สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
จากเพื่อนคนหนึ่งใน12คน
ที่บ่าวสาวเค้านิ่งเพราะโดนBlockทุกทาง นะคะ
มันก็จริงนะ ที่เพื่อนบ่าวสาวต้อง”ดิ้นแทน” ถ้าจะให้บ่าวสาวออกมารันคิวงานเอง ก็ใช่เรื่องปะคะ
หรือจะให้เพื่อนๆยืนดูบ่าวสาวเผชิญชะตากรรมเฉยๆต่อไป โดยไม่ทำอะไรหรือไงค่ะ
หรือบอกแขกว่าเลื่อนไปก่อนรอ”แม่งาน”หายดี แล้วค่อยมาแต่งใหม่ ผู้อ่านว่าดีไหมล่ะค่ะ
การที่เพื่อนๆมาช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากับเหตุการณ์ตรงนั้น ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทำได้นะ ถ้าจะโดนเรียกชัดๆไปเลยว่า””เพื่อนๆก็คงยินดีรับค่ะ เพราะอยากให้งานเพื่อนเราดำเนินไปอย่างราบรื่นที่สุด
วันงาน เจ้าบ่าวเจ้าสาว เรายอมรับเก่งมาก เก็บอาการสุดๆ ยังคงยิ้มมมมให้กับทุกคนในงาน
ใช่! มันควรเป็นอย่างนั้น
มีสามคู่ใน12คน ที่เพิ่งแต่งงานไปหมาดๆ รู้ดีว่างานแต่งงาน มันสำคัญมากกกกขนาดไหน อะไรที่มันพัง มันซ่อมใหม่ไม่ได้ค่ะ คำว่า”พลาด”จึงควรเกิดขึ้นน้อยที่สุด ยิ่งกับการยอมจ่ายเงินให้กับคนที่เรียกตัวเองว่ามืออาชีพนั้น
1.เพื่อซื้อความสะดวกสบาย เพื่อที่ญาติๆเพื่อนๆจะได้ไม่ต้องมาเหนื่อยทำอะไร
2.ซื้อความมั่นใจ มั่นใจในคำว่า”มืออาชีพ”ที่ย้ำจนเออๆเชื่อก็ได้ว่ะ
3.ซื้อความหวัง หวังว่างานมันจะออกมาดีเหมือนปากเค้าว่า เหมือนที่บ่าวสาววาดฝันไว้
แล้วมันใช่ไหมล่ะคะ
”มืออาชีพ” ไปไหนคะ อ่อ ป่วยจ้ะป่วย
เด็กๆที่ส่งมา ถามอะไรก็ไม่รู้สักอย่าง ทำหน้างงๆ ใส่ ถามเจ้าสาวเยอะๆก็ไม่ได้นะ คือนางก็ไม่รู้ไง เพราะยกหน้าที่ให้แม่งานหมดแล้ว วันนั้นบ่าวสาวต้องนั่งสวยๆหล่อๆเท่านั้น ถูกไหมค่ะ
พวกเราเลยคิดว่าไม่ถามแล้ว ตกลงกันเองกำหนดจุดกันเอง
วิ่งกันไปมากว่าจะเริ่มขบวนขันหมาก
ฝั่งผญ เพื่อนๆถอดสร้อยมากั้นประตูกัน ขบวนขันหมากจะถึงเราอยู่แล้ว น้องผญคนนึง เพิ่งวิ่งเอาพวงมาลัยที่กั้นประตูมาให้
เสร็จจากแห่ขันหมาก
“น้องค่ะ ขั้นตอนต่อไปอะไร” เงียบใส่
ถามหาพานที่จะใช้วางของรับไหว้ส่งให้ผู้ใหญ่ก็ไม่มีค่ะ ส่ายหัวใส่ เพื่อนๆผู้ชายต้องวิ่งหาเองตั้งหลายรอบ ได้ขันโตกไม้มา อ่ะๆใช้ไปก่อน มันหนักดีนะ555 มองให้มันเป็นขำๆไป
แต่บ่าวสาวคงขำไม่ออกไง แต่ต้องยิ้มไป
เราเห็นน้องผู้หญิงกำลังเรียงแก้วแชมเปญแล้วจะล้ม บอกน้องเค้าว่าน้องค่ะไม่ต้องแล้วค่ะ เดี๋ยวเพื่อนพี่มาทำ
ที่เพื่อนบ่าวสาวยั้วเยี้ยะ นั่นเพราะเค้าช่วยกัน แบ่งหน้าที่กัน บางคนช่วยมากบางคนมากช่วยน้อย เพื่อให้งานมันFlow ปัญหาและรายละเอียดมันยิบย่อยมากค่ะที่ต่างคนต่างเจอ เจ้าบ่าวก็พิมพ์ไว้ละเอียดดีแล้ว
เราช่วยกันทั้งๆที่ไม่มีข้อมูลใดๆในหัว การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในช่วงเวลานั้น แล้วมันก็ผ่านไปได้ด้วยดี
จบงาน แทนที่เค้าจะรู้สึกผิด ควรขอโทษบ่าวสาวชี้แจงเหตุการณ์ว่ามันเกิดอะไร หรืออะไรก็ได้ที่แสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่นี่กลับหายยยยติดต่อไม่ได้ซะอย่างงั้น แถมยังจะมาเอาเรื่องเพื่อนบ่าวสาวที่ไปรีวิว และยังมีการไปโพสต์วิพากษ์วิจารณ์เพื่อนบ่าวสาวอีก มารยาทหรือจิตสำนึกคืออะไรคะ?? นี่เหรอค่ะมืออาชีพ???
ที่บ่าวสาวเค้านิ่งเพราะโดนBlockทุกทาง นะคะ
มันก็จริงนะ ที่เพื่อนบ่าวสาวต้อง”ดิ้นแทน” ถ้าจะให้บ่าวสาวออกมารันคิวงานเอง ก็ใช่เรื่องปะคะ
หรือจะให้เพื่อนๆยืนดูบ่าวสาวเผชิญชะตากรรมเฉยๆต่อไป โดยไม่ทำอะไรหรือไงค่ะ
หรือบอกแขกว่าเลื่อนไปก่อนรอ”แม่งาน”หายดี แล้วค่อยมาแต่งใหม่ ผู้อ่านว่าดีไหมล่ะค่ะ
การที่เพื่อนๆมาช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากับเหตุการณ์ตรงนั้น ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทำได้นะ ถ้าจะโดนเรียกชัดๆไปเลยว่า””เพื่อนๆก็คงยินดีรับค่ะ เพราะอยากให้งานเพื่อนเราดำเนินไปอย่างราบรื่นที่สุด
วันงาน เจ้าบ่าวเจ้าสาว เรายอมรับเก่งมาก เก็บอาการสุดๆ ยังคงยิ้มมมมให้กับทุกคนในงาน
ใช่! มันควรเป็นอย่างนั้น
มีสามคู่ใน12คน ที่เพิ่งแต่งงานไปหมาดๆ รู้ดีว่างานแต่งงาน มันสำคัญมากกกกขนาดไหน อะไรที่มันพัง มันซ่อมใหม่ไม่ได้ค่ะ คำว่า”พลาด”จึงควรเกิดขึ้นน้อยที่สุด ยิ่งกับการยอมจ่ายเงินให้กับคนที่เรียกตัวเองว่ามืออาชีพนั้น
1.เพื่อซื้อความสะดวกสบาย เพื่อที่ญาติๆเพื่อนๆจะได้ไม่ต้องมาเหนื่อยทำอะไร
2.ซื้อความมั่นใจ มั่นใจในคำว่า”มืออาชีพ”ที่ย้ำจนเออๆเชื่อก็ได้ว่ะ
3.ซื้อความหวัง หวังว่างานมันจะออกมาดีเหมือนปากเค้าว่า เหมือนที่บ่าวสาววาดฝันไว้
แล้วมันใช่ไหมล่ะคะ
”มืออาชีพ” ไปไหนคะ อ่อ ป่วยจ้ะป่วย
เด็กๆที่ส่งมา ถามอะไรก็ไม่รู้สักอย่าง ทำหน้างงๆ ใส่ ถามเจ้าสาวเยอะๆก็ไม่ได้นะ คือนางก็ไม่รู้ไง เพราะยกหน้าที่ให้แม่งานหมดแล้ว วันนั้นบ่าวสาวต้องนั่งสวยๆหล่อๆเท่านั้น ถูกไหมค่ะ
พวกเราเลยคิดว่าไม่ถามแล้ว ตกลงกันเองกำหนดจุดกันเอง
วิ่งกันไปมากว่าจะเริ่มขบวนขันหมาก
ฝั่งผญ เพื่อนๆถอดสร้อยมากั้นประตูกัน ขบวนขันหมากจะถึงเราอยู่แล้ว น้องผญคนนึง เพิ่งวิ่งเอาพวงมาลัยที่กั้นประตูมาให้
เสร็จจากแห่ขันหมาก
“น้องค่ะ ขั้นตอนต่อไปอะไร” เงียบใส่
ถามหาพานที่จะใช้วางของรับไหว้ส่งให้ผู้ใหญ่ก็ไม่มีค่ะ ส่ายหัวใส่ เพื่อนๆผู้ชายต้องวิ่งหาเองตั้งหลายรอบ ได้ขันโตกไม้มา อ่ะๆใช้ไปก่อน มันหนักดีนะ555 มองให้มันเป็นขำๆไป
แต่บ่าวสาวคงขำไม่ออกไง แต่ต้องยิ้มไป
เราเห็นน้องผู้หญิงกำลังเรียงแก้วแชมเปญแล้วจะล้ม บอกน้องเค้าว่าน้องค่ะไม่ต้องแล้วค่ะ เดี๋ยวเพื่อนพี่มาทำ
ที่เพื่อนบ่าวสาวยั้วเยี้ยะ นั่นเพราะเค้าช่วยกัน แบ่งหน้าที่กัน บางคนช่วยมากบางคนมากช่วยน้อย เพื่อให้งานมันFlow ปัญหาและรายละเอียดมันยิบย่อยมากค่ะที่ต่างคนต่างเจอ เจ้าบ่าวก็พิมพ์ไว้ละเอียดดีแล้ว
เราช่วยกันทั้งๆที่ไม่มีข้อมูลใดๆในหัว การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในช่วงเวลานั้น แล้วมันก็ผ่านไปได้ด้วยดี
จบงาน แทนที่เค้าจะรู้สึกผิด ควรขอโทษบ่าวสาวชี้แจงเหตุการณ์ว่ามันเกิดอะไร หรืออะไรก็ได้ที่แสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่นี่กลับหายยยยติดต่อไม่ได้ซะอย่างงั้น แถมยังจะมาเอาเรื่องเพื่อนบ่าวสาวที่ไปรีวิว และยังมีการไปโพสต์วิพากษ์วิจารณ์เพื่อนบ่าวสาวอีก มารยาทหรือจิตสำนึกคืออะไรคะ?? นี่เหรอค่ะมืออาชีพ???
