สำหรับ OPPO เป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของกล้องหน้ามาโดยตลอด ใครก็ยอมรับว่ากล้องหน้านั้นเรียกได้ว่าเป็นที่ชอบของหลายๆคนเลยแหละ แต่ในเรื่องของกล้องหลังทาง OPPO นั้นไม่ได้เด่นมากเท่าไรมากซักพักแล้วแต่ดูเหมือนทาง OPPO นั้นไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ครับ แม้ว่าเจ้าตัว FINDX เรือธงประจำปีกล้องหลังก็ยังทำได้ไม่ว้าวเท่าไรนักจนหลายๆคนแอบผิดหวังกันไปนั้นเอง แต่ครั้งนี้ต้องบอกว่าเป็นการพัฒนาที่จับต้องได้ และ พัฒนาที่ก้าวกระโดดจนเรือธงต้องหันมามองครับ ครั้งนี้ OPPO ได้เน้นกล้องหลังมากขึ้นในรุ่น R17 PRO ที่กล้าท้าชนเรือธงด้วยกล้องหลัง 3 ตัวพร้อมระบบ TOF 3D Camera และ กล้องหลังปรับรูรับแสงได้ รวมถึงโหมดชูโรงคือ NIGHT MODE ครับ แล้วมันจะคุณภาพเป็นยังไง ส่วนอื่นๆจะยังน่าสนใจไหม การชาร์จไว หน้าจอ สแกนนิ้ว เสียงจะเป็นยังไงไปรับชมกัน
OPPO R17 PRO เปิดตัวมาด้วยจุดเด่นที่ค่อนข้างจัดเต็มมากมายครับ ทั้งในด้านการออกแบบที่ใช้สีไล่สีแบบ 2 ข้าง Radiant Mist หรือจะเป็น ระบบกล้องหลัง 3 ตัวพร้อม รูรับแสงปรับได้ F1.5/F2.4 และยังมีกล้องวัดระยะ 3มิติ TOF 3D Camera อีกด้วย รวมถึงการใส่ฟีเจอร์ถ่ายกลางคืนแบบไม่ต้องมีขาตั้งมาให้เป็นรุ่นแรกของทางค่ายครับ และ ระบบสแกนนิ้วมือใต้หน้าจอ รวมถึงการออกแบบหน้าจอแบบเต็มจอพร้อมติ่งหยดน้ำ และมาด้วย CPU Snap 710 RAM 8 GB STORAGE 128 GB ครับผม ค่อนข้างครบเลยแหละ
OPPO เปิดราคาในไทย มาด้วย 2 สี ได้แก่ สีฟ้า Radiant Mist และ สีเขียว Emerald Green ราคา 24,990 บาท แต่ก็มีโปรผูกกับเครือข่ายเหลือเพียง 9990 บาทก็ไปลองติดตามกันครับว่ามีข้อกำหนดยังไงบ้างสำหรับรุ่นนี้
UNBOX
ในตัวกล้องนั้นก็ต้องบอกว่ามีการเล่นสีสันสวยงามพอสมควรเลยครับตัวกล่องเปิดแบบด้านข้างรวมถึงบอกชื่อรุ่นอะไรชัดเจนครับ อุปกรณ์ในตัวกล่องมีมาให้ค่อนข้างครบและเพียงพอต่อการใช้งานทั้งเคสฟิลม์ สายต่างๆ
- ตัวเครื่อง OPPO R17 PRO
- ฟิลม์แปะมาให้บนตัวเครื่อง
- ที่จิ้มซิม คู่มือ
- เคสใส สีอมเขียว
- หูฟังแบบ TYPE-C
- สายชาร์จ SUPER VOOC
- SuperVOOC Adapter 50W
- ไม่มีตัวแปลง TYPE-C – 3.5มม. มาให้นะครับ
DESIGN
