(อัพเดตข้อมูล 2023)
ทริปนี้เรามีเวลาอยู่เที่ยวคันไซ 7 วัน (ไม่รวมวันเดินทาง) เที่ยวเกียวโต 5 วัน โคยะซัง 1 วัน โกเบโอซาก้าอีก 1 วัน การเดินทางซื้อ Kansai Thru Pass 3 วัน โดยแบ่งใช้ที่เกียวโต โคยะซัง และโกเบโอซาก้า ส่วนวันอื่นๆ ที่เดินทางไม่เยอะ ใช้ Icoca แตะจ่ายเป็นรายเที่ยวไป
หลังจากเดินทางท่องเที่ยวในเกียวโต 5 วัน นั่งรถไฟกลับเข้าโอซาก้า พักค้าง 1 คืน เช้าวันต่อมาเราก็ไปเที่ยวโคยะซังแบบเดย์ทริป ใบไม้เปลี่ยนสีที่เกียวโตยังเขียวๆ อมส้ม แต่ที่โคยะซังนี่แดงสวยมากเลยค่ะ
Koyasan, Wakayama Prefecture
📌 ประวัติคร่าวๆ ของโคยะซัง
Koyasan – โคยะซัง – หรือเขาโคยะ ไม่ว่าจะใช้คำไหนก็ล้วนหมายถึงภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่ในเขตจังหวัด Wakayama ภูมิภาคคันไซ เป็นสถานที่ประดิษฐานพุทธศาสนาแบบวัชรยาน นิกาย Shingon แล้วหยั่งรากลึกมาอย่างยาวนานนับพันปี
ย้อนไปในอดีต...พระคูไค (ภายหลังรู้จักกันในนามท่านโคโบ ไดชิ) ได้เดินทางไปศึกษาพุทธศาสนาที่อาณาจักรต้าถัง ซึ่งสมัยนั้นถือเป็นจุดศูนย์กลางความเจริญรุ่งเรืองในทุกๆ ด้านรวมถึงทางด้านศาสนาด้วย หลังจากศึกษาหาความรู้อยู่นานหลายปีท่านคูไคก็นำพระพุทธศาสนาแบบวัชรยานกลับมาเผยแพร่ยังดินแดนบ้านเกิดเมืองนอนของท่าน ในตอนนั้นญี่ปุ่นมีเมืองหลวงอยู่ที่เฮอันเคียว หรือปัจจุบันคือเกียวโตนั่นเองค่ะ
ไม่นานหลังจากนั้นพุทธศาสนานิกาย Shingon ก็เป็นที่นิยมนับถือกันอย่างแพร่หลาย มีชื่อเสียงควบคู่กับนิกาย Tendai ซึ่งมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่เขา Hiei เกียวโต ในขณะที่นิกาย Shingon มีจุดศูนย์กลางอยู่บนภูเขาโคยะซังแห่งนี้
แม้ว่าจะท่านคูไคจะเข้าสู่สมาธิอันเป็นนิรันดร์แล้ว แต่โคยะซังก็ยังดำรงอยู่มาอย่างยาวนาน ในยุคที่เจริญรุ่งเรืองเคยมีวัดนับพันกว่าแห่ง จนกระทั่งถูกไฟไหม้บ้าง ยุบรวมกันบ้าง ตอนนี้เหลืออยู่ 117 แห่งเท่านั้น ปัจจุบันได้รับการรับรองจากองค์การ Unesco เป็นมรดกโลก ส่วนหนึ่งของเส้นทางจาริกแสวงบุญในเทือกเขา Kii ที่นี่มีบรรยากาศที่แสนสงบสุข มันอาจจะดูเกินจริงไปหน่อยถ้าเราจะบอกว่า...โคยะซังเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานของความศักดิ์สิทธิ์อยู่ทั่วทุกอณูในพื้นที่
แต่ถึงจะไม่ใช่สายธรรมะก็สามารถมาเที่ยวชมได้นะ ฤดูหนาวหิมะในคันไซตกน้อย ถ้าอยากเจอมาที่นี่รับรองว่าได้เจอ ส่วนฤดูร้อนอาจจะหลบร้อนมาหาอากาศเย็นสบายบนภูเขา ฤดูใบไม้ผลิที่นี่เขาก็มีซากุระนะเออ โดยเฉพาะฤดูใบไม้ร่วงถ้ามาเจอช่วงพีคด้วยแล้ว...สวยสะพรึงไปทั้งภูเขาแน่นอน
📌 สถานที่น่าสนใจในโคยะซัง
📌 Kongobuji
