หลังจากที่มีโอกาสได้ทดลองใช้งาน OPPO R17 Pro มาครบหนึ่งเดือนเต็มๆ กลับมารีวิวฉบับใช้งานให้เพื่อนๆชาวพันทิปได้ทราบกันอีกครั้งครับ
จุดเด่นของ OPPO R17 Pro มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัว ที่ถ่ายโหมดกลางคืนได้เทพมากๆ ใช้งานง่าย ไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องช่วยในการถ่ายรูปก็สวยได้ และระบบชาร์จเร็ว Super VOOC เทคโนโลยีชาร์จไวที่สุดในโลกในเวลานี้ จาก 0-100% ใช้เวลาเพียงแค่ 40 นาทีเท่านั้น รวมไปถึงการออกแบบที่หรูหราสวยงามน่าถือใช้งานด้วยครับ ในส่วนอื่นๆเดี๋ยวเราไปดูกันว่าจะว๊าวแค่ไหน
กล้องถ่ายรูป
กล้องสามตัว Triple Camera แบ่งการทำงานได้ดังนี้
- ตัวที่ 1 กล้อง TOF 3D camera ที่มีความสามารถในการเก็บมิติความลึกของภาพที่มีตวามละเอียดมากกว่าแบบ Dot Projection ทำให้เก็บค่าของระยะวัตถุต่างๆ ได้อย่างละเอียด และมาพร้อมกับระบบลดกันสั่นของภาพแบบ OIS
- ตัวที่ 2 กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซลแบบ DualPixel เซ็นเซอร์ Sony IMX 362 ที่ปรับค่ารูรับแสงได้ 2 ระดับ คือ f/1.5 และ f/2.4 (Smart Apeture) พร้อมกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 3 ใช้สำหรับช่วยในโหมด Portrait ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.6
กล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera ถือว่าเป็นจุดเด่นของ OPPO R17 Pro โดยเฉพาะโหมดถ่ายภาพกลางคืนด้วย Ultra Night Mode ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ AI สามารถถ่ายภาพโหมดกลางคืนได้สวยคม แม้ไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องช่วยเพราะมี OIS+Smart Aperture หรือระบบกันสั่น จะช่วยทำให้ทุกคนสามารถถ่ายออกมาได้สวยพอๆกันครับ เรื่องถ่ายภาพโหมดกลางคืนหรือแสงน้อย จะไม่ใช่ปัญหากับมือใหม่อีกต่อไปครับ เพราะ Ultra Night Mode จะจัดการให้ทุกอย่างเอง เพียงยกกล้องขึ้นกดถ่าย รอให้กล้องประมวลผลให้ประมาณ 2-4 วินาที แค่นี้ก็จะได้ภาพสวยๆอวดเพื่อนแล้ว (การทำงานของ AI Ultra-clear engine ที่ช่วยประมวลภาพในระยะเวลา 2-4 วินาที)
พอดีผมมีโอกาสเก็บภาพสวยๆจากตึกมหานครช่วงเย็นๆมาฝากกันครับ (ภาพทุกภาพเปิดโหมด AUTO จบหลังกล้อง)
ช่วงเวลาตะวันลับขอบฟ้า ถ่ายรูปกับนางแบบไปพลางๆ
ตะวันเริ่มจะตกแล้ว ถ่ายย้อยแสงกันดูดีกว่า
เริ่มตกเย็นคนเริ่มเยอะ การถ่ายภาพกลางคืนถ้าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นก่อนๆคือจบแน่นอนไม่สามารถถ่ายภาพสวยๆได้โดยเฉพาะไม่มีขาตั้งกล้องช่วย แต่ปัญหานั้นจะหมดไปครับ เพราะ OPPO R17 Pro มาพร้อมกับโหมด Ultra Night Mode สามารถถ่ายภาพสวยๆได้โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องช่วย ผมยืนด้านหลังสุด เหยียดแขนสุดแขนเพื่อถ่ายรูปสวยๆ ภาพที่ออกมาก็ประมาณนี้เลย
