อยากให้เพื่อนๆหว้อก้อ ช่วยเช็คงานวิจัย อารมณ์ คำพูดของคนเรา ไปมีผลกับ DNA หน่อยคับ

อยากให้เพื่อนๆหว้อก้อ  ช่วยเช็คงานวิจัย  อารมณ์  และ  คำพูดของคนเรา  ทั้งทางบวก และ ทางลบ
ไปมีผลกับ  ทั้งทางบวก และ ทางลบ  DNA หน่อยคับ  

ว่า  แหล่งที่มาและอธิบายการทดลอง  และ  หลักฐาน  มันมาจากเว็ปไหนกันแน่  
และ  ผมจะต้องดูยังไง  ว่า   เว็ปไซน์ไหนมีความน่าเชื่อถือ  พิสูจน์เรื่องนี้ได้จริงๆ



***   อารมณ์    ทั้งทางบวก และ ทางลบ  ไปมีผลกับ  ทั้งทางบวก และ ทางลบ  DNA   ***
นักชีวครอนตัม  ชาวอเมริกัน  ชื่อ  Gregg Braden  ได้ทำการทดลอง  

การทดลองที่ 3:

การทดลองที่ 3 นี้ ดำเนินการโดยสถาบัน Heart Math ซึ่งรายงานการทดลองที่ถูกกล่าวถึงนี้ มีชื่อว่า “Local and Non-local Effect of Coherent Heart Frequencies on Conformational Changes of DNA” (หัวข้อมันจะชื่ออะไรก็ช่างเถอะ แต่ข้อมูลของมันน่าทึ่งมาก) นี่คือการทดลองที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสถานการณ์ของโรคแอนแทร็กซ์

ในการทดลองนี้ DNA จากรกในครรภ์ (เป็น DNA ที่มีความบริสุทธิ์มากที่สุดของมนุษย์) ถูกนำมาใส่ไว้ในภาชนะชนิดหนึ่ง ที่ทำให้สามารถตรวจวัดค่าการเปลี่ยนแปลงต่างๆของ DNA ได้ แล้วจากนั้น หลอดทดลองบรรจุ DNA ทั้ง 28 หลอด ก็ถูกแจกจ่ายไปให้กับนักวิจัยที่ถูกฝึกมาอย่างดีแล้ว จำนวน 28 คนๆละ 1 หลอด

ซึ่งนักวิจัยเหล่านี้ ได้ถูกฝึกมาให้สามารถผลิตอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ และ รู้สึกถึงอารมณ์ความรู้สึกต่างๆได้ และพวกเขาแต่ละคนก็มีอารมณ์ความรู้สึกที่เข้มข้นรุนแรงด้วย
สิ่งที่พวกเขาค้นพบจากการทดลองนี้ก็คือ DNA จะเปลี่ยนรูปร่างของตัวมันเองไป ขึ้นอยู่กับอารมณ์ความรู้สึกของนักวิจัยเหล่านั้น ซึ่งก็คือ:

1). เมื่อใดที่นักวิจัยเหล่านั้น รู้สึกถึง “ความรู้สึกขอบคุณ” (gratitude), “ความรัก” และ “ความซาบซึ้งใจ” (appreciation) DNA ก็จะตอบสนองด้วย “การผ่อนคลาย” และ “เกลียวของมันก็จะคลี่ออก” ดังนั้น ความยาวของมันจึง “ยาวขึ้น”

2). เมื่อใดที่นักวิจัยเหล่านั้นรู้สึก “โกรธ”, “กลัว”, “ขัดข้องใจ” หรือ “เครียด” DNA ก็จะตอบสนองโดย “การหดตัวเข้า”

