก แต่สื่อสารเข้าใจค่ะ
27. อารมณ์เหมือนเราพูดภาษาอังกฤษแบบกระท่อนกระแท่นอ่ะค่ะ
28. ถ้าเจอพนง.ที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ สามารถใช้ภาษามือได้ค่ะ (เหมือนเล่นใบ้คำโดยห้ามออกเสียงตอนเด็ก) เพราะเขาก็จะใช้ภาษามือกับเราเหมือนกันค่ะ ทักษะการใช้ “Verb to เดา” ที่เคยใช้ตอนสอบภาษาอังกฤษสมัยเด็กๆ จะกลับมามีประโยชน์อีกครั้งนึงค่ะ
29. อย่าลืมพกครีมทาหน้าทาตัวมาด้วยนะคะ เอาแบบที่มีเนื้อครีมข้นๆ จะดีมาก (ทาแล้วอยู่ได้นาน) ทาครีมเช้าเย็นผิวจะได้ไม่แห้งหรือแตกค่ะ
30. เรื่องเนตให้มาซื้อ Sim ที่นี่จะถูกกว่าซื้อจากไทยค่ะ เราซื้อ Sim to Fly 4GB 14 หนือ 15 วันเนี่ยแหละ ราคา 799 บาท แต่ sim ที่นี่ 10GB อยู่ที่ 500 บาท (1,000 rub) ถ้าต้องการแบบ Unlimited จะอยู่ที่ 700 บาท (1,400 rub)
31. เราใช้ของยี่ห้อ MTC 10GB สามารถแชร์ Hotspot ได้ 10 GB นี่เหลือๆ ค่ะ แฟนใช้ไปแค่ 3 GB ส่วนใหญ่จะแค่หาข้อมูลร้านอาหาร ที่เที่ยว ดูแผนที่และเส้นทางใน Google Map facebook นิดหน่อย ส่วนเราก็หนักหน่อยแต่ก็ยังเหลือๆ
32. ถ้าต้องการแชร์ Hotspot ต้องซื้อแบบ 10GB อย่างเดียวค่ะ แบบอื่นแชร์ไม่ได้ค่ะ
33. ที่รัสเซียเขา block line เข้า line ตรงๆ จากมือถืที่ใส่ sim ของที่นี่ตรงๆ ไม่ได้ค่ะ แต่แฟนเรามันลองเอาอีกเครื่องนึงต่อ hotspot กับเครื่องที่ใช้ sim ที่นี่ ปรากฏว่าเล่น line ได้ตามปกติค่ะ
34. Wifi ตามรร.ก็เล่น line ได้ แต่บางครั้งจะดูรูปหรือส่งรูปไม่ได้
35. Sim ยี่ห้ออื่นเราไม่แน่ใจนะคะ
36. App ที่ควร load ไว้ในมือถือก็มี Google Translate (อย่าลืม load ภาษา Russia เก็บไว้ในเครื่องด้วยนะคะ) Map.me (อันนี้ก็อย่าลืม load แผนที่เมืองที่จะไปเที่ยวลงมือถือไว้ด้วยค่ะ) อีกอันนึงก็ Metro เป็น app ค้นหาเส้นทางรถ metro ใช้ได้ทั้ง Moscow และ St. Petersburg
37. ใช้เยอะสุดก็ Google Translate ส่วน Map.me และ Metro ไมได้ใช้แต่มีไว้อุ่นใจกว่า (เผื่อฉุกเฉินค่ะ)
38. ตอนขาออก เราแนบสำเนาใบลงทะเบียนที่พักตอนยื่น passport ให้ตม. แต่จนท.ส่งคืนเรามา ดูเหมือนว่าจะไม่ต้องใช้ยื่นตอนขาออกนะคะ
หมายเหตุ เราไม่ได้ได้ sponsor จาก pacsafe และไม่ได้มีอคติอะไรกับ Samsonite นะคะ แค่ใช้แล้วโอเคหรือไม่โอเคยังไง อันไหนตอบโจทย์เราได้ เลยมาบอกต่อแค่นั้นเองค่ะ
แบ่งปันประสบการณ์เที่ยวรัสเซีย
จุดประสงค์ของการแชร์ครั้งนี้คืออยากให้คนที่มีแผนว่าจะไปเที่ยวรัสเซียเห็นภาพคร่าวๆ ว่า ที่เที่ยวแต่ละที่เป็นอย่างไร อาหารการกิน ความปลอดภัยไหม เดินทางสะดวกไหม ค่าใช้จ่ายสูงหรือเปล่า ฯลฯ