โหมดกลางคืนเขาทำออกมาได้สวยงามจริงๆ สำหรับผมยกให้ OPPO R17 Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพกลางคืนได้ง่ายสุดและสวยสุดในปีนี้ไปเลย
มาดูภาพต่างๆในช่วยหนึ่งเดือนที่ผมใช้งานกัน มีความสุขทุกครั้งที่ยก OPPO R17 Pro ถ่ายภาพครับ ได้ภาพสวยตามที่ใจต้องการนั้นเอง
กล้องหน้า
ความละเอียด 25 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์Sony IMX576 รูรับแสงf / 2.0 มีชดเชยแสง HDR และเทคโนโลยี AI Beauty Camera สำหรับชุด AI จะจดจำลักษณะใบหน้าด้วยการสแกน 296 จุดบนใบหน้า แล้วจะวิเคราห์องค์ประกอบบนใบหน้าสให้ช่วยการถ่ายเซลฟี่ที่สวยงามดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ประสิทธิภาพการทำงาน(Performance)
OPPO R17 Pro มาพร้อมกับชิปเซต Qualcomm Snapdragon 710 Octa-core 2.2 GHz / GPU Adreno 616 ชิปตัวนี้เป็นรหัสใหม่นะครับ อาจจะไม่แรงเท่าตระกูล 845 แต่สำหรับการใช้งานหรือแม้แต่เล่นเกมส์ ก็สามารถใช้งานได้ดี เล่นเกมส์ลื่นไหลบนหน้าจอความละเอียด FHD+ ครับ และที่สำคัญสำหรับชิปประมวลผลชุดนี้คือ เรื่องการประหยัดพลังงานและทำงานร่วมกับ AI ได้ดียิ่งขึ้น
ทดสอบคะแนนผ่าน antutu
สามารถปรับความละเอียดสูงได้ในเกมส์ PubG นะครับ
หน่วยความจำ RAM LPDDR4x ขนาด 8 GB / หน่วยความจำภายใน UFS2.1 ขนาด 128 GB
รองรับเคลือข่าย
OPPO R17 Pro รองรับ Dual 4G / Dual VoLTE และ VoWiFi ส่วนของ WiFi จะรองรับ 2.4-5.0 GHz
แบตเตอร์รี่
OPPO R17 Pro มากับแบตเตอร์รี่ความจุ 3,700 mAh แบบ Bi-Cell Design ภายในจะแบ่งเป็นสองเซล เซลละ 1850 mAh และใช้เทคโนโลยี Super VOOC ชาร์จเร็วที่สุดในโลกตอนนี้ครับ หลักการของ Super VOOC คือ ชาร์จด้วยไฟ 5V 5A ไปที่แบตเตอร์รี่ของแต่ละเซล ภายในจะแบ่งเป็นสองเซลอัดไฟไปที่ 10V 5A การแบ่งกำลังไฟในการประจุจะเป็นข้อดีคือ ตัวแบตไม่ร้อนขณะชาร์จไฟมีความปลอดภัยสูงและยังมีเทคโนโลยี”Five-chip protection” จะคอยตรวจสอบอุปกรณ์ต่อพ่วงสำหรับการชาร์จไฟว่าได้มาตราฐานเพียงพอหรือเปล่าเพิ่มความปลอดภัยไปอีกระดับ พอร์ตเป็น USB Type-C แล้วนะครับ
แบตเตอร์รี่ความจุ 3,700 mAh ผมใช้งานหนึ่งวันเต็มๆไม่เคยหมดครับ แบตอึดมากๆ สามารถชาร์จไฟจาก 0-100% เพียง 35-40 นาที หรือตามสโลแกน ชาร์จ 10 นาที ได้ถึง 40%
หน้าจอแสดงผล
OPPO R17 Pro เลือกใช้จอแบบ AMOLED ให้ความสว่างของแสงและความอิ่มของสีที่ดีมากๆ การแสดงผลของหน้าจอสวยงาม ขนาดจอ 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080) อัตราส่วน 19.5:9 ติ่งแบบหยดน้ำ Water Drop Screen ทำให้พื้นที่สัดส่วนหน้าจอ(Screen Ratio)ที่มากถึง 91.5% กระจกกันรอยแบบ Gorilla Glass 6
ระบบสแกนลายนิ้วมือผ่านหน้าจอ รองรับ 5 ลายนิ้ว การตอบสนองรวดเร็วและแม่นยำดีครับ และยังมีระบบสแกนใบหน้าเพื่อการปลดล็อคหน้าจอมาให้ใช้งานด้วยเช่นกัน
ระบบปฎิบัติการ
OPPO R17 Pro มาพร้อมกับ Android8.1 ครอบทับด้วย ColorOS 5.2 การแจ้งเตือนต่างๆทำได้ดี และมีธีมสวยๆไว้ให้โหลดใช้งานปกติ รองรับการใช้งานสองจอ และใช้งานสอง ID ได้เช่นเดิมครับ
อุปกรณ์ภายในกล่องจะมี ดังนี้
ตัวเครื่อง ติดฟิมล์หน้าจอมาให้เรียบร้อย
ที่ชาร์จ รองรับ Super VOOC
สายชาร์จ USB Type-C มาตราฐาน Super VOOC
หูฟังพอร์ต USB Type-C
เคสซิลิโคนใส
เข็มจิ้มถาดซิม
คู่มือการใช้งาน
สรุป
หลังจากที่ผมได้มีโอกาสใช้งานมาสิ่งที่ประทับใจอันดับแรกเลยคือ Ultra Night Mode กล้องโหมดกลางคืนถ่ายภาพได้สวยจริงและง่ายด้วย ใครๆก็สามารถถ่ายได้สวยเพราะมีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI ช่วยประมวลผล ภาพคมชัดแม้ไม่มีขาตั้งกล้องช่วยเพราะมีระบบกันสั่นแบบ OIS+Smart Aperture
และความประทับใจอันดับต่อมาคือ Super VOOC คือชาร์จเร็วมากๆ ผมทดลองใช้ให้แบตหมดเกลี้ยงใช้เวลาชาร์จเพียง 40 นาทีเต็ม 100% เร็วมาก
และระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่ก็สามารถใช้งานได้ยาวนาน แบตอึดจริง
จุดเด่น
- กล้องหลังสามตัวที่มีระบบ Ultra Night Mode ถ่ายกลางคืนได้ง่ายและสวยจริง
- กล้องหน้า 25MP พร้อมด้วยเทคโนโลยี AI Beauty
- หน่วยความจำภายในแบบ UFS 2.1 สามารถอ่านและเขียนข้อมูลได้รวดเร็ว
- หน้าจอ AMOLED แสดงผลได้สวยงาม
- ระบบชาร์จเร็ว Super VOOC ที่ชาร์จเร็วมากและมีความปลอดภัยสูง ชาร์จแบตเตอรี่ได้ 40% ภายใน 10 นาที
- ตัวเครื่องออกแบบได้สวยงาม วัสดุพรีเมี่ยม น่าถือใช้งาน
จุดสังเกตุ
- ไม่มีพอร์ตหูฟังแบบ 3.5 มม.
- ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้
[SR] รีวิว OPPO R17 Pro ความประทับใจหลังใช้งานมาครบหนึ่งเดือนเต็ม
หลังจากที่มีโอกาสได้ทดลองใช้งาน OPPO R17 Pro มาครบหนึ่งเดือนเต็มๆ กลับมารีวิวฉบับใช้งานให้เพื่อนๆชาวพันทิปได้ทราบกันอีกครั้งครับ
จุดเด่นของ OPPO R17 Pro มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัว ที่ถ่ายโหมดกลางคืนได้เทพมากๆ ใช้งานง่าย ไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องช่วยในการถ่ายรูปก็สวยได้ และระบบชาร์จเร็ว Super VOOC เทคโนโลยีชาร์จไวที่สุดในโลกในเวลานี้ จาก 0-100% ใช้เวลาเพียงแค่ 40 นาทีเท่านั้น รวมไปถึงการออกแบบที่หรูหราสวยงามน่าถือใช้งานด้วยครับ ในส่วนอื่นๆเดี๋ยวเราไปดูกันว่าจะว๊าวแค่ไหน
กล้องสามตัว Triple Camera แบ่งการทำงานได้ดังนี้
- ตัวที่ 1 กล้อง TOF 3D camera ที่มีความสามารถในการเก็บมิติความลึกของภาพที่มีตวามละเอียดมากกว่าแบบ Dot Projection ทำให้เก็บค่าของระยะวัตถุต่างๆ ได้อย่างละเอียด และมาพร้อมกับระบบลดกันสั่นของภาพแบบ OIS
- ตัวที่ 2 กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซลแบบ DualPixel เซ็นเซอร์ Sony IMX 362 ที่ปรับค่ารูรับแสงได้ 2 ระดับ คือ f/1.5 และ f/2.4 (Smart Apeture) พร้อมกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 3 ใช้สำหรับช่วยในโหมด Portrait ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.6
