ทริปที่ 14 By ขวัญสายชิล
เล่าเรื่องไม่ค่อยเก่งนัก ก็ขอให้ภาพเล่าเรื่องแทนละกันนะคะ
--------------------------------------------------
คืนวันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม 2561
21.00 น.เราเดินทางออกจาก ปตท.สนามเป้า
ทริปนี้เราเดินโดยรถตู้ 11 ที่นั่ง (รวมคนขับ)
เดินทางกันทั้งหมด 11 คน (รวมคนขับ)
--------------------------------------------------
เช้าวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม 2561
-05.00 น.สวัสดียามเช้าที่ ทัศนีย์รีสอร์ท หรือ บ้านผู้ใหญ่นาแห้ว ต.นาแห้ว อ.นาแห้ว จ.เลย
เพื่อเปลี่ยนเป็นรถกระบะ , อีแต๊ก ขึ้น ภูค้อ กัน
-จุดแรกของทริปนี้ " ภูค้อ"
ตั้งอยู่ที่ ต.นาแห้ว อ.นาแห้ว จ.เลย
เป็นจุดชมวิวที่สวยงามสามารถเห็นอำเภอนาแห้วได้ชัดเจนจากมุมสูง สามารถนั่งรถกระบะ หรือ รถอีแต็ก ขึ้นถึงจุดชมวิวได้เลยโดยไม่ต้องเดินไกล ข้างบนไม่มีอาหารขาย ,ไม่มีเครื่องดื่มขาย , มีบ้านของชาวบ้าน 1 หลัง , มีห้องน้ำของชาวบ้าน 1 ห้อง , ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ
เราจึงสั่งข้าวต้มหมู ชามละ 40 บาท จาก ทัศนีย์รีสอร์ท ขึ้นไปรับประทานกันบนภูค้อเลย
ค่ารถอีแต็ก (นั่งได้ 5 คน) คันละ 300 บาท
ค่ารถกระบะชาวบ้าน (นั่งได้คันละ 10 คน) คันละ 500 บาท
ใครสนใจ มาพักทัศนีย์รีสอร์ท , ขึ้นชมวิวภูค้อ , ไปล่องแพไม้ไผ่อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำไพร้ , สั่งอาหารกลางวันไปรับประทานที่แพ , จ้างรถกระบะไปอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำไพร้ , จ้างรถอีแต๊ก , จ้างรถกระบะ ไปภูค้อ
สามารถติดต่อได้ที่
080-1803535 (ป้าติ๋ม) , 081-3201195 (ลุงผู้ใหญ่บันฑิต)
เริ่มเช้าแล้วค่ะ แต่วันเราที่มาโชคไม่ดีเลยค่ะ
เพราะเมื่อคืนมีฝนตกลงมานิดหน่อย
ถ้าเป็นสถานที่อื่นๆ เช้านี้เราคงจะเจอหมอกหนาแน่นเป็นแน่
แต่ สำหรับที่นี่ ถ้าเมื่อคืนมีฝนตกลงมา
ตอนเช้าวันรุ่งขึ้นจะไม่มีหมอกเลย หรือ ก็มีหมอกน้อยมากอย่างที่เห็นล่ะค่ะ
ตรงจุดนี้ไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นนะคะ พระอาทิตย์ขึ้นด้านหลังมีภูเขาบังค่ะ
รับประทานอาหารเช้าเป็นข้าวต้มหมูเห็ดหอม
สั่งทำจาก ทัศนีย์รีสอร์ท ชามละ 40 บาท
ลูกชายของ ทัศนีย์รีสอร์ท บริการตักเราด้วยตัวเองเลย
-จุดต่อไปของทริปนี้ "ตลาดชายแดนไทย-ลาว
บ้านเหมืองแพร่ "
ตั้งอยู่ที่ ต.นาแห้ว อ.นาแห้ว จ.เลย
-จุดต่อไปของทริปนี้ " วัดโพสีบ้านเหมืองแพร่ "
ตั้งอยู่ที่ เมืองบ่อแตน แขวงไชยบุรี สปป.ลาว
วันที่เราไปไม่ตรงกับวันพระ เขาจึงไม่อนุญาตให้เราข้ามไปฝั่งลาว
พอดีเมื่อวันที่ 16/11/61 พึ่งมีนายอำเภอคนใหม่มา เขามีนโยบาย ให้เปิดชายแดนข้ามไปฝั่งลาว เพื่อไป วัดโพสีบ้านเหมืองแพร่ ได้แค่วันพระเท่านั้น ก่อนจะมาควรเช็คข้อมูลกับทางทัศนีย์รีสอร์ทอีกทีก่อนวันเดินทางนะคะ เพราะมักจะมีการเปลี่ยนแปลงใหม่อยู่เรื่อยๆ เดี๋ยวจะผิดหวังเหมือนเราค่ะ
