เรียนทุกท่าน
รบกวนขอผู้รู้ช่วยชี้แนะ รีไฟแนนซ์บ้านขอวงเงินเพิ่ม สัญญารวมเป็นฉบับเดียว กลายเป็นบ้านแลกเงินเฉยเลยค่ะ
ดิฉันกับสามีทำงานบริษัทแห่งหนึ่ง ง่าย ๆ คือ มนุษย์เงินเดือนค่ะ
3 ปีที่แล้ว ดิฉันซื้อบ้านเป็นบ้านร้าง 6 ปี สภาพมีไม่สามารถอยู่อาศัยได้ เนื่องจาก ไม้หน้าต่าง ม ประตู + ฝ้า ปลวกแทะหมด
ประจกแตกบ้าง มัวบ้าง ราคาซื้อ 1.2 ล้าน ผ่อนธนาคาร TMB
เนื่องจากตอนซื้อไม่มีความรู้เรื่องซื้อบ้านเพราะซื้อครั้งแรก จึงยื่นกู้แค่มูลค่าที่ธนาคารประกาศขาย โดยชือสามียื่นกู้คนเดียว
ดิฉันใช้เงินซ่อมบ้านไปเกือบ 7 แสนบาท โดยยืมเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล + เอารถกะบะเข้าไฟแนนซ์ + โบนัสปลายปี
หลังจากนั้น ซื้อบ้านมือ 2 ให้แม่ทำเป็นร้านเสริมสวยอีก 1 หลัง มูลค่า 1.1 ล้านบาท สามียื่นกู้คนเดียว ผ่อน TMB (แม่ผ่อนเองโอนเงินเข้าบัญชีสามี)
ต้นปีนี้ ดิฉันจึงคิดอยากรีไฟแนนซ์บ้านหลังแรก เนื่องจากผ่อนหลายทาง สภาพคล่องทางการเงินเริ่มตึงแล้ว
ดิฉันได้นำเอกสารเข้าติดต่อเกือบทุกธนาคาร แต่ติดตรงชื่อสามีคนเดียว เอกสารโชว์รายรับ น้อยกว่ารายจ่าย จึงไม่ผ่านเกณฑ์ของธนาคาร
สิ่งที่ดิฉันพยายามอธิบายให้ทุกแบงค์เข้าใจคือ อยากประเมินบ้านใหม่เพื่อรีไฟแนนซ์ ต้องการเอาส่วนต่างไปเคลียหนี้จุดอื่น
มั่นใจว่าบ้านตัวเองประเมินได้ประมาณ 2 ล้าน แต่ติดตรงรายรับไม่เหมาะสม หรือไม่มีความสามารถในการผ่อนชำระนั่นเอง
สรุปง่าย ๆ คือ ไม่ผ่านเกณฑ์เบื้องต้นของแต่ละธนาคาร
จนช่วงเดือนพฤษภาคม พี่เจ้าหน้าที่แบงค์นึงที่ไปติดต่อบอกว่ามีเพื่อนทำที่ธนาคารไทยเครดิต เดี๋ยวลองให้ติดต่อดู
เจ้าหน้าที่คนนั้นก็ติดต่อมาหาดิฉัน ซึ่งไม่ใช่สาขาไกล้เคียงกับที่ดิฉันอาศัยอยู่ มีคุยรายละเอียดกันเบื้องต้นพร้อมนำส่งเอกสาร
สรุปได้รับการติดต่อกลับมาว่า สามารถกู้ได้ แต่เนื่องจากหนี้ที่มีอยู่รวมกับมูลค่าบ้านกับแบงค์เดิม มันเกินจากราคาประเมิน
จึงให้ดิฉันเอาบ้านหลังที่ 2 เข้ามารีไฟแนนซ์ด้วย ซึ่งดิฉันก็ตกลง
หลังจากประเมินบ้านเรียบร้อยแล้ว สรุปได้ตามด้านล่างค่ะ
ยอดก่อนรีไฟแนนซ์ ราคาประเมิน มูลค่าอนุมัติ 75% (ไทยเครดิต)
บ้าน 1 1,225,141.69 1,920,000 1,440,000
บ้าน 2 1,111,736.66 2,000,000 1,500,000
ขอเพิ่ม 210,000
รวมทั้งสิ้นวงเงินอนุมัติ 3,150,000
สิ่งที่เจ้าหน้าที่แจ้งดิฉันก่อนทำสัญญาคือ ยอดที่อนุมัติ 3,150,000 บาท ดอกเบี้ย 7.45%
ผ่อนชำระเดือนละ 27,300 บาท นัดโอนกันวันที่ 30 สิงหาคม 2561