ความคิดเห็นที่ 2
เปิดตัวบ่าวสาว
ตามที่คุยกันตั้งแต่แรกแล้วว่า จะเผื่อระยะห่างให้บ่าวสาวเดินเข้างานได้อย่างสะดวก สวยงาม แต่ในความเป็นจริงนั้น บ่าวสาวต้องเบียดกันเพราะโต๊ะที่จัดนั้นมีการเบียดเข้ามาในพื้นที่เป็นอย่างมาก ผมได้ถามย้ำไปในตอนแรกแล้วว่าที่จะพอมั้ยครับถ้าเอาโต๊ะวางแบบนั้นแบบนี้ คือผมก็กะไม่ถูกหรอกครับว่ามันจะพอหรือไม่พอ ออแกไนซ์บอกพอ … แต่หน้างานคือผมมองเข้าไปตรงกลางห้องที่ผมต้องเดินเข้าไป ที่ไม่พอสำหรับการเดินคู่กันไปตลอดเส้นทางแน่ๆครับ ต้องผลัดกันนำเดินเบียดกันเข้าไปอย่างช้าๆและลำบาก
ถ้าจะบอกว่าเป็นเพราะสถานที่มันทำให้การวางโต๊ะได้แค่นั้น ผมคิดว่ามันก็ต้องมีการแก้ไขปัญหาตรงนี้หรือแจ้งผมก่อนรึเปล่าครับ ว่ามันไม่ได้เป็นไปตามที่คุยกันไว้ตอนแรก เอาเถอะ ไม่มีใครมาแจ้งอะไรอยู่แล้วตั้งแต่แรกนี่นา ก็แก้ปัญหากันเองตามสถานการณ์
ณ ตอนนี้ผมก็ยังไม่เจอน้องพนักงานที่ออแกไนซ์อ้างถึงว่าจะมารันคิวให้บ่าวสาวนะครับ จะจบพิธีการอยู่ละ
โชคดีที่ความมืออาชีพยังมีอยู่จริง แต่มันมีอยู่ในตัวพิธีกร ที่เราว่าจ้างมาครับ ช่วยดำเนินการทุกอย่างให้เสร็จตามขั้นตอนอย่างถูกต้องและจบไปอย่างสวยงาม….
และอยากจะบอกอีกอย่างนึงว่าในช่วงเย็นไม่เห็นแม่งานออแกไนซ์มาดำเนินงานอย่างที่พูดไว้เลย ……
ยัง ยังไม่จบครับ …..
วันที่ 2 ธันวาคม 2561 อุตส่าห์เว้นไว้ให้พักผ่อนวันนึง
เจ้าสาวผมก็ส่งข้อความไป ถ้าหายป่วยแล้วติดต่อกลับด้วย
สิ่งทีเจอคือการบล็อคจากออแกไนซ์ทำให้เราไม่สามารถติดต่อกับออแกไนซ์ได้โดยตรง ทั้งผมและเจ้าสาว โทรไปแต่ก็ไม่รับแถมยังตัดสายทิ้งอีกต่างหาก พูดเลยว่าเสียความรู้สึกมากๆ ไม่มีการเจรจาใดๆทั้งสิ้น
ทางเราและเพื่อนจึงได้ตกลงกันว่าเราจะเข้าไปรีวิวบริการนี้ในเพจของออแกไนซ์สักหน่อยเพื่อจะได้เตือนให้คนอื่นได้รับรู้ว่าการใช้บริการกับที่นี่เป็นอย่างไร แต่ผลที่ได้รับคือ เตือนว่าจะฟ้อง ออแกไนซ์จะฟ้องเพื่อนเรา เพราะหาว่ามีการใช้อารมณ์และเกินความพอดี ….. (แต่สิ่งที่คุณทำกับเรานี่คือดีเหลือเกินนะครับ) ทางเพื่อนของเราก็ยอมลบให้เพื่อให้ทางออแกไนซ์ไม่แตกไปประเด็นอื่น เห็นเถียงแต่ละคอมเมนต์ละแบบรู้เลยว่าต้องเจอกับอะไร
ในหน้าเพจคือเราน้อมรับและแก้ไขถ้าผิดก็พร้อมที่จะขอโทษลูกค้า …. แต่แบบ
ข้อความที่ทางออแกไนซ์โพสนี้คือหลังจากบล็อคผมและเจ้าสาวไปแล้วนะครับจากนั้นกลุ่มแฟนคลับก็เข้ามาเสริมให้ฟ้องคนที่ไปรีวิว เอิ่บ... !!!
บางทีเค้าอาจจะเข้าใจฟังชั่น Review ในเฟสบุ๊คผิดไป....
ในหน้ารีวิวของเพจเค้าคือจะให้เราเข้าไปที่ร้านอย่างเดียว ทั้งๆที่มีหลายช่องทางในการติดต่อมาก facebook เราก็ไม่ได้บล็อคคุณ โทรศัพท์เราก็เปิด 24 ชั่วโมงแต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อใดๆจากออแกไนซ์เลย
อยากจะกระซิบบอกเค้าเบาๆนะครับว่า .... คนที่รีวิวน่ะ คนที่เดือดร้อนทั้งนั้น พวกเค้าเหล่านี้คือคนที่ผมให้เกียรติเชิญมาเป็นแขกพิเศษในงาน และเค้าก็ให้เกียรติผมและเจ้าสาว เดินทางมาอย่างยากลำบากเพื่อมางานแต่งของพวกเรา และมันใช่หรอครับที่พวกเขาเหล่านี้ต้องมารับผิดชอบในสิ่งที่พวกคุณออแกไนซ์ที่อ้างตัวเองว่าเป็นมืออาชีพ !!!
คอมเมนต์ในรีวิวเริ่มมาเรื่อยๆ ...
หลังจากแขกที่เดือดร้อนยอมลบรีวิวของตัวเองเพื่อให้ทางฝั่งออแกไนซ์เข้าประเด็นมากที่สุด ....
แต่ดูสิครับ เข้าประเด็นมากเลย ขอให้เรื่องทั้งหมดจบในคอมเมนต์เลย แบบนี้ก็ได้หรอครับ ....