วัดหลักของนิกายชินงอน ที่นี่ก็ถือว่าเป็นวัดสำคัญที่ควรมาเยือน เพราะเรียกได้ว่าเป็นวัดหลักของวัดในนิกาย Shingon ทั่วประเทศ เดินเข้าไปถ่ายรูปบริเวณลานวัดแล้วไหว้พระจากข้างนอกอาคารได้ฟรี แต่ถ้าจะเข้าชมส่วนต่างๆ ภายในอาคารต้องเสียค่าเข้าค่ะ ซึ่งก็จะมีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่าง (ไหนๆ มาแล้วก็อยากลองให้ดูนะ รับรองว่าคุ้มค่าเข้าแน่นอน)
📌 Bunryutei
สวนหินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น รูปร่างเหมือนมังกรคู่ปรากฏกายออกมาจากทะเลเมฆ ตัวหินก้อนใหญ่ที่นำมาจัดวางเป็นมังกรนั้นถูกนำมาจากเกาะ Shikoku ซึ่งเป็นบ้านเกิดของท่านคูไค ส่วนหินกรวดก้อนเล็กๆ ที่นำมาใช้แทนก้อนเมฆสีขาวนำมาจากเกียวโต
📌 Fusuma
ภาพวาดประตูบานเลื่อนที่แสนสวยงาม มีทั้งภาพฤดูกาลทั้ง 4 ดอกไม้ / ฝูงนก / เรื่องราวเมื่อตอนที่ท่านคูไคศึกษาธรรมะอยู่ที่เมืองจีน จนกระทั่งกลับมายังญี่ปุ่น ช่วงที่เดินดูภาพวาดเหล่านี้เราเผลอทำตาโตตลอดเลยค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่ห้ามถ่ายรูป เลยไม่มีรูปประกอบให้ดู ได้แค่ถ่ายตัวอย่างจากบริเวณที่มีการอนุญาต
มุมอื่นๆ ในวัด
📌 Danjo garan (Garan temple complex)
ศูนย์กลางของโคยะซัง เป็นสถานที่ที่ท่านคูไคเริ่มก่อสร้างศาสนสถานบนเขา ประกอบไปด้วยสิ่งปลูกสร้างสำคัญต่างๆ มากมาย เช่น Konpon daito pagoda / Sanko no matsu หรือต้นสนตรีวัชระ ที่มีความเชื่อว่าถ้าหาใบสนสามใบที่ร่วงลงมาเจอ เก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์แล้วจะนำโชคมาให้
📌 ทางเดินจาก Kongobuji ไป Danjo garan
ถือเป็นจุดไฮไลท์ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ทางเดินที่สองข้างทางมีใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามมาก สวยจนแสบตา
📌 Daimon Gate
ประตูทางเข้าหลักของโคยะซัง ช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งช่วยร้ายต่างๆ เข้ามาภายในพื้นที่ (รูปถ่ายจากบนรถ ตอนกำลังนั่งรถผ่าน)
📌 Shojin-Ryori
ชุดอาหารมังสวิรัติ ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเป้าหมายหลักในการมาโคยะซังของเราครั้งนี้ก็ว่าได้ บนเขามีร้านที่ขายอาหารแบบมังสวิรัติอยู่หลายร้าน ตอนแรกลองหาข้อมูลและเลือกที่อื่นเอาไว้ค่ะแต่พอไปถึงร้านดันปิด ก็เลยเดินเลียบถนนไปเรื่อยๆ จนเจอที่นี่ ไม่รู้ว่าร้านอาหารบนโคยะซังอร่อยทุกร้านเลยหรือเปล่าเพราะเข้าร้านไหนก็ไม่ผิดหวัง
ร้านชื่อว่า Hanabishi - 花菱
https://www.hanabishi-web.jp/en/menu/
https://goo.gl/maps/zMhMsMH2Kzy
เซ็ตนี้ประกอบด้วยข้าวและกับข้าวหลายๆ อย่าง ซึ่งไม่มีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์ แต่มันอร่อยมากกก มีรสอูมามิจนต้องซัดเกลี้ยงทุกจาน สรุปใครมาแล้วยังไม่ได้ทานอาหารมังสวิรัติถือว่ายังมาไม่ถึงโคยะซังนะ!
📌 Okunoin
สถานที่เข้าสู่สมาธิอันเป็นนิรันดร์ของท่านคูไค ระหว่างทางเดินเข้าไปยัง Okunoin ก็จะพบกับทัศนียภาพของต้นสนสูงเสียดฟ้า และหลุมศพของชนชั้นสูง ขุนนาง พ่อค้าวานิช และผู้มีชื่อเสียงที่ศรัทธาในท่านคูไค เป็นจำนวนถึง 200,000 หลุม แม้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เดินสวนกันไปมา แต่ก็ยังคงรับรู้ถึงความสงบได้เป็นอย่างดี
(สำหรับทริปนี้เราอาจจะได้ไม่ได้แวะไปที่ Okunoin รูปประกอบเลยนำมาจากทริปก่อนค่ะ เผอิญติดปัญหาเรื่องการเดินทาง ช่วงที่ไปพายุไต้ฝุ่นพัดทำลายรางรถไฟเสียหาย ระหว่างทางต้องแวะเปลี่ยนจากรถไฟมาขึ้นรถบัส ใช้เวลาเดินทางเพิ่มอีกราวๆ 1 ชม. จนไม่มีเวลาพอที่จะไป Okunoin)
📌 กิจกรรมที่อยากแนะนำ
การเข้าพักในวัดบนเขาโคยะซัง ทานอาหารมังสวิรัติที่พระทำให้ (รสพระทำที่แท้ทรู 555) แล้วไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นบาปกรรมอะไรนะคะ ท่านถือว่าเป็นการฝึกตนอย่างหนึ่งค่ะ บางวัดก็อาจจะมีกิจกรรมการคัดลอกพระสูตรด้วย ตอนเช้าร่วมพิธีทำวัตรเช้ากับท่านเจ้าอาวาส ได้ยินเสียงพระสวดมนต์เป็นสำเนียงญี่ปุ่น ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีครั้งหนึ่งในชีวิต
แนะนำสำหรับคนที่เดินทางมาแบบ 1 day trip เอาแค่ Top 3 ของโคยะซังอย่าง Kongobuji – Danjo Garan – Okunoin และทานอาหารกลางวันบนเขาสักมื้อ...แค่นี้ก็คุ้มค่าแล้วค่ะ
[CR] 1 Day in Koyasan: โคยะซังในยามใบไม้เปลี่ยนสี (ไป-กลับ 1 วัน)
ทริปนี้เรามีเวลาอยู่เที่ยวคันไซ 7 วัน (ไม่รวมวันเดินทาง) เที่ยวเกียวโต 5 วัน โคยะซัง 1 วัน โกเบโอซาก้าอีก 1 วัน การเดินทางซื้อ Kansai Thru Pass 3 วัน โดยแบ่งใช้ที่เกียวโต โคยะซัง และโกเบโอซาก้า ส่วนวันอื่นๆ ที่เดินทางไม่เยอะ ใช้ Icoca แตะจ่ายเป็นรายเที่ยวไป
หลังจากเดินทางท่องเที่ยวในเกียวโต 5 วัน นั่งรถไฟกลับเข้าโอซาก้า พักค้าง 1 คืน เช้าวันต่อมาเราก็ไปเที่ยวโคยะซังแบบเดย์ทริป ใบไม้เปลี่ยนสีที่เกียวโตยังเขียวๆ อมส้ม แต่ที่โคยะซังนี่แดงสวยมากเลยค่ะ
📌 ประวัติคร่าวๆ ของโคยะซัง
ย้อนไปในอดีต...พระคูไค (ภายหลังรู้จักกันในนามท่านโคโบ ไดชิ) ได้เดินทางไปศึกษาพุทธศาสนาที่อาณาจักรต้าถัง ซึ่งสมัยนั้นถือเป็นจุดศูนย์กลางความเจริญรุ่งเรืองในทุกๆ ด้านรวมถึงทางด้านศาสนาด้วย หลังจากศึกษาหาความรู้อยู่นานหลายปีท่านคูไคก็นำพระพุทธศาสนาแบบวัชรยานกลับมาเผยแพร่ยังดินแดนบ้านเกิดเมืองนอนของท่าน ในตอนนั้นญี่ปุ่นมีเมืองหลวงอยู่ที่เฮอันเคียว หรือปัจจุบันคือเกียวโตนั่นเองค่ะ