เราจึงเปลี่ยนเป็นไป ชมวิว ภูผาหมวก และ ภูผาหนอง แทนค่ะ
-จุดต่อไปของทริปนี้ " ภูผาหมวก และ ภูผาหนอง "
ตั้งอยู่ที่ ต.นาแห้ว อ.นาแห้ว จ.เลย
เดิมทีเป็นฐานที่มั่นทหารสมัยสงครามร่มเกล้า ผาหมวกเป็นจุดชมวิว มองเห็นบ้านนาโพธิ์ บ้านเหมืองแพร่ฝั่งไทย และบ้านเหมืองแพร่ฝั่ง สปปล.(สังเกตุทีแม่น้ำเหือง) ในฤดูหนาว และฤดูฝนจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยแห่งหนึ่งในอำเภอนาแห้ว จากผาหมวก ผ่านผาธงไทย(ซึ่งทหารได้ใช้สีทาที่หน้าผาเป็นรูปธงชาติไทย) และฐานที่มั่นทหาร(มีบังเกอร์และเครื่องมือเครื่องใช้เก่า) ซึ่งจากบังเกอร์เราจะมองเห็นยอดผาหนอง ซึ่งมีลักษณะเป็นก้อนหินทรายขนาดใหญ่ เราต้องปีนขึ้นไป บนยอดผาหนอง จะมีบังเกอร์ทหารเก่า และหนองน้ำที่ชาวบ้านกั้นไว้ใช้ในวัดป่านาโพธิ์ (เดิมเป็นหนองน้ำไม่ได้ก่อปูนกั้น มีเรื่องเล่าว่า น้ำในหนองไม่เคยแห้ง แม้จะวิดออกก็ไม่แห้ง) ที่ยอดผาหนอง เราสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกได้พร้อม ๆ กัน
ภูผาหมวก และ ภูผาหนอง ก็คือสถานที่เดียวกัน เส้นทางเดินเท้าก็ไปทางเดียวกัน จากลานจอดรถ เราจะไปต้องเดินเท้าไปเรื่อยๆ จะพบจุดชมวิวทั้งหมด 5 จุด ภูผาหมอกเป็นจุดที่ 2 และ ภูผาหนองเป็นจุดสุดท้าย คือ จุดที่ 5
จากลานจอดรถไป ภูผาหมอก ต้องเดินเท้าประมาณ 800 เมตร เป็นทางชันขึ้นเขาในช่วงแรก และ ต่อด้วยทางเรียบ
แล้วจาก ภูผาหมอก ไป ภูผาหนอง ต้องเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 900 เมตร เป็นทางเรียบ ต่อด้วย บรรไดไม้ 2 ช่วง มีปีนป่ายขึ้นเขาช่วงสุดท้ายนิดหน่อย
แต่วันเราที่มาโชคไม่ดีเลยค่ะ
เพราะเมื่อคืนมีฝนตกลงมานิดหน่อย
ถ้าเป็นสถานที่อื่นๆ เช้านี้เราคงจะเจอหมอกหนาแน่นเป็นแน่
แต่ สำหรับที่นี่ ถ้าเมื่อคืนมีฝนตกลงมา
ตอนเช้าวันรุ่งขึ้นจะไม่มีหมอกเลย หรือ ก็มีหมอกน้อยมาก
จุดชมวิวจุดแรก ผานางแอ่น
ระหว่างทางจะผ่าน โพนป่าชาด (ดงต้นชาด)
ดอกชาด
ดอกชาด
จุดชมวิวที่ 2 ภูผาหมอก และ ผาขันหมาก
จุดชมวิวที่ 3 ผาธงไทย ซึ่งตรงนี้ทหารได้ใช้สีทาที่หน้าผาเป็นรูปธงชาติไทย เพื่อบ่งบอกว่าเป็นเขตประเทศไทย
จุดชมวิวที่ 4 ผากกไฮ
จุดชมวิวที่ 5 (จุดสุดท้าย) ผาหนอง
มีจุดที่น่าสนใจหลายจุดด้วยกัน
ตรงนี้คือที่มาของ ภูผาหนอง
จากภูผาหนองปีนบันไดขึ้นไป จุดสูงสุด
นั่นคือ จุดชมดาว วิว 360 องศา
จากนั้นกลับมาที่ ทัศนีย์รีสอร์ท เพื่อเปลี่ยนเป็นรถกระบะชาวบ้าน(คันละ 400 บาท นั่งได้คันละ 10 คน) ไปล่องแพไม้ไผ่ (ลำละ 300 บาท นั่งได้ 5-6 คน แบบนั่งๆนอนๆสบายๆ) และ รับประทานอาหารกลางวันกันบนแพ ที่ อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำไพร้ (สามารถทุกอย่างสั่งกับทาง ทัศนีย์รีสอร์ท ได้เลยในจุดเดียว)
-จุดต่อไปของทริปนี้ " อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำไพร้ "
ตั้งอยู่ที่ ต.นาแห้ว อ.นาแห้ว จ.เลย
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอนาแห้วประมาณ 4 กิโลเมตร เส้นทางค่อนข้างลาดชันและลำบาก เป็นทางลูกรัง สลับกับคอนกรีต นักท่องเที่ยวไม่ควรนำรถเก๋งเข้าไป ควรเป็นรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น
-ปิดทริปนี้ด้วย " วัดโพธิ์ชัยบ้านนาพึง "
ตั้งอยู่ที่ ต.นาพึง อ.นาแห้ว จ.เลย
เป็นวัดเก่าแก่ที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องพุทธประวัติ และพระเวชสันดรชาดก ผนังด้านนอกเขียนเรื่องเนมิราชชาดก สังข์ศิลป์ชัย และการะเกด ซึ่งภาพจิตรกรรมฝาผนังศิลปะพื้นบ้านของท้องถิ่นนี้สะท้อนให้เห็นสภาพชีวิตความเป็นอยู่ และการนับถือศาสนาของชาวบ้านนาพึง และภาพจิตรกรรมฝาผนังนี้ยังมีความสวยงาม และยังคงสภาพไว้แบบดั้งเดิมให้ชนรุ่นหลังได้มาศึกษาได้เป็นอย่างดี
15.00 น.เดินทางกลับกรุงเทพ
23.59 น.ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
*** จบทริป ***
สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้ เราไปกับทริปแบบหารเฉลี่ย อยู่ที่คนละ 1600 บาท
ทริปชิลๆ ภูค้อ บ้านเหมืองแพร่ วัดโพสี สปป.ลาว อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำไพร้ วัดโพธิ์ชัย อ.นาแห้ว จ.เลย By ขวัญสายชิล
ทริปที่ 14 By ขวัญสายชิล
เล่าเรื่องไม่ค่อยเก่งนัก ก็ขอให้ภาพเล่าเรื่องแทนละกันนะคะ
--------------------------------------------------
คืนวันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม 2561
21.00 น.เราเดินทางออกจาก ปตท.สนามเป้า
ทริปนี้เราเดินโดยรถตู้ 11 ที่นั่ง (รวมคนขับ)
เดินทางกันทั้งหมด 11 คน (รวมคนขับ)
--------------------------------------------------
เช้าวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม 2561
-05.00 น.สวัสดียามเช้าที่ ทัศนีย์รีสอร์ท หรือ บ้านผู้ใหญ่นาแห้ว ต.นาแห้ว อ.นาแห้ว จ.เลย
เพื่อเปลี่ยนเป็นรถกระบะ , อีแต๊ก ขึ้น ภูค้อ กัน
-จุดแรกของทริปนี้ " ภูค้อ"
ตั้งอยู่ที่ ต.นาแห้ว อ.นาแห้ว จ.เลย
เป็นจุดชมวิวที่สวยงามสามารถเห็นอำเภอนาแห้วได้ชัดเจนจากมุมสูง สามารถนั่งรถกระบะ หรือ รถอีแต็ก ขึ้นถึงจุดชมวิวได้เลยโดยไม่ต้องเดินไกล ข้างบนไม่มีอาหารขาย ,ไม่มีเครื่องดื่มขาย , มีบ้านของชาวบ้าน 1 หลัง , มีห้องน้ำของชาวบ้าน 1 ห้อง , ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ
เราจึงสั่งข้าวต้มหมู ชามละ 40 บาท จาก ทัศนีย์รีสอร์ท ขึ้นไปรับประทานกันบนภูค้อเลย
ค่ารถอีแต็ก (นั่งได้ 5 คน) คันละ 300 บาท
ค่ารถกระบะชาวบ้าน (นั่งได้คันละ 10 คน) คันละ 500 บาท
