กะว่าปีหน้าจะเก็บเงินไปเที่ยวญี่ปุ่น แต่ยังโนแพลนในหัว
จนเพื่อนสมัยม.ปลายนัดกันไปกินชาบูพร้อมตีตั๋วดูหนังจากการสุ่ม
ทำให้เราและแก๊งค์เพื่อนๆ 5 คนเข้าไปดูหนังเรื่อง Gravity of love
ที่พี่บอย ปกรณ์ และเต้ยจรินทร์พร เล่นเป็นนางเอกอย่างงงๆ

แก๊งค์เราเป็นแก๊งค์นักสุ่ม ไม่มีการดูทีเซอร์หนังใดๆ ทั้งนั้นค่ะ
เข้าโรงหนังไปลุ้นเรื่องราวเอาดาบหน้า
หนังสนุกดีค่ะ เหมาะมากๆ กับคนที่อยากดูหนังเบาๆ หัวเราะง่ายๆ กับก๊งเพื่อน
ตัวหนังพูดถึงการเดินทางของตัวละครที่ไปเยือน เมือง Sendai ประเทศญี่ปุ่น
พร้อมกับภารกิจพิชิตพรหมลิขิต 55555
ที่เราติดใจที่สุดก็คือสถานที่ถ่ายทำที่หนังเลือกมานำเสนอกับเราค่ะ
โอ๊ยยย ดูแล้วโรแมนติกเว่อ
พอออกจากโรงหนัง กลับถึงห้องปุ๊บ เราก็รีบเสิร์ชหาสถานที่ถ่ายทำในหนังเลยค่ะ

ไล่จากสะพานสีแดงที่สถานที่ท้าทายที่พระนางเขาเล่นเกมไล่จับพรมลิขิตกัน
รีเสิร์ชจากพี่กู๋เขา เขาบอกว่าสถานที่นี้คือ สะพาน Fukuura


หรืออีกชื่อหนึ่งคือ สะพานแห่งการพบเจอ เชื่อว่าจะทำให้พบเจอกับความสัมพันธ์ที่ดี
ไปค่ะ! พี่สุชาติ เดสติเนชั่นแรกของเราคือที่นี่เลยค่ะพี่
ช่วงนี้เค้าฮิตไปขอพรกันที่ไต้หวัน แต่เราขอไปญี่ปุ่นแทนค่ะ
เพราะใจอยากพบรักกับหนุ่มญี่ปุ่น 555555
เพราะถ้าเป็นอย่างที่หวังจริง เราจะเกี่ยวก้อยกับเค้าไปที่ วัดไซโฮจิ บนเขา Jogi ต่อค่ะ
(นี่กะวางเป็นแพ็คเกจ พบรักปุ๊บ ลากไปไหว้พระต่อเล้ยย 5555555)


วัดไซโฮจิ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมากกกกกก
หนุ่มสาวมักชอบมาผูกดวงความรักกันค่ะ ...จะผูกยังไงดีน้าาาาาา อิอิ

อันดับหนึ่งในใจและจำภาพได้แม่นของเราก็คือ หินรูปหัวใจ Akiu Heart


ตามข้อมูลเขาบอกกันมาว่า (ยอมรับค่าาาา ว่าเป็นคนเชื่อคนง่าย อิอิ)
ถ้ามาดูหินรูปหัวใจกับคนรักจะทำให้สมหวัง !
แถมที่นี่ยังเป็นแลนด์มาร์คสำหรับขอแต่งงานอีกด้วย
เห็นเขาบอกว่าช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการขอแต่งงาน
คือตอนที่น้ำในร่องหินรูปหัวใจสะท้อนแสงอาทิตย์ยามเย็นค่ะ
(ถ้าฟ้ามีตา สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ขอให้หนูถูกผู้ชายขอแต่งงานที่นี่จังเลยน้าาาา 555555 - พูดลอยๆ ค่าาาา)

จากการทำการบ้านเพิ่มใน google map
สถานที่ 3 แห่งนี้อยู่ไม่ห่างไกลกันมาก (รึเปล่านะ 55555)
เราคือคนที่ยังไม่เคยไปญี่ปุ่นค่ะ เลยอยากจะถามจากผู้รู้
ควรตะลอนเที่ยว 3 สถานที่นี้ภายในวันเดียวดี หรือว่าอยู่ยาวๆ เที่ยวที่อื่นด้วย
แล้วถ้าสถานที่นี่ มีที่ไหนแนะนำบ้างคะ
ส่งสายตาปิ๊งๆ (กราบ)