สวัสดีครับ กระทู้นี้จะเรียกว่ารีวิวก็ไม่ถูก เนื่องจากมีข้อมูลการเดินทางที่ไม่เยอะนัก แต่จะเน้นไปที่รูปภาพ
ที่ผมได้บันทึกระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว
อยากจะใช้พื้นที่ตรงนี้บันทึกภาพความทรงจำของตนเอง โดยครั้งนี้มากันที่ จ.สุราษฎร์ธานี จังหวัดซึ่งที่มีแลนด์มาร์คเพียบ
(คงต้องหาโอกาสไปอีกครับ เพราะยังเก็บไม่ครบ
)
-----------------------------------------------------------------
Itinerary:
DAY1 : เขาสก พักที่ Anurak Community Lodge
DAY2 : เขื่อนเชี่ยวหลาน พักที่แพคีรีวาริณ
DAY3 : เที่ยวสันเขื่อน เดินทางกลับ
-----------------------------------------------------------------
เราเริ่มจาก
วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร
พระพุทธรูปศิลาแลงสมัยศรีวิชัย และเจดีย์พระบรมธาตุไชยา เป็นปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมือง ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นพุทธสถานเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่ยังคงรักษาความ เป็นเอกลักษณ์ของช่าง ศิลปกรรมสมัยศรีวิชัยไว้ได้สมบูรณ์ วัดพระบรมธาตุไชยาจึงเป็นวัดที่มีความสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของชาวไชยาและสุราษฎร์ธานีมา นานนับแต่โบราณกาล
มาต่อกันที่ สวนโมกขพลาราม เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและสถานที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา ภายในเงียบสงบมาก มีผู้คนมาปฏิบัติธรรมกันพอสมควรครับ
เริ่มหิวกันแล้ว มื้อกลางวัน แวะทานอาหารกันที่ร้านลำพู 1 ร้านชื่อดังของชาวสุราษฎร์ ของขึ้นชื่อคือ หอยนางรม สดๆ ตัวโตๆ
ทานกับซีฟู้ดรสจัดจ้าน อาหารราคาค่อนข้างสูงนะครับ พอๆกับที่ กรุงเทพฯ เลยครับ
จากนั้นออกเดินทางกันต่อไปยังที่พักที่เขาสกคืนนี้ครับ
Anurak Community Lodge
บรรยากาศยามค่ำคืน อากาศเย็นสบายๆ
อาหารเช้าเป็น A la carte Buffet ครับ รสชาติดีเลยทีเดียว คู่กับบรรยากาศยามเช้า ชมหมอกบนภูเขา ฟินสุดๆ
จากนั้นเดินทางไปยังเขื่อนเชี่ยงหลาน เพื่อไปขึ้นเรือที่ท่าเรือ ระยะทางจากเขาสกไม่ไกลมากครับ ประมาณ 40 กิโลเมตร
น้ำที่นี่ใสมาก นึกว่าอันดามัน สีเขียวมรกตสวยงามครับ
เขาสามเกลอ แฝดคนละฝาของกุ้ยหลิน ประเทศจีนครับ
-----------------------------------------------------------------
คืนนี้พักกันที่แพคีวีวาริณ ผมไป 4 คน ค่าใช้จ่าย ที่พัก รวมอาหาร 3 มือ ประมาณ 8 พันบาท (คนละ 2 พัน)
กิจกรรม:
เล่นน้ำ พายเรือ (น้ำใสมาก)
ชมพระอาทิตย์ตก
ชมหมอกตอนเช้า และพระอาทิตย์ขึ้น
อาหาร 3 มื้อ กลางวัน เย็น และตอนเช้า
เติมได้เรื่อยๆ
เล่นน้ำกันจนพอใจ อาบน้ำพักเหนื่อย ช่วงเย็นจะมีเรือมารับ พาไปชมพระอาทิตย์ตกดินครับ สวยงามมาก
มื้อเย็นจัดหนักไปเลยยย
ทานเสร็จแล้ว ออกมาถ่ายรูปกันต่อครับ ที่เขื่อนเชี่ยวหลานกลางคืน มียุงน้อยมากๆแทบจะไม่มี และบรรยากาศมืด สงบ ทำให้สามารถมองเห็นดาวด้วยตาเปล่าได้ครับ
ตื่นมาตอนประมาณ 4.30 น. ท้องฟ้าเริ่มสว่าง และกลายเป็นสีม่วง แบบนี้มีให้เห็นยากมากที่กรุงเทพ เลยเก็บภาพมาตามระเบียบ
ช่วงเช้าประมาณ 06.30 น. ไปดูทะเลหมอกและชมพระอาทิตย์ขึ้นครับ มีหมอกให้เห็นบางๆ ไม่เยอะมาก สวยไปอีกแบบ
กลับมาทางแพ ก็ได้จัดเกตรียมอาหารเช้าไว้ให้แล้ว เป็น Buffet เช่นเดิมครับ
ถึงเวลากลับกันแล้ว น่ารักดีครับพนักงานที่นี่มีการกล่าวคำอำลา และโบกมือบ๊ายบายนักท่องเที่ยวทุกท่าน
ไม่หราหรู แต่ประทับใจครับตรงนี้
ก่อนเดินทางกลับบ้าน แวะถ่ายรูปที่สันเขื่อนกันซักหน่อย เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง *-*
ขอบคุณที่รับชมครับผม โอกาสหน้าพบกันใหม่
[CR] เที่ยวสุราษฎร์ธานี เขาสก / เขื่อนเชี่ยวหลาน 3 วัน 2 คืน
