(อัพเดตข้อมูล 2023)

กระทู้ก่อนหน้านี้...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้5 Days in Kyoto เกียวโตที่ฉันรัก (ใบไม้เปลี่ยนสี / ปลายตุลา-ต้นพฤศจิกา)
https://ppantip.com/topic/38194836
1 Day in Koyasan: โคยะซังในยามใบไม้เปลี่ยนสี (ไป-กลับ 1 วัน)
https://ppantip.com/topic/3824660

หลังจากเที่ยวเกียวโตและโคยะซัง ตอนนี้ก็มาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว ปิดทริปคันไซด้วยหนึ่งวันในโกเบ-โอซาก้า จริงๆ โซนโกเบนี่มีสถานที่เที่ยวอยู่หลายแห่ง สามารถแพลนเต็มวันได้เลยค่ะ อาจจะไปฮิเมจิครึ่งวันโกเบครึ่งวันก็ได้ แต่ทริปคันไซก่อนหน้านี้เราเคยไปฮิเมจิแล้ว ส่วนที่เที่ยวอื่นๆ ในโกเบก็ดูไม่ค่อยตรงใจสักเท่าไหร่ บวกกับผู้ร่วมทริปแค่อยากไปชิมเนื้อโกเบให้ถึงถิ่นดูสักครั้ง เลยเลือกไปแค่ร้าน Steakland แล้วกลับมาเที่ยวโอซาก้าต่อในครึ่งวันหลัง ด้วยการไปสักการะศาลเจ้า Osaka  Tenmangu ปิดท้ายที่ Shinsaibashi-Dotonbori ก่อนจะเดินทางไปยังสนามบินคันไซตอนค่ำๆ การเดินทางวันนี้วันนี้เราใช้ Kansai Thru Pass ที่เหลืออยู่อีก  1 วัน



ที่พักของเราในโอซาก้า จากทริปก่อนเคยตั้งใจไว้ว่าจะไม่มาพักแถว Shin Imamiya อีกแล้ว เพราะด้วยบรรยากาศที่แอบเถื่อนนิดๆ เป็นญี่ปุ่นที่ไม่เหมือนอยู่ญี่ปุ่น แต่สุดท้ายก็ต้องยอมกลืนน้ำลายตัวเองเพราะราคาของที่พักในย่านนี้เค้าเย้ายวนใจเหลือเกิน พ่ายแพ้ให้กับเงินตรา...ฮา
คราวนี้ย้ายมาพักกับอีกที่หนึ่งชื่อว่า Shin-Imamiya hotel แล้วก็รู้สึกว่าโอเคเลยนะ บรรยากาศค่อนข้างดีขึ้นมาหน่อย เนื่องจากตัวโรงแรมอยู่ติดถนนใหญ่ มีแสงไฟสว่าง ใกล้สถานีรถไฟแบบสุดๆ ทำให้มีผู้คนพลุกพล่าน บริเวณนี้เลยดูไม่น่ากลัว สำหรับคนที่กำลังมองหาที่พักราคาถูกใน Shin Imamiya แนะนำเลย



ห้องพักและส่วนต่างๆ ในโรงแรมนั้นไม่ต่างจาก Business hotel อื่นในย่านเดียวกัน คือมีทั้งที่เป็นสไตล์ญี่ปุ่น ห้องที่มีเตียงนอน และสุดท้ายคือแบบแคปซูล ส่วนห้องที่เราเลือกเป็นแบบแคปซูลค่ะ (รูปจากเว็บไซต์ของทางโรงแรม)




พอเปิดประตูเข้าไปแล้วถึงกับตกใจในความคับแคบ อาจเพราะเรามีกระเป๋าใบใหญ่ถึงสองใบด้วยก็เลยลำบาก คือถ้ากางกระเป๋าก็เดินออกจากห้องไม่ได้เลย มีปัญหากับการพับๆ กางๆ เวลาต้องอาบน้ำ เก็บของ แพ็คกระเป๋า ค่อนข้างวุ่นวายอยู่เหมือนกัน คิดว่าห้องที่เป็นสไตล์ญี่ปุ่นน่าจะดีกว่า มีพื้นที่ให้ใช้งานเยอะ ถ้ายังไม่นอนก็เก็บที่นอน กางกระเป๋าได้เต็มที่เลยค่ะ






บรรยากาศบริเวณทางเดิน...ค่อนข้างใหม่ น่าจะมีการปรับปรุงเมื่อไม่นานมานี้เอง ห้องของเราไม่มีห้องน้ำในตัวก็เลยต้องออกไปใช้ห้องน้ำรวม แต่ห้องน้ำก็สะอาดดีนะคะ การบริการในด้านอื่นๆ ค่อนข้างดี มีห้องซักผ้า บริการฝากกระเป๋าก่อนและหลังเช็กอิน