อ่านแล้วปี๊ดเลยล่ะครับนี่ผ่านมา 6 วันไม่มีแม้กระทั่งตัวอักษรที่ส่งมาชี้แจง ถึงตรงนี้เราขอไม่รอแล้วครับจึงขออนุญาตแจ้งเรื่องนี้ให้ผู้อื่นได้ทราบเพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่คู่บ่าวสาวที่กำลังจะใช้บริการของออแกไนซ์ต่างๆนะครับ
ตามที่คุยกันตั้งแต่แรกแล้วว่า จะเผื่อระยะห่างให้บ่าวสาวเดินเข้างานได้อย่างสะดวก สวยงาม แต่ในความเป็นจริงนั้น บ่าวสาวต้องเบียดกันเพราะโต๊ะที่จัดนั้นมีการเบียดเข้ามาในพื้นที่เป็นอย่างมาก ผมได้ถามย้ำไปในตอนแรกแล้วว่าที่จะพอมั้ยครับถ้าเอาโต๊ะวางแบบนั้นแบบนี้ คือผมก็กะไม่ถูกหรอกครับว่ามันจะพอหรือไม่พอ ออแกไนซ์บอกพอ … แต่หน้างานคือผมมองเข้าไปตรงกลางห้องที่ผมต้องเดินเข้าไป ที่ไม่พอสำหรับการเดินคู่กันไปตลอดเส้นทางแน่ๆครับ ต้องผลัดกันนำเดินเบียดกันเข้าไปอย่างช้าๆและลำบาก
ถ้าจะบอกว่าเป็นเพราะสถานที่มันทำให้การวางโต๊ะได้แค่นั้น ผมคิดว่ามันก็ต้องมีการแก้ไขปัญหาตรงนี้หรือแจ้งผมก่อนรึเปล่าครับ ว่ามันไม่ได้เป็นไปตามที่คุยกันไว้ตอนแรก เอาเถอะ ไม่มีใครมาแจ้งอะไรอยู่แล้วตั้งแต่แรกนี่นา ก็แก้ปัญหากันเองตามสถานการณ์
ณ ตอนนี้ผมก็ยังไม่เจอน้องพนักงานที่ออแกไนซ์อ้างถึงว่าจะมารันคิวให้บ่าวสาวนะครับ จะจบพิธีการอยู่ละ
โชคดีที่ความมืออาชีพยังมีอยู่จริง แต่มันมีอยู่ในตัวพิธีกร ที่เราว่าจ้างมาครับ ช่วยดำเนินการทุกอย่างให้เสร็จตามขั้นตอนอย่างถูกต้องและจบไปอย่างสวยงาม….
และอยากจะบอกอีกอย่างนึงว่าในช่วงเย็นไม่เห็นแม่งานออแกไนซ์มาดำเนินงานอย่างที่พูดไว้เลย ……
ยัง ยังไม่จบครับ …..
วันที่ 2 ธันวาคม 2561 อุตส่าห์เว้นไว้ให้พักผ่อนวันนึง
เจ้าสาวผมก็ส่งข้อความไป ถ้าหายป่วยแล้วติดต่อกลับด้วย
สิ่งทีเจอคือการบล็อคจากออแกไนซ์ทำให้เราไม่สามารถติดต่อกับออแกไนซ์ได้โดยตรง ทั้งผมและเจ้าสาว โทรไปแต่ก็ไม่รับแถมยังตัดสายทิ้งอีกต่างหาก พูดเลยว่าเสียความรู้สึกมากๆ ไม่มีการเจรจาใดๆทั้งสิ้น
ทางเราและเพื่อนจึงได้ตกลงกันว่าเราจะเข้าไปรีวิวบริการนี้ในเพจของออแกไนซ์สักหน่อยเพื่อจะได้เตือนให้คนอื่นได้รับรู้ว่าการใช้บริการกับที่นี่เป็นอย่างไร แต่ผลที่ได้รับคือ เตือนว่าจะฟ้อง ออแกไนซ์จะฟ้องเพื่อนเรา เพราะหาว่ามีการใช้อารมณ์และเกินความพอดี ….. (แต่สิ่งที่คุณทำกับเรานี่คือดีเหลือเกินนะครับ) ทางเพื่อนของเราก็ยอมลบให้เพื่อให้ทางออแกไนซ์ไม่แตกไปประเด็นอื่น เห็นเถียงแต่ละคอมเมนต์ละแบบรู้เลยว่าต้องเจอกับอะไร
ในหน้าเพจคือเราน้อมรับและแก้ไขถ้าผิดก็พร้อมที่จะขอโทษลูกค้า …. แต่แบบ
ข้อความที่ทางออแกไนซ์โพสนี้คือหลังจากบล็อคผมและเจ้าสาวไปแล้วนะครับจากนั้นกลุ่มแฟนคลับก็เข้ามาเสริมให้ฟ้องคนที่ไปรีวิว เอิ่บ... !!!
บางทีเค้าอาจจะเข้าใจฟังชั่น Review ในเฟสบุ๊คผิดไป....
ในหน้ารีวิวของเพจเค้าคือจะให้เราเข้าไปที่ร้านอย่างเดียว ทั้งๆที่มีหลายช่องทางในการติดต่อมาก facebook เราก็ไม่ได้บล็อคคุณ โทรศัพท์เราก็เปิด 24 ชั่วโมงแต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อใดๆจากออแกไนซ์เลย
อยากจะกระซิบบอกเค้าเบาๆนะครับว่า .... คนที่รีวิวน่ะ คนที่เดือดร้อนทั้งนั้น พวกเค้าเหล่านี้คือคนที่ผมให้เกียรติเชิญมาเป็นแขกพิเศษในงาน และเค้าก็ให้เกียรติผมและเจ้าสาว เดินทางมาอย่างยากลำบากเพื่อมางานแต่งของพวกเรา และมันใช่หรอครับที่พวกเขาเหล่านี้ต้องมารับผิดชอบในสิ่งที่พวกคุณออแกไนซ์ที่อ้างตัวเองว่าเป็นมืออาชีพ !!!
คอมเมนต์ในรีวิวเริ่มมาเรื่อยๆ ...
หลังจากแขกที่เดือดร้อนยอมลบรีวิวของตัวเองเพื่อให้ทางฝั่งออแกไนซ์เข้าประเด็นมากที่สุด ....
แต่ดูสิครับ เข้าประเด็นมากเลย ขอให้เรื่องทั้งหมดจบในคอมเมนต์เลย แบบนี้ก็ได้หรอครับ ....
อ่านแล้วปี๊ดเลยล่ะครับนี่ผ่านมา 6 วันไม่มีแม้กระทั่งตัวอักษรที่ส่งมาชี้แจง ถึงตรงนี้เราขอไม่รอแล้วครับจึงขออนุญาตแจ้งเรื่องนี้ให้ผู้อื่นได้ทราบเพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่คู่บ่าวสาวที่กำลังจะใช้บริการของออแกไนซ์ต่างๆนะครับ
ความคิดเห็นที่ 1
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 วัน setup งาน …..
ก่อนเข้าไปผมก็ได้ถามนะครับว่าผมควรจะต้องไปกี่โมง ทางออแกไนซ์ก็แจ้งเวลาของตัวเองว่าจะเข้าไปตั้งแต่เช้าและอยู่ทั้งวัน ฝั่งแสงและเสียงก็คอนเฟิร์มวันและเวลากันหมดแล้ว โอเค เจ้าสาวก็ไปดูงานก่อนประมาณ 3 โมง ของวันที่ 29 ส่วนผมเข้าไปประมาณ 5 โมง ปรากฎว่า คนที่เป็นแม่งานของออแกไนซ์ยังไม่มา ถามหากับพนักงานก็แจ้งว่า “เดี๋ยวมา” อะโอเค ผมก็รอได้ตอนนั้นก็รับรองเพื่อนที่มาจากต่างจังหวัดไปด้วย พยายามไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการจัดงานเพราะเกรงจะทำให้บรรยากาศกดดันจนเกินไป
เวลา 19.15 : ผมก็ยังอยู่ที่สถานที่จัดงาน มีหลายอย่างที่ไม่ค่อยถูกใจ ซึ่งหากถามหรือร้องขอให้พนักงานเตรียมงานของออแกไนซ์เปลี่ยนแปลง ก็จะได้รับคำตอบว่า ให้ถามพี่ …. ให้รอพี่ …. อยู่ตลอด จนรู้สึกว่าในนี้ไม่มีใครที่สามารถตัดสินใจได้เลย ผมก็เลยทักไปในกลุ่มสอบถามว่าเมื่อไหร่จะมาแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบอะไร และมีน้องพนังานแจ้งว่าพี่…ไม่สบายไปหาหมอ อ่าว … ไม่เห็นมีใครแจ้งให้ผมทราบเลย เพราะที่ผมรับรู้มาคือการส่งงานก่อน 21.00 น แล้วนี่มัน ทุ่มกว่าๆแล้ว งานยังไม่ถึง 50% เลย เริ่มมีความกังวลเกิดขึ้นแล้วครับว่างานมันจะเสร็จทัน 21.00 น. ได้อย่างไร
ระหว่างนี้ผมและทางเพื่อนก็เดินตรวจรอบๆงานที่พนักงานกำลังจัดพบว่า มีจุดที่ดูแล้วน่าเป็นห่วงและอันตรายนั่นคือ อุโมงค์แกลลอรี่ โครงไม้ประกอบกันและวางไว้เฉยๆ ไม่ได้มีการยึดติดใดๆกับพื้นเลย ทางเพื่อนของผมได้ทักท้วงไปแล้วว่ามันจะเอาอยู่หรอแค่น้ำหนักของไม้ เด็กพนักงานก็ตอบว่าได้ๆ แล้วก็เอาก้อนหินวางทับไว้เฉยๆ ในขณะที่พูดอยู่นี้เพื่อนผมก็กังวลแต่ก็คิดว่าอาจจะไม่มีอะไรหรอก
เวลาผ่านไปแม่ของผู้จัดการออแกไนซ์ก็มาถึงงาน แล้วก็มาย้ำว่า ทีมนี้มืออาชีพแน่นอน ไว้ใจได้ ผ่านมาหลายงานแล้วพร้อมทำท่า หงุดหงิด ที่เราเข้าไปยุ่งและกังวลในส่วนของงานมากเกินไป เห้ยนี่มันดึกแล้ว เลยเวลาส่งงานมาแล้ว ครอบครัวของผมแวะมาดูงานแปปนึงแล้วก็กลับไปกันหมดแล้ว ผมจึงคิดว่าเราควรกลับได้แล้วล่ะ พรุ่งนี้ค่อยลุ้นกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง …. และในขณะที่ผมกำลังจะกลับนั้น มาแล้วแม่งานมาแล้ว มาด้วยเสียงไอก่อนเลย ตามมาด้วยคำพูดว่า “พี่ป่วยจริงๆนะ ไม่ได้แกล้งป่วย แค่กๆ” เราก็ได้พูดคุยและอธิบายกันว่าต้องการแก้ไขส่วนไหนเพิ่มเติม และกำลังลากลับ อารมณ์พรุ่งนี้ค่อยว่ากันมัน 5 ทุ่มแล้ว บ่าวสาวไม่ไหวแล้วกำลังจะกลับ พี่….ก็คุยเรื่องค่าใช้จ่ายที่เหลือ เจ้าสาวของผมเกิดความไม่สบายใจที่จะจ่ายเต็มจำนวนทั้งหมด เพราะ ณ ตอนนั้น ยังคิดไม่ออกเลยว่ามันจะเสร็จทัน จึงได้เจรจาไปว่า
เจ้าสาว: หนูขอยังไม่จ่ายได้มั้ย เพราะดูจากงานแล้วยังไม่ถึงไหนเลย
พี่…. รีบแจ้งมาว่า “นี่เป็นมันเป็นไปตามข้อตกลง เพราะพี่ก็ต้องจ่ายคนอื่นเหมือนกัน ไม่งั้นงานจะไม่เดิน”
ทางผมและเจ้าสาวก็คิดว่าช่างมัน ตามข้อตกลงที่ว่าไว้ 21.00 ก่อนงานต้องจ่ายเงิน แล้ววัดใจกันพรุ่งนี้ คำว่าวัดใจนี่แหละครับ ที่มันใช้ไม่ได้ในธุรกิจจริงๆ ….. สุดท้ายผมก็โอนไป ….