ในด้านการออกแบบตัวเครื่องนั้นแน่นอนว่าด้านหน้าจริงๆก็เหมือนกับรุ่นอื่นๆของทางแบรนด์ครับ แต่ทางด้านหลังแน่นอนว่ามีการเปลี่ยนแปลงพอสมควรเลยแหละการใช้บอดี้กระจกเหมือนเดิมในด้านหลังแต่มีการเล่นกับแสงเป็นรูป ตัว S สวยงามครับและทีเด่นๆเลยคือฝาหลังในอีกสีนั้นจะเป็นการเล่นสี 2 สีครับผม และ ขนาดน้ำหนักตัวเครื่องเบาและไม่ได้หนาเลย งานประกอบวัสดุทำได้ดีเช่นเคยครับอารมณ์แบบ FIND X รุ่นพี่เลย กล้องหลังวางแนวตรงกลาง ค่อนข้างแปลกตา และดีที่กล้าออกแบบไม่ต้องไปเหมือนรุ่นก่อนๆหรือเหมือนค่ายอื่นๆแล้วครับจุดนี้แอดมินโอเคเลย
ด้านหน้าของตัวเครื่องนั้น ยังเป็นหน้าจอแบบมีติ่งหยดน้ำอยู่เช่นเคยครับหน้าจอเป็น FULLHD+ ใช้กระจก GORILLA GLASS 6 รุ่นล่าสุดจอเรียบไม่โค้งนะครับ ขอบด้านข้างบางพอสมควรเลย มีพล้องหน้า เซนเซอร์อะไรมาให้ครบครับสำหรับรุ่นนี้ หน้าจอเป็นแบบ AMOLED สวยและสู้แดดได้ดี
ด้านบนของหน้าจอ เป็นติ่งหยดน้ำอยู่เช่นกันครับ พร้อมกับช่องลำโพงที่แทรกอยู่ระหว่างขอบเครื่อง และ เซนเซอร์ต่างๆข้างตัวกล้องครับ การที่มีติ่งนั้นทำให้ขอบจอนั้นบางมากๆในส่วนขอบบน และ ขอบด้านข้างครับ
มากันที่ขอบหน้าจอส่วนล่างแน่นอนว่ายังคงทำได้ไม่บางเท่ากับขอบด้านบน หรือ ขอบด้านข้างครับด้วยปัญหาด้านต้นทุน หรือ เทคโนโลยีการที่ทำให้มันบางนั้นต้องมีค่าใช้จ่ายและปัญหาตามมาจึงออกมาไม่ได้บางมากนักครับ และปุ่มควบคุม ก็ย้ายไปบนจอทั้งหมด หรือจะเป็นการควบคุมแบบปัดไปมาแบบในภาพทำให้เต็มจอมากกว่าเดิมครับผม
ด้านขอบเครื่องด้านล่าง จะเป็นรูลำโพงหลักของตัวเครื่อง รูไมค์ ช่องชาร์จไฟ TYPE-C และ ถาดซิม Dual-Sim
ด้านขอบซ้ายนั้นจะเป็นที่อยู่ของ ปุ่ม เพิ่ม ลดเสียงครับ และตัวขอบปัดเงาสวยงามเลยเป็นโทนสีเดียวกับฝาหลังครับ
มาที่ด้านขวากันบ้าง จะเป็นปุ่ม POWER เท่านั้นในด้านนี้ จะเห็นว่าหน้าจอนั้นเรียบและพอดีขอบ แต่ฝาหลังมีการโค้งเข้ามาเล็กน้อยครับทำให้เวลาจับถือนั้นทำได้พอดี และ รับกับมือได้นิดหน่อยไม่ได้เรียบแบบด้านหน้านั้นเอง
ในส่วนของขอบด้านบนนั้นตัวนี้ไม่มีรู 3.5มม. แล้ว และมีเพียงแค่รูไมค์เท่านั้น มีการออกแบบที่คล้ายกับรุ่นก่อนคือเว้าลงไปเล็กน้อยครับเป็นเอกลักษณ์การออกแบบดีไซน์ของแบรนด์นี้เค้าแหละ
ด้านหลัง ตัวนี้จะเป็นกล้องทั้งหมด 3 ตัวอยู่ในช่องเดียวกัน และ ไฟแฟลชแยกออกมาครับ ตรงตัวกล้องนั้นอัดแน่นไปด้วยเซนเซอร์ต่างๆทั้ง การวัด 3 มิติ กล้องหลัก กล้องเทเล และ ครั้งนี้จัดเต็มมากจริงๆ
ฝาหลังโดยรวมในรุ่นนี้ถ้าเป็นสีเขียวจะเป็นฝาหลังแบบเงา และ การออกแบบจะเห็นตัวโค้ง S แบบในภาพเลยครับเป็นการออกแบบที่หลายขั้นตอนในการวางเลเยอร์สี แต่ถ้าเป็นอีกสีจะเป็นฝาหลังด้านที่สลับ 2 สีกันนะครับก็สวยคนละแบบกันไป แต่แอบชอบแบบ เงาๆมากกว่านะดูเรียบหรู และ เล่นกับแสงได้สวยงามเลย