สวัสดีครับ กระทู้นี้จะเรียกว่ารีวิวก็ไม่ถูก เนื่องจากมีข้อมูลการเดินทางที่ไม่เยอะนัก แต่จะเน้นไปที่รูปภาพ
ที่ผมได้บันทึกระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว
อยากจะใช้พื้นที่ตรงนี้บันทึกภาพความทรงจำของตนเอง โดยครั้งนี้มากันที่ จ.สุราษฎร์ธานี จังหวัดซึ่งที่มีแลนด์มาร์คเพียบ
(คงต้องหาโอกาสไปอีกครับ เพราะยังเก็บไม่ครบ )
-----------------------------------------------------------------
Itinerary:
DAY1 : เขาสก พักที่ Anurak Community Lodge
DAY2 : เขื่อนเชี่ยวหลาน พักที่แพคีรีวาริณ
DAY3 : เที่ยวสันเขื่อน เดินทางกลับ
-----------------------------------------------------------------
เราเริ่มจาก วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร
พระพุทธรูปศิลาแลงสมัยศรีวิชัย และเจดีย์พระบรมธาตุไชยา เป็นปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมือง ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นพุทธสถานเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่ยังคงรักษาความ เป็นเอกลักษณ์ของช่าง ศิลปกรรมสมัยศรีวิชัยไว้ได้สมบูรณ์ วัดพระบรมธาตุไชยาจึงเป็นวัดที่มีความสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของชาวไชยาและสุราษฎร์ธานีมา นานนับแต่โบราณกาล
มาต่อกันที่ สวนโมกขพลาราม เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและสถานที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา ภายในเงียบสงบมาก มีผู้คนมาปฏิบัติธรรมกันพอสมควรครับ
เริ่มหิวกันแล้ว มื้อกลางวัน แวะทานอาหารกันที่ร้านลำพู 1 ร้านชื่อดังของชาวสุราษฎร์ ของขึ้นชื่อคือ หอยนางรม สดๆ ตัวโตๆ
ทานกับซีฟู้ดรสจัดจ้าน อาหารราคาค่อนข้างสูงนะครับ พอๆกับที่ กรุงเทพฯ เลยครับ
จากนั้นออกเดินทางกันต่อไปยังที่พักที่เขาสกคืนนี้ครับ
Anurak Community Lodge
บรรยากาศยามค่ำคืน อากาศเย็นสบายๆ
อาหารเช้าเป็น A la carte Buffet ครับ รสชาติดีเลยทีเดียว คู่กับบรรยากาศยามเช้า ชมหมอกบนภูเขา ฟินสุดๆ
จากนั้นเดินทางไปยังเขื่อนเชี่ยงหลาน เพื่อไปขึ้นเรือที่ท่าเรือ ระยะทางจากเขาสกไม่ไกลมากครับ ประมาณ 40 กิโลเมตร
น้ำที่นี่ใสมาก นึกว่าอันดามัน สีเขียวมรกตสวยงามครับ
เขาสามเกลอ แฝดคนละฝาของกุ้ยหลิน ประเทศจีนครับ
-----------------------------------------------------------------
คืนนี้พักกันที่แพคีวีวาริณ ผมไป 4 คน ค่าใช้จ่าย ที่พัก รวมอาหาร 3 มือ ประมาณ 8 พันบาท (คนละ 2 พัน)
กิจกรรม:
เล่นน้ำ พายเรือ (น้ำใสมาก)
ชมพระอาทิตย์ตก
ชมหมอกตอนเช้า และพระอาทิตย์ขึ้น
อาหาร 3 มื้อ กลางวัน เย็น และตอนเช้า
เติมได้เรื่อยๆ
เล่นน้ำกันจนพอใจ อาบน้ำพักเหนื่อย ช่วงเย็นจะมีเรือมารับ พาไปชมพระอาทิตย์ตกดินครับ สวยงามมาก
มื้อเย็นจัดหนักไปเลยยย
ทานเสร็จแล้ว ออกมาถ่ายรูปกันต่อครับ ที่เขื่อนเชี่ยวหลานกลางคืน มียุงน้อยมากๆแทบจะไม่มี และบรรยากาศมืด สงบ ทำให้สามารถมองเห็นดาวด้วยตาเปล่าได้ครับ
ตื่นมาตอนประมาณ 4.30 น. ท้องฟ้าเริ่มสว่าง และกลายเป็นสีม่วง แบบนี้มีให้เห็นยากมากที่กรุงเทพ เลยเก็บภาพมาตามระเบียบ
ช่วงเช้าประมาณ 06.30 น. ไปดูทะเลหมอกและชมพระอาทิตย์ขึ้นครับ มีหมอกให้เห็นบางๆ ไม่เยอะมาก สวยไปอีกแบบ
กลับมาทางแพ ก็ได้จัดเกตรียมอาหารเช้าไว้ให้แล้ว เป็น Buffet เช่นเดิมครับ
ถึงเวลากลับกันแล้ว น่ารักดีครับพนักงานที่นี่มีการกล่าวคำอำลา และโบกมือบ๊ายบายนักท่องเที่ยวทุกท่าน
ไม่หราหรู แต่ประทับใจครับตรงนี้
ก่อนเดินทางกลับบ้าน แวะถ่ายรูปที่สันเขื่อนกันซักหน่อย เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง *-*
ขอบคุณที่รับชมครับผม โอกาสหน้าพบกันใหม่
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น