สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
มีนะ แต่มันไม่ได้เป็นอะไรที่น่ายกย่องนับถือ ก็เป็นแค่อีกมุมมองนึงในการถือปฏิบัติที่ใครอยากทำหรือไม่ทำก็ได้
คนที่มีอะไรก่อนแต่งก็ไม่ได้เป็นปิศาจ คนที่เลือกจะมีอะไรหลังแต่งเท่านั้นก็ไม่ได้เป็นเทวดา
วัฒนธรรมวิคตอเรียนที่รับมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ไม่ได้เป็นสิ่งที่การันตีชีวิตครอบครัวที่มีความสุขและมิได้เป็นเครื่องชี้วัดคุณค่าความเป็นมนุษย์แต่อย่างใด
คนที่มีอะไรก่อนแต่งก็ไม่ได้เป็นปิศาจ คนที่เลือกจะมีอะไรหลังแต่งเท่านั้นก็ไม่ได้เป็นเทวดา
วัฒนธรรมวิคตอเรียนที่รับมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ไม่ได้เป็นสิ่งที่การันตีชีวิตครอบครัวที่มีความสุขและมิได้เป็นเครื่องชี้วัดคุณค่าความเป็นมนุษย์แต่อย่างใด
ความคิดเห็นที่ 21
มีครับ แต่ มันก็ไม่ได้แปลว่า ดี หรือ ไม่ดี
"ผมขอพูดในนามของคนอายุ 30 ที่เผชิญและเห็นชีวิตมาเยอะพอสมควร"
คือ ชีวิตคู่ มันมีอะไรมากกว่าคำว่า Sex เยอะแยะ Sex เป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิตคู่ มันขึ้นอยู่กับว่า คุณเอาอะไรเป็นที่ตั้ง การที่คุณเก็บซิงไว้ มันเหมือนบ่งบอกนัยๆว่า คุณเอา Sex เป็นที่ตั้งนะ เหมือนคุณพะวงอยู่กับคำว่า "ฉันต้องเก็บเซ็กซ์ครั้งแรกของฉันไว้" แต่อย่างที่ผมบอก ชีวิตคู่มันมีอะไรอีกเยอะแยะ การที่คุณเก็บซิงไว้วันแต่งงาน ไม่ได้แปลว่าชีวิตหลังแต่งงานของคุณจะราบรื่น เพราะถ้าเกิดวันเข้าหอของคุณ เซ็กซ์ของคุณกับแฟนคุณเข้ากันไม่ได้ ชีวิตสมรสของคุณแทบจะพังเลยนะ และซิงที่คุณเก็บไว้ก็ไร้ความหมาย หรือแม้แต่หลังจากแต่งงานไปแล้ว ชีวิตของคุณเข้ากันไม่ได้ เพราะไม่เคยใช้ชีวิตร่วมกันมาก่อน มันก็ทำให้ชีวิตสมรสของคุณพังได้เช่นกัน ปัญหาหย่าร้างก็ตามมา แต่กลับกัน คนที่เค้ามีเซ็กซ์ก่อนแต่งงาน ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ด้วยกันก่อนแต่ง คนกลุ่มนี้เค้าใช้ความสุขของชีวิตคู่เป็นที่ตั้ง ได้ทดลองใช้ชีวิตร่วมกัน เค้าถึงรู้ว่ามันเวิร์ค หรือ ไม่ ถ้าไม่ อย่างมากก็เลิกกัน มีโอกาสที่จะหาคู่ใหม่ สำหรับคนกลุ่มนี้ คู่ที่แต่งงานกัน คือคู่ที่แน่ใจแล้วว่า ชีวิตเราไปด้วยกันได้ เรามีความสุขที่เราได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ปัญหาชีวิตแต่งงานของคนกลุ่มนี้จึงน้อยกว่าคนกลุ่มแรก เพราะเหมือนได้ทดลองใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว
อยู่ด้วยกันแล้วเลิกกัน ผมว่ามันดีกับตัวผู้หญิงนะ มันก็แค่"เลิกกัน" หาแฟนใหม่คงไม่ยาก แต่ถ้าผู้หญิงที่แต่งงานแล้วหย่ากัน มันคือคำว่า"แม่ม่ายผัวร้าง" การที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่นั้นยากกว่าแน่นอน เพราะขึ้นชื่อว่าคนแต่งงานแล้ว
จริงๆมันมีรายละเอียดมากกว่านี้ แต่ควพิมพ์ไม่ไหว อย่างที่ผมบอก ชีวิตคู่มันมีอะไรอีกเยอะแยะและมันยาก เรื่องซิงหรือไม่ซิงมันแทบไม่มีความหมายเลยถ้าชีวิตคู่คุณไปด้วยกันไม่ได้
"ผมขอพูดในนามของคนอายุ 30 ที่เผชิญและเห็นชีวิตมาเยอะพอสมควร"
คือ ชีวิตคู่ มันมีอะไรมากกว่าคำว่า Sex เยอะแยะ Sex เป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิตคู่ มันขึ้นอยู่กับว่า คุณเอาอะไรเป็นที่ตั้ง การที่คุณเก็บซิงไว้ มันเหมือนบ่งบอกนัยๆว่า คุณเอา Sex เป็นที่ตั้งนะ เหมือนคุณพะวงอยู่กับคำว่า "ฉันต้องเก็บเซ็กซ์ครั้งแรกของฉันไว้" แต่อย่างที่ผมบอก ชีวิตคู่มันมีอะไรอีกเยอะแยะ การที่คุณเก็บซิงไว้วันแต่งงาน ไม่ได้แปลว่าชีวิตหลังแต่งงานของคุณจะราบรื่น เพราะถ้าเกิดวันเข้าหอของคุณ เซ็กซ์ของคุณกับแฟนคุณเข้ากันไม่ได้ ชีวิตสมรสของคุณแทบจะพังเลยนะ และซิงที่คุณเก็บไว้ก็ไร้ความหมาย หรือแม้แต่หลังจากแต่งงานไปแล้ว ชีวิตของคุณเข้ากันไม่ได้ เพราะไม่เคยใช้ชีวิตร่วมกันมาก่อน มันก็ทำให้ชีวิตสมรสของคุณพังได้เช่นกัน ปัญหาหย่าร้างก็ตามมา แต่กลับกัน คนที่เค้ามีเซ็กซ์ก่อนแต่งงาน ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ด้วยกันก่อนแต่ง คนกลุ่มนี้เค้าใช้ความสุขของชีวิตคู่เป็นที่ตั้ง ได้ทดลองใช้ชีวิตร่วมกัน เค้าถึงรู้ว่ามันเวิร์ค หรือ ไม่ ถ้าไม่ อย่างมากก็เลิกกัน มีโอกาสที่จะหาคู่ใหม่ สำหรับคนกลุ่มนี้ คู่ที่แต่งงานกัน คือคู่ที่แน่ใจแล้วว่า ชีวิตเราไปด้วยกันได้ เรามีความสุขที่เราได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ปัญหาชีวิตแต่งงานของคนกลุ่มนี้จึงน้อยกว่าคนกลุ่มแรก เพราะเหมือนได้ทดลองใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว
อยู่ด้วยกันแล้วเลิกกัน ผมว่ามันดีกับตัวผู้หญิงนะ มันก็แค่"เลิกกัน" หาแฟนใหม่คงไม่ยาก แต่ถ้าผู้หญิงที่แต่งงานแล้วหย่ากัน มันคือคำว่า"แม่ม่ายผัวร้าง" การที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่นั้นยากกว่าแน่นอน เพราะขึ้นชื่อว่าคนแต่งงานแล้ว