SPEC OPPO R17 PRO
- Android 8.1 Oreo ครอบด้วย ColorOS5.2
- ตัวเครื่องขนาด 157.6 × 74.6 × 7.9 มิลลิเมตร หนัก 183 กรัม
- หน้าจอ AMOLED 6.4 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ อัตราส่วน 19.5:9
- ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 710
- Qualcomm® Kryo™ 360 CPU (ชิปประมวลผลงานที่เน้นประสิทธิภาพ)
- Qualcomm Spectra™ 250 ISP (การประมวลผลสัญญาณภาพ)
- Qualcomm® Hexagon™ 685 DSP (ชิปประมวลผลสัญญาณดิจิทัล)
- เทคโนโลยีใหม่ TOF 3D
- RAM 8GB STORAGE 128GB
- กล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล f/2.0
- กล้องหลัง 3 ตัว 12 ล้านพิกเซล + 20 ล้านพิกเซล + TOF 3D Camera ค่ารูรับแสง f/1.5, f/2.4 + f/2.6 OIS
- รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ
- การเชื่อมต่อ : USB Type-C
- การเชื่อมต่อ BlueTooth 5.0 รองรับ ชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth Stereo)
- รองรับระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า
- รองรับ 2 ซิม (4G ได้ทั้ง 2 ซิม)
- รองรับระบบชาร์จไว SuperVOOC ชาร์จเร็ว 10 นาที แบตฯ เพิ่มขึ้น 40% แบตเตอรี่ 3,700mAh
- 2 สี ได้แก่ สีฟ้า Radiant Mist และ สีเขียว Emerald Green ราคา 24,990 บาท
PERFORMANCE
Snapdragon 710 RAM 8 GB ROM 128 GB สเปคหลายๆคนคงบ่นกันว่ามันไม่สุดเท่าไร จริงๆแอดมินก็อยากให้มันจัดเต็มมาเหมือนกันนะตรงๆเลย แต่ไหนก็ทำไรไม่ได้เรามาดูคะแนนกันก่อนครับ ด้วยจอ FULLHD ทำให้มันรีดประสิทธิภาพได้ดีพอสมควร หน่วยความจำแบบ UFS2.0 ยังไม่เท่ารุ่นพี่ FindX นะตัวนั้น 2.1 ส่วนคะแนน Antutu 3DMARK GEEKBENCH อยู่ในระดับกลางๆไปทางสูงครับ คะแนนได้ 155388 และ 3D CPU ตามระดับของ 710 ไม่ได้โดนลดความเร็วหรือ มีจุดมาดึงคะแนนลงแต่อย่างใดครับ แต่ในเรื่องใช้งานจริงจะเป็นยังไงต้องรอดูกัน
SOFTWARE UI
ระบบหน้าตาครั้งนี้ทำได้สวยงามจริงๆ Color OS 5.2 หน้าตามาค่อนข้างสวยแบบเรียบง่าย และใช้งานลื่นและไม่รกครับ การแจ้งเตือนทำงานได้ดีปกติเลย หน้าตา ล็อคสามารถดูข้อความได้หรือจะซ่อนก็ได้ หน้าหลักมีนาฬิกาบอกมุมซ้าย และ หน้า Appdrawer ไม่มีนะครับเลื่อนใช้งานปกติได้เลย สามารถเปลี่ยน Effect การสลับหน้าได้ด้วยนะ
