ความฝันที่อยากมีธุรกิจ หรือการเป็นเจ้านายตัวเอง คงเป็นความฝันที่ใครหลายๆ คนอยากที่จะทำมันให้สำเร็จ เช่น การมีร้านกาแฟเป็นของตัวเอง หรือเป็นเจ้าของร้านเสื้อผ้า แต่สิ่งที่คิดกับสิ่งที่ทำได้จริงนั้นมันไม่เคยที่จะง่ายเลยนี่สิ เพราะในความเป็นจริงยังมีสิ่งที่เราไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ แม้ว่าเราจะวางแผนมาดีเพียงใดก็ตาม
การที่เราจะทำให้สิ่งที่เรารัก หรือตั้งใจไว้นั้นเปลี่ยนมาเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้อาจเกิดจากหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น ความอดทน จังหวะของธุรกิจ ความพยายาม และเรื่องอื่นๆ จนอาจทำให้สิ่งที่รักนั้นอาจกลับกลายเป็นสิ่งที่เกลียดได้เลยทีเดียว
วันนี้
K-Expert จึงอยากจะมาแนะนำ 3 สิ่งที่คนฝันจะทำธุรกิจของตนเอง ต้องรู้จักให้ดีก่อนตัดสินใจ ได้แก่
1. รู้จักเลือก คือ สิ่งที่เราจะเลือกมาเป็นธุรกิจส่วนตัว ควรเลือกมาจาก “ความรักและความชอบ” อันนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ก็ถูกแค่ครึ่งเดียว เพราะนอกจากทำในสิ่งที่รักแล้ว สิ่งที่เลือกเป็นธุรกิจ ควรเป็นสิ่งที่เราถนัดด้วย “ความถนัด” จึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ถ้าถึงวันหนึ่งที่ธุรกิจเจริญเติบโต แต่มีปัญหาขาดคน หากคุณสามารถทำหน้าที่ในธุรกิจแทนได้แทบทุกตำแหน่ง จะช่วยบรรเทาปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ และยังมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้อีกด้วย เช่น หากคุณอยากเปิดร้านอาหาร คุณก็ควรที่จะทำอาหารเป็นนั่นเอง เพราะหากพ่อครัวหรือแม่ครัวเกิดลาออกกะทันหัน คุณก็ยังพอรับมือเปิดร้านต่อไปได้ ดังนั้น ธุรกิจที่เราเลือกทำควรเริ่มเลือกจากสิ่งที่เรารักและเราถนัดนั่นเองครับ
2. รู้จักคน สำหรับเรื่องคน ในที่นี้มี 2 เรื่องด้วยกัน
เรื่องแรก คือ งานบริหารคน อันนี้อยากบอกว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดและต้องใช้ความอดทนมากเลยทีเดียว คนหรือลูกน้องนี่แหละ คืองานอาร์ตตัวพ่อเลย ใครคิดอยากมีธุรกิจ อยากให้เตรียมรับมือเรื่องนี้ไว้เลยเพราะจะมีเรื่องให้จัดการหลากหลาย และต้องใช้ความอดทนสูง
เรื่องที่สองคือ รู้จักคนให้มากขึ้น ภาษาอังกฤษคือ “Connection” ถ้าคุณเริ่มทำแล้ว ธุรกิจช่วงแรกอาจยังไม่แข็งแกร่งพอ Connection เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยประคับประคองธุรกิจในช่วงแรกของคุณได้ แต่ท้ายสุด ธุรกิจจะรอดหรือไม่ ก็ต้องไปวัดกันที่ฝีมือของคุณกันอีกที
ดังนั้น เรื่องคนที่ควรรู้คือ เรื่องการบริหารคน HRM
“ Human Resource Management” และ การสร้างกัลยาณมิตร “Connection” นั่นเอง