โดยวันโอน ธนาคารได้หักในส่วนประกันชีวิต + ค่าดำเนินการที่กรมที่ดินอีกรวมแล้วเกือบ 1 แสนบาท
พร้อมทำสัญญากู้เงินรวม 2 โฉนด เป็น 1 ฉบับ และสัญญาจำนองที่ดิน (ท.ด.15) เพียง 1 ฉบับ
ในตอนนั้นคือทำใจว่าดอกเบี้ย 7.45 % คือแพงมาก แต่จะอดทน รอ 3 ปี ค่อยรีไปแบงค์อื่น ถ้าไม่รีตอนนั้น คือต้องส่งช้า
เกรงจะมีผลกระทบกับบูโร สำหรับการทำธุรกรรมในอนาคต
หลังจากนั้น จนวันที่ 3 ธันวาที่ผ่านมา ดิฉันจึงเข้าเว็บของธนาคารไทยเครดิต เห็นหน้าเว็บแจ้งว่ารีไฟแนนซ์บ้านของธนาคารดอกเบี้ย 3.90%
จึงเกิดคำถามว่าทำไมดอกเราผ่อนมากกว่า เลยเอาสัญญามานั่งอ่านโดยละเอียด และเปรียบเทียบกับสัญญาเดิมก่อนรีไฟแนนซ์
จึงพบว่า วัตถุประสงค์ในการกู้ยืมเงินเปลี่ยนไป
สัญญาเดิม ระบุ เงินกู้ระยะยาว เพื่อที่อยู่อาศัย
สัญญาใหม่ ระบุ เงินกู้ สำหรับการอุปโภค บริโภค ที่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน หรือ สินเชื่อบ้านแลกเงินนั่นเอง
ดิฉันได้เข้าปรึกษาเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยเครดิตสาขาไกล้บ้านทันที สอบถามว่ามันคือนโนบายของธนาคารเหรอ ทำไมถึงเป็นแบบนี้
จากที่ดิฉันเข้าใจ สินเชื่อบ้านแลกเงินคือบ้านที่ปลอดภาระ ไม่ใช่บ้านที่กำลังผ่อนอยู่แบบนี้
หากต้องการให้สัญญากลับไปเป็นรีไฟแนนซ์ ดิฉันต้องทำอย่างไร จึงได้รับการอธิบายจากเจ้าหน้าที่ว่า
หากดิฉันเข้าไปติดต่อกับสาขาไกล้บ้านนั้น เขาก็จะแยกสัญญาเป็น 2 ฉบับ คือสัญญารีไฟแนนซ์บ้าน ดอกเบี้ย 3.99% ยอดตามเกณฑ์ที่ธนาคารอนุมัติ
ส่วนต่างก็จะทำเป็นสัญญาบ้านแลกเงินอีก 1 ฉบับ คิดดอกเบี้ย 7.45 %
แต่ในส่วนของดิฉันได้เซ็นต์สัญญาเป็นบ้านแลกเงิน รวมเป็นฉบับเดียวแล้ว ไม่สามารถกลับไปแก้ไขให้เป็นรีไฟแนนซ์ได้แล้ว
และบอกให้ดิฉันลองติดต่อเจ้าหน้าที่คนเดิมดูก่อนว่าจะมีวิธี หรือจะแก้ไขให้อย่างไร
ดิฉันจึงกลับมาตั้งสติ ส่งไลน์แนบสัญญาหาเจ้าหน้าที่คนเดิม สิ่งที่ได้รับการตอบกลับมาคือ
1. สัญญาไม่สามารถกลับไปเป็นรีไฟแนนซ์ได้อีก เพราะได้เซ็นต์กันเรียบร้อยแล้ว ดิฉันตอบเขาว่า
ดิฉันไม่ทราบว่าคุณเปลี่ยนเนื้อหาในสัญญาเป็นบ้านแลกเงิน
2. ตอนทำเรื่องรีไฟแนนซ์ สัญญาเป็นรีไฟแนนซ์ไม่ได้ เพราะภาระของดิฉันเยอะเกินไป ดิฉันตอบกลับเขาว่าทรัพย์ของดิฉัน
เกณฑ์ 75% ของธนาคาร 2.9 ล้านมันควรเป็นรีไฟแนนซ์ ส่วนต่างตรงนั้นถึงจะเป็นบ้านแลกเงินไม่ใช่เหรอ อันนี้ไม่เกี่ยวกับภาระแล้ว
แต่คิดตามราคาประเมินทรัพย์สินแทน แต่คุณปรับสัญญาเป็นบ้านแลกเงินทั้งหมดนะ
3. เจ้าหน้าที่แจ้งว่า มีวิธีเดียวคือ เขาจะช่วยรีไปแบงค์อื่นให้ ดิฉันจะได้ดอกเบี้ยถูกลง ดิฉันตอบกลับว่า ต้องการเปลี่ยนสัญญากลับไปเป็นรีไฟแนนซ์เท่านั้น เพราะให้รีไปที่อื่นมันก็จะเป็นสัญญาบ้านแลกเงินอยู่ดี
4. เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเดี๋ยวขอปรึกษาฝ่ายเอกสารก่อน จะติดต่อกลับ แล้วก็เงียบไปเลย ( คุยกัน 12.00 น. วันที่ 07 ธันวาคม 61 )
สัญญารีไฟแนนซ์ ดอกเบี้ยประมาณ 2 - 4 % ต่อปี
สัญญาบ้านแลกเงิน ดอกเบี้ยประมาณ 4 - 8 % ต่อปี
โดยสรุปคือ ดอกเบี้ยสัญญาบ้านแลกเงิน ที่ถูกที่สุด เท่ากับ ดอกเบี้ยสัญญารีไฟแนนซ์ ที่แพงที่สุด
ตอนนี้ดิฉันตั้งใจว่าทำทุกทาง เพื่อให้สัญญากับมาเป็นรีไฟแนนซ์เหมือนเดิม เพราะดอกแพงกว่ากันเป็นหลักล้านเลย
หากท่านใดกำลังจะรีไฟแนนซ์บ้าน รบกวนอ่านสัญญาดีดี นะคะ จะได้ไม่เจอเหมือนกับดิฉัน
ยอมรับว่าเกิดจากความไม่รู้ และรู้เท่าไม่ถึงการณ์จริง ๆ ค่ะ ไม่คิดว่าจะหากินกับความเดือดร้อนของเรา
หากใครพอจะมีวิธีแนะนำรบกวนแจ้งทีค่ะ ตอนนี้ดิฉันก็ตั้งหน้าตั้งตารอการตอบกลับจากเจ้าหน้าที่คนนั้นอยู่ค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำของทุกท่านนะคะ
รีไฟแนนซ์บ้าน แบงค์เก่าไปแบงค์ใหม่ และอยากได้ส่วนต่างไปเคลียหนี้ สัญญาแบงค์ใหม่กลายเป็นบ้านแลกเงิน ทำงัยดีคะ
รบกวนขอผู้รู้ช่วยชี้แนะ รีไฟแนนซ์บ้านขอวงเงินเพิ่ม สัญญารวมเป็นฉบับเดียว กลายเป็นบ้านแลกเงินเฉยเลยค่ะ
ดิฉันกับสามีทำงานบริษัทแห่งหนึ่ง ง่าย ๆ คือ มนุษย์เงินเดือนค่ะ
3 ปีที่แล้ว ดิฉันซื้อบ้านเป็นบ้านร้าง 6 ปี สภาพมีไม่สามารถอยู่อาศัยได้ เนื่องจาก ไม้หน้าต่าง ม ประตู + ฝ้า ปลวกแทะหมด
ประจกแตกบ้าง มัวบ้าง ราคาซื้อ 1.2 ล้าน ผ่อนธนาคาร TMB
เนื่องจากตอนซื้อไม่มีความรู้เรื่องซื้อบ้านเพราะซื้อครั้งแรก จึงยื่นกู้แค่มูลค่าที่ธนาคารประกาศขาย โดยชือสามียื่นกู้คนเดียว
ดิฉันใช้เงินซ่อมบ้านไปเกือบ 7 แสนบาท โดยยืมเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล + เอารถกะบะเข้าไฟแนนซ์ + โบนัสปลายปี
หลังจากนั้น ซื้อบ้านมือ 2 ให้แม่ทำเป็นร้านเสริมสวยอีก 1 หลัง มูลค่า 1.1 ล้านบาท สามียื่นกู้คนเดียว ผ่อน TMB (แม่ผ่อนเองโอนเงินเข้าบัญชีสามี)
ต้นปีนี้ ดิฉันจึงคิดอยากรีไฟแนนซ์บ้านหลังแรก เนื่องจากผ่อนหลายทาง สภาพคล่องทางการเงินเริ่มตึงแล้ว
ดิฉันได้นำเอกสารเข้าติดต่อเกือบทุกธนาคาร แต่ติดตรงชื่อสามีคนเดียว เอกสารโชว์รายรับ น้อยกว่ารายจ่าย จึงไม่ผ่านเกณฑ์ของธนาคาร