การตั้งค่าแบบ Quicksetting นั้นก็มีปรับแสงหน้าจอ ปุ่มเคีลย์อยู่ด้านล่าง และ ลากลงมาอีกครั้งเข้าแบบเต็มครับมีปรับให้ต่างๆมากมายรวมถึงการอัดหน้าจอ และเข้า Google Assistant และแบ่งหน้าจอได้เหมือนกันครับผม
ตัวเครื่องมาพร้อม ROM 128 GB ใช้ได้ 108 หลังจากหักพื้นที่ระบบ และ RAM ทั้งหมด 8 GB เหลือ 4 GB ให้ใช้งาน รวมถึง คียบอร์ดนั้นก็มาจากของ Google สบายใจได้ สวยเรียบใช้งานง่ายครับและแอดมินถนัดตัวนี้อยู่แล้วนะ
GESTURE การเปลี่ยนปุ่มนำทางเป็นแบบปัดๆไปมาได้ สลับตำแหน่งได้ครับ หรือจะเป็นแบบอื่นๆสามารถเลือกได้เลย และแอพขอบข้างนั้นก็สามารถเลือกมาใส่ได้หรือจะอิงจากที่ใช้บ่อย หรือจะเป็นตั้งค่าด่วนก็ได้เช่นเดียวกันครับ
GESTURE เพิ่มเติมในส่วนของ การโทร ยกขึ้นมารับเอง หรือคว่ำเพื่อเงียบ และ สามารถ ใช้ 3 นิ้วแคปจอหรือจะยกจอและจอติดได้เลยก็สะดวกมากครับ เวลาหน้าจอปิดก็สามารถสั่งงานได้วาดรูปต่างๆยังมีมาให้ครบครับผม ส่วนเรื่องตัวช่วยในการขับรถก็มีมาเช่น เปิดลำโพงให้เอง ต่อ Bluetooth ให้อะไรพวกนี้ครับผม
APP CLONE – GAME SPACE ก็มีมาให้ครับจะปรับความแรง ไม่รบกวนการเล่นเกม ต่างๆเพื่อให้เล่นเกมได้ดีสุดๆหน้าจอไม่ปรับแสงเองอะไรแบบนี้ครับ รวมถึง ตั้งค่าหน้าจอแบ่งจอได้ว่าจะใช้ 3นิ้วแบ่งจอได้ด้วยครับ
THEME
สำหรับหน้าตาตัว UI สามารถปรับเปลี่ยนได้นิดหน่อยครับซึ่งมีให้เลือกในแอพธีม และสามารถปรับเปลี่ยนได้หลักๆคือหน้าต้า ICON หน้าตาหน้า Lockscreen และ Wallpaper รวมๆครับซึ่งหน้าโทร หน้าส่งข้อความจะไม่เปลี่ยนตาม
SCREEN
หน้าจอตัว OPPO R17 PRO ตัวนี้มาพร้อมหน้าจอแบบ FULLHD+ ใช้จอแบบ AMOLED แน่นอนครับว่าเรื่องของหน้าจอจากที่ได้ลองใช้งานนั้นมีความคมชัดพอสมควรสู้แดดได้ดีตัวจอนั้นสู้แสงได้แม้จะใช้งานเวลากลางวัน แม้จะเป็นแค่จอ FULLHDแต่ทำความสวยงามได้ดีเลยแหละ สีค่อนข้างสวยไม่ได้สดเวอร์เกินไปครับ จอเป็นกระจก Gorilla Glass 6 รุ่นล่าสุดครับไว้ใจได้ในเรื่องของความแข็งแรงเวลามีอะไรมาขูดขีดได้สบาย จอเป็นการออกแบบแบบไร้ขอบแต่แบบมีติ่งหยดน้ำตามสมัยนิยมนั้นเอง ขอบทั้ง 3 ด้านนั้นค่อนข้างบาง แต่ก็ยังมีขอบล่างอยู่นิดหน่อยครับผม ด้วยการที่เป็นจอ LED ทำให้แสดงสีดำนั้นดำสนิทและใช้งานกลางคืนลดแสงลงได้ค่อนข้างต่ำครับผม เรื่องจอโดยรวมไม่เจอปัญหา ในการใช้งานถือว่าค่อนข้างพอใจเลยครับ
[SR] รีวิว OPPO R17 Pro จัดเต็มกล้องหลัง 3 ตัว ปรับรูรับแสงได้ และ ระบบชาร์จ Super VOOC !