ก่อนกลับ พี่…. พยายามจะสัมผัสเจ้าสาวแล้วพูดว่า ไว้ใจพี่ได้ พี่มืออาชีพ เสร็จงานทันแน่นอน
00.23 ออแกไนซ์ส่งงานมา
วันที่ 30 พย 2561 วันเกิดเหตุ
ผมและเจ้าสาวได้มาถึงงานตอนประมาณ 10.30 เพื่อที่จะเริ่มแต่งหน้าแต่งตัว ในขณะที่เจ้าสาวของผมแต่งหน้าอยู่ ผมก็มาเดินสำรวจ backdrop ต่างๆและ อุโมงค์แกลลอรี่ เพื่อตรวจความเรียบร้อย
12.00 น.
ขณะที่น้องช่างภาพวีดีโอเข้ามาพอดี ก็ทักทายกันปกติ สักพัก อุโมงค์แกลลอรี่ที่ผมและเพื่อนกังวลเมื่อวานว่ามันจะล้มรึเปล่า ก็เป็นไปตามคาดครับ ค่อยๆเอียงและล้มลมไป ทำให้ภาพงานพรีเวดดิ้งของผมเกิดความเสียหาย และพิธีกำลังจะเริ่มตอน 14.09 ผมจึงใช้โทรศัพท์ของเจ้าสาวถ่ายรูปและรีบแจ้งไปยังออแกไนซ์ทันที
ซึ่งผมไม่ได้แจ้งในแชทเพียงอย่างเดียวผมได้โทรเข้าไปโดยตรงอีกด้วย โทรไปกว่าจะรับก็ครั้งที่ 3 และพูดว่า “เห็นละ เดี๋ยวไปๆ” แล้วก็วางไปอย่างรวดเร็ว
จนเวลาผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง ผมยังไม่เห็นมีใครมาจัดการซากอุโมงค์ที่ล้มนี้เลย ผมจึงโทรไปอีกครั้งและเร่งให้รีบมาจัดการ นี่มัน 12.55 แล้วนะ มันจะเสร็จทันได้อย่างไร ได้เพียงคำตอบที่ว่า “กำลังแจ้งให้รีบเข้าไป” แล้วก็วางไป
ประมาณ บ่ายกว่าๆ ก็ได้เห็นพนักงานเข้ามา (แต่งกายแบบไม่เรียบร้อยแต่จังหวะนั้นไม่อยากเรื่องมาก) เริ่มทำการซ่อมแซมในส่วนของอุโมงค์แกลลอรี่ ซึ่งนึกออกมั้ยครับว่า งานเริ่ม 14.09 ตอนนี้บ่ายกว่าๆ แขกผู้ใหญ่ในพิธีมั้นก็เต็มไปหมดแล้วสิครับ แล้วก็ต้องมานั่งให้เด็กพนักงานปีนข้ามหัวไปมา ผมได้รู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก ทำไมงานออกมาไม่เรียบร้อย ทำไมยังไม่เสร็จอีก ทั้งที่เหลือเวลาไม่ถึง 30 นาที จะอ้างว่าเป็นภัยธรรมชาติมันก็ไม่ใช่เพราะวันที่ 30 ก็ไม่ได้มีพายุ มีแค่ลมที่พัดไปมาตามปกติ แต่ด้วยโครงสร้างที่อ่อนแอและมีก้อนหินไม่กี่ก้อนวางทับฐานไว้ เพียงลมพัดเบาๆก็ทำให้พังทลายได้อย่างไม่น่าแปลกใจ ทำไมความมืออาชีพ มันถึงออกมาแบบนี้ และการแก้ไขปัญหาก็ไม่ได้ทำได้ทันท่วงที มีการปล่อยเวลาให้ล่วงมาเป็นชั่วโมง ทำให้ผมกับเจ้าสาวเกิดความเสียหายอับอายและเสียเชื่อเสียง คือแขกแต่ละกันคนก็เป็นแขกผู้ใหญ่ที่พ่อและแม่ของทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวนับถือ
14.09 ได้ฤกษ์ซะที แต่ออแกไนซ์ยังไม่มา …
ตอนนี้ผมและเจ้าสาวแต่งหน้าแต่งตัวเสร็จกันหมดแล้วสักพัก ขบวนขันหมากก็ยังไม่ได้ตั้ง พานขันหมากอยู่ที่ไหนก็ไม่ทราบ สินสอดพร้อมหมดแล้ว แต่พานก็ยังไม่มีใส่ คือ ณ ตอนนั้นรู้สึกถึงความวุ่นวายและความเสียหายที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่โชคดี ที่กลุ่มแขกในงานเคยทำงานออแกไนซ์มาก่อนและเพื่อนเจ้าสาวก็เพิ่งจะแต่งงานไปหมาดๆ จึงได้ปรึกษากัน และตกลงกันว่าเราจะรันคิวเลยไม่ต้องรอออแกไนซ์มาเพราะมันก็เลยฤกษ์มา 10 นาทีแล้ว แขกผู้ใหญ่ก็เริ่มมองหาขบวนขันหมากกันแล้วทำไมยังไม่ตั้งกันอีก
ตอนนี้ก็เริ่มกระจายงานกันแบ่งกันไปค้นหาพานที่จะเอามาใส่สินสอด วิ่งวุ่นกันชุลมุน ที่กล่าวมานี้คือได้มีการโทรหาออแกไนซ์ด้วยนะครับ แต่ไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด
ฝั่งเจ้าสาวก็ต้องไปที่อาคารเพื่อจัดการเรื่องการกั้นประตู คนไหนยืนตรงไหน และมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง ฝั่งสถานที่เห็นว่าเกิดความวุ่นวายจึงได้เข้ามาช่วยเหลือเรื่องตำแหน่งการยืนและพิธีการคร่าวๆ
ทางพี่สาวก็ได้แจ้งให้พิธีกรทราบแล้วว่าออแกไนซ์ยังมาไม่ถึงงาน จึงร้องขอให้พิธีกรช่วยดำเนินการรันคิวให้ฝั่งเจ้าบ่าว
ชุลมุนมากจังหวะนี้ ใครยืนตรงไหน ถืออะไร เจ้าบ่าวถืออะไร เพื่อนถืออะไร แล้วมันต้องมีพานอะไรบ้าง คือผมไม่มีความรู้เรื่องตรงนี้เลยเพราะคำว่า “ไว้ใจพี่เดี๋ยวพี่จัดการให้ พี่มีความเป็นมืออาชีพ” ก็เลยไม่ได้หาความรู้หรือเตรียมตัวตรงนี้ไว้เลยครับ
ก่อนหน้านี้พ่อและแม่ของผมได้เข้าร่วมพิธีการที่สถานที่นี้แต่คนละออแกไนซ์ ในครอบครัวทุกคนจะได้กระดาษกำหนดการแจ้งเวลาและใครมีหน้าที่รับผิดชอบอะไร ทำให้เวลาเกิดปัญหาจะทราบได้ว่าต้องทำอะไรต่อ
แต่นี่ทางออแกไนซ์ของผมไม่มีการแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที ทั้งอุโมงค์แกลลอรี่ และทั้งพิธีการงานหมั้น ทำให้แขกที่มาจากแดนไกลตั้งใจมาร่วมงานต้องมาวุ่นวายรันคิว จัดคน หาของ
ระหว่างความชุลมุนวุ่นวายอยู่นี้ เพื่อนเจ้าบ่าวหนึ่งคนและพี่สาวได้เตรียมห้องส่งตัวให้สวยงามแทนที่จะเป็นคนของออแกไนซ์ที่ทำหน้าที่ตรงนี้ ….
