สวัสดีกันอีกครั้งนะครับ.....คราวนี้กลับมาพร้อมกับความประทับใจ อิ่มเอิบใจ ร่างกายมีเรี่ยวแรงมีพละกำลัง ที่ได้เติมมาระหว่างการเดินทางในดินแดนที่ผมว่ามีทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง มีอากาศที่บริสุทธิ์ ผู้คนน่ารัก และอาหารก็โคตะระอร่อย ที่นี่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประเทศไทยนี่เอง

เรามาต่อจากการเดินทาง 2 วันแรกที่ ANURAK COMMUNITY LODGE, อุทยานฯ เขาสก, MEMORIES BEACH ติดตามได้ที่  : https://ppantip.com/topic/37145423

---

"รีสอร์ทบนผืนน้ำจืด ที่มีวิวทิวทัศน์จากห้องนอนที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย"   ผมได้ยินคำพูดนี้มาจากรายการท่องเที่ยวหนึ่ง ที่ได้ไปพักที่ พันวารีย์ เดอะกรีนเนอรี่ รีสอร์ท (Panvaree The Greenery Resort) พร้อมกับคิดในใจว่า "มันขนาดนั้นเชียวหรอฟะ" แต่แน่นอนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขื่อนรัชประภาถูกกาให้เข้าอยู่ในลิสต์การเดินทางที่ต้องไปให้ได้ก่อนตายของผมเป็นที่เรียบร้อย

เช้านี้เราเริ่มการเดินทางจาก ANURAK COMMUNITY LODGE ล้อหมุน 09.00 น. โดยต้องไปลงเรือในเวลา 11.30 น. ตามที่เจ้าหน้าที่ของแพได้นัดหมายเอาไว้ แวะเติมพลังด้วยแกงใต้แถว ๆ หน้าเทศบาลตำบลพนม


อิ่มแล้วก็มุ่งหน้าไปยังเขื่อนรัชประภา แวะซื้อเครื่องดื่มสำหรับ พาร์ที่ คืนนี้ แถว ๆ อำเภอบ้านตาขุน แต่อันที่จริงที่ร้านค้าท่าเรือมีครบทุกอย่างเลย แต่อาจจะแพงกว่าข้างนอกเล็กน้อยได้ความสะดวกสบาย นอกจากนั้นก็มีร้านค้า ร้านอาหาร ห้องน้ำ อยู่ภายในตัวอาคารนี้เลย


บริเวณรอบ ๆ ท่าเรือ


อัตราค่าเข้า ค่าบริการต่าง ๆ ของที่นี่

สำหรับเราซื้อมาเป็นแพ็กเกจราคา 4 พันกว่าบาท ราคานี้รวมที่พัก 1 คืน อาหาร 3 มื้อ นั่งเรือชมเขื่อน 1 รอบ และค่าเรือไป-กลับ จากฝั่งเรือมารับตรงเวลา 11.30 น. มีเจ้าหน้าที่มาคอยต้อนรับและบริการยกกระเป๋าลงเรืออย่างดี


แค่เพียงเรือเคลื่อนจากฝั่งเพียงไม่กี่อึดใจ ความคิดเดียวที่โผล่มาในหัวก็คือ "กรูไปอยู่มาวะเนี่ย" ที่สวย ๆ แบบนี้ทำไมพึ่งจะมา...แต่ก็ไม่มีอะไรที่สายเกินไปความงดงามอยู่ตรงหน้าเราแล้วนี่ไง ยลโฉมมันซะให้พอใจ


ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ก็มาถึง พันวารีย์ เดอะกรีนเนอรี่ รีสอร์ท (Panvaree The Greenery Resort) มีเวลคั่ม ดริ๊งก์เป็นน้ำอัญชัญ

มาถึงก็ได้เวลาอาหารกลางวันพอดี กินก่อนที่จะเอากระเป๋าไปเก็บ มีต้มข่าไก่ แกงไตปลา ไข่เจียว และผัดผัก

รสชาติของอาหารถือว่าธรรมดามาก ๆ ไม่ได้โดดเด่นอะไร แต่มีบรรยากาศของน้ำ และขุนเขา แบบนี้ก็ทำให้อาหารอร่อยขึ้นได้มากทีเดียว