สำหรับ OPPO เป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของกล้องหน้ามาโดยตลอด ใครก็ยอมรับว่ากล้องหน้านั้นเรียกได้ว่าเป็นที่ชอบของหลายๆคนเลยแหละ แต่ในเรื่องของกล้องหลังทาง OPPO นั้นไม่ได้เด่นมากเท่าไรมากซักพักแล้วแต่ดูเหมือนทาง OPPO นั้นไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ครับ แม้ว่าเจ้าตัว FINDX เรือธงประจำปีกล้องหลังก็ยังทำได้ไม่ว้าวเท่าไรนักจนหลายๆคนแอบผิดหวังกันไปนั้นเอง แต่ครั้งนี้ต้องบอกว่าเป็นการพัฒนาที่จับต้องได้ และ พัฒนาที่ก้าวกระโดดจนเรือธงต้องหันมามองครับ ครั้งนี้ OPPO ได้เน้นกล้องหลังมากขึ้นในรุ่น R17 PRO ที่กล้าท้าชนเรือธงด้วยกล้องหลัง 3 ตัวพร้อมระบบ TOF 3D Camera และ กล้องหลังปรับรูรับแสงได้ รวมถึงโหมดชูโรงคือ NIGHT MODE ครับ แล้วมันจะคุณภาพเป็นยังไง ส่วนอื่นๆจะยังน่าสนใจไหม การชาร์จไว หน้าจอ สแกนนิ้ว เสียงจะเป็นยังไงไปรับชมกัน
OPPO R17 PRO เปิดตัวมาด้วยจุดเด่นที่ค่อนข้างจัดเต็มมากมายครับ ทั้งในด้านการออกแบบที่ใช้สีไล่สีแบบ 2 ข้าง Radiant Mist หรือจะเป็น ระบบกล้องหลัง 3 ตัวพร้อม รูรับแสงปรับได้ F1.5/F2.4 และยังมีกล้องวัดระยะ 3มิติ TOF 3D Camera อีกด้วย รวมถึงการใส่ฟีเจอร์ถ่ายกลางคืนแบบไม่ต้องมีขาตั้งมาให้เป็นรุ่นแรกของทางค่ายครับ และ ระบบสแกนนิ้วมือใต้หน้าจอ รวมถึงการออกแบบหน้าจอแบบเต็มจอพร้อมติ่งหยดน้ำ และมาด้วย CPU Snap 710 RAM 8 GB STORAGE 128 GB ครับผม ค่อนข้างครบเลยแหละ
OPPO เปิดราคาในไทย มาด้วย 2 สี ได้แก่ สีฟ้า Radiant Mist และ สีเขียว Emerald Green ราคา 24,990 บาท แต่ก็มีโปรผูกกับเครือข่ายเหลือเพียง 9990 บาทก็ไปลองติดตามกันครับว่ามีข้อกำหนดยังไงบ้างสำหรับรุ่นนี้
UNBOX
ในตัวกล้องนั้นก็ต้องบอกว่ามีการเล่นสีสันสวยงามพอสมควรเลยครับตัวกล่องเปิดแบบด้านข้างรวมถึงบอกชื่อรุ่นอะไรชัดเจนครับ อุปกรณ์ในตัวกล่องมีมาให้ค่อนข้างครบและเพียงพอต่อการใช้งานทั้งเคสฟิลม์ สายต่างๆ
- ตัวเครื่อง OPPO R17 PRO
- ฟิลม์แปะมาให้บนตัวเครื่อง
- ที่จิ้มซิม คู่มือ
- เคสใส สีอมเขียว
- หูฟังแบบ TYPE-C
- สายชาร์จ SUPER VOOC
- SuperVOOC Adapter 50W
- ไม่มีตัวแปลง TYPE-C – 3.5มม. มาให้นะครับ
DESIGN
