สวัสดีครับ เนื่องจากผมประสบพบเจอปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร จนเกิดไฟไหม้บ้าน จึงขออนุญาตมาแชร์ประสบการณ์ และการแก้ปัญหา แบบบ้านๆ ประกอบกับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญนิดหน่อย หากผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้นะครับ
เรามาเริ่มกันเลยนะครับ เนื่องจาก ผม ภรรยา และลูกชายเพิ่งขวบ ได้ย้ายมาอยู่บ้านกับคุณพ่อ คุณแม่ที่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ด้วนที่ผมและภรรยา ต้องเดินทางไปทำงานนอกบ้านกันทั้งคู่ ผมจึงมาอาศัยขออานิสงค์จากคุณพ่อคุณแม่ ช่วยเลี้ยงหลานในตอนกลางวัน
มาถึงตรงนี้แล้วคงสงสัยนะครับ ว่ามันเกี่ยวกับเรื่องไฟฟ้าลัดวงจรอย่างไร....
ณ เวลา สามทุ่มกว่าๆ เมื่อกลางเดือนตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา หลังจากอาบน้ำ พักผ่อนอยู่ที่ชั้นสองของบ้าน ปรากฏว่าไฟตกครับ ประกอบกับการใช้ไฟเยอะมากจนระบบไฟฟ้าภายในบ้านตัด
วิธีการแก้ปัญหาสไตล์บ้านๆของผม ก็คือวิธีการตกทอดจากคุณพ่อผม คือไปสับสวิสต์เบรคเกอร์ เปิด-ปิดใหม่ เพื่อกระตุ้นให้ไฟเปิดใหม่ เหมือนรีสตาร์ทน้ะแหละครับ โดยทุกทีวิธีนี้ก็จะกลับมาใช้งานได้
แต่คราวนี้ มันดับ... ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ผมเลยแอบสงสัยว่าไม่ปกติ ทันใดนั้น คุณภรรยาสุดสวยของผมได้กลิ่นไหม้ขึ้นมาจากเบรคเกอร์ด้านล่างที่เชื่อมกับเบรคเกอร์ตัวหลักชั้น 2 ผมตกใจมาก! จึงลงไปดูครับ
สิ่งที่เห็นเซอร์ไพร์ซมากคือ ไฟลุกครับบบบ ไฟไหม้เบรคเกอร์เป็นลูกไฟ ขนาดกลาง ผมและรปภ.ได้เข้ามาและรีบทำการดับไฟ ก่อนที่จะลุกลามไปมากกว่านี้ โดยที่ไม่ทันได้คิดว่าจะเป็นวิธีแก้ไขที่ถูกหรือผิด ซึ่งส่งผลให้คืนนั้นครอบครัวผม ต้องอพยพไปพักข้างนอกชั่วคราว
ในเช้าวันต่อมา (เข้าเรื่องละครับ 555)
ผมได้พยายามหาทางซ่อม เนื่องจากลูกบ้านอย่างผม ไม่มีไอเดียว่าจะหาช่างไฟได้จากไหน จึงหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตพบว่า มีช่างไฟโฮมโปรให้บริการถึงบ้าน ผมกลับไปดูสภาพที่บ้าน พบว่าเบรคเกอร์เก่าผม เป็นซากกรอบพังกันเลยทีเดียว สิ่งที่คิดได้บ้านๆคือ ต้องการเบรคเกอร์มาแทน และหาช่างต่อไฟมาช่วยทำให้เรามีไฟอยู่บ้านได้ก่อน
สภาพบ้านผม ณ เกิดเหตุ (อาการไหม้ ถึงฝ้า ดำปี๋ และหน้ากากเบรคเกอร์กรอบเป็นแผ่น)
พอได้ไปคุยกับโฮมโปรแล้ว เรื่องไม่ง่ายอย่างนั้นแล้วครับ ผมพบปํญหาที่เกิดขึ้นดังนี้
- การแก้ปัญหาสไตล์บ้านๆของผมเนี้ยะ เป็นวิธีที่ผิดครับ การสาดน้ำเข้าไปส่งผลให้ไฟช็อต อาจจะถึงไฟรั่วได้
- การที่ผมจะซื้อเบรคเกอร์มาเพื่อติดตั้งเลยคงยาก เพราะมันลามไปถึงสายไฟและยังชื้นอยู่ จึงไม่สามารถเปลี่ยนเบรคเกอร์ได้