ช่างทำผมก็ได้มาร่วมวงในการจัดพานบายศรีพร้อมทั้งแจ้งว่าเจ้าบ่าวต้องถือพานอันไหน .... เห้ยมันใช่หรอ หน้าที่ของพวกเค้าหรอ ?
ผมได้ถามกันว่ามีใครโทรไปหาออแกไนซ์บ้างมั้ย แล้วได้คำตอบอะไรรึเปล่า ทางพี่สาวของผมได้กล่าวว่า ออแกไนซ์ได้แจ้งให้พนักงานที่ชื่อ …. เข้ามาแก้ปัญหาและรันคิวแทนเจ้าตัว เอาจริงๆ ตั้งแต่งานเริ่มยันงานจบ ผมยังไม่เห็นหัวของคนคนนี้เลย มันเป็นการแก้ปัญหาที่ง่ายมากคือให้คนมาแทน แล้วคนแทนก็เข้ามาแจ้งบ่าวสาวให้ทราบว่ามีปัญหาออแกไนซ์มาไม่ได้ผมต้องรันคิวให้ก่อน แต่….สิ่งที่เกิดขึ้นคือแขกในงานเป็นคนรันคิวให้ทั้งหมด
โชคดีที่มีเพื่อนทั้ง 12 คนคอยเป็น staff และ พิธีกรช่วยรันคิวจึงทำให้งานหมั้นออกมาราบรื่นจบได้สวย แม้จะไม่ได้ตามเวลาที่ต้องการ แต่ทุกคนรู้สึกดีในงาน ยกเว้นผู้ที่รู้ว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น ….
ผมได้ทราบในภายหลังว่าในตอนที่ขบวนกำลังตั้งอยู่นั้น backdrop ที่ไว้สำหรับพิธีหมั้นได้ล้มลงมา ทำให้แขกที่นั่งรออยู่แถวนั้นเกิดความตกใจ
อีกจุดคือ backdrop ในส่วนของจุดลงทะเบียนก็ได้ล้มลงด้วย สรุปล้มเกือบทั้งหมดเลยนะครับเนี่ย ทั้งๆที่มีการตักเตือนไปแล้วแท้ๆว่ามันจะล้ม
ยังครับ ยังไม่จบ …. งานเฉลิมฉลองตอนค่ำ ….
เรื่องโต๊ะ
ผมและเจ้าสาวแต่งตัวเสร็จก็กำลังจะไปถ่ายรูปกับช่างภาพ พี่สาวของผมได้วิ่งเข้ามาแจ้งว่า โต๊ะของฝั่งเจ้าบ่าวเต็มไปหมดเลย ไม่มีคนจัดการให้แขกฝั่งใครนั่งตรงไหน ไม่มีป้ายบอกว่าโต๊ะนี้เป็นของใคร คือตอนแรกที่ตกลงกันจะต้องมีการวางแผนให้เพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาวเป็นคนจัดการนำแขกของฝั่งตนไปนั่ง ซึ่งทำไม่ได้เพราะเวลาที่เลทมาจากช่วงบ่าย มาถึงตอนเย็น ทำให้ไม่มีเวลาได้ประชุมเรื่องการจัดการแขก บอกเลยว่าข้างในนี่คือวุ่นวายมาก แขกผู้ใหญ่นั่งกันไม่เป็นที่เป็นทาง เก้าอี้เหลือโต๊ะละ 3-4 ที่เพราะแขกที่มาก็ไม่ทราบว่าตัวเองต้องนั่งที่ไหน หรือนั่งกับโต๊ะไหนได้บ้างรึเปล่า กลายเป็นมีคนมาแจ้งว่าโต๊ะเต็ม !! เห้ยมันจะเต็มได้ยังไง เราเห็นว่างตั้งหลายที่ แต่ก็นั่นแหละครับ ว่างแต่เค้าไม่รู้จักกันไง ปัญหาตรงนี้จะโทษทางฝั่งแขก หรือฝั่งบ่าวสาวแต่แรกมันก็ไม่ถูกหรอกนะครับ ถ้าต้นเหตุมันไม่เกิด ความวุ่นวายของมืออาชีพที่เกิดขึ้น มันทำให้เกิดความเสียหน้าของบ่าวสาวตรงที่ แขกมาถึงในงานแล้ว ไม่มีที่นั่ง ทำตัวไม่ถูก บางคนก็กลับไปเลยก็มี เกิดการเสียความรู้สึกกันอีก เรื่องนี้บอกเฉยๆสำหรับผู้ที่เข้ามาอ่านและกำลังจะแต่งงานจะได้เห็นปัญหาตรงนี้นะครับ
ระหว่างที่เกิดความวุ่นวายตรงนี้ขึ้นผมและเจ้าสาวกำลังถ่ายรูปหน้างานกันอยู่กับแขกผู้ใหญ่ที่เข้ามาร่วมแสดงความยินดี เราไม่สามารถเข้าไปแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันและตอนนี้แขกก็ได้เต็มหน้างานกันไปหมดแล้ว เพื่อนเราแจ้งว่าเราควรจะเปิดเข้าช่วงพิธีการได้แล้ว เพราะอาหารก็มาจนจะหมดแล้ว ผมลืมเรื่องนี้ไปสนิทเลย อาหารมากี่อย่างแล้ว ไหนจะเปิดพรีเซนเทชั่น ไหนจะเข้างาน แล้วนี่มันกี่โมงแล้ว ตอนนี้มีแต่ความกังวลเต็มไปหมด เพื่อนเห็นอย่างนั้นเลยสั่งให้ทุกคนดำเนินการเริ่มงานพิธีทันที เดี๋ยวจะสายไปซะก่อน
แจ้งฝั่งสื่อให้เปิดพรีเซนเทชั่น แล้วเตรียมพื้นที่ให้บ่าวสาวเดินเข้าไปในงาน และจัดเตรียมให้เพื่อนบ่าวสาวจุดไฟเย็นตอนเข้างาน อีกฝั่งก็รีบไปจัดเรียงแก้วแชมเปญ หาเทียนมาเพื่อจุดเทียนชัย ซึ่งถามใครก็ไม่สามารถตอบได้ว่าอยู่ตรงไหน จนต้องไปร้องขอให้พนักงานที่อยู่ตรงนั้นช่วยหาเทียนมาให้บ่าวสาวจุดหน่อย
มีต่อ ....