ในด้านการออกแบบตัวเครื่องนั้นแน่นอนว่าด้านหน้าจริงๆก็เหมือนกับรุ่นอื่นๆของทางแบรนด์ครับ แต่ทางด้านหลังแน่นอนว่ามีการเปลี่ยนแปลงพอสมควรเลยแหละการใช้บอดี้กระจกเหมือนเดิมในด้านหลังแต่มีการเล่นกับแสงเป็นรูป ตัว S สวยงามครับและทีเด่นๆเลยคือฝาหลังในอีกสีนั้นจะเป็นการเล่นสี 2 สีครับผม และ ขนาดน้ำหนักตัวเครื่องเบาและไม่ได้หนาเลย งานประกอบวัสดุทำได้ดีเช่นเคยครับอารมณ์แบบ FIND X รุ่นพี่เลย กล้องหลังวางแนวตรงกลาง ค่อนข้างแปลกตา และดีที่กล้าออกแบบไม่ต้องไปเหมือนรุ่นก่อนๆหรือเหมือนค่ายอื่นๆแล้วครับจุดนี้แอดมินโอเคเลย
ด้านหน้าของตัวเครื่องนั้น ยังเป็นหน้าจอแบบมีติ่งหยดน้ำอยู่เช่นเคยครับหน้าจอเป็น FULLHD+ ใช้กระจก GORILLA GLASS 6 รุ่นล่าสุดจอเรียบไม่โค้งนะครับ ขอบด้านข้างบางพอสมควรเลย มีพล้องหน้า เซนเซอร์อะไรมาให้ครบครับสำหรับรุ่นนี้ หน้าจอเป็นแบบ AMOLED สวยและสู้แดดได้ดี
ด้านบนของหน้าจอ เป็นติ่งหยดน้ำอยู่เช่นกันครับ พร้อมกับช่องลำโพงที่แทรกอยู่ระหว่างขอบเครื่อง และ เซนเซอร์ต่างๆข้างตัวกล้องครับ การที่มีติ่งนั้นทำให้ขอบจอนั้นบางมากๆในส่วนขอบบน และ ขอบด้านข้างครับ
มากันที่ขอบหน้าจอส่วนล่างแน่นอนว่ายังคงทำได้ไม่บางเท่ากับขอบด้านบน หรือ ขอบด้านข้างครับด้วยปัญหาด้านต้นทุน หรือ เทคโนโลยีการที่ทำให้มันบางนั้นต้องมีค่าใช้จ่ายและปัญหาตามมาจึงออกมาไม่ได้บางมากนักครับ และปุ่มควบคุม ก็ย้ายไปบนจอทั้งหมด หรือจะเป็นการควบคุมแบบปัดไปมาแบบในภาพทำให้เต็มจอมากกว่าเดิมครับผม
ด้านขอบเครื่องด้านล่าง จะเป็นรูลำโพงหลักของตัวเครื่อง รูไมค์ ช่องชาร์จไฟ TYPE-C และ ถาดซิม Dual-Sim
ด้านขอบซ้ายนั้นจะเป็นที่อยู่ของ ปุ่ม เพิ่ม ลดเสียงครับ และตัวขอบปัดเงาสวยงามเลยเป็นโทนสีเดียวกับฝาหลังครับ
มาที่ด้านขวากันบ้าง จะเป็นปุ่ม POWER เท่านั้นในด้านนี้ จะเห็นว่าหน้าจอนั้นเรียบและพอดีขอบ แต่ฝาหลังมีการโค้งเข้ามาเล็กน้อยครับทำให้เวลาจับถือนั้นทำได้พอดี และ รับกับมือได้นิดหน่อยไม่ได้เรียบแบบด้านหน้านั้นเอง
ในส่วนของขอบด้านบนนั้นตัวนี้ไม่มีรู 3.5มม. แล้ว และมีเพียงแค่รูไมค์เท่านั้น มีการออกแบบที่คล้ายกับรุ่นก่อนคือเว้าลงไปเล็กน้อยครับเป็นเอกลักษณ์การออกแบบดีไซน์ของแบรนด์นี้เค้าแหละ
ด้านหลัง ตัวนี้จะเป็นกล้องทั้งหมด 3 ตัวอยู่ในช่องเดียวกัน และ ไฟแฟลชแยกออกมาครับ ตรงตัวกล้องนั้นอัดแน่นไปด้วยเซนเซอร์ต่างๆทั้ง การวัด 3 มิติ กล้องหลัก กล้องเทเล และ ครั้งนี้จัดเต็มมากจริงๆ
ฝาหลังโดยรวมในรุ่นนี้ถ้าเป็นสีเขียวจะเป็นฝาหลังแบบเงา และ การออกแบบจะเห็นตัวโค้ง S แบบในภาพเลยครับเป็นการออกแบบที่หลายขั้นตอนในการวางเลเยอร์สี แต่ถ้าเป็นอีกสีจะเป็นฝาหลังด้านที่สลับ 2 สีกันนะครับก็สวยคนละแบบกันไป แต่แอบชอบแบบ เงาๆมากกว่านะดูเรียบหรู และ เล่นกับแสงได้สวยงามเลย