หวังว่าข้อมูลของเราน่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่มีแผนจะไปเที่ยวรัสฌซียไม่มากก็น้อยค่ะ ถ้ามีอะไรผิดพลาด ไม่ถูกต้อง กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า ณ ที่นี้เลยค่ะ ถ้าเจอข้อมูลตรงไหนไม่ถูกต้อง ท้วงติงได้เลยนะคะ จะได้แก้ไขค่ะ
ขออนุญาติเริ่มเลยนะคะ
Visa และการเตรียมตัว
1. เรื่อง Visa นี่น่าจะพอทราบกันอยู่แล้วนะคะว่าคนไทยสามารถเดินทางเข้ารัสเซียได้โดยไม่ต้องมี Visa แต่อยู่ได้ไม่เกิน 30 วันนะคะ
2. รีวิวที่เราอ่านบางอันจะบอกว่าจนท.ตม.บางคนจะไม่รุ้ว่าคนไทยเข้ารัสเซียได้โดยไม่ต้องมี Visa เลยโดนถามหรือส่งเข้าห้องเย็น รีวิวบางอันก็บอกว่าจนท.ที่เจอทราบข้อมูลนี้เลยผ่านฉลุย ของเราจนท.ถามแค่ว่ามาเที่ยวเหรอ จากนั้นก็อนุญาติให้เราเข้าประเทศค่ะ
3. เราไม่เจอเหตุการณ์ในข้อ 2 นะคะ เดาว่าจนท.น่าจะมีการ update ข้อมูลกันแล้วค่ะ
4. ที่นี่ไม่ต้องกรอกใบตม. หลังจากอนุมัติให้เข้าประเทศได้เราจะได้กระดาษเล็กมาใบนึง อย่าทำหายนะคะ ต้องคืนให้จนท.ตอนขาออก
5. ทางที่ดีพอถึงรร.ไปยืมแม็กมาเย็บติดเล่มไว้เลยค่ะ
6. เอกสารที่ได้มาจากจนท.ตม. หน้าตาเป็นแบบรูปข้างล่างนี้ค่ะ เพิ่มเติมคือเราจะได้ชื่อและนามสกุลเป็นภาษารัสเซีย
7. ทางการรัสเซียกำหนดให้เราต้องแจ้งจนท.ท้องถิ่นนั้นๆ ว่าเราเข้าพักที่ไหน ถ้าเป็นรร. ทางรร.จะจัดการเรื่องนี้ให้เรา ส่วนถ้าใครพักแบบ Homestay เช่น ที่พักใน Airbnb อาจจะยุ่งยากนิดนึงค่ะ เพราะเจ้าของที่พักบางเจ้าไม่รู้กฏนี้
8. เรื่องการลงทะเบียนนี่จริงๆ เป็นหน้าที่ของเจ้าของที่พักนะคะ แต่เราอาจจะต้องแจ้งเขาอีกทีเผื่อเขาลืมหรือไม่รู้ว่าต้องทำ อย่าลืมขอสำเนาเขาไว้ชุดนึงก็ดีค่ะ
9. หน้าตาของเอกสารเป็นแบบด้านล่างนี้ค่ะ เห็นบอกว่าต้องยื่นให้จนท.ตม.ตอนออกจากประเทศ
10. บางรร.จะเก็บค่าลงทะเบียนด้วยค่ะ รร.แรกที่ Moscow ทำฟรี ส่วนรร.ที่ St. Petersburg รร.คิดค่าลงทะเบียน 500 rub ค่ะ
11. เรื่อง Visa และการลงทะเบียนเข้าพักมีเพียงเท่านี้ค่ะ เรื่องต่อไปคือเรื่องเสื้อผ้าค่ะ
12. เราไปเที่ยวตอนต้นเดือนธ.ค. (30 พ.ย.-10 ธ.ค.) ซึ่งตรงกับหน้าหนาวพอดี ดังนั้นเรื่องเสื้อหนาวต้องจัดเต็มค่ะ
13. อย่างที่ Moscow อุณหภูมิจะอยู่ที่ -8 ถึง -2 C แต่พอบวกเรื่องลมเข้าไปด้วยอุณหภูมิจะต่ำลงไปอีกค่ะ วันแรกที่มาถึงอุณหภูมิอยู่ที่ -8 C แต่จะรู้สึกเหมือน -18 C ค่ะ (ดูข้อมูลจากมือถือนะคะ) ชาไปทั้งหน้าเลยค่ะ วันอื่นๆ นี่ก็ไม่เบาค่ะ Feel like -16 ถึง -10 C เองค่ะ