ก่อนเข้าไปผมก็ได้ถามนะครับว่าผมควรจะต้องไปกี่โมง ทางออแกไนซ์ก็แจ้งเวลาของตัวเองว่าจะเข้าไปตั้งแต่เช้าและอยู่ทั้งวัน ฝั่งแสงและเสียงก็คอนเฟิร์มวันและเวลากันหมดแล้ว โอเค เจ้าสาวก็ไปดูงานก่อนประมาณ 3 โมง ของวันที่ 29 ส่วนผมเข้าไปประมาณ 5 โมง ปรากฎว่า คนที่เป็นแม่งานของออแกไนซ์ยังไม่มา ถามหากับพนักงานก็แจ้งว่า “เดี๋ยวมา” อะโอเค ผมก็รอได้ตอนนั้นก็รับรองเพื่อนที่มาจากต่างจังหวัดไปด้วย พยายามไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการจัดงานเพราะเกรงจะทำให้บรรยากาศกดดันจนเกินไป
เวลา 19.15 : ผมก็ยังอยู่ที่สถานที่จัดงาน มีหลายอย่างที่ไม่ค่อยถูกใจ ซึ่งหากถามหรือร้องขอให้พนักงานเตรียมงานของออแกไนซ์เปลี่ยนแปลง ก็จะได้รับคำตอบว่า ให้ถามพี่ …. ให้รอพี่ …. อยู่ตลอด จนรู้สึกว่าในนี้ไม่มีใครที่สามารถตัดสินใจได้เลย ผมก็เลยทักไปในกลุ่มสอบถามว่าเมื่อไหร่จะมาแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบอะไร และมีน้องพนังานแจ้งว่าพี่…ไม่สบายไปหาหมอ อ่าว … ไม่เห็นมีใครแจ้งให้ผมทราบเลย เพราะที่ผมรับรู้มาคือการส่งงานก่อน 21.00 น แล้วนี่มัน ทุ่มกว่าๆแล้ว งานยังไม่ถึง 50% เลย เริ่มมีความกังวลเกิดขึ้นแล้วครับว่างานมันจะเสร็จทัน 21.00 น. ได้อย่างไร
ระหว่างนี้ผมและทางเพื่อนก็เดินตรวจรอบๆงานที่พนักงานกำลังจัดพบว่า มีจุดที่ดูแล้วน่าเป็นห่วงและอันตรายนั่นคือ อุโมงค์แกลลอรี่ โครงไม้ประกอบกันและวางไว้เฉยๆ ไม่ได้มีการยึดติดใดๆกับพื้นเลย ทางเพื่อนของผมได้ทักท้วงไปแล้วว่ามันจะเอาอยู่หรอแค่น้ำหนักของไม้ เด็กพนักงานก็ตอบว่าได้ๆ แล้วก็เอาก้อนหินวางทับไว้เฉยๆ ในขณะที่พูดอยู่นี้เพื่อนผมก็กังวลแต่ก็คิดว่าอาจจะไม่มีอะไรหรอก
เวลาผ่านไปแม่ของผู้จัดการออแกไนซ์ก็มาถึงงาน แล้วก็มาย้ำว่า ทีมนี้มืออาชีพแน่นอน ไว้ใจได้ ผ่านมาหลายงานแล้วพร้อมทำท่า หงุดหงิด ที่เราเข้าไปยุ่งและกังวลในส่วนของงานมากเกินไป เห้ยนี่มันดึกแล้ว เลยเวลาส่งงานมาแล้ว ครอบครัวของผมแวะมาดูงานแปปนึงแล้วก็กลับไปกันหมดแล้ว ผมจึงคิดว่าเราควรกลับได้แล้วล่ะ พรุ่งนี้ค่อยลุ้นกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง …. และในขณะที่ผมกำลังจะกลับนั้น มาแล้วแม่งานมาแล้ว มาด้วยเสียงไอก่อนเลย ตามมาด้วยคำพูดว่า “พี่ป่วยจริงๆนะ ไม่ได้แกล้งป่วย แค่กๆ” เราก็ได้พูดคุยและอธิบายกันว่าต้องการแก้ไขส่วนไหนเพิ่มเติม และกำลังลากลับ อารมณ์พรุ่งนี้ค่อยว่ากันมัน 5 ทุ่มแล้ว บ่าวสาวไม่ไหวแล้วกำลังจะกลับ พี่….ก็คุยเรื่องค่าใช้จ่ายที่เหลือ เจ้าสาวของผมเกิดความไม่สบายใจที่จะจ่ายเต็มจำนวนทั้งหมด เพราะ ณ ตอนนั้น ยังคิดไม่ออกเลยว่ามันจะเสร็จทัน จึงได้เจรจาไปว่า
เจ้าสาว: หนูขอยังไม่จ่ายได้มั้ย เพราะดูจากงานแล้วยังไม่ถึงไหนเลย
พี่…. รีบแจ้งมาว่า “นี่เป็นมันเป็นไปตามข้อตกลง เพราะพี่ก็ต้องจ่ายคนอื่นเหมือนกัน ไม่งั้นงานจะไม่เดิน”
ทางผมและเจ้าสาวก็คิดว่าช่างมัน ตามข้อตกลงที่ว่าไว้ 21.00 ก่อนงานต้องจ่ายเงิน แล้ววัดใจกันพรุ่งนี้ คำว่าวัดใจนี่แหละครับ ที่มันใช้ไม่ได้ในธุรกิจจริงๆ ….. สุดท้ายผมก็โอนไป ….
ก่อนกลับ พี่…. พยายามจะสัมผัสเจ้าสาวแล้วพูดว่า ไว้ใจพี่ได้ พี่มืออาชีพ เสร็จงานทันแน่นอน
00.23 ออแกไนซ์ส่งงานมา
วันที่ 30 พย 2561 วันเกิดเหตุ
ผมและเจ้าสาวได้มาถึงงานตอนประมาณ 10.30 เพื่อที่จะเริ่มแต่งหน้าแต่งตัว ในขณะที่เจ้าสาวของผมแต่งหน้าอยู่ ผมก็มาเดินสำรวจ backdrop ต่างๆและ อุโมงค์แกลลอรี่ เพื่อตรวจความเรียบร้อย
12.00 น.
ขณะที่น้องช่างภาพวีดีโอเข้ามาพอดี ก็ทักทายกันปกติ สักพัก อุโมงค์แกลลอรี่ที่ผมและเพื่อนกังวลเมื่อวานว่ามันจะล้มรึเปล่า ก็เป็นไปตามคาดครับ ค่อยๆเอียงและล้มลมไป ทำให้ภาพงานพรีเวดดิ้งของผมเกิดความเสียหาย และพิธีกำลังจะเริ่มตอน 14.09 ผมจึงใช้โทรศัพท์ของเจ้าสาวถ่ายรูปและรีบแจ้งไปยังออแกไนซ์ทันที
ซึ่งผมไม่ได้แจ้งในแชทเพียงอย่างเดียวผมได้โทรเข้าไปโดยตรงอีกด้วย โทรไปกว่าจะรับก็ครั้งที่ 3 และพูดว่า “เห็นละ เดี๋ยวไปๆ” แล้วก็วางไปอย่างรวดเร็ว
จนเวลาผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง ผมยังไม่เห็นมีใครมาจัดการซากอุโมงค์ที่ล้มนี้เลย ผมจึงโทรไปอีกครั้งและเร่งให้รีบมาจัดการ นี่มัน 12.55 แล้วนะ มันจะเสร็จทันได้อย่างไร ได้เพียงคำตอบที่ว่า “กำลังแจ้งให้รีบเข้าไป” แล้วก็วางไป
ประมาณ บ่ายกว่าๆ ก็ได้เห็นพนักงานเข้ามา (แต่งกายแบบไม่เรียบร้อยแต่จังหวะนั้นไม่อยากเรื่องมาก) เริ่มทำการซ่อมแซมในส่วนของอุโมงค์แกลลอรี่ ซึ่งนึกออกมั้ยครับว่า งานเริ่ม 14.09 ตอนนี้บ่ายกว่าๆ แขกผู้ใหญ่ในพิธีมั้นก็เต็มไปหมดแล้วสิครับ แล้วก็ต้องมานั่งให้เด็กพนักงานปีนข้ามหัวไปมา ผมได้รู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก ทำไมงานออกมาไม่เรียบร้อย ทำไมยังไม่เสร็จอีก ทั้งที่เหลือเวลาไม่ถึง 30 นาที จะอ้างว่าเป็นภัยธรรมชาติมันก็ไม่ใช่เพราะวันที่ 30 ก็ไม่ได้มีพายุ มีแค่ลมที่พัดไปมาตามปกติ แต่ด้วยโครงสร้างที่อ่อนแอและมีก้อนหินไม่กี่ก้อนวางทับฐานไว้ เพียงลมพัดเบาๆก็ทำให้พังทลายได้อย่างไม่น่าแปลกใจ ทำไมความมืออาชีพ มันถึงออกมาแบบนี้ และการแก้ไขปัญหาก็ไม่ได้ทำได้ทันท่วงที มีการปล่อยเวลาให้ล่วงมาเป็นชั่วโมง ทำให้ผมกับเจ้าสาวเกิดความเสียหายอับอายและเสียเชื่อเสียง คือแขกแต่ละกันคนก็เป็นแขกผู้ใหญ่ที่พ่อและแม่ของทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวนับถือ
14.09 ได้ฤกษ์ซะที แต่ออแกไนซ์ยังไม่มา …
ตอนนี้ผมและเจ้าสาวแต่งหน้าแต่งตัวเสร็จกันหมดแล้วสักพัก ขบวนขันหมากก็ยังไม่ได้ตั้ง พานขันหมากอยู่ที่ไหนก็ไม่ทราบ สินสอดพร้อมหมดแล้ว แต่พานก็ยังไม่มีใส่ คือ ณ ตอนนั้นรู้สึกถึงความวุ่นวายและความเสียหายที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่โชคดี ที่กลุ่มแขกในงานเคยทำงานออแกไนซ์มาก่อนและเพื่อนเจ้าสาวก็เพิ่งจะแต่งงานไปหมาดๆ จึงได้ปรึกษากัน และตกลงกันว่าเราจะรันคิวเลยไม่ต้องรอออแกไนซ์มาเพราะมันก็เลยฤกษ์มา 10 นาทีแล้ว แขกผู้ใหญ่ก็เริ่มมองหาขบวนขันหมากกันแล้วทำไมยังไม่ตั้งกันอีก
ตอนนี้ก็เริ่มกระจายงานกันแบ่งกันไปค้นหาพานที่จะเอามาใส่สินสอด วิ่งวุ่นกันชุลมุน ที่กล่าวมานี้คือได้มีการโทรหาออแกไนซ์ด้วยนะครับ แต่ไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด
ฝั่งเจ้าสาวก็ต้องไปที่อาคารเพื่อจัดการเรื่องการกั้นประตู คนไหนยืนตรงไหน และมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง ฝั่งสถานที่เห็นว่าเกิดความวุ่นวายจึงได้เข้ามาช่วยเหลือเรื่องตำแหน่งการยืนและพิธีการคร่าวๆ
ทางพี่สาวก็ได้แจ้งให้พิธีกรทราบแล้วว่าออแกไนซ์ยังมาไม่ถึงงาน จึงร้องขอให้พิธีกรช่วยดำเนินการรันคิวให้ฝั่งเจ้าบ่าว
ชุลมุนมากจังหวะนี้ ใครยืนตรงไหน ถืออะไร เจ้าบ่าวถืออะไร เพื่อนถืออะไร แล้วมันต้องมีพานอะไรบ้าง คือผมไม่มีความรู้เรื่องตรงนี้เลยเพราะคำว่า “ไว้ใจพี่เดี๋ยวพี่จัดการให้ พี่มีความเป็นมืออาชีพ” ก็เลยไม่ได้หาความรู้หรือเตรียมตัวตรงนี้ไว้เลยครับ
ก่อนหน้านี้พ่อและแม่ของผมได้เข้าร่วมพิธีการที่สถานที่นี้แต่คนละออแกไนซ์ ในครอบครัวทุกคนจะได้กระดาษกำหนดการแจ้งเวลาและใครมีหน้าที่รับผิดชอบอะไร ทำให้เวลาเกิดปัญหาจะทราบได้ว่าต้องทำอะไรต่อ
แต่นี่ทางออแกไนซ์ของผมไม่มีการแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที ทั้งอุโมงค์แกลลอรี่ และทั้งพิธีการงานหมั้น ทำให้แขกที่มาจากแดนไกลตั้งใจมาร่วมงานต้องมาวุ่นวายรันคิว จัดคน หาของ
ระหว่างความชุลมุนวุ่นวายอยู่นี้ เพื่อนเจ้าบ่าวหนึ่งคนและพี่สาวได้เตรียมห้องส่งตัวให้สวยงามแทนที่จะเป็นคนของออแกไนซ์ที่ทำหน้าที่ตรงนี้ ….