ใครสนใจ มาพักทัศนีย์รีสอร์ท , ขึ้นชมวิวภูค้อ , ไปล่องแพไม้ไผ่อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำไพร้ , สั่งอาหารกลางวันไปรับประทานที่แพ , จ้างรถกระบะไปอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำไพร้ , จ้างรถอีแต๊ก , จ้างรถกระบะ ไปภูค้อ
สามารถติดต่อได้ที่
080-1803535 (ป้าติ๋ม) , 081-3201195 (ลุงผู้ใหญ่บันฑิต)
เริ่มเช้าแล้วค่ะ แต่วันเราที่มาโชคไม่ดีเลยค่ะ
เพราะเมื่อคืนมีฝนตกลงมานิดหน่อย
ถ้าเป็นสถานที่อื่นๆ เช้านี้เราคงจะเจอหมอกหนาแน่นเป็นแน่
แต่ สำหรับที่นี่ ถ้าเมื่อคืนมีฝนตกลงมา
ตอนเช้าวันรุ่งขึ้นจะไม่มีหมอกเลย หรือ ก็มีหมอกน้อยมากอย่างที่เห็นล่ะค่ะ
ตรงจุดนี้ไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นนะคะ พระอาทิตย์ขึ้นด้านหลังมีภูเขาบังค่ะ
รับประทานอาหารเช้าเป็นข้าวต้มหมูเห็ดหอม
สั่งทำจาก ทัศนีย์รีสอร์ท ชามละ 40 บาท
ลูกชายของ ทัศนีย์รีสอร์ท บริการตักเราด้วยตัวเองเลย
-จุดต่อไปของทริปนี้ "ตลาดชายแดนไทย-ลาว
บ้านเหมืองแพร่ "
ตั้งอยู่ที่ ต.นาแห้ว อ.นาแห้ว จ.เลย
-จุดต่อไปของทริปนี้ " วัดโพสีบ้านเหมืองแพร่ "
ตั้งอยู่ที่ เมืองบ่อแตน แขวงไชยบุรี สปป.ลาว
วันที่เราไปไม่ตรงกับวันพระ เขาจึงไม่อนุญาตให้เราข้ามไปฝั่งลาว
พอดีเมื่อวันที่ 16/11/61 พึ่งมีนายอำเภอคนใหม่มา เขามีนโยบาย ให้เปิดชายแดนข้ามไปฝั่งลาว เพื่อไป วัดโพสีบ้านเหมืองแพร่ ได้แค่วันพระเท่านั้น ก่อนจะมาควรเช็คข้อมูลกับทางทัศนีย์รีสอร์ทอีกทีก่อนวันเดินทางนะคะ เพราะมักจะมีการเปลี่ยนแปลงใหม่อยู่เรื่อยๆ เดี๋ยวจะผิดหวังเหมือนเราค่ะ
เราจึงเปลี่ยนเป็นไป ชมวิว ภูผาหมวก และ ภูผาหนอง แทนค่ะ
-จุดต่อไปของทริปนี้ " ภูผาหมวก และ ภูผาหนอง "
ตั้งอยู่ที่ ต.นาแห้ว อ.นาแห้ว จ.เลย
เดิมทีเป็นฐานที่มั่นทหารสมัยสงครามร่มเกล้า ผาหมวกเป็นจุดชมวิว มองเห็นบ้านนาโพธิ์ บ้านเหมืองแพร่ฝั่งไทย และบ้านเหมืองแพร่ฝั่ง สปปล.(สังเกตุทีแม่น้ำเหือง) ในฤดูหนาว และฤดูฝนจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยแห่งหนึ่งในอำเภอนาแห้ว จากผาหมวก ผ่านผาธงไทย(ซึ่งทหารได้ใช้สีทาที่หน้าผาเป็นรูปธงชาติไทย) และฐานที่มั่นทหาร(มีบังเกอร์และเครื่องมือเครื่องใช้เก่า) ซึ่งจากบังเกอร์เราจะมองเห็นยอดผาหนอง ซึ่งมีลักษณะเป็นก้อนหินทรายขนาดใหญ่ เราต้องปีนขึ้นไป บนยอดผาหนอง จะมีบังเกอร์ทหารเก่า และหนองน้ำที่ชาวบ้านกั้นไว้ใช้ในวัดป่านาโพธิ์ (เดิมเป็นหนองน้ำไม่ได้ก่อปูนกั้น มีเรื่องเล่าว่า น้ำในหนองไม่เคยแห้ง แม้จะวิดออกก็ไม่แห้ง) ที่ยอดผาหนอง เราสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกได้พร้อม ๆ กัน
