Xiaomi Mi 8 Lite มือถือราคาต่ำหมื่นตัวนี้มันมีไรน่าสนใจและเหมาะกับใครกัน (มีภาพสวย ๆ มาฝากด้วยนะ)

[CR] Xiaomi Mi 8 Lite มือถือราคาต่ำหมื่นตัวนี้มันมีไรน่าสนใจและเหมาะกับใครกัน (มีภาพสวย ๆ มาฝากด้วยนะ)

กระทู้รีวิว

สมาร์ทโฟน Android โทรศัพท์มือถือ Xiaomi Smartphone กล้องโทรศัพท์มือถือ

ขอกราบสวัสดีชาวพันทิบทุกท่านครับผม วันนี้ผมก็จะมารีวิวสินค้าจากทาง Xiaomi ให้ได้รับชมกันครับโดยก่อนอื่นขอบอกก่อนเลยว่ากระทู้นี้ผมไปยืมคนรู้จักมาใช้งาน และ มาเขียนรีวิวให้ได้รับฟังกัน โดยสินค้าที่ผมจะนำมารีวิวให้ทุกท่านได้รับชมกันในวันนี้ก็คือเจ้า Xiaomi Mi 8 Lite นั้นเองครับเป็นมือถือราคาต่ำหมื่นอีกตัวหนึ่งในท้องตลาดที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเดี๋ยวผมจะพาทุกท่านไปชมในส่วนต่าง ๆ ของตัวเครื่องไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาและสเปคของมันกันครับ และ จากนั้นจะมาสรุปให้ทุกท่านได้ฟังกันว่าเจ้า Xiaomi Mi 8 Lite มันเหมาะสำหรับใครกันบ้าง ผมก็ขอไปเริ่มรับชมในส่วนของรูปร่างหน้าตาตัวเครื่องกันเลยครับว่ามีอะไรยัดมาให้บ้าง

มาที่ด้านหน้ากันก่อนเลยเจ้า Mi 8 Lite มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.26 นิ้ว เรียกได้ว่าเต็มตามาก ๆ เป็น Panel แบบ IPS ให้สีสันที่สดสวยงามดีนะ

และแน่นอนว่ามากับหน้าจอใหญ่เต็มตาแบบนี้ ก็คงต้องมาพร้อมกับติ่งยอดนิยมเช่นเคย โดยติ่งตรงจุดนี้ก็ไม่ได้มีมาให้รกสายตาเล่นเพราะมันเป็นจุดที่ทำการใส่ลำโพงสนทนา 1 ตัวและสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือกล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซลที่มีพิกเซลใหญ่ถึง 1.8μm เลยทีเดียวซึ่งจุดนี้หลังจากที่ผมได้ลองใช้งานบอกได้เลยว่ากล้องหน้าตัวนี้ดีมาก ๆ เป็นจุดเด่นของเจ้า Mi 8 Lite อย่างนึงเลยก็ว่าได้ภาพที่ได้ออกมารายละเอียดคมดีมาก ๆ สีที่ได้ออกมาก็ดีงามถ่ายย้อนแสงก็ชิว ๆ ยิ่งถ้าถ่ายในที่แสงน้อยนั้นทำได้ดีมาก จากอนิสงค์ของพิกเซลที่ใหญ่ถึง 1.8μm นั้นเองภาพถ่ายจากกล้องหน้าเดี๋ยวผมจะทิ้งภาพที่ได้ไว้ใต้กระทู้ให้ได้รับชมกันครับสามารถดูประกอบการตัดสินใจกันได้ เรียกได้ว่าคุ้มมากเมื่อแลกกับการที่ต้องมีติ่งมา ใครที่เน้นในเรื่องของการ Selfie กล้องหน้าตัวนี้ตอบโจทมาก ๆ เลยทีเดียวเชียว

ขอบจอด้านล่างเครื่องก็จะเหลือประมาณนี้

ด้านขวาเครื่องก็มาพร้อมกับปุ่ม Power และปุ่ม Vol up และ Vol down สังเกตุได้ว่าเจ้า Xiaomi Mi 8 Lite นั้นตัวกรอบ Frame รอบเครื่องจะใช้วัสดุเป็น Aluminium กับราคาเท่านี้แต่ใช้ Frame Aluminium ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เลยทีเดียว

ส่วนด้านซ้ายตัวเครื่องก็จะมีเพียงช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดโดยเจ้าตัวนี้รองรับ 4G ทั้งสองซิมอีกด้วยรวมถึงยังรองรับเทคโนโลยี VoLTE โดย Slot SIM นั้นจะต้องทำการเลือกว่าจะใส่แบบไหนจะเป็น Nano-SIM + Nano-SIM หรือ Nano-SIM + microSD ต้องเลือกใช้กันครับ