ช่างทำผมก็ได้มาร่วมวงในการจัดพานบายศรีพร้อมทั้งแจ้งว่าเจ้าบ่าวต้องถือพานอันไหน .... เห้ยมันใช่หรอ หน้าที่ของพวกเค้าหรอ ?
ผมได้ถามกันว่ามีใครโทรไปหาออแกไนซ์บ้างมั้ย แล้วได้คำตอบอะไรรึเปล่า ทางพี่สาวของผมได้กล่าวว่า ออแกไนซ์ได้แจ้งให้พนักงานที่ชื่อ …. เข้ามาแก้ปัญหาและรันคิวแทนเจ้าตัว เอาจริงๆ ตั้งแต่งานเริ่มยันงานจบ ผมยังไม่เห็นหัวของคนคนนี้เลย มันเป็นการแก้ปัญหาที่ง่ายมากคือให้คนมาแทน แล้วคนแทนก็เข้ามาแจ้งบ่าวสาวให้ทราบว่ามีปัญหาออแกไนซ์มาไม่ได้ผมต้องรันคิวให้ก่อน แต่….สิ่งที่เกิดขึ้นคือแขกในงานเป็นคนรันคิวให้ทั้งหมด
โชคดีที่มีเพื่อนทั้ง 12 คนคอยเป็น staff และ พิธีกรช่วยรันคิวจึงทำให้งานหมั้นออกมาราบรื่นจบได้สวย แม้จะไม่ได้ตามเวลาที่ต้องการ แต่ทุกคนรู้สึกดีในงาน ยกเว้นผู้ที่รู้ว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น ….
ผมได้ทราบในภายหลังว่าในตอนที่ขบวนกำลังตั้งอยู่นั้น backdrop ที่ไว้สำหรับพิธีหมั้นได้ล้มลงมา ทำให้แขกที่นั่งรออยู่แถวนั้นเกิดความตกใจ
อีกจุดคือ backdrop ในส่วนของจุดลงทะเบียนก็ได้ล้มลงด้วย สรุปล้มเกือบทั้งหมดเลยนะครับเนี่ย ทั้งๆที่มีการตักเตือนไปแล้วแท้ๆว่ามันจะล้ม
ยังครับ ยังไม่จบ …. งานเฉลิมฉลองตอนค่ำ ….
เรื่องโต๊ะ
ผมและเจ้าสาวแต่งตัวเสร็จก็กำลังจะไปถ่ายรูปกับช่างภาพ พี่สาวของผมได้วิ่งเข้ามาแจ้งว่า โต๊ะของฝั่งเจ้าบ่าวเต็มไปหมดเลย ไม่มีคนจัดการให้แขกฝั่งใครนั่งตรงไหน ไม่มีป้ายบอกว่าโต๊ะนี้เป็นของใคร คือตอนแรกที่ตกลงกันจะต้องมีการวางแผนให้เพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาวเป็นคนจัดการนำแขกของฝั่งตนไปนั่ง ซึ่งทำไม่ได้เพราะเวลาที่เลทมาจากช่วงบ่าย มาถึงตอนเย็น ทำให้ไม่มีเวลาได้ประชุมเรื่องการจัดการแขก บอกเลยว่าข้างในนี่คือวุ่นวายมาก แขกผู้ใหญ่นั่งกันไม่เป็นที่เป็นทาง เก้าอี้เหลือโต๊ะละ 3-4 ที่เพราะแขกที่มาก็ไม่ทราบว่าตัวเองต้องนั่งที่ไหน หรือนั่งกับโต๊ะไหนได้บ้างรึเปล่า กลายเป็นมีคนมาแจ้งว่าโต๊ะเต็ม !! เห้ยมันจะเต็มได้ยังไง เราเห็นว่างตั้งหลายที่ แต่ก็นั่นแหละครับ ว่างแต่เค้าไม่รู้จักกันไง ปัญหาตรงนี้จะโทษทางฝั่งแขก หรือฝั่งบ่าวสาวแต่แรกมันก็ไม่ถูกหรอกนะครับ ถ้าต้นเหตุมันไม่เกิด ความวุ่นวายของมืออาชีพที่เกิดขึ้น มันทำให้เกิดความเสียหน้าของบ่าวสาวตรงที่ แขกมาถึงในงานแล้ว ไม่มีที่นั่ง ทำตัวไม่ถูก บางคนก็กลับไปเลยก็มี เกิดการเสียความรู้สึกกันอีก เรื่องนี้บอกเฉยๆสำหรับผู้ที่เข้ามาอ่านและกำลังจะแต่งงานจะได้เห็นปัญหาตรงนี้นะครับ
ระหว่างที่เกิดความวุ่นวายตรงนี้ขึ้นผมและเจ้าสาวกำลังถ่ายรูปหน้างานกันอยู่กับแขกผู้ใหญ่ที่เข้ามาร่วมแสดงความยินดี เราไม่สามารถเข้าไปแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันและตอนนี้แขกก็ได้เต็มหน้างานกันไปหมดแล้ว เพื่อนเราแจ้งว่าเราควรจะเปิดเข้าช่วงพิธีการได้แล้ว เพราะอาหารก็มาจนจะหมดแล้ว ผมลืมเรื่องนี้ไปสนิทเลย อาหารมากี่อย่างแล้ว ไหนจะเปิดพรีเซนเทชั่น ไหนจะเข้างาน แล้วนี่มันกี่โมงแล้ว ตอนนี้มีแต่ความกังวลเต็มไปหมด เพื่อนเห็นอย่างนั้นเลยสั่งให้ทุกคนดำเนินการเริ่มงานพิธีทันที เดี๋ยวจะสายไปซะก่อน
แจ้งฝั่งสื่อให้เปิดพรีเซนเทชั่น แล้วเตรียมพื้นที่ให้บ่าวสาวเดินเข้าไปในงาน และจัดเตรียมให้เพื่อนบ่าวสาวจุดไฟเย็นตอนเข้างาน อีกฝั่งก็รีบไปจัดเรียงแก้วแชมเปญ หาเทียนมาเพื่อจุดเทียนชัย ซึ่งถามใครก็ไม่สามารถตอบได้ว่าอยู่ตรงไหน จนต้องไปร้องขอให้พนักงานที่อยู่ตรงนั้นช่วยหาเทียนมาให้บ่าวสาวจุดหน่อย
มีต่อ ....
แสดงความคิดเห็น
ขอคำปรึกษาครับ ออแกไนซ์เจ้าหนึ่งในลำปาง ไม่ทำตามข้อตกลง จนทำให้เกิดความเดือดร้อนในงาน ผมควรทำอย่างไรครับ
เรื่องมันมีอยู่ว่า .....
ผมกำลังจะแต่งงาน วันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 .....
วันที่ 31 มกราคม 2561
เป็นวันแรกที่เข้าไปคุยภาพรวมคร่าวๆของงานแต่งงาน ทางผมกับออแกไนซ์ได้คุยกันเหมือนจะเข้าใจเป็นอย่างดี ทุกอย่างมันดูดีไปหมด การจ่ายเงินจะเป็น 3 step คุยครั้งแรกก้อนนึง คุยอีกครั้งใกล้ๆวันงานสัก 3 เดือน อีกก้อนนึง และตอนส่งงานคืนก่อนวันงานให้จ่ายทั้งหมด อะผมก็ตกลงเพราะด้วยราคาและการพูดคุยมันโอเคผมเลยยอมจ่ายมัดจำไปจำนวนนึง ใจหายเหมือนกันนะครับ คุยกันแปปนึงเสียตังละ
วันที่ 11 สิงหาคม 2561
เป็นวันที่นัดกันเข้าไปดูสถานที่กัน จากในมุมผมคือก็เห็นเค้าเข้าไปดูคร่าวๆ แต่ก็ไม่ได้มีการวัดอย่างละเอียดนะครับว่า ขนาดห้องเท่าไหร่ โต๊ะเท่าไหร่ ซึ่งในตอนนั้นผมก็มั่นใจว่าเค้าคงมีความมืออาชีพพอที่จะคำนวนได้ว่า ห้องขนาดนี้ โต๊ะจะสามารถวางได้เท่านั้นเท่านี้ และอาจจะเป็นสไตล์การทำงานของทางออแกไนซ์ ….