3. รู้จักเงิน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องคิดให้รอบคอบที่สุด ตั้งแต่เงินทุนก้อนแรกที่จะนำมาลงทุนว่าเราพร้อมแค่ไหน ต้องวางแผนสำหรับเงินสำรองในการดำเนินธุรกิจหากไม่มีกำไรในช่วงแรก หรือที่เรียกกันว่า “สายป่าน” นั่นเอง เพราะช่วงแรกคนอาจจะยังไม่รู้จักผลิตภัณฑ์ของเรา อันนี้อาจจะขึ้นอยู่กับแต่ละธุรกิจ แต่ขอแนะนำว่าควรมีเงินสำรองในการดำเนินธุรกิจขั้นต่ำอย่างน้อย 6-12 เดือน เพื่อให้ธุรกิจของเรายังดำเนินต่อไปได้ ไม่ติดขัดเรื่องการหมุนเงิน นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการบริหารเงิน คือทำบัญชีรายรับรายจ่ายของธุรกิจ การวางแผนเกี่ยวกับภาษีฯ และที่สำคัญ ห้ามนำเงินใช้จ่ายในธุรกิจกับเงินใช้จ่ายส่วนตัวมาปนกันโดยเด็ดขาด แนะนำให้ตั้งเป็นเงินเดือนของตัวเองแยกออกมาเลยครับปลอดภัยที่สุด ดังนั้น สำหรับใครที่อยากทำธุรกิจให้ศึกษาเรื่องการบริหารเงินไว้ด้วยนะครับ
การทำธุรกิจส่วนตัว อาจดูแล้วไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็คงไม่ยากเกินไปสำหรับคนที่ตั้งใจและเตรียมพร้อมหาข้อมูลในด้านต่างๆ ไว้เป็นอย่างดีก่อนตัดสินใจลงมือทำ ขอให้ทุกท่านที่ตั้งใจมีธุรกิจใหม่เป็นของตัวเองประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตั้งใจไว้นะครับ ขอเป็นกำลังใจให้กับเศรษฐีใหม่ทุกท่านครับ
3 สิ่งที่ควรรู้ ก่อนก้าวสู่ ธุรกิจส่วนตัว !!!!!!
ความฝันที่อยากมีธุรกิจ หรือการเป็นเจ้านายตัวเอง คงเป็นความฝันที่ใครหลายๆ คนอยากที่จะทำมันให้สำเร็จ เช่น การมีร้านกาแฟเป็นของตัวเอง หรือเป็นเจ้าของร้านเสื้อผ้า แต่สิ่งที่คิดกับสิ่งที่ทำได้จริงนั้นมันไม่เคยที่จะง่ายเลยนี่สิ เพราะในความเป็นจริงยังมีสิ่งที่เราไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ แม้ว่าเราจะวางแผนมาดีเพียงใดก็ตาม
การที่เราจะทำให้สิ่งที่เรารัก หรือตั้งใจไว้นั้นเปลี่ยนมาเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้อาจเกิดจากหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น ความอดทน จังหวะของธุรกิจ ความพยายาม และเรื่องอื่นๆ จนอาจทำให้สิ่งที่รักนั้นอาจกลับกลายเป็นสิ่งที่เกลียดได้เลยทีเดียว
วันนี้ K-Expert จึงอยากจะมาแนะนำ 3 สิ่งที่คนฝันจะทำธุรกิจของตนเอง ต้องรู้จักให้ดีก่อนตัดสินใจ ได้แก่
1. รู้จักเลือก คือ สิ่งที่เราจะเลือกมาเป็นธุรกิจส่วนตัว ควรเลือกมาจาก “ความรักและความชอบ” อันนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ก็ถูกแค่ครึ่งเดียว เพราะนอกจากทำในสิ่งที่รักแล้ว สิ่งที่เลือกเป็นธุรกิจ ควรเป็นสิ่งที่เราถนัดด้วย “ความถนัด” จึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ถ้าถึงวันหนึ่งที่ธุรกิจเจริญเติบโต แต่มีปัญหาขาดคน