SPEC OPPO R17 PRO
- Android 8.1 Oreo ครอบด้วย ColorOS5.2
- ตัวเครื่องขนาด 157.6 × 74.6 × 7.9 มิลลิเมตร หนัก 183 กรัม
- หน้าจอ AMOLED 6.4 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ อัตราส่วน 19.5:9
- ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 710
- Qualcomm® Kryo™ 360 CPU (ชิปประมวลผลงานที่เน้นประสิทธิภาพ)
- Qualcomm Spectra™ 250 ISP (การประมวลผลสัญญาณภาพ)
- Qualcomm® Hexagon™ 685 DSP (ชิปประมวลผลสัญญาณดิจิทัล)
- เทคโนโลยีใหม่ TOF 3D
- RAM 8GB STORAGE 128GB
- กล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล f/2.0
- กล้องหลัง 3 ตัว 12 ล้านพิกเซล + 20 ล้านพิกเซล + TOF 3D Camera ค่ารูรับแสง f/1.5, f/2.4 + f/2.6 OIS
- รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ
- การเชื่อมต่อ : USB Type-C
- การเชื่อมต่อ BlueTooth 5.0 รองรับ ชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth Stereo)
- รองรับระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า
- รองรับ 2 ซิม (4G ได้ทั้ง 2 ซิม)
- รองรับระบบชาร์จไว SuperVOOC ชาร์จเร็ว 10 นาที แบตฯ เพิ่มขึ้น 40% แบตเตอรี่ 3,700mAh
- 2 สี ได้แก่ สีฟ้า Radiant Mist และ สีเขียว Emerald Green ราคา 24,990 บาท
PERFORMANCE
Snapdragon 710 RAM 8 GB ROM 128 GB สเปคหลายๆคนคงบ่นกันว่ามันไม่สุดเท่าไร จริงๆแอดมินก็อยากให้มันจัดเต็มมาเหมือนกันนะตรงๆเลย แต่ไหนก็ทำไรไม่ได้เรามาดูคะแนนกันก่อนครับ ด้วยจอ FULLHD ทำให้มันรีดประสิทธิภาพได้ดีพอสมควร หน่วยความจำแบบ UFS2.0 ยังไม่เท่ารุ่นพี่ FindX นะตัวนั้น 2.1 ส่วนคะแนน Antutu 3DMARK GEEKBENCH อยู่ในระดับกลางๆไปทางสูงครับ คะแนนได้ 155388 และ 3D CPU ตามระดับของ 710 ไม่ได้โดนลดความเร็วหรือ มีจุดมาดึงคะแนนลงแต่อย่างใดครับ แต่ในเรื่องใช้งานจริงจะเป็นยังไงต้องรอดูกัน
SOFTWARE UI
ระบบหน้าตาครั้งนี้ทำได้สวยงามจริงๆ Color OS 5.2 หน้าตามาค่อนข้างสวยแบบเรียบง่าย และใช้งานลื่นและไม่รกครับ การแจ้งเตือนทำงานได้ดีปกติเลย หน้าตา ล็อคสามารถดูข้อความได้หรือจะซ่อนก็ได้ หน้าหลักมีนาฬิกาบอกมุมซ้าย และ หน้า Appdrawer ไม่มีนะครับเลื่อนใช้งานปกติได้เลย สามารถเปลี่ยน Effect การสลับหน้าได้ด้วยนะ