ทางออแกไนซ์ แจ้งว่าหลังจากการคุยครั้งนี้ 1 อาทิตย์จะส่งแบบร่างคร่าวๆให้ดู คือตรงนี้ผมเข้าใจว่าจะเป็นเรื่องผังภาพรวมของงาน แบคดรอปวางตรงนี้ โต๊ะในอาคารวางแบบนี้ กี่โต๊ะ ข้างนอกกี่โต๊ะ อะไรประมาณนี้ครับ
และผมก็จ่ายเงินไปอีกก้อนนึงตามข้อตกลง
วันที่ 18 สิงหาคม 2561
ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ ทางออแกไนซ์ได้แจ้งขอส่งเป็นวันอังคารที่ 21 สิงหาคม แทน อะผมก็ไม่เป็นไรรอได้
วันที่ 20 สิงหาคม 2561
ทางออแกไนซ์ส่งแบบสเก็ตงานให้ทางทามไลน์หน้า facebook ของเรา .... ภาพที่ได้นั้น ....
งงครับอะไรคือสเกตช์ภาพรวม ....
พอได้รับคำอธิบายก็เพิ่งจะอ๋อว่าที่เค้าสเกตช์ให้เราน่ะ มันคือ backdrop ซึ่งเราก็โอเคไปเมื่อทางนู้นส่งรูปที่เป็น ref มาโอเคเราเข้าใจตรงกันแล้วนะ
วันที่ 22 สิงหาคม 2561
ทางออแกไนซ์ได้ส่งรูป ref มาอีกครั้ง
ใน ref นี้คือแบบตรงใจผมเลยถูกใจมาก เราเข้าใจกันแล้วล่ะ งานนี้สบายต้องออกมาสวยแน่ๆ
ยังไม่พอมีการแจ้งว่า ”แนวๆนี้แต่สวยกว่า “
วันที่ 10 กันยายน 2561
ทางผมได้แจ้งทางออแกไนซ์ไปว่า จะเพิ่มโต๊ะอีก 5 โต๊ะ ซึ่งตอนแรกคุยกันว่าอยากได้โต๊ะยาวเพื่อให้ VIP นั่งเก๋ๆกันไปแต่เนื่องจากผมดูแล้วไม่สามารถวางโต๊ะยาวได้แน่ๆก็โต๊ะกลมให้หมดเลยละกัน และคำตอบของออแกไนซ์คือ ให้ไปถามสถานที่ว่ามันได้มั้ย
เอาจริงๆตรงนี้มันต้องเป็นหน้าที่ของออแกไนซ์เองที่จะต้องจัดการไม่ใช่หรอครับ ที่จะต้องไปสอบถามเอง แต่กลับมาให้เราทำงานแทน
วันที่ 16 กันยายน 2561
มีการอัพเดทงานเรื่องการสั่งทำโครง backdrop และได้กล่าวว่าต้นเดือน ตค. จะถ่ายรูปส่งมาให้ดู
ส่วนกลางเดือนจะไปสั่งซื้อผ้ามัดย้อมที่เชียงใหม่ ตามแบบที่เราต้องการ
และยังคงย้ำให้เราไปคุยในส่วนของระบบไฟในงานด้วยนะ
วันที่ 22 กันยายน 2561
ได้ส่งงานของคนอื่นที่เค้าจัดในสถานที่เดียวกับผมให้ดูแล้วกล่าวว่า “ของทีมงานตัวเองโอเคกว่านี้มากๆไม่ต้องเป็นห่วง”
คราวนี้หายยาวมาอีกทีก็วันที่ 19 ตุลาคม 2561
มาขอตัวอย่างการ์ดแต่งงานของเรา
จากนั้นทางเฟสบุ๊คส่วนตัวของผู้จัดการร้านก็ได้อัพภาพเซตพานขันหมาก ซึ่งทางเราก็ได้คุยกันว่า เห้ยนี่มันสีที่เราต้องการหรอ theme งานที่คุยกันคือ Shibori wedding นะ แล้วพานสีนี้มันใช่หรอ !! เราก็เลยทักไปครับ ตอนนั้นบอกเลยว่าเป็นห่วงงานตัวเองมากๆ เจ้าสาวคือเครียดทุกวัน ว่างานมันจะออกมาแนวไหน มันใช่ที่เราต้องการรึเปล่า ไหนว่าออแกไนซ์เข้าใจ แต่สีพานมันไม่น่าใช่นะ
ก็เลยส่งรูปในแนวที่อยากได้ไปครับเผื่อจะปรับความเข้าใจกันใหม่
อธิบายก่อนครับว่าวันที่ที่แจ้งด้านบนนั้น เป็นวันที่มีการคุยกัน แต่นอกนั้นไม่มีเลยนะครับ การรายงานส่งภาพให้ดูว่าถึงไหนแล้ว ถ้าไม่ไปเห็นเองก็คงจะไม่ได้แก้ไขแน่ๆครับ (Shibori ฉันนนนน)
ตอนนี้ก็เริ่มเครียดละครับว่า ขนาดสีพานยังเข้าใจผิดขนาดนี้แล้วงานมันจะออกมายังไงเข้าใจสีของมัดย้อมครามญี่ปุ่นรึเปล่า เถียงกันกับเจ้าสาวสองคนไม่ได้อะไรอยู่ดีก็เลยตัดสินใจที่จะนัดเจอกันครับ
ผมได้ตามเรื่องผ้าไปอีกครั้งเพราะนี่มันก็วันที่ 19 แล้ว ไปถึงไหนแล้ว สรุปได้ตามภาพด้านบนครับ “ยัง” และตอนเย็นถึงส่งรูปมาถามว่าสีได้ไหมอะไรยังไง
ผมก็เลยสร้างกลุ่มใหม่เพื่อลากเจ้าสาวเข้ามาคุยด้วยครับว่าแบบนี้โอเครึเปล่า ก็อธิบายทำความเข้าใจกันไปครับ
ก็ตามนั้นครับ รอวันที่ 10 พย ว่ายังไง เหลืออีกไม่กี่วันคือลุ้นมากๆครับว่างานจะออกมาแบบไหน นึกภาพไม่ออกจริงๆ มันอาจเป็นความกังวลปกติของทุกคนครับที่ เราไม่รู้เลยว่างานมันไปถึงไหน การอัพเดทของทางออแกไนซ์แทบจะไม่มีเลยผมก็เลยเข้าไปถามอีกทีครับ
วันที่ 20 ตุลาคม 2561
ผมเปิดคำถามก่อนที่จะเข้าไปหาเพื่อให้เตรียมความพร้อมในเรื่องที่ผมอยากรู้
คือตอนนี้ผมกับเจ้าสาวมานั่งใล่ดูแล้วคิดกันอีกทีครับว่าทำไมถึงเลือกออแกไนซ์เจ้านี้ ทั้งๆที่เราเลื่อนดูพอร์ทของเค้าแล้วในตอนนี้ไม่ค่อยมีงานที่ถูกใจเราเลย หรือมันเป็นอคติจากเราที่เห็นสิ่งต่างๆที่มันเกิดขึ้นนะ แต่รีวิวในเพจก็ดีนี่นา ผมได้ลองสุ่มเข้าไป add friend คนที่เข้ามารีวิว ว่าดีจากทางหน้าเพจ ครับถามว่า style การทำงานของออแกไนซ์นี้เป็นอย่างไร ถาม feedback เรื่องการทำงานตรงตาม theme รึเปล่า คำตอบที่ได้มาก็คือโอเคนะครับ ตรงตามที่ลูกค้าคนนั้นต้องการ ได้ยินแบบนี้ผมก็โล่งใจไปหน่อยนึงครับ หน่อยนึงจริงๆ
จากนั้นก็เข้าไปคุยรายละเอียดงานกันที่ร้านของออแกไนซ์ครับ ตอนบ่าย 2
คือมันขาดการอัพเดทเป็นเวลานานไม่ต่อเนื่องจึงทำให้เกิดความกังวลเป็นอย่างมาก
ทุกครั้งที่มีการพูดคุยในแต่ละครั้งที่เจอกันสิ่งที่ได้ยินตลอดติดหูคือ มืออาชีพ และ ไว้ใจได้
เราก็ปล่อยให้งานมันดำเนินต่อไปไม่อยากไปกดดันอะไร และเริ่มปล่อยวางกันแล้วครับเพราะงานใกล้เข้ามาละ เห็นจากพอร์ทหน้าเพจก็แบบ อืมม เดิมๆ ทุกสิ่งอย่างเดิมๆหมด และงานเราก็แบบนี้แหละเดิมๆแน่นอน นี่คือสิ่งที่คิดไว้นะครับ
แต่จริงๆมันมีสิ่งที่ไม่เหมือนเดิมรออยู่ครับ......