สิ่งที่ดิฉันพยายามอธิบายให้ทุกแบงค์เข้าใจคือ อยากประเมินบ้านใหม่เพื่อรีไฟแนนซ์ ต้องการเอาส่วนต่างไปเคลียหนี้จุดอื่น
มั่นใจว่าบ้านตัวเองประเมินได้ประมาณ 2 ล้าน แต่ติดตรงรายรับไม่เหมาะสม หรือไม่มีความสามารถในการผ่อนชำระนั่นเอง
สรุปง่าย ๆ คือ ไม่ผ่านเกณฑ์เบื้องต้นของแต่ละธนาคาร
จนช่วงเดือนพฤษภาคม พี่เจ้าหน้าที่แบงค์นึงที่ไปติดต่อบอกว่ามีเพื่อนทำที่ธนาคารไทยเครดิต เดี๋ยวลองให้ติดต่อดู
เจ้าหน้าที่คนนั้นก็ติดต่อมาหาดิฉัน ซึ่งไม่ใช่สาขาไกล้เคียงกับที่ดิฉันอาศัยอยู่ มีคุยรายละเอียดกันเบื้องต้นพร้อมนำส่งเอกสาร
สรุปได้รับการติดต่อกลับมาว่า สามารถกู้ได้ แต่เนื่องจากหนี้ที่มีอยู่รวมกับมูลค่าบ้านกับแบงค์เดิม มันเกินจากราคาประเมิน
จึงให้ดิฉันเอาบ้านหลังที่ 2 เข้ามารีไฟแนนซ์ด้วย ซึ่งดิฉันก็ตกลง
หลังจากประเมินบ้านเรียบร้อยแล้ว สรุปได้ตามด้านล่างค่ะ
ยอดก่อนรีไฟแนนซ์ ราคาประเมิน มูลค่าอนุมัติ 75% (ไทยเครดิต)
บ้าน 1 1,225,141.69 1,920,000 1,440,000
บ้าน 2 1,111,736.66 2,000,000 1,500,000
ขอเพิ่ม 210,000
รวมทั้งสิ้นวงเงินอนุมัติ 3,150,000
สิ่งที่เจ้าหน้าที่แจ้งดิฉันก่อนทำสัญญาคือ ยอดที่อนุมัติ 3,150,000 บาท ดอกเบี้ย 7.45%
ผ่อนชำระเดือนละ 27,300 บาท นัดโอนกันวันที่ 30 สิงหาคม 2561
โดยวันโอน ธนาคารได้หักในส่วนประกันชีวิต + ค่าดำเนินการที่กรมที่ดินอีกรวมแล้วเกือบ 1 แสนบาท
พร้อมทำสัญญากู้เงินรวม 2 โฉนด เป็น 1 ฉบับ และสัญญาจำนองที่ดิน (ท.ด.15) เพียง 1 ฉบับ
ในตอนนั้นคือทำใจว่าดอกเบี้ย 7.45 % คือแพงมาก แต่จะอดทน รอ 3 ปี ค่อยรีไปแบงค์อื่น ถ้าไม่รีตอนนั้น คือต้องส่งช้า
เกรงจะมีผลกระทบกับบูโร สำหรับการทำธุรกรรมในอนาคต
หลังจากนั้น จนวันที่ 3 ธันวาที่ผ่านมา ดิฉันจึงเข้าเว็บของธนาคารไทยเครดิต เห็นหน้าเว็บแจ้งว่ารีไฟแนนซ์บ้านของธนาคารดอกเบี้ย 3.90%
จึงเกิดคำถามว่าทำไมดอกเราผ่อนมากกว่า เลยเอาสัญญามานั่งอ่านโดยละเอียด และเปรียบเทียบกับสัญญาเดิมก่อนรีไฟแนนซ์
จึงพบว่า วัตถุประสงค์ในการกู้ยืมเงินเปลี่ยนไป
สัญญาเดิม ระบุ เงินกู้ระยะยาว เพื่อที่อยู่อาศัย
สัญญาใหม่ ระบุ เงินกู้ สำหรับการอุปโภค บริโภค ที่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน หรือ สินเชื่อบ้านแลกเงินนั่นเอง
ดิฉันได้เข้าปรึกษาเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยเครดิตสาขาไกล้บ้านทันที สอบถามว่ามันคือนโนบายของธนาคารเหรอ ทำไมถึงเป็นแบบนี้
