ความเหลื่อมล้ำ การใช้จ่ายภาครัฐเพื่อสนองความตองการของผู้นำ
การพยายามบีบ(ขึ้นภาษีดีเซล)ให้คนเปลี่ยนเพื่อสร้างภาพลักษณ์(ลดโลกร้อนด้วยการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถ ev)
การลดภาษีให้กับบรรดาบ.เพื่อ(หวังว่า)จะเกิดการจ้างงาน
(ทางพี่กันก็หวังแบบนี้ แต่สุดท้ายกำไรบ. แต่เลือกจะเอากำไรที่เพิ่มไปซื้อหุ้นคืนด้วย ก็ไม่ผิดเป็นไปตามหลักเพื่อประโยชน์สูงสุดของผถห.
ก็ไม่รู้ระหว่างซื้อหุ้นคืน กับ เพิ่มค่าจ้าง เพิ่มการจ้างงาน อันไหนมากกว่ากัน แต่ที่แน่ๆตอนนี้ด้วยการมาของโรบอท ai ก็เห็นปลดคนงานกันอยู่นะ)

ผนวกกับโลกโซเชียลที่ทำให้คนมีพื้นที่ในการแสดงความคิดต่อสาธารณะนำไปสู่การรวมกันก่อหวอดง่ายขึ้น และลุกลามไปอย่างรวดเร็ว

ปัญหาความเหลื่อมล้ำจะเป็นปัญหาหลักพร้อมจะเกิดเมื่อคนส่วนใหญ่รู้สึกถูกเอาเปรียบมากไป

จริงๆปัญหา inequality ได้รับการพูดถึงมาตั้งแต่ตอนป้าเยลเลนยังเป็นประธานเฟดแล้ว
แต่ก็นะ แค่พูดถึงยังหาทางแก้ไม่ได้ต่อไป

https://www.nytimes.com/2014/10/18/business/yellen-warns-of-inequality-threat.html
อันนี้ตอนยังดำรงตำแหน่ง

https://www.bloomberg.com/news/articles/2018-11-06/yellen-says-fight-against-inequality-starts-with-full-employment
อันนี้ที่พูดล่าสุด