อย่างที่ทราบกันระบบของโค้ชรายาวัชคือ รับแน่น สวนกลับเร็ว ไม่เสียประตูไว้ก่อน
ได้ประตูก็ขึ้นอยู่กับการสวนกลับมีประสิทธิภาพเพียงใด

นัดแรกเจอติมอร์คู่แข่งยังไม่ทราบว่าไทยเล่นแบบใดประกอบกับนักเตะติมอร์ยังประสบการณ์น้อยผลทำให้ สรรวัชมีพื้นที่การเล่นเยอะ การสวนกลับเลยมีประสิทธิภาพสูง เข้าทางระบบสุดๆ ผลคือติมอร์ยับ

นัดอื่นๆขอข้ามไปก่อนเนื่องจากมันจะยาวไปขอเอ่ยเฉพาะบางนัดครับ

พอมานัดฟิลิปปินส์ สรรวัชเล่นไม่ออก ผลคือไทยบุกไม่ขึ้น ครึ่งหลังไทยแก้เกมส์โดยให้สรรวัชลงต่ำมายืนใกล้กองหลัง แต่ก็ไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น ถ้าสังเกตพอสรรวัชลงต่ำหน้าตาค่อนข้างเครียด เหมือนไม่มีความสุขกับการเล่น ผลคือการเปิดคิลเลอร์พาสด้อยประสิทธิภาพลงชัดเจน

นัดกับมาเลย์โค้ชราเยวัชพยายามแก้เกมส์เมื่อสรรวัชเล่นไม่ออกคือการให้ธนบูรณ์เป็นคนเปิดคิลเลอร์พาสแทน แต่ด้วยฟอร์มของธนบูรณ์ตอนนี้ที่ดรอปลงไปมากทำให้ เกมส์รับไทยปวกเปียกเข้าไปอีก

ซึ่งตามแนวทางรับแน่นไว้ก่อนของโค้ช ธนบูรณ์จึงต้องถูกถอดออกในแมตท์สุดท้ายเพื่ออุดรูรั่วตรงนั้น กลายเป็นไทยฝากความหวังไว้กับสรรวัชแล้วลูกเซ็ทเพลย์เท่านั้น เมื่อสรรวัชเริ่มถอยลงมาเรื่อยๆการวิ่งพล่านของเขาแทนที่จะทำให้เกมส์ดีขี้นกลับทำให้ระบบมันเริ่มรน ประกอบกับการเหนื่อยอ่อน อารมณ์เสียที่เล่นไม่ได้ดั่งใจ ผลคือไทยทำเกมส์ไม่ได้

ความหวังสุดท้ายคือลูก set play ซึ่งในทัวนาเม้นท์นี้ถือว่าไทยทำได้ดีมาก ก็ได้ผลอยู่ครับ

สรุป
จะเห็นได้ว่า ระบบการเล่นของโค้ชราเยวัชพึ่งพาสรรวัชมากเกินไป ซึ่งเมื่อไหร่ที่นักเตะฟอร์มดรอปลงหรือโดนประกบติดมากๆจะทำให้การทำประตูของไทยจะได้ประตูกับลูกเซ็ทพีชมากกว่าโอเพ่นเพลย์