- จากที่คุยกับช่างของโฮมโปร พบว่าสาเหตุของการเกิดไฟช็อตที่แท้จริง เกิดจากการเดินสายไฟที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก ซึ่งการติดตั้งแอร์ในบ้านส่วนที่ต่อเติมนั้น ช่างได้ต่อไฟโดยใช้กำลังไฟจากสวิสซ์ปลั๊ก (อ้าวว!!! บ้านผมก้องานเข้าสิ้ครับ)
ดังนั้นผมกับช่างไฟจึงตกลงว่าจะแก้ปัญหาโดยการต่อตรงก่อนเพื่อให้ใช้งานได้ก่อน และรอให้สายไฟหายชื้นหลังจากนั้น ค่อยประเมินว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนสายไฟใหม่หรือไม่ ระหว่างนั้นก็เลือกตู้เบรคเกอร์ไฟใหม่รอไว้ก่อนเลย
จากภาพแต่ก่อนผมใช้เบรคเกอร์ชนิด พลาสติกที่มีช่องใส่ เซอร์กิต แค่ 4 ช่องเท่านั้น หากจะให้ผมเลือกใช้แบบเดิม ผมคงบายยยย จากที่ผมได้สอบถามเพื่อนๆ และปรึกษาอากู๋กันอย่างเมามันนั้น ผมก็ได้รับคำแนะนำให้เลือกใช้ ตู้เบรคเกอร์ชองชไนเดอร์ ที่มีลักษณะเป็นกล่องเหล็กและควรเลือกกล่องที่ใส่ได้ 6 – 9 ช่อง ซึ่งผมจึงนำข้อมูลที่เพื่อนได้แนะนำไปสอบถามช่างไฟโฮมโปร ซึ่งก็ได้รับการคอนเฟิร์มกลับมา ทีนี้ผมก็ไปโฮมโปรเพื่อซื้อเลยครับ
ผมเลือกซื้อตู้เบรคเกอร์ ชไนเดอร์ รุ่น Square D Classic รุ่น Single Bus ชนิด 6 ช่อง ในราคา 2,470 บาท โดยเลือกซื้อเซอร์กิตแยก ด้วยราคาของเบรคเกอร์ผมมองว่าอาจจะสูงกว่าเจ้าอื่นๆ แต่หากมองเรื่องความปลอดภัยแล้ว งานนี้ผมขอเลือกคุณภาพมาก่อนดีกว่า
ต้องขออภัยผมลืมถ่ายเก็บไว้ ขอแปะภาพประกอบเพื่อความสวยงามนะครับ
นอกจากนี้ผมได้เลือกซื้อตัวลูกย่อย โดยซื้อทั้ง 6 ตัวเลย คราวนี้ผมคุยกับช่างไฟไว้ว่า ผมจะจัดวางไฟกันใหม่ โดยแบ่งรายละเอียดดังนี้ครับ
32A – สำหรับเดินสายไฟแอร์ทั้งหมด 2 ตัว (20000 btu /15000 btu) โดยประมาณ
20A – ห้องนอนขนาด 6x6 ทั้งตัวแอร์ ไฟฟ้าทั้งหมด
20A - ส่วนห้องครัว และพื้นที่ห้องเก็บของทั้งหมด
20A - ปั๊มน้ำ และบริเวณภายนอกบ้าน
20A - สวิสซ์ ปลั๊กไฟ ส่วนภายในบ้านทั้งหมด
16A – สำหรับแสงสว่างทั้งหมดภายในบ้าน
ผมก็สงสัยเหมือนกันครับว่า ทำไมถึงต้องเลือกหลากหลายประเภท ทำไมไม่เลือกจำนวนแอมป์เยอะๆ ช่างไฟก็แนะนำผมว่า หากเลือกแอมป์เยอะๆแล้ว กลัวว่าสายไฟบ้านของเราจะรับไม่ไหว และเพื่อความปลอดภัยควรเลือกลูกย่อยที่จำนวนแอมป์ไม่เยอะมาก แต่หลายประเทศจะดีกว่า แต่ถ้าหากเลือกลูกแอมป์ที่เล็กเกินไปไป ก็อาจจะเกิดการทริป (ไฟตัด) บ่อยๆได้ อาจะทำให้คนในบ้านขวัญผวากันไปตามๆกัน555 และเมื่อไหร่ที่ใช้ไฟเกินขนาด ไฟก็จะตัดก่อนที่สายไฟจะรับไม่ไหว
โชคดีที่ผมได้ทำประกันอัคคีภัยไว้ เรื่องราวทั้งหมดนี้ผมจึงเบิกได้เกือบ 100% จึงทำให้ไม่เข้าเนื้อมาก โดยค่าใช้จ่ายส่วนนี้ทั้งหมด อยู่ที่ประมาณ 3,8xx บาทไม่รวมค่าช่างไฟ ซึ่งคหสต. คิดว่าในราคานี้ ได้ของคุณภาพดี เพื่อความปลอดภัยของคนในบ้านผมว่าผมค่อนข้างแฮปปีครับ
สรุป
เนื่องจากผมประสบพบเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ผมจึงอยากแชร์ประสบการณ์ และการแก้ปํญหาที่ได้รับคำแนะนำจากเพื่อนๆ คนรอบข้าง รวมถึงช่างไฟ ซึ่งสุดท้ายแล้ว ปัจจุบันการใช้งานยังดีอยู่ และรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น เพราะเปลี่ยนมาใช้เบรคเกอร์ที่ ค่อนข้างทนทาน (ด้วยวัสดุ คุณภาพ) และน่าไว้วางใจ (จากการแนะนำของเพื่อนๆ และช่างไฟ) ซึ่งหากมองเรื่องราคานั้น อาจจะแพงกว่าในตลาดพอสมควร แต่ผมมองในเรื่องความปลอดภัยในระยะยาว ผมว่าตอบโจทย์มากครับ
เพราะเมื่อผมเกิดเหตุแล้ว ผมก็จะมีความกังวลว่าจะเกิดอีก เพื่อความปลอดภัย สบายใจของทุกคนในครอบครัว ในราคาเพียงไม่กี่พันบาทนั้น ผมว่าคุ้มค่าที่จะลงทุน เพราะบ้านเราไม่ได้เปลี่ยนบ่อยๆ ลงทุนแค่ครั้งนี้ จะอยู่ได้ยาวๆอีกเป็น 5-10 ปี
เนื่องจากเรื่องราวในครั้งนี้ เป็นประสบการณ์ครั้งที่แรกของผมจึงขออนุญาติแชร์แบ่งปันข้อมูลนะครับ (ปกติแอบส่อง แต่คราวนี้มันอดแชร์ไม่ได้จริงๆ)
หากข้อมูลในครั้งนี้มีความผิดพลาด หรือไม่ถูกใจอย่างไร ต้องขออภัย และขอคำแนะนำด้วยนะครับ ส่วนตัวต้องการที่แชร์ข้อมูลที่มีประโยชน์ครับ และขอบคุณมากๆที่ติดตามอ่านจนจบครับ 😊
ราตรีสวัสดิ์นะคร้าบ
[CR] ประสบการณ์ไฟช็อตไหม้บ้าน กับการแก้ไขวิถีชาวบ้าน
เรามาเริ่มกันเลยนะครับ เนื่องจาก ผม ภรรยา และลูกชายเพิ่งขวบ ได้ย้ายมาอยู่บ้านกับคุณพ่อ คุณแม่ที่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ด้วนที่ผมและภรรยา ต้องเดินทางไปทำงานนอกบ้านกันทั้งคู่ ผมจึงมาอาศัยขออานิสงค์จากคุณพ่อคุณแม่ ช่วยเลี้ยงหลานในตอนกลางวัน
มาถึงตรงนี้แล้วคงสงสัยนะครับ ว่ามันเกี่ยวกับเรื่องไฟฟ้าลัดวงจรอย่างไร....
ณ เวลา สามทุ่มกว่าๆ เมื่อกลางเดือนตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา หลังจากอาบน้ำ พักผ่อนอยู่ที่ชั้นสองของบ้าน ปรากฏว่าไฟตกครับ ประกอบกับการใช้ไฟเยอะมากจนระบบไฟฟ้าภายในบ้านตัด
วิธีการแก้ปัญหาสไตล์บ้านๆของผม ก็คือวิธีการตกทอดจากคุณพ่อผม คือไปสับสวิสต์เบรคเกอร์ เปิด-ปิดใหม่ เพื่อกระตุ้นให้ไฟเปิดใหม่ เหมือนรีสตาร์ทน้ะแหละครับ โดยทุกทีวิธีนี้ก็จะกลับมาใช้งานได้
แต่คราวนี้ มันดับ... ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ผมเลยแอบสงสัยว่าไม่ปกติ ทันใดนั้น คุณภรรยาสุดสวยของผมได้กลิ่นไหม้ขึ้นมาจากเบรคเกอร์ด้านล่างที่เชื่อมกับเบรคเกอร์ตัวหลักชั้น 2 ผมตกใจมาก! จึงลงไปดูครับ
สิ่งที่เห็นเซอร์ไพร์ซมากคือ ไฟลุกครับบบบ ไฟไหม้เบรคเกอร์เป็นลูกไฟ ขนาดกลาง ผมและรปภ.ได้เข้ามาและรีบทำการดับไฟ ก่อนที่จะลุกลามไปมากกว่านี้ โดยที่ไม่ทันได้คิดว่าจะเป็นวิธีแก้ไขที่ถูกหรือผิด ซึ่งส่งผลให้คืนนั้นครอบครัวผม ต้องอพยพไปพักข้างนอกชั่วคราว
ในเช้าวันต่อมา (เข้าเรื่องละครับ 555)
ผมได้พยายามหาทางซ่อม เนื่องจากลูกบ้านอย่างผม ไม่มีไอเดียว่าจะหาช่างไฟได้จากไหน จึงหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตพบว่า มีช่างไฟโฮมโปรให้บริการถึงบ้าน ผมกลับไปดูสภาพที่บ้าน พบว่าเบรคเกอร์เก่าผม เป็นซากกรอบพังกันเลยทีเดียว สิ่งที่คิดได้บ้านๆคือ ต้องการเบรคเกอร์มาแทน และหาช่างต่อไฟมาช่วยทำให้เรามีไฟอยู่บ้านได้ก่อน
สภาพบ้านผม ณ เกิดเหตุ (อาการไหม้ ถึงฝ้า ดำปี๋ และหน้ากากเบรคเกอร์กรอบเป็นแผ่น)
พอได้ไปคุยกับโฮมโปรแล้ว เรื่องไม่ง่ายอย่างนั้นแล้วครับ ผมพบปํญหาที่เกิดขึ้นดังนี้
- การแก้ปัญหาสไตล์บ้านๆของผมเนี้ยะ เป็นวิธีที่ผิดครับ การสาดน้ำเข้าไปส่งผลให้ไฟช็อต อาจจะถึงไฟรั่วได้
- การที่ผมจะซื้อเบรคเกอร์มาเพื่อติดตั้งเลยคงยาก เพราะมันลามไปถึงสายไฟและยังชื้นอยู่ จึงไม่สามารถเปลี่ยนเบรคเกอร์ได้
- จากที่คุยกับช่างของโฮมโปร พบว่าสาเหตุของการเกิดไฟช็อตที่แท้จริง เกิดจากการเดินสายไฟที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก ซึ่งการติดตั้งแอร์ในบ้านส่วนที่ต่อเติมนั้น ช่างได้ต่อไฟโดยใช้กำลังไฟจากสวิสซ์ปลั๊ก (อ้าวว!!! บ้านผมก้องานเข้าสิ้ครับ)
ดังนั้นผมกับช่างไฟจึงตกลงว่าจะแก้ปัญหาโดยการต่อตรงก่อนเพื่อให้ใช้งานได้ก่อน และรอให้สายไฟหายชื้นหลังจากนั้น ค่อยประเมินว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนสายไฟใหม่หรือไม่ ระหว่างนั้นก็เลือกตู้เบรคเกอร์ไฟใหม่รอไว้ก่อนเลย
จากภาพแต่ก่อนผมใช้เบรคเกอร์ชนิด พลาสติกที่มีช่องใส่ เซอร์กิต แค่ 4 ช่องเท่านั้น หากจะให้ผมเลือกใช้แบบเดิม ผมคงบายยยย จากที่ผมได้สอบถามเพื่อนๆ และปรึกษาอากู๋กันอย่างเมามันนั้น ผมก็ได้รับคำแนะนำให้เลือกใช้ ตู้เบรคเกอร์ชองชไนเดอร์ ที่มีลักษณะเป็นกล่องเหล็กและควรเลือกกล่องที่ใส่ได้ 6 – 9 ช่อง ซึ่งผมจึงนำข้อมูลที่เพื่อนได้แนะนำไปสอบถามช่างไฟโฮมโปร ซึ่งก็ได้รับการคอนเฟิร์มกลับมา ทีนี้ผมก็ไปโฮมโปรเพื่อซื้อเลยครับ
ผมเลือกซื้อตู้เบรคเกอร์ ชไนเดอร์ รุ่น Square D Classic รุ่น Single Bus ชนิด 6 ช่อง ในราคา 2,470 บาท โดยเลือกซื้อเซอร์กิตแยก ด้วยราคาของเบรคเกอร์ผมมองว่าอาจจะสูงกว่าเจ้าอื่นๆ แต่หากมองเรื่องความปลอดภัยแล้ว งานนี้ผมขอเลือกคุณภาพมาก่อนดีกว่า
ต้องขออภัยผมลืมถ่ายเก็บไว้ ขอแปะภาพประกอบเพื่อความสวยงามนะครับ
นอกจากนี้ผมได้เลือกซื้อตัวลูกย่อย โดยซื้อทั้ง 6 ตัวเลย คราวนี้ผมคุยกับช่างไฟไว้ว่า ผมจะจัดวางไฟกันใหม่ โดยแบ่งรายละเอียดดังนี้ครับ
32A – สำหรับเดินสายไฟแอร์ทั้งหมด 2 ตัว (20000 btu /15000 btu) โดยประมาณ
20A – ห้องนอนขนาด 6x6 ทั้งตัวแอร์ ไฟฟ้าทั้งหมด
20A - ส่วนห้องครัว และพื้นที่ห้องเก็บของทั้งหมด
20A - ปั๊มน้ำ และบริเวณภายนอกบ้าน
20A - สวิสซ์ ปลั๊กไฟ ส่วนภายในบ้านทั้งหมด
16A – สำหรับแสงสว่างทั้งหมดภายในบ้าน
ผมก็สงสัยเหมือนกันครับว่า ทำไมถึงต้องเลือกหลากหลายประเภท ทำไมไม่เลือกจำนวนแอมป์เยอะๆ ช่างไฟก็แนะนำผมว่า หากเลือกแอมป์เยอะๆแล้ว กลัวว่าสายไฟบ้านของเราจะรับไม่ไหว และเพื่อความปลอดภัยควรเลือกลูกย่อยที่จำนวนแอมป์ไม่เยอะมาก แต่หลายประเทศจะดีกว่า แต่ถ้าหากเลือกลูกแอมป์ที่เล็กเกินไปไป ก็อาจจะเกิดการทริป (ไฟตัด) บ่อยๆได้ อาจะทำให้คนในบ้านขวัญผวากันไปตามๆกัน555 และเมื่อไหร่ที่ใช้ไฟเกินขนาด ไฟก็จะตัดก่อนที่สายไฟจะรับไม่ไหว
โชคดีที่ผมได้ทำประกันอัคคีภัยไว้ เรื่องราวทั้งหมดนี้ผมจึงเบิกได้เกือบ 100% จึงทำให้ไม่เข้าเนื้อมาก โดยค่าใช้จ่ายส่วนนี้ทั้งหมด อยู่ที่ประมาณ 3,8xx บาทไม่รวมค่าช่างไฟ ซึ่งคหสต. คิดว่าในราคานี้ ได้ของคุณภาพดี เพื่อความปลอดภัยของคนในบ้านผมว่าผมค่อนข้างแฮปปีครับ
สรุป
เนื่องจากผมประสบพบเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ผมจึงอยากแชร์ประสบการณ์ และการแก้ปํญหาที่ได้รับคำแนะนำจากเพื่อนๆ คนรอบข้าง รวมถึงช่างไฟ ซึ่งสุดท้ายแล้ว ปัจจุบันการใช้งานยังดีอยู่ และรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น เพราะเปลี่ยนมาใช้เบรคเกอร์ที่ ค่อนข้างทนทาน (ด้วยวัสดุ คุณภาพ) และน่าไว้วางใจ (จากการแนะนำของเพื่อนๆ และช่างไฟ) ซึ่งหากมองเรื่องราคานั้น อาจจะแพงกว่าในตลาดพอสมควร แต่ผมมองในเรื่องความปลอดภัยในระยะยาว ผมว่าตอบโจทย์มากครับ
เพราะเมื่อผมเกิดเหตุแล้ว ผมก็จะมีความกังวลว่าจะเกิดอีก เพื่อความปลอดภัย สบายใจของทุกคนในครอบครัว ในราคาเพียงไม่กี่พันบาทนั้น ผมว่าคุ้มค่าที่จะลงทุน เพราะบ้านเราไม่ได้เปลี่ยนบ่อยๆ ลงทุนแค่ครั้งนี้ จะอยู่ได้ยาวๆอีกเป็น 5-10 ปี
เนื่องจากเรื่องราวในครั้งนี้ เป็นประสบการณ์ครั้งที่แรกของผมจึงขออนุญาติแชร์แบ่งปันข้อมูลนะครับ (ปกติแอบส่อง แต่คราวนี้มันอดแชร์ไม่ได้จริงๆ)
หากข้อมูลในครั้งนี้มีความผิดพลาด หรือไม่ถูกใจอย่างไร ต้องขออภัย และขอคำแนะนำด้วยนะครับ ส่วนตัวต้องการที่แชร์ข้อมูลที่มีประโยชน์ครับ และขอบคุณมากๆที่ติดตามอ่านจนจบครับ 😊
ราตรีสวัสดิ์นะคร้าบ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้