ภูผาหมวก และ ภูผาหนอง ก็คือสถานที่เดียวกัน เส้นทางเดินเท้าก็ไปทางเดียวกัน จากลานจอดรถ เราจะไปต้องเดินเท้าไปเรื่อยๆ จะพบจุดชมวิวทั้งหมด 5 จุด ภูผาหมอกเป็นจุดที่ 2 และ ภูผาหนองเป็นจุดสุดท้าย คือ จุดที่ 5
จากลานจอดรถไป ภูผาหมอก ต้องเดินเท้าประมาณ 800 เมตร เป็นทางชันขึ้นเขาในช่วงแรก และ ต่อด้วยทางเรียบ
แล้วจาก ภูผาหมอก ไป ภูผาหนอง ต้องเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 900 เมตร เป็นทางเรียบ ต่อด้วย บรรไดไม้ 2 ช่วง มีปีนป่ายขึ้นเขาช่วงสุดท้ายนิดหน่อย
แต่วันเราที่มาโชคไม่ดีเลยค่ะ
เพราะเมื่อคืนมีฝนตกลงมานิดหน่อย
ถ้าเป็นสถานที่อื่นๆ เช้านี้เราคงจะเจอหมอกหนาแน่นเป็นแน่
แต่ สำหรับที่นี่ ถ้าเมื่อคืนมีฝนตกลงมา
ตอนเช้าวันรุ่งขึ้นจะไม่มีหมอกเลย หรือ ก็มีหมอกน้อยมาก
จุดชมวิวจุดแรก ผานางแอ่น
ระหว่างทางจะผ่าน โพนป่าชาด (ดงต้นชาด)
ดอกชาด
ดอกชาด
จุดชมวิวที่ 2 ภูผาหมอก และ ผาขันหมาก
จุดชมวิวที่ 3 ผาธงไทย ซึ่งตรงนี้ทหารได้ใช้สีทาที่หน้าผาเป็นรูปธงชาติไทย เพื่อบ่งบอกว่าเป็นเขตประเทศไทย
จุดชมวิวที่ 4 ผากกไฮ
จุดชมวิวที่ 5 (จุดสุดท้าย) ผาหนอง
มีจุดที่น่าสนใจหลายจุดด้วยกัน
ตรงนี้คือที่มาของ ภูผาหนอง
จากภูผาหนองปีนบันไดขึ้นไป จุดสูงสุด
นั่นคือ จุดชมดาว วิว 360 องศา
จากนั้นกลับมาที่ ทัศนีย์รีสอร์ท เพื่อเปลี่ยนเป็นรถกระบะชาวบ้าน(คันละ 400 บาท นั่งได้คันละ 10 คน) ไปล่องแพไม้ไผ่ (ลำละ 300 บาท นั่งได้ 5-6 คน แบบนั่งๆนอนๆสบายๆ) และ รับประทานอาหารกลางวันกันบนแพ ที่ อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำไพร้ (สามารถทุกอย่างสั่งกับทาง ทัศนีย์รีสอร์ท ได้เลยในจุดเดียว)
-จุดต่อไปของทริปนี้ " อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำไพร้ "
ตั้งอยู่ที่ ต.นาแห้ว อ.นาแห้ว จ.เลย
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอนาแห้วประมาณ 4 กิโลเมตร เส้นทางค่อนข้างลาดชันและลำบาก เป็นทางลูกรัง สลับกับคอนกรีต นักท่องเที่ยวไม่ควรนำรถเก๋งเข้าไป ควรเป็นรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น
-ปิดทริปนี้ด้วย " วัดโพธิ์ชัยบ้านนาพึง "
ตั้งอยู่ที่ ต.นาพึง อ.นาแห้ว จ.เลย
เป็นวัดเก่าแก่ที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องพุทธประวัติ และพระเวชสันดรชาดก ผนังด้านนอกเขียนเรื่องเนมิราชชาดก สังข์ศิลป์ชัย และการะเกด ซึ่งภาพจิตรกรรมฝาผนังศิลปะพื้นบ้านของท้องถิ่นนี้สะท้อนให้เห็นสภาพชีวิตความเป็นอยู่ และการนับถือศาสนาของชาวบ้านนาพึง และภาพจิตรกรรมฝาผนังนี้ยังมีความสวยงาม และยังคงสภาพไว้แบบดั้งเดิมให้ชนรุ่นหลังได้มาศึกษาได้เป็นอย่างดี
15.00 น.เดินทางกลับกรุงเทพ
23.59 น.ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
*** จบทริป ***
สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้ เราไปกับทริปแบบหารเฉลี่ย อยู่ที่คนละ 1600 บาท