หากคุณสามารถทำหน้าที่ในธุรกิจแทนได้แทบทุกตำแหน่ง จะช่วยบรรเทาปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ และยังมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้อีกด้วย เช่น หากคุณอยากเปิดร้านอาหาร คุณก็ควรที่จะทำอาหารเป็นนั่นเอง เพราะหากพ่อครัวหรือแม่ครัวเกิดลาออกกะทันหัน คุณก็ยังพอรับมือเปิดร้านต่อไปได้ ดังนั้น ธุรกิจที่เราเลือกทำควรเริ่มเลือกจากสิ่งที่เรารักและเราถนัดนั่นเองครับ
2. รู้จักคน สำหรับเรื่องคน ในที่นี้มี 2 เรื่องด้วยกัน
เรื่องแรก คือ งานบริหารคน อันนี้อยากบอกว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดและต้องใช้ความอดทนมากเลยทีเดียว คนหรือลูกน้องนี่แหละ คืองานอาร์ตตัวพ่อเลย ใครคิดอยากมีธุรกิจ อยากให้เตรียมรับมือเรื่องนี้ไว้เลยเพราะจะมีเรื่องให้จัดการหลากหลาย และต้องใช้ความอดทนสูง
เรื่องที่สองคือ รู้จักคนให้มากขึ้น ภาษาอังกฤษคือ “Connection” ถ้าคุณเริ่มทำแล้ว ธุรกิจช่วงแรกอาจยังไม่แข็งแกร่งพอ Connection เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยประคับประคองธุรกิจในช่วงแรกของคุณได้ แต่ท้ายสุด ธุรกิจจะรอดหรือไม่ ก็ต้องไปวัดกันที่ฝีมือของคุณกันอีกที
ดังนั้น เรื่องคนที่ควรรู้คือ เรื่องการบริหารคน HRM “ Human Resource Management” และ การสร้างกัลยาณมิตร “Connection” นั่นเอง
3. รู้จักเงิน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องคิดให้รอบคอบที่สุด ตั้งแต่เงินทุนก้อนแรกที่จะนำมาลงทุนว่าเราพร้อมแค่ไหน ต้องวางแผนสำหรับเงินสำรองในการดำเนินธุรกิจหากไม่มีกำไรในช่วงแรก หรือที่เรียกกันว่า “สายป่าน” นั่นเอง เพราะช่วงแรกคนอาจจะยังไม่รู้จักผลิตภัณฑ์ของเรา อันนี้อาจจะขึ้นอยู่กับแต่ละธุรกิจ แต่ขอแนะนำว่าควรมีเงินสำรองในการดำเนินธุรกิจขั้นต่ำอย่างน้อย 6-12 เดือน เพื่อให้ธุรกิจของเรายังดำเนินต่อไปได้ ไม่ติดขัดเรื่องการหมุนเงิน นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการบริหารเงิน คือทำบัญชีรายรับรายจ่ายของธุรกิจ การวางแผนเกี่ยวกับภาษีฯ และที่สำคัญ ห้ามนำเงินใช้จ่ายในธุรกิจกับเงินใช้จ่ายส่วนตัวมาปนกันโดยเด็ดขาด แนะนำให้ตั้งเป็นเงินเดือนของตัวเองแยกออกมาเลยครับปลอดภัยที่สุด ดังนั้น สำหรับใครที่อยากทำธุรกิจให้ศึกษาเรื่องการบริหารเงินไว้ด้วยนะครับ
การทำธุรกิจส่วนตัว อาจดูแล้วไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็คงไม่ยากเกินไปสำหรับคนที่ตั้งใจและเตรียมพร้อมหาข้อมูลในด้านต่างๆ ไว้เป็นอย่างดีก่อนตัดสินใจลงมือทำ ขอให้ทุกท่านที่ตั้งใจมีธุรกิจใหม่เป็นของตัวเองประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตั้งใจไว้นะครับ ขอเป็นกำลังใจให้กับเศรษฐีใหม่ทุกท่านครับ