14. ถุงมือกันหนาว หมวกกันหนาว เป็นของที่ต้องมีเลยค่ะ ถ้ายิ่งได้หมวกที่มีที่ปิดหูด้วยนี่ยิ่งดีเลยค่ะ หมวกไหมพรมธรรมดาๆ บางๆ เอาไม่อยู่นะคะ ต้องหนานิดนึงค่ะ
15. รองเท้าก็สำคัญค่ะ ถ้าเป็นรองเท้ากันหนาว กันลื่น และกันน้ำด้วยก็จะดีมากค่ะ
16. ถ้าเป็นรองเท้าใหม่เอี่ยม ลองใส่ดูให้แน่ใจก่อนนะค่ะว่ามันจะไม่กัด แฟนเราใช้รองเท้าที่เพิ่งซื้อ กันทุกอย่างยกเว้นกันรองเท้ากัด และดันลืมเอาไปใส่ให้มันนิ่มก่อนที่ไทย เลยโดนรองเท้ากัดเละเลยค่ะ
17. ถ้าใส่รองเท้าข้อสูง ถุงเท้าก็ควรจะเป็นแบบข้อสูงจะได้ช่วยลดการเสียดสีค่ะ เราดันลืมนึกถึงตรงนี้ไป มีแต่ถุงเท้าข้อสั้นๆ เลยต้องซื้อเพิ่มที่นี่
18. รัสเซียขึ้นชื่อเรื่องล้วงกระเป๋าเหมือนอิตาลีและฝรั่งเศส ดังนั้นกระเป๋าหน้าท้องและกระเป๋าตังแบบมีเชือกนี่เป็นของจำเป็นค่ะ
19. กระเป๋าหน้าท้องเราเคยใช้ของ Samsonite บางๆ นิ่มๆ ใส่สบายค่ะ แต่ข้อเสียคือสายรัดเป็นสายยืดๆ พอใช้ไปๆ สักทริป 2 ทริปสายมันจะย้วยค่ะ
20. อันใหม่ใช้ของ pacsafe ใส่สบายเช่นกันค่ะ และสายไม่ย้วย
21. ส่วนกระเป๋าตังมี 2 อันเช่นกัน ของเก่าใช้ Ripcurl ซึ่งดู Hip hop หน่อยๆ ส่วนอันใหม่ใช้ของ pacsafe ดูเรียบๆ ทั้ง 2 ใช้ดีเหมือนๆ กันค่ะ
22. Feature เพิ่มเติมของกระเป๋าหน้าท้องและกระเป๋าตังของ pacsafe คือทั้ง 2 ใบป้องกันสัญญาณ RFID ด้วยค่ะ ตามที่เราเข้าใจนะคะ คือถ้าบัตรเราเป็นแบบบัตรที่มี RFID ถ้าใครมีเครื่องอ่านสัญญาณก็สามารถดึงข้อมูลบัตรเราไปได้ค่ะ ส่วนบัตรที่ไม่มีเราไม่รู้ว่าเขาจะเอาข้อมูลบัตรเราด้วยวิธีนี้ได้หรือเปล่านะคะ แต่เราปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่านะคะ
23. อันที่อยากได้เพิ่มแต่ยังหาซื้อไม่ได้คือสายคล้องมือถือ pacsafe เองจริงๆ ก็มีขายแต่ราคารุนแรงเหลือเกิน ดูใน Amazon อันนึงไม่กี่ร้อยเอง รวมค่าส่งแล้วยังถูกกว่าด้วย
24. ถ้าต้องนั่งรถไฟข้ามเมืองโซ่คล้องกระเป๋าเดินทางก็จำเป็นเช่นกันค่ะ ของเก่าเราใช้แบบโซ่คล้องจักรยาน ดูทน ถึก สลิงเส้นใหญ่ แข็งแรง แต่ข้อเสียคือหนัก แข็ง ใช้งานได้ดีแต่ต้องออกแรงนิดนึงค่ะ มีกุญแจแบบไขในตัว
25. ส่วนสายของ pacsafe ใช้งานง่ายกว่า สะดวกกว่า เบากว่า พกง่าย ใช้ลีอคเป้ก็ได้ มีกุญแจแบบรหัส 4 หลักในตัว ไม่ต้องพกกุญแจเหมือนอันเก่า แต่ดูบอบบางกว่า อันนี้ไม่แน่ใจว่าอันไหนดีกว่ากันนะคะ เพราะไม่เคยลองงัดอันนี้