จริงๆมันมีรายละเอียดมากกว่านี้ แต่ควพิมพ์ไม่ไหว อย่างที่ผมบอก ชีวิตคู่มันมีอะไรอีกเยอะแยะและมันยาก เรื่องซิงหรือไม่ซิงมันแทบไม่มีความหมายเลยถ้าชีวิตคู่คุณไปด้วยกันไม่ได้
ความคิดเห็นที่ 12
มีค่ะ เราอายุ 32 มีแฟนคนแรก ตั้งใจให้เป็นคนเดียว
ก็ยังไม่มีอะไรกันนะ (แฟนอายุ 34)
ก็คุยกันตั้งแต่แรกคบเลยค่ะ
ว่าเราต้องการแบบนี้ เค้าก็โอเค
โตๆกันแล้ว ไม่ใช่วัยอยากลอง ถ้าเป็นวัยรุ่น
ก็คงอยากลอง มั้งค่ะ พี่ก็เคยคิด 555
แต่พอเรียน ทำงาน เรื่องแบบนี้ มันหายไปเองค่ะ
อย่าหมกมุ่น
เวลาอยู่ด้วยกัน ก็หากิจกรรมทำ มีหลายอย่างค่ะ
ก็ยังไม่มีอะไรกันนะ (แฟนอายุ 34)
ก็คุยกันตั้งแต่แรกคบเลยค่ะ
ว่าเราต้องการแบบนี้ เค้าก็โอเค
โตๆกันแล้ว ไม่ใช่วัยอยากลอง ถ้าเป็นวัยรุ่น
ก็คงอยากลอง มั้งค่ะ พี่ก็เคยคิด 555
แต่พอเรียน ทำงาน เรื่องแบบนี้ มันหายไปเองค่ะ
อย่าหมกมุ่น
เวลาอยู่ด้วยกัน ก็หากิจกรรมทำ มีหลายอย่างค่ะ
ความคิดเห็นที่ 20
พี่อายุ 33 แล้ว มีแฟนมาหลายคน แต่ไม่เคยมีอะไรกับแฟนแม้แต่คนเดียวค่ะ เป็นข้อตกลงระหว่างกัน
ปัจจุบันก็มีแฟน โชคดีที่แฟนเองก็มีทัศนคติที่ตรงกันว่า เราจะไม่ชิงสุกก่อนห่าม รอหลังแต่งงานเลยทีเดียว
จริงๆ ก็มีผู้หญิงหลายคนมีทัศนคติในแง่นี้นะคะ ไม่ได้บอกว่าเราเป็นคนดีกว่าใคร แต่เป็นการเลือกใช้ชีวิตแบบนึง
พี่เคยโดนเหยียดนะว่าอายุ 30 กว่า ทำไมไม่มีอะไรกับแฟน เก็บไว้ทำไม กลายเป็นเรื่องตลกของชาวบ้านไป
แต่พี่ไม่เดือดร้อนนะ พี่มองในแง่ของการวางแผนชีวิต ความพร้อม และการให้เกียรติพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายมากกว่า
ปัจจุบันก็มีแฟน โชคดีที่แฟนเองก็มีทัศนคติที่ตรงกันว่า เราจะไม่ชิงสุกก่อนห่าม รอหลังแต่งงานเลยทีเดียว
จริงๆ ก็มีผู้หญิงหลายคนมีทัศนคติในแง่นี้นะคะ ไม่ได้บอกว่าเราเป็นคนดีกว่าใคร แต่เป็นการเลือกใช้ชีวิตแบบนึง
พี่เคยโดนเหยียดนะว่าอายุ 30 กว่า ทำไมไม่มีอะไรกับแฟน เก็บไว้ทำไม กลายเป็นเรื่องตลกของชาวบ้านไป
แต่พี่ไม่เดือดร้อนนะ พี่มองในแง่ของการวางแผนชีวิต ความพร้อม และการให้เกียรติพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายมากกว่า
แสดงความคิดเห็น
ยังมีอยู่ไหมคะสมัยนี้ คนที่ยังไม่มีอะไรกัน ถ้ายังไม่แต่งงาน