ด้านบนตัวเครื่องก็จะมีเพียงไมค์ตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวน และ แถบเสาอากาศ

มาที่ด้านล่างตัวเครื่องกันบ้างครับตัวนี้ผมชอบมาก ๆ เลยคือมาพร้อมกับ Port USB Type-C ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ แต่ก็ต้องแลกกับการที่โดนตัด Port 3.5 mm. ออกไปนะครับแต่ในกล่องก็มีแถม Adapter แปลง USB-C เป็น Port 3.5 mm. มาให้ไม่ต้องไปซื้อแยกแต่อย่างใด ด้านล่างก็จะมาพร้อมกับลำโพงอีก 1 ตัวและอีกฝั่งที่เห็นเจาะรูจะมีไมค์สนทนาอยู่ข้างในอีกหนึ่งตัว ไม่ได้เป็นลำโพงคู่แต่อย่างใด

ส่วนด้านหลังก็จะมาพร้อมกับกล้องสองตัว กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล โดยมากับพิกเซลขนาด 1.4μm มาพร้อมกับรูรับแสงกว้าง f/1.9 และใช้เทคโนโลยี Dual Pixel AF ทำให้โพกัสได้ดีและไวมาก ๆ ส่วนกล้องรองตัวที่สองมาพร้อมความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มากับพิกเซลขนาด 1.12μm ในเรื่องของภาพถ่ายจากกล้องหลังนั้นจากที่ผมได้ใช้มา 1 เดือนเต็มความรู้สึกคือ ธรรมดากับราคาเท่านี้กล้องไม่ได้แย่แต่ก็ไม่ได้ดีจนเป็นจุดเด่นมากนัก ถ้าถ่ายในสภาวะที่มีแสงเพียงพอภาพที่ได้ออกมานั้นดีมาก ๆ เลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นโทนสีที่ได้ความฉลาดของ Ai แต่พอเป็นสภาวะแสงที่มีแสงน้อยขอบอกได้เลยว่าภาพที่ได้ไม่ค่อยจะสู้แสงน้อยได้ดีนัก noise เยอะภาพเบลอแม้มือจะนิ่งเพียงใดก็ตามอันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวของผมที่รู้สึกกล้องธรรมดาไม่ได้ดี และ ไม่ได้แย่จนเกินไปกับระดับราคานี้ผมก็ถือว่ารับได้ ในส่วนของภาพถ่ายที่ได้นั้นผมจะทิ้งไว้ใต้บทความนี้สามารถดูเพื่อนำไปตัดสินใจกันด้วยตาตัวเองได้เลยครับ แต่โหมดกล้องลูกเล่นมีมาให้เยอะมาก ๆ เลยนะปรับได้สะใจเลยแหละมี Studio lighting แต่จะใช้โดยการถ่ายด้วย Mode Portait ก่อน และ มาทำการเลือกปรับทีหลังด้วยแอฟรูปภาพของ Mi แทนไม่ได้เป็นแบบจบหลังกล้องแบบตัวอื่น ๆ รองรับการถ่าย 4K 30 FPS

สังเกตุได้ว่าตัวเครื่องของ Mi 8 Lite วัสดุทั้งหมดนั้นจะเป็น Aluminium และ กระจกทั้งหมดซึ่งสวยงามหรูมาก ๆ งานประกอบก็ดีใครที่เน้นเรื่องวัสดุของตัวเครื่องตัวนี้ตอบโจทย์ มาก ๆ เลยทีเดียว

สำหรับ Ui กล้องก็จะประมาณนี้

มี Ai ที่ฉลาด ๆ มาให้ได้ใช้งานกันอีกด้วยนะ

อันนี้จะเป็นในส่วนของ Spec คราว ๆ ของเจ้า Mi 8 Lite ตัวรุ่นที่ผมนำมารีวิวนี้จะเป็นรุ่น Ram 4 Internal storage 64 GB สนราคาอยู่ที่ 7,990 บาท และจะมีอีกรุ่นนึงคือรุ่น Ram 6 Internal storage 128 GB นั้นเองกับราคา 9,990 บาทก็ลองตัดสินใจเลือกซื้อกันดูครับ