26. เรื่องภาษาไม่ใช่อุปสรรคค่ะ ป้ายบอกทาง เมนูอาหารร้านดังๆ ส่วนใหญ่มีภาษาอังกฤษตัวเล็กเขียนแนบไว้ พนง.ในร้านก็พอจะพูดภาษาอังกฤษได้ บางคนอาจจะพูดไม่คล่องนัก แต่สื่อสารเข้าใจค่ะ
27. อารมณ์เหมือนเราพูดภาษาอังกฤษแบบกระท่อนกระแท่นอ่ะค่ะ
28. ถ้าเจอพนง.ที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ สามารถใช้ภาษามือได้ค่ะ (เหมือนเล่นใบ้คำโดยห้ามออกเสียงตอนเด็ก) เพราะเขาก็จะใช้ภาษามือกับเราเหมือนกันค่ะ ทักษะการใช้ “Verb to เดา” ที่เคยใช้ตอนสอบภาษาอังกฤษสมัยเด็กๆ จะกลับมามีประโยชน์อีกครั้งนึงค่ะ
29. อย่าลืมพกครีมทาหน้าทาตัวมาด้วยนะคะ เอาแบบที่มีเนื้อครีมข้นๆ จะดีมาก (ทาแล้วอยู่ได้นาน) ทาครีมเช้าเย็นผิวจะได้ไม่แห้งหรือแตกค่ะ
30. เรื่องเนตให้มาซื้อ Sim ที่นี่จะถูกกว่าซื้อจากไทยค่ะ เราซื้อ Sim to Fly 4GB 14 หนือ 15 วันเนี่ยแหละ ราคา 799 บาท แต่ sim ที่นี่ 10GB อยู่ที่ 500 บาท (1,000 rub) ถ้าต้องการแบบ Unlimited จะอยู่ที่ 700 บาท (1,400 rub)
31. เราใช้ของยี่ห้อ MTC 10GB สามารถแชร์ Hotspot ได้ 10 GB นี่เหลือๆ ค่ะ แฟนใช้ไปแค่ 3 GB ส่วนใหญ่จะแค่หาข้อมูลร้านอาหาร ที่เที่ยว ดูแผนที่และเส้นทางใน Google Map facebook นิดหน่อย ส่วนเราก็หนักหน่อยแต่ก็ยังเหลือๆ
32. ถ้าต้องการแชร์ Hotspot ต้องซื้อแบบ 10GB อย่างเดียวค่ะ แบบอื่นแชร์ไม่ได้ค่ะ
33. ที่รัสเซียเขา block line เข้า line ตรงๆ จากมือถืที่ใส่ sim ของที่นี่ตรงๆ ไม่ได้ค่ะ แต่แฟนเรามันลองเอาอีกเครื่องนึงต่อ hotspot กับเครื่องที่ใช้ sim ที่นี่ ปรากฏว่าเล่น line ได้ตามปกติค่ะ
34. Wifi ตามรร.ก็เล่น line ได้ แต่บางครั้งจะดูรูปหรือส่งรูปไม่ได้
35. Sim ยี่ห้ออื่นเราไม่แน่ใจนะคะ
36. App ที่ควร load ไว้ในมือถือก็มี Google Translate (อย่าลืม load ภาษา Russia เก็บไว้ในเครื่องด้วยนะคะ) Map.me (อันนี้ก็อย่าลืม load แผนที่เมืองที่จะไปเที่ยวลงมือถือไว้ด้วยค่ะ) อีกอันนึงก็ Metro เป็น app ค้นหาเส้นทางรถ metro ใช้ได้ทั้ง Moscow และ St. Petersburg
37. ใช้เยอะสุดก็ Google Translate ส่วน Map.me และ Metro ไมได้ใช้แต่มีไว้อุ่นใจกว่า (เผื่อฉุกเฉินค่ะ)
38. ตอนขาออก เราแนบสำเนาใบลงทะเบียนที่พักตอนยื่น passport ให้ตม. แต่จนท.ส่งคืนเรามา ดูเหมือนว่าจะไม่ต้องใช้ยื่นตอนขาออกนะคะ
หมายเหตุ เราไม่ได้ได้ sponsor จาก pacsafe และไม่ได้มีอคติอะไรกับ Samsonite นะคะ แค่ใช้แล้วโอเคหรือไม่โอเคยังไง อันไหนตอบโจทย์เราได้ เลยมาบอกต่อแค่นั้นเองค่ะ