กล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera ถือว่าเป็นจุดเด่นของ OPPO R17 Pro โดยเฉพาะโหมดถ่ายภาพกลางคืนด้วย Ultra Night Mode ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ AI สามารถถ่ายภาพโหมดกลางคืนได้สวยคม แม้ไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องช่วยเพราะมี OIS+Smart Aperture หรือระบบกันสั่น จะช่วยทำให้ทุกคนสามารถถ่ายออกมาได้สวยพอๆกันครับ เรื่องถ่ายภาพโหมดกลางคืนหรือแสงน้อย จะไม่ใช่ปัญหากับมือใหม่อีกต่อไปครับ เพราะ Ultra Night Mode จะจัดการให้ทุกอย่างเอง เพียงยกกล้องขึ้นกดถ่าย รอให้กล้องประมวลผลให้ประมาณ 2-4 วินาที แค่นี้ก็จะได้ภาพสวยๆอวดเพื่อนแล้ว (การทำงานของ AI Ultra-clear engine ที่ช่วยประมวลภาพในระยะเวลา 2-4 วินาที)
พอดีผมมีโอกาสเก็บภาพสวยๆจากตึกมหานครช่วงเย็นๆมาฝากกันครับ (ภาพทุกภาพเปิดโหมด AUTO จบหลังกล้อง)
ช่วงเวลาตะวันลับขอบฟ้า ถ่ายรูปกับนางแบบไปพลางๆ
ตะวันเริ่มจะตกแล้ว ถ่ายย้อยแสงกันดูดีกว่า
เริ่มตกเย็นคนเริ่มเยอะ การถ่ายภาพกลางคืนถ้าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นก่อนๆคือจบแน่นอนไม่สามารถถ่ายภาพสวยๆได้โดยเฉพาะไม่มีขาตั้งกล้องช่วย แต่ปัญหานั้นจะหมดไปครับ เพราะ OPPO R17 Pro มาพร้อมกับโหมด Ultra Night Mode สามารถถ่ายภาพสวยๆได้โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องช่วย ผมยืนด้านหลังสุด เหยียดแขนสุดแขนเพื่อถ่ายรูปสวยๆ ภาพที่ออกมาก็ประมาณนี้เลย
โหมดกลางคืนเขาทำออกมาได้สวยงามจริงๆ สำหรับผมยกให้ OPPO R17 Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพกลางคืนได้ง่ายสุดและสวยสุดในปีนี้ไปเลย
มาดูภาพต่างๆในช่วยหนึ่งเดือนที่ผมใช้งานกัน มีความสุขทุกครั้งที่ยก OPPO R17 Pro ถ่ายภาพครับ ได้ภาพสวยตามที่ใจต้องการนั้นเอง
ความละเอียด 25 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์Sony IMX576 รูรับแสงf / 2.0 มีชดเชยแสง HDR และเทคโนโลยี AI Beauty Camera สำหรับชุด AI จะจดจำลักษณะใบหน้าด้วยการสแกน 296 จุดบนใบหน้า แล้วจะวิเคราห์องค์ประกอบบนใบหน้าสให้ช่วยการถ่ายเซลฟี่ที่สวยงามดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
OPPO R17 Pro มาพร้อมกับชิปเซต Qualcomm Snapdragon 710 Octa-core 2.2 GHz / GPU Adreno 616 ชิปตัวนี้เป็นรหัสใหม่นะครับ อาจจะไม่แรงเท่าตระกูล 845 แต่สำหรับการใช้งานหรือแม้แต่เล่นเกมส์ ก็สามารถใช้งานได้ดี เล่นเกมส์ลื่นไหลบนหน้าจอความละเอียด FHD+ ครับ และที่สำคัญสำหรับชิปประมวลผลชุดนี้คือ เรื่องการประหยัดพลังงานและทำงานร่วมกับ AI ได้ดียิ่งขึ้น
ทดสอบคะแนนผ่าน antutu
สามารถปรับความละเอียดสูงได้ในเกมส์ PubG นะครับ
หน่วยความจำ RAM LPDDR4x ขนาด 8 GB / หน่วยความจำภายใน UFS2.1 ขนาด 128 GB
รองรับเคลือข่าย
OPPO R17 Pro รองรับ Dual 4G / Dual VoLTE และ VoWiFi ส่วนของ WiFi จะรองรับ 2.4-5.0 GHz