การตั้งค่าแบบ Quicksetting นั้นก็มีปรับแสงหน้าจอ ปุ่มเคีลย์อยู่ด้านล่าง และ ลากลงมาอีกครั้งเข้าแบบเต็มครับมีปรับให้ต่างๆมากมายรวมถึงการอัดหน้าจอ และเข้า Google Assistant และแบ่งหน้าจอได้เหมือนกันครับผม
ตัวเครื่องมาพร้อม ROM 128 GB ใช้ได้ 108 หลังจากหักพื้นที่ระบบ และ RAM ทั้งหมด 8 GB เหลือ 4 GB ให้ใช้งาน รวมถึง คียบอร์ดนั้นก็มาจากของ Google สบายใจได้ สวยเรียบใช้งานง่ายครับและแอดมินถนัดตัวนี้อยู่แล้วนะ
GESTURE การเปลี่ยนปุ่มนำทางเป็นแบบปัดๆไปมาได้ สลับตำแหน่งได้ครับ หรือจะเป็นแบบอื่นๆสามารถเลือกได้เลย และแอพขอบข้างนั้นก็สามารถเลือกมาใส่ได้หรือจะอิงจากที่ใช้บ่อย หรือจะเป็นตั้งค่าด่วนก็ได้เช่นเดียวกันครับ
GESTURE เพิ่มเติมในส่วนของ การโทร ยกขึ้นมารับเอง หรือคว่ำเพื่อเงียบ และ สามารถ ใช้ 3 นิ้วแคปจอหรือจะยกจอและจอติดได้เลยก็สะดวกมากครับ เวลาหน้าจอปิดก็สามารถสั่งงานได้วาดรูปต่างๆยังมีมาให้ครบครับผม ส่วนเรื่องตัวช่วยในการขับรถก็มีมาเช่น เปิดลำโพงให้เอง ต่อ Bluetooth ให้อะไรพวกนี้ครับผม
APP CLONE – GAME SPACE ก็มีมาให้ครับจะปรับความแรง ไม่รบกวนการเล่นเกม ต่างๆเพื่อให้เล่นเกมได้ดีสุดๆหน้าจอไม่ปรับแสงเองอะไรแบบนี้ครับ รวมถึง ตั้งค่าหน้าจอแบ่งจอได้ว่าจะใช้ 3นิ้วแบ่งจอได้ด้วยครับ
THEME
สำหรับหน้าตาตัว UI สามารถปรับเปลี่ยนได้นิดหน่อยครับซึ่งมีให้เลือกในแอพธีม และสามารถปรับเปลี่ยนได้หลักๆคือหน้าต้า ICON หน้าตาหน้า Lockscreen และ Wallpaper รวมๆครับซึ่งหน้าโทร หน้าส่งข้อความจะไม่เปลี่ยนตาม
SCREEN
หน้าจอตัว OPPO R17 PRO ตัวนี้มาพร้อมหน้าจอแบบ FULLHD+ ใช้จอแบบ AMOLED แน่นอนครับว่าเรื่องของหน้าจอจากที่ได้ลองใช้งานนั้นมีความคมชัดพอสมควรสู้แดดได้ดีตัวจอนั้นสู้แสงได้แม้จะใช้งานเวลากลางวัน แม้จะเป็นแค่จอ FULLHDแต่ทำความสวยงามได้ดีเลยแหละ สีค่อนข้างสวยไม่ได้สดเวอร์เกินไปครับ จอเป็นกระจก Gorilla Glass 6 รุ่นล่าสุดครับไว้ใจได้ในเรื่องของความแข็งแรงเวลามีอะไรมาขูดขีดได้สบาย จอเป็นการออกแบบแบบไร้ขอบแต่แบบมีติ่งหยดน้ำตามสมัยนิยมนั้นเอง ขอบทั้ง 3 ด้านนั้นค่อนข้างบาง แต่ก็ยังมีขอบล่างอยู่นิดหน่อยครับผม ด้วยการที่เป็นจอ LED ทำให้แสดงสีดำนั้นดำสนิทและใช้งานกลางคืนลดแสงลงได้ค่อนข้างต่ำครับผม เรื่องจอโดยรวมไม่เจอปัญหา ในการใช้งานถือว่าค่อนข้างพอใจเลยครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้