ไม่นานหลังจากนั้นพุทธศาสนานิกาย Shingon ก็เป็นที่นิยมนับถือกันอย่างแพร่หลาย มีชื่อเสียงควบคู่กับนิกาย Tendai ซึ่งมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่เขา Hiei เกียวโต ในขณะที่นิกาย Shingon มีจุดศูนย์กลางอยู่บนภูเขาโคยะซังแห่งนี้
แม้ว่าจะท่านคูไคจะเข้าสู่สมาธิอันเป็นนิรันดร์แล้ว แต่โคยะซังก็ยังดำรงอยู่มาอย่างยาวนาน ในยุคที่เจริญรุ่งเรืองเคยมีวัดนับพันกว่าแห่ง จนกระทั่งถูกไฟไหม้บ้าง ยุบรวมกันบ้าง ตอนนี้เหลืออยู่ 117 แห่งเท่านั้น ปัจจุบันได้รับการรับรองจากองค์การ Unesco เป็นมรดกโลก ส่วนหนึ่งของเส้นทางจาริกแสวงบุญในเทือกเขา Kii ที่นี่มีบรรยากาศที่แสนสงบสุข มันอาจจะดูเกินจริงไปหน่อยถ้าเราจะบอกว่า...โคยะซังเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานของความศักดิ์สิทธิ์อยู่ทั่วทุกอณูในพื้นที่
แต่ถึงจะไม่ใช่สายธรรมะก็สามารถมาเที่ยวชมได้นะ ฤดูหนาวหิมะในคันไซตกน้อย ถ้าอยากเจอมาที่นี่รับรองว่าได้เจอ ส่วนฤดูร้อนอาจจะหลบร้อนมาหาอากาศเย็นสบายบนภูเขา ฤดูใบไม้ผลิที่นี่เขาก็มีซากุระนะเออ โดยเฉพาะฤดูใบไม้ร่วงถ้ามาเจอช่วงพีคด้วยแล้ว...สวยสะพรึงไปทั้งภูเขาแน่นอน
มุมอื่นๆ ในวัด
ร้านชื่อว่า Hanabishi - 花菱
https://www.hanabishi-web.jp/en/menu/
https://goo.gl/maps/zMhMsMH2Kzy
เซ็ตนี้ประกอบด้วยข้าวและกับข้าวหลายๆ อย่าง ซึ่งไม่มีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์ แต่มันอร่อยมากกก มีรสอูมามิจนต้องซัดเกลี้ยงทุกจาน สรุปใครมาแล้วยังไม่ได้ทานอาหารมังสวิรัติถือว่ายังมาไม่ถึงโคยะซังนะ!
(สำหรับทริปนี้เราอาจจะได้ไม่ได้แวะไปที่ Okunoin รูปประกอบเลยนำมาจากทริปก่อนค่ะ เผอิญติดปัญหาเรื่องการเดินทาง ช่วงที่ไปพายุไต้ฝุ่นพัดทำลายรางรถไฟเสียหาย ระหว่างทางต้องแวะเปลี่ยนจากรถไฟมาขึ้นรถบัส ใช้เวลาเดินทางเพิ่มอีกราวๆ 1 ชม. จนไม่มีเวลาพอที่จะไป Okunoin)
http://eng.shukubo.net/
แนะนำสำหรับคนที่เดินทางมาแบบ 1 day trip เอาแค่ Top 3 ของโคยะซังอย่าง Kongobuji – Danjo Garan – Okunoin และทานอาหารกลางวันบนเขาสักมื้อ...แค่นี้ก็คุ้มค่าแล้วค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้