อิ่มจากอาหารก็สามารถดื่มกาแฟ หรือชาได้ มุมนี้มีให้บริการตลอดทั้งวัน

หรือจะสั่งเครื่องดื่มจากบาร์ก็มีให้บริการโดยการเสียเงินเพิ่ม มีทั้งกาแฟสด น้ำผลไม้ ค็อกเทล ม็อกเทล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารว่าง ฯลฯ ราคาก็พอเหมาะไม่แพงหรือถูกจนเกินไป

อิ่มแล้ว ระหว่างรอการจัดการห้องก็เดินสำรวจแพกันหน่อย ที่ล็อบบี้มีประวัติของเขื่อนรัชประภาให้อ่าน ซึ่งก่อนสร้างก็มีปัญหากันมายาวนาน เนื่องจากมีหมู่บ้าน และชาวบ้านเป็นจำนวนมากที่อยู่ภายในพื้นที่ของเคลื่อน ที่ต้องทำการย้ายออกไป โดยภาครัฐก็ประสานเจรจา อยู่นาน แต่พระบารมีของในหลวงรัชกาลที่ 9 นั้นก็สามารถทำให้ชาวบ้านยินยอม จากคำบอกเล่าของคนขับเรือก็บอกว่าท่านได้สั่งให้เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบให้อยู่ดี กินดี โดยจัดสรรที่ดินทำกิน ครอบครัวละ 20 ไร่ กับเงินจำนวนหนึ่ง รวมถึงสัมประทานทำกินในเขื่อนแห่งนี้ด้วย จนสุดท้ายก็กลายเป็นเขื่อนรัชประภาจนทุกวันนี้

บรรยากาศบริเวณล็อบบี้ของรีสอร์ท

ชั้นล่างเป็นล็อบบี้ ส่วนบนจะเป็นห้องอาหาร

รีสอร์ทตรงเวิ้งนี้จะมีสองแพติด ๆ กัน แพที่เห็นตรงหน้าทางด้านซ้ายมือมีบ้าน 6-7 หลังนั่นคือ แพพันวารีย์ ตอนแรกก็ค่อนข้างสับสนระหว่างสองชื่อนี้เหมือนกันครับ เพราะราคาค่อนข้างต่างกัน แต่เพื่อนผมแนะนำให้เลือก พันวารีย์ เดอะกรีนเนอรี่ รีสอร์ท เพราะบริการดี ห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ในส่วนของพันวารีย์ เดอะกรีนเนอรี่ รีสอร์ท จะมีแพห้องพักอยู่แค่สามหลังตรงนี้แบ่งเป็นหลังละ 4 ห้องนอน ข้างล่าง 2 ห้อง ข้างบน 2 ห้อง ใครจะมาพักแนะนำให้เลือกชั้นล่างเพราะเข้าห้องถอดเสื้อโดดน้ำได้เลย ถ้าหากมาเป็นครอบครัว แนะนำให้เลือกแพใหญ่ เพราะจะมีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับการพักผ่อนด้วย ต่างจากแพเล็กที่อยู่ถัดไป

เปลสำหรับนอนเล่นดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้ายามเย็น

สักพักพนักงานก็พาไปเข้าห้องห้องของนั้นอยู่ห้องล่าง ของแพที่สอง

เปิดประตูเข้าไปก็หลงรักแล้ว วิวแบบนี้ รีบแช่เบียร์ดีกว่า

เตียงนอนขนาด 6 ฟุต นอนกัน 3 คนได้แบบสบาย ๆ หรือเมาก็ไม่แน่ใจเพราะไม่อึดอัดเลยสักนิด

ภายในห้องมีแอร์ ทีวี ตู้เย็น แต่จะสามารถใช้ไฟฟ้าได้หลัง 17.00 น. เป็นต้นไป ฉะนั้นในช่วงเวลากลางวันให้เราเสพธรรมชาติให้เต็มที่ และอยู่กับคนรอบกาย โดยไม่ต้องสนใจกับสิ่งอื่นใด

ห้องน้ำจะมี 2 ประตู สามารถเปิดได้จากข้างนอก และในห้อง เผื่อว่าตัวเปียกจากการเล่นน้ำ

ไม่เสียเวลาพูดพร่ำทำเพลง เดินออกไปที่ระเบียงแล้วโดดสูง ๆ จ๋อมลงไป สัมผัสแรกของน้ำที่เขื่อนคือเย็นวูบวาบ รู้สึกได้ถึงความลึก นิ่ง น่ากลัวเหมือนกันเลยรีบขึ้นไปใส่ชูชีพ หลังจากนั้นก็พายเรือเล่นบรรยากาศสุดบรรยายจริง ๆ