ดังนั้น มันจึง “สั้นลง” และ “ปิด” (switch off) รหัสต่างๆมากมายที่อยู่ในตัวของมันไปซะเลยด้วย ดังนั้น ถ้าคุณเคยรู้สึก “ปิด” เพราะว่าอารมณ์ความรู้สึกด้านลบหละก็ ตอนนี้คุณก็รู้แล้วนะ ว่าทำไมร่างกายของคุณจึงต้อง “ปิด” ตามไปด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ได้พบอีกว่า การปิดของรหัสของ DNA ที่ว่านี้ ยังสามารถย้อนกลับได้ด้วย เพราะว่ารหัสของ DNA เหล่านั้น ได้ถูกเปิดขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง เมื่อนักวิจัยเหล่านั้น รู้สึกถึงความรัก, ความเบิกบาน, ความรู้สึกขอบคุณ และ ความซาบซึ้งใจ
แล้วหลังจากนั้น การทดลองนี้ก็ได้ถูกดำเนินการต่อ โดยการทดสอบกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสเอดส์จำนวนหนึ่ง
และพวกเขาก็พบว่า ความรู้สึกรัก, ความรู้สึกขอบคุณ, และความรู้สึกซาบซึ้งใจ สามารถที่จะเพิ่มความต้านทานให้แก่พวกเขาได้ มากกว่าในกรณีที่ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกเหล่านี้ ถึง 300,000 เท่า
ดังนั้น นี่คือคำตอบของคำถามที่ว่า อะไรที่จะทำให้คุณคงความมีสุขภาพที่ดีอยู่ได้ต่อไป ไม่ว่าไวรัสหรือแบคทีเรียที่ล่องลอยอยู่รอบๆตัวคุณนั้น จะร้ายกาจแค่ไหนก็ตามแต่

ดังนั้น จงอยู่แต่ในอารมณ์ความรู้สึกรัก, เบิกบานสนุกสนาน, ความรู้สึกขอบคุณ, และความรู้สึกซาบซึ้งใจ เสมอๆ เพราะการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ความรู้สึกเหล่านี้ จะส่งผลกระทบได้มากกว่าผลกระทบจากแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นไหนๆ ดังนั้น บุคคลผู้ที่ถูกฝึกมาให้อยู่ในอารมณ์ความรู้สึกแห่งความรักแบบลึกซึ้งแบบนี้ จะสามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างของ DNA ของตัวเองได้

ซึ่ง Gregg Braden กล่าวว่า ผลจากการทดลองนี้ ชี้ให้เห็นถึงการมีอยู่ของพลังงานรูปแบบใหม่ชนิดหนึ่ง ที่เรายังไม่รู้จัก ที่เชื่อมโยงทุกสรรพสิ่งเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งพลังงานที่ว่านี้ ดูเหมือนว่าจะเป็น “ข่ายใยที่แน่นหนา” ชนิดหนึ่งที่เชื่อมโยงสสารทุกชนิดเข้าไว้ด้วยกัน และที่สำคัญที่สุดก็คือ เราสามารถที่จะส่งผลกระทบต่อข่ายใยแห่งการสร้างสรรค์นี้ได้ด้วย โดยใช้ความสั่นสะเทือนของเราเอง


***   คำพูด(คลื่นเสียง)   ทั้งทางบวก และ ทางลบ  ไปมีผลกับ  ทั้งทางบวก และ ทางลบ  DNA   ***
นักชีวครอนตัม  ชาวรัสเซีย  ชื่อ  Pjotr Garjajevn  ได้ทำการทดลอง  

*DNA สามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยเสียง - รวมถึงภาษาพูดด้วย*

นักชีวฟิสิกส์และนักชีวโมเลกุลชาวรัซเซียที่ชื่อ Pjotr Garjajev คนนั้น และผู้ร่วมงานของเขา ยังได้ค้นพบอีกว่า DNA ก็มีการสั่นสะเทือนด้วย สรุปย่อๆ เอาเฉพาะส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือ “โครโมโซมที่มีชีวิต ทำหน้าที่เหมือนเป็นคอมพิวเตอร์ฉายภาพสามมิติ (holographic computer) โดยใช้การแผ่รังสีเลเซอร์ภายใน DNA”