จากที่ดิฉันเข้าใจ สินเชื่อบ้านแลกเงินคือบ้านที่ปลอดภาระ ไม่ใช่บ้านที่กำลังผ่อนอยู่แบบนี้
หากต้องการให้สัญญากลับไปเป็นรีไฟแนนซ์ ดิฉันต้องทำอย่างไร จึงได้รับการอธิบายจากเจ้าหน้าที่ว่า
หากดิฉันเข้าไปติดต่อกับสาขาไกล้บ้านนั้น เขาก็จะแยกสัญญาเป็น 2 ฉบับ คือสัญญารีไฟแนนซ์บ้าน ดอกเบี้ย 3.99% ยอดตามเกณฑ์ที่ธนาคารอนุมัติ
ส่วนต่างก็จะทำเป็นสัญญาบ้านแลกเงินอีก 1 ฉบับ คิดดอกเบี้ย 7.45 %
แต่ในส่วนของดิฉันได้เซ็นต์สัญญาเป็นบ้านแลกเงิน รวมเป็นฉบับเดียวแล้ว ไม่สามารถกลับไปแก้ไขให้เป็นรีไฟแนนซ์ได้แล้ว
และบอกให้ดิฉันลองติดต่อเจ้าหน้าที่คนเดิมดูก่อนว่าจะมีวิธี หรือจะแก้ไขให้อย่างไร
ดิฉันจึงกลับมาตั้งสติ ส่งไลน์แนบสัญญาหาเจ้าหน้าที่คนเดิม สิ่งที่ได้รับการตอบกลับมาคือ
1. สัญญาไม่สามารถกลับไปเป็นรีไฟแนนซ์ได้อีก เพราะได้เซ็นต์กันเรียบร้อยแล้ว ดิฉันตอบเขาว่า
ดิฉันไม่ทราบว่าคุณเปลี่ยนเนื้อหาในสัญญาเป็นบ้านแลกเงิน
2. ตอนทำเรื่องรีไฟแนนซ์ สัญญาเป็นรีไฟแนนซ์ไม่ได้ เพราะภาระของดิฉันเยอะเกินไป ดิฉันตอบกลับเขาว่าทรัพย์ของดิฉัน
เกณฑ์ 75% ของธนาคาร 2.9 ล้านมันควรเป็นรีไฟแนนซ์ ส่วนต่างตรงนั้นถึงจะเป็นบ้านแลกเงินไม่ใช่เหรอ อันนี้ไม่เกี่ยวกับภาระแล้ว
แต่คิดตามราคาประเมินทรัพย์สินแทน แต่คุณปรับสัญญาเป็นบ้านแลกเงินทั้งหมดนะ
3. เจ้าหน้าที่แจ้งว่า มีวิธีเดียวคือ เขาจะช่วยรีไปแบงค์อื่นให้ ดิฉันจะได้ดอกเบี้ยถูกลง ดิฉันตอบกลับว่า ต้องการเปลี่ยนสัญญากลับไปเป็นรีไฟแนนซ์เท่านั้น เพราะให้รีไปที่อื่นมันก็จะเป็นสัญญาบ้านแลกเงินอยู่ดี
4. เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเดี๋ยวขอปรึกษาฝ่ายเอกสารก่อน จะติดต่อกลับ แล้วก็เงียบไปเลย ( คุยกัน 12.00 น. วันที่ 07 ธันวาคม 61 )
สัญญารีไฟแนนซ์ ดอกเบี้ยประมาณ 2 - 4 % ต่อปี
สัญญาบ้านแลกเงิน ดอกเบี้ยประมาณ 4 - 8 % ต่อปี
โดยสรุปคือ ดอกเบี้ยสัญญาบ้านแลกเงิน ที่ถูกที่สุด เท่ากับ ดอกเบี้ยสัญญารีไฟแนนซ์ ที่แพงที่สุด
ตอนนี้ดิฉันตั้งใจว่าทำทุกทาง เพื่อให้สัญญากับมาเป็นรีไฟแนนซ์เหมือนเดิม เพราะดอกแพงกว่ากันเป็นหลักล้านเลย
หากท่านใดกำลังจะรีไฟแนนซ์บ้าน รบกวนอ่านสัญญาดีดี นะคะ จะได้ไม่เจอเหมือนกับดิฉัน
ยอมรับว่าเกิดจากความไม่รู้ และรู้เท่าไม่ถึงการณ์จริง ๆ ค่ะ ไม่คิดว่าจะหากินกับความเดือดร้อนของเรา
หากใครพอจะมีวิธีแนะนำรบกวนแจ้งทีค่ะ ตอนนี้ดิฉันก็ตั้งหน้าตั้งตารอการตอบกลับจากเจ้าหน้าที่คนนั้นอยู่ค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำของทุกท่านนะคะ