OPPO R17 Pro มากับแบตเตอร์รี่ความจุ 3,700 mAh แบบ Bi-Cell Design ภายในจะแบ่งเป็นสองเซล เซลละ 1850 mAh และใช้เทคโนโลยี Super VOOC ชาร์จเร็วที่สุดในโลกตอนนี้ครับ หลักการของ Super VOOC คือ ชาร์จด้วยไฟ 5V 5A ไปที่แบตเตอร์รี่ของแต่ละเซล ภายในจะแบ่งเป็นสองเซลอัดไฟไปที่ 10V 5A การแบ่งกำลังไฟในการประจุจะเป็นข้อดีคือ ตัวแบตไม่ร้อนขณะชาร์จไฟมีความปลอดภัยสูงและยังมีเทคโนโลยี”Five-chip protection” จะคอยตรวจสอบอุปกรณ์ต่อพ่วงสำหรับการชาร์จไฟว่าได้มาตราฐานเพียงพอหรือเปล่าเพิ่มความปลอดภัยไปอีกระดับ พอร์ตเป็น USB Type-C แล้วนะครับ
แบตเตอร์รี่ความจุ 3,700 mAh ผมใช้งานหนึ่งวันเต็มๆไม่เคยหมดครับ แบตอึดมากๆ สามารถชาร์จไฟจาก 0-100% เพียง 35-40 นาที หรือตามสโลแกน ชาร์จ 10 นาที ได้ถึง 40%
OPPO R17 Pro เลือกใช้จอแบบ AMOLED ให้ความสว่างของแสงและความอิ่มของสีที่ดีมากๆ การแสดงผลของหน้าจอสวยงาม ขนาดจอ 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080) อัตราส่วน 19.5:9 ติ่งแบบหยดน้ำ Water Drop Screen ทำให้พื้นที่สัดส่วนหน้าจอ(Screen Ratio)ที่มากถึง 91.5% กระจกกันรอยแบบ Gorilla Glass 6
ระบบสแกนลายนิ้วมือผ่านหน้าจอ รองรับ 5 ลายนิ้ว การตอบสนองรวดเร็วและแม่นยำดีครับ และยังมีระบบสแกนใบหน้าเพื่อการปลดล็อคหน้าจอมาให้ใช้งานด้วยเช่นกัน
OPPO R17 Pro มาพร้อมกับ Android8.1 ครอบทับด้วย ColorOS 5.2 การแจ้งเตือนต่างๆทำได้ดี และมีธีมสวยๆไว้ให้โหลดใช้งานปกติ รองรับการใช้งานสองจอ และใช้งานสอง ID ได้เช่นเดิมครับ
ตัวเครื่อง ติดฟิมล์หน้าจอมาให้เรียบร้อย
ที่ชาร์จ รองรับ Super VOOC
สายชาร์จ USB Type-C มาตราฐาน Super VOOC
หูฟังพอร์ต USB Type-C
เคสซิลิโคนใส
เข็มจิ้มถาดซิม
คู่มือการใช้งาน
หลังจากที่ผมได้มีโอกาสใช้งานมาสิ่งที่ประทับใจอันดับแรกเลยคือ Ultra Night Mode กล้องโหมดกลางคืนถ่ายภาพได้สวยจริงและง่ายด้วย ใครๆก็สามารถถ่ายได้สวยเพราะมีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI ช่วยประมวลผล ภาพคมชัดแม้ไม่มีขาตั้งกล้องช่วยเพราะมีระบบกันสั่นแบบ OIS+Smart Aperture
และความประทับใจอันดับต่อมาคือ Super VOOC คือชาร์จเร็วมากๆ ผมทดลองใช้ให้แบตหมดเกลี้ยงใช้เวลาชาร์จเพียง 40 นาทีเต็ม 100% เร็วมาก
และระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่ก็สามารถใช้งานได้ยาวนาน แบตอึดจริง
จุดเด่น
- กล้องหลังสามตัวที่มีระบบ Ultra Night Mode ถ่ายกลางคืนได้ง่ายและสวยจริง
- กล้องหน้า 25MP พร้อมด้วยเทคโนโลยี AI Beauty
- หน่วยความจำภายในแบบ UFS 2.1 สามารถอ่านและเขียนข้อมูลได้รวดเร็ว
- หน้าจอ AMOLED แสดงผลได้สวยงาม
- ระบบชาร์จเร็ว Super VOOC ที่ชาร์จเร็วมากและมีความปลอดภัยสูง ชาร์จแบตเตอรี่ได้ 40% ภายใน 10 นาที
- ตัวเครื่องออกแบบได้สวยงาม วัสดุพรีเมี่ยม น่าถือใช้งาน
จุดสังเกตุ
- ไม่มีพอร์ตหูฟังแบบ 3.5 มม.
- ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้