ตรงนี้หมายความว่า พวกเขาได้จัดการอะไรบางอย่าง เช่น ปรับเปลี่ยนรูปแบบของคลื่นความถี่เสียงบางรูปแบบให้กลายเป็นรังสีคล้ายแสงเลเซอร์ เพื่อนำไปทดลองกับ DNA แล้วพบว่ามันสามารถส่งผลกระทบต่อความถี่ของ DNA ได้ ซึ่งเป็นผลให้ข้อมูลด้านพันธุกรรมของ DNA ถูกเปลี่ยนแปลงไปด้วย
เพราะว่าโครงสร้างพื้นฐานของคู่เบสของ DNA และโครงสร้างพื้นฐานของภาษา (อย่างที่ได้อธิบายไปแล้วก่อนหน้านี้) มีความคล้ายคลึงกัน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีการถอดรหัส DNA แต่อย่างใด เราจึงสามารถใช้คำพูดและประโยคต่างๆที่มนุษย์ใช้กันอยู่นี่แหละ ไปทำให้ข้อมูลด้านพันธุกรรมของ DNA เปลี่ยนแปลงไปได้โดยตรงเลย!

เรื่องนี้ก็ได้รับการทอลองพิสูจน์แล้วด้วยเช่นกัน ที่ว่าส่วนประกอบของ DNA ที่มีชีวิต (ในเนื้อเยื่อที่ยังมีชีวิต ไม่ใช่ในช่องท้อง) จะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อแสงเลเซอร์ที่ถูกปรับเปลี่ยนโดยภาษาแล้วเสมอ และยังมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อคลื่นวิทยุด้วย ถ้าใช้คลื่นความถี่ของเสียงที่เหมาะสม นี่จึงทำให้เราสามารถอธิบายทางวิทยาศาสตร์ได้ว่า ทำไมการอธิษฐาน, การสะกดจิต และอะไรทำนองนี้ จึงมีอิทธิพลต่อมนุษย์และร่างกายมนุษย์มากมายนัก เพราะว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ และแสนจะธรรมดาเหลือเกินที่ DNA ของเราจะตอบสนองต่อภาษา

*******************************************************************************************************
ผมจึงอยากรู้ว่า
1.แหล่งที่มาข้อมูลผลการทดลอง  และ  หลักฐานที่พบจริง  มาจากเว็ปไซน์  ไหน
2.และแว็ปไซน์  จะรู้ได้ไงว่า  มันน่าเชื่อถือ  พิสูจน์ได้จริง



ปล.ลิ้งเว็ปไซน์อ้างอิง  แหล่งข้อมูล  การทดลองพิสูจน์ของวิทย์เรื่องที่บอกมา  
    
1. นักวิทย์  ที่บอกว่า  อารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้น  ทั้งดีและไม่ดี  ไปมีผลกับ  DNA  ให้ดีขึ้นและแย่ลงได้
    เป็นการทดลอง  ของ  นักชีวครอนตัม  ชาวอเมริกัน  ชื่อ  Gregg Braden

- เว็ปต่างประเทศ  จากลิ้งจริง  อยู่ที่การทดลองที่ 3
http://www.redicecreations.com/specialreports/gbraden2.html

- เว็ปมีคนแปลไทย  อยู่ที่การทดลองที่ 3
https://www.facebook.com/notes/chayutt-naowarat/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD-dna/1091440380867834/


2. นักวิทย์  ที่บอกว่า  คำพูดของคนเรา(คลื่นเสียง)ที่เกิดขึ้น  ทั้งดีและไม่ดี  ไปมีผลกับ  DNA  ให้ดีขึ้นและแย่ลงได้
    เป็นการทดลอง  ของ  นักชีวครอนตัม  ชาวรัสเซีย  ชื่อ  Pjotr Garjajev
- เว็ปต่างประเทศ  จากลิ้งจริง  อยู่ที่หัวข้อ  
*DNA CAN BE CHANGED BY SOUND PATTERNS — INCLUDING SPOKEN LANGUAGE*
https://divinecosmos.com/articles/362-groundbreaking-russian-dna-discoveries/?fbclid=IwAR2fQ0_blAE5NLStBTxT42WMnHA3ytIuxpyXCcHtE1nxSgb9OLW-HnHMepw

- เว็ปมีคนแปลไทย  อยู่ที่หัวข้อ  *DNA สามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยเสียง - รวมถึงภาษาพูดด้วย*
https://www.facebook.com/notes/chayutt-naowarat/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%8B%E0%B8%A1-dna-%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87-%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-35/1130715476940324/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่