- SPEC ของเจ้า Mi 8 Lite อย่างละเอียด -

หน้าจอ : ขนาด 6.26 นิ้ว ความละเอียด 2280 x 1080 FHD+ 403 PPI
CPU : Snapdragon 660 AIE
GPU : Adreno 512
RAM : 4GB / 6GB
ความจุ : 64GB/128GB
กล้องหลังคู่ : 12MP + 5MP , AI Zoom
กล้องหน้า : 24MP, 3D Beauty Technology
สแกนลายนิ้วด้านหลัง
แบตเตอรี่ : 3350 mAh
รองรับระบบ 2 Sim เป็น Nano-Sim
รองรับ Quick Charge 3.0 ช่องชาร์ตเป็น USB-C
ระบบปฏิบัติการ : Android 8.1
ขนาด/น้ำหนัก : 156.4 x 75.8 x 7.5 มม. / 169 กรัม
สีที่วางจำหน่าย : Aurora Blue, Midnight Black

ภาพถ่ายที่ได้จากกล้องหลัง

ภาพที่ได้จากกล้องหน้า

กล้องหน้าเรียกได้ว่าถ้าเป็นภาพต้นฉบับ ไฟล์รายละเอียดจะคมดีมาก ๆ ผมเป็นเส้น ๆ ถ่ายที่แสงน้อยดี รายละเอียดดี ส่วนตัวชอบมากครับเป็นมือถือ Selfie ที่ดีมาก ๆ ตัวหนึ่งเลย

เรื่องของการเล่นเกม

ในเรื่องของการเล่นเกมก็เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับคนที่ชอบเล่นเกมมาก ๆ เลยทีเดียวลื่นสบายหายห่วงกับราคาเท่านี้จะ ROV หรือ PUBG ก็ปรับสุดโหมดเฟรมเรทสูงได้ลื่น ๆ สบาย ๆ เลยทีเดียวครับผมกินไก่กันไป เป็น Snap 660 ที่ไม่โดน Underclock speed ของ CPU วิ่งเต็ม ๆ เรื่องเกมถือว่า ok มาก ๆ เลยอาการทัชหน่วงผมก็ยังไม่เจอแต่อย่างใดเล่นแล้วไม่หัวร้อนแน่นอน

บทสรุปเหมาะกับใครกัน

หลังจากที่ได้ใช้งานมา 1 เดือนเต็มผมก็พอที่จะรู้ถึงข้อดีข้อเสียได้เลย ผมว่าเจ้า Mi 8 Lite เหมาะกับคนที่ชื่นชอบในเรื่องของการถ่าย Selfie จากกล้องหน้าเป็นหลัก และ เน้นในเรื่องของวัสดุงานประกอบที่ดี รวมถึงการเล่นเกมที่เล่นได้เต็มประสิทธิภาพ หน้าจอใหญ่รวมถึงคนที่ไม่ได้รำคาญติ่ง (แต่ติ่งก็ปิดได้นะจ๊ะ) แต่สำหรับคนที่เน้นไปในเรื่องของการเล่นเกมมาก ๆ สุด ๆ ไม่สนใจอย่างอื่นมากนักก็ยังคงมีตัวเลือกอื่นที่ดีกว่ารวมถึงกล้องหลังที่ผมรู้สึกว่าธรรมดาด้วย ถ้าเน้นเรื่องภาพถ่ายจากกล้องหลังนั้นผมยังมองว่ายังมีตัวเลือกอื่นที่ยังดีกว่าในระดับราคานี้ และ ยังมีเรื่องของ Port 3.5 mm. ที่โดนตัดออกไปด้วยถ้าใครซีเรียสมีหูฟังตัวโปรดอยู่และไม่ชอบใช้สายแปลงก็คงต้องมองตัวอื่น เพราะตัวนี้ถูกตัดออกไปแต่มีสายแปลงมาให้นะ ถ้าใครที่ไม่ได้ซีมากและกับเรื่องของคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นแรงขับที่ดี ถึงไม่มากแต่ก็ดีขึ้น ได้เครื่องบางลงแบตเยอะขึ้น สำหรับรีวิวนี้ผมเพียงก็มาเล่าประสบการณ์การใช้งานให้ได้รับฟังกันครับ สุดท้ายนี้ผมก็ขอเลือกมือถือให้เหมาะสมกับการใช้งานของทุกท่านได้เลยครับ ไม่มีมือถือตัวไหนดีที่สุดอยู่ที่เราใช้งานแบบไหน ตอนนี้เรียกได้ว่ามีมือถือมาให้เราได้เลือกซื้อเลือกใช้งานเยอะมาก ๆ ขอให้บทความนี้เป็นบทความที่ช่วยในการตัดสินใจของทุก ๆ ท่านละกันครับ สำหรับวันนี้ผมก็ขอกราบลาไปเพียงเท่านี้ไว้เจอกันในบทความต่อไปครับ สวัสดีครับ

แก้ไขข้อความเมื่อ