ถ้าพูดถึง Shin Imamiya แล้วสิ่งหนึ่งที่เราชอบคือของกินของใช้ในย่านนี้ค่อนข้างถูก อย่างเช่นตู้กดน้ำที่ราคาถูกสุดเท่าที่เคยเจอในญี่ปุ่นเลยทีเดียว ร้านอาหารค่อนข้างเป็นมิตรกับเงินในกระเป๋า นอกจากนี้เราก็อยากจะมาแนะนำซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Super Tamade ร้านมีหลายสาขาแต่ที่เราไปคือสาขาที่อยู่ใกล้กับ Shin-Imamiya hotel

จุดเด่นของที่นี่คือสินค้าที่มีราคาถูกมาก โดยเฉพาะของกินค่ะ ข้าวกล่อง ข้าวปั้นต่างๆ ซึ่งจะหาราคานี้แทบไม่ได้เลยในญี่ปุ่น ตอนแรกก็แอบกังวลเรื่องสุขอนามัยอยู่เหมือนกันค่ะเพราะถูกเกินจนไม่น่าไว้วางใจ 555 แต่ด้วยความที่เป็นญี่ปุ่นก็ค่อนข้างเชื่อว่าเค้าน่าจะควบคุมดูแลเรื่องนี้ได้ดีในระดับหนึ่ง ทดลองซื้อมาชิมแล้วก็ถือว่าปลอดภัยค่ะ มีความสุขมากๆ กับการได้กินของราคาถูก และรสชาติก็ดีในระดับหนึ่งเลย รับรองว่าไม่เสียดายเงินแน่นอน










การเดินทางจากโอซาก้าไปยังโกเบถือว่าสะดวกมาก มีรถไฟให้บริการอยู่หลายบริษัทด้วยกัน 
Osaka Station - Sannomiya Station (JR Tokaido-Sanyo line) 
ShinOsaka Station - ShinKobe Station (JR Shinkansen)
Umeda Station - KobeSannomiya Station (Hankyu kobe line)
OsakaNamba - KobeSannomiya Station (Hanshin namba line)

ที่โกเบมีสถานีรถไฟอยู่หลายแห่ง แยกตามบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะของ Hankyu และ Hanshin ที่ชื่อ KobeSannomiya เหมือนกัน อาจจะทำให้สับสนได้ คนใช้ Kansai Thru Pass สามารถเลือกขึ้นรถไฟของ Hankyu หรือ Hanshin ก็ได้ ส่วนเราเลือกใช้บริการรถไฟของ Hankyu เพราะสะดวกในเรื่องรอบเวลาที่รถออก และสถานี Hankyu Kobe-Sannomiya อยู่ใกล้กับร้าน Steakland



อยู่เกียวโตโอซาก้ามาหลายวัน บรรยากาศที่โกเบก็จะเป็นอีกสไตล์หนึ่งเลย




ร้านสเต็กเนื้อที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองโกเบ จุดเด่นของเค้าคือเซ็ตมื้ออาหารกลางวัน ช่วงเวลา 11.00-14.00 น. ราคาเริ่มต้นที่ 1200 เยน ได้กินเนื้อคุณภาพดีในราคาน่ารักๆ จึงเป็นร้านที่นักท่องเที่ยวนิยมมากินกันมากๆ Steakland มีสองสาขาตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน ลองดูว่าถ้าสาขาไหนคนเยอะก็อาจแวะไปดูอีกสาขาได้ค่ะ



(สาขา 1 อยู่ติดถนนใหญ่)


(สาขา 2 เดินเข้าซอยไปอีกนิดเดียว)


เราเลือกกินที่สาขา 1 หลังจากสั่งอาหารแล้วเชฟจะมาทำสเต็กให้ดูกันตรงหน้า ดูแล้วเพลินตาและสนุกดี สำหรับ Lunch set นี่จะรวมสลัด ข้าว ซุป และกาแฟมาด้วย เราไม่กินเนื้อเลยลองถามผู้ร่วมทริป เห็นชมใหญ่เลยว่าเนื้อนุ่มละมุนลิ้น ละลายในปากมาก สายเนื้อนั่งรถไฟมาจากโอซาก้าเพื่อกินสเต็กที่นี่ก็คุ้มแล้วอ่ะ



ถ้าถามว่าคนไม่กินเนื้อมากิน Steakland ได้ไหม? ได้แน่นอนค่ะ เมนูนอกจากเนื้อวัวก็มีปลาหมึกแบบที่เราสั่ง หรือจะเลือกเป็นพวกกุ้ง หอยเชลล์  หรือทะเลรวม ราคาเริ่มต้น 2200 เยน แต่จะเป็นแบบ A la carte ไม่รวมข้าวซุปหรือเครื่องเคียงต่างๆ แบบที่ Lunch set ได้ รวมราคาแล้วเลยอาจดูแพงไปหน่อย และอย่าคาดหวังเรื่องรสชาติมาก เพราะจุดขายร้านเขาคือเนื้อค่ะ ออกแนวเราไปส่งเพื่อนหรือคนอื่นๆ ในครอบครัวกิน แล้วคนไม่กินเนื้อก็สามารถร่วมทานได้มากกว่า (หนวดปลาหมึกยักษ์นี่เหนียวเคี้ยวยากไปหน่อย ลองสั่งเมนูอื่นดีกว่านะคะ ฮือออ)