เทยประกัน 15/6 ชนะอีกแล้วเหรอเจ้าคะ ค่ายนี้มีดีที่เงินออม
หลังจากที่อ่านสงครามสิบทับ แบบประกันที่สั้นสุดแห่งสยามสำหรับการลดหย่อนภาษี แม่มณีก็อยากจะแนะนำแบบประกันออมทรัพย์ระยะกลางกันอีกสักตระกูลเจ้าค่ะ เป็นระยะที่ยาวขึ้นมาจักน้อย การรอคอยช่วงให้เงินครบกำหนดมันเป็นกอบเป็นกำมากขึ้น แม้ไม่ได้ทำให้อัตราผลตอบแทนเพิ่มขึ้นมากมาย แต่ระยะเวลาช่วยเราได้นะเจ้าคะ ระยะสิบกว่า ๆ ปีเนี่ย จริง ๆ แล้วเป็นระยะยอดนิยมนะเจ้าคะ ขายง่าย มีแบบประกันมากมายหลากหลายมาก ๆ แต่แม่มณีเลือกมาให้เฉพาะที่ irr มากกว่า 2% จาก 7 บริษัทประกันเหมือนเดิม ส่องเบิ่งจากตารางได้เลยเจ้าค่ะทุกคน
แม่มณียกตัวอย่างเบี้ยประกันเท่า ๆ กันคือประมาณหนึ่งแสนต่อปี (ใครใคร่ทำน้อย-มากกว่านี้ คิดเป็นอัตราส่วนเอาได้นะเจ้าคะ) ยังคงเหมือนเดิมว่าแผนที่ได้ผลตอบแทนสูงที่สุดคือ เทยประกัน 15/6 ซึ่งได้ irr เกือบ 3% ซึ่งถือว่าเป็นของหายากในตลาดประกันออมทรัพย์ปัจจุบัน พอ ๆ กับหมูสามขา ม้าห้ากีบ ซื้อแล้วเอาเลขกรมธรรม์ไปซื้อหวยได้ มันไม่ค่อยจะเหลือแล้วนะเจ้าคะ ประกันออมทรัพย์ที่ได้ผลตอบแทนสูง ๆ แล้วก็อยู่ในบริษัทประกันที่ใหญ่โต มั่นคง พอที่เราจะมั่นใจได้ว่ามันจะไม่เจ๊งไปก่อนที่เราจะได้เงินครบกำหนดคืน
***ตัวเลขอาจรวมกันไม่ได้เป๊ะ ๆ เพราะแม่มณีปัดจุดทศนิยมนะเจ้าคะ
รองลงมาที่น่าสนใจก็กระจายกันไปตามบริษัทขนาดกลาง เช่น F อะไรดี 15/7 หรือ R คะเน 12/6 ก็ได้ irr สูงพอสมควรเจ้าค่ะ แบบประกันออมทรัพย์ระยะกลางแบบนี้ ก็ไม่โดดเด่นที่ทุนประกันชีวิตนะเจ้าคะ คนที่ตัดสินใจทำ ล้วนตั้งจิตไว้ว่าจะมีชีวิตอยู่รับเงินครบกำหนดทั้งสิ้น อย่างไรก็ดีเราก็จะเห็นได้ว่า บางค่ายก็ให้ทุนประกันกรณีเสียชีวิตสูง ไม่ขี้เหร่ เช่น เมืองเทย 14/7 หรือ R คะเน 15/8 เป็นต้น แต่บางค่ายก็แทบจะไม่มีผลประโยชน์ด้านการเสียชีวิตเลย เช่น F อะไรดี 15/7 เบี้ยเท่าทุน ตายก็เอาเงินที่ออมคืนไป กำไรที่ได้มาก็คือเงินคืนรายปี อันนี้ก็ต้องเลือกกันเองนะเจ้าคะว่าให้ความสำคัญกับทุนประกันชีวิตขนาดไหน หากผิดแผนจบชีวิตก่อนครบกำหนด มีคนข้างหลังสลดกันขนาดไหน ถ้าไม่มีใครเดือดร้อนอะไรมาก ก็เลือกเทยประกัน เน้นผลตอบแทนไปโลดเจ้าค่ะ แต่ถ้าเกิดมีคนข้างหลังที่ต้องห่วงใย อาจจะมองไปที่เมืองเทย 14/7 หรือ R คะเน 15/8 ที่มีทุนประกันที่สูงตั้งแต่เริ่มต้น อันนี้ก็แล้วแต่เงื่อนไขของแต่ละคนนะเจ้าคะ
ต่อไปเป็นค่ายที่แม่มณีต้องแยกออกมาเป็นพิเศษ เนื่องจากให้ผลตอบแทนในลักษณะเงินปันผล ไม่การันตี อันนี้เป็นเอกลักษณ์ของค่ายอลั้นลา กรุงเก่าเลยนะเจ้าคะ ลอยตัวอยู่เหนือคำสัญญาใด ๆ ทั้งนั้น สองแบบประกันที่พอจะมีความน่าซื้อคือ 15/6 กับ 18/10 เจ้าค่ะ เพราะว่าหากมองที่เงินปันผลประมาณการขั้นสูงสุดแล้วมีสิทธิ์จะได้เกิน 3% มันก็ยังมีเหตุผลให้เราลุ้นบ้าง เพราะมีความเป็นไปได้บ้างที่จะได้ผลตอบแทนมากกว่าค่ายที่ให้การันตี แต่สำหรับ 12/6 กับ 15/10 นั้น แม่มณีมิเห็นเหตุให้ต้องซื้อ ทั้ง ๆ ที่มีค่ายอื่นที่ทำระยะเดียวกัน แล้วการันตีผลตอบแทน แล้วก็ยังได้ผลตอบแทนมากกว่า ดังนั้นหากใครรักชอบค่ายอลั้นลา อยากสนับสนุนอยุธยาจริง ๆ แม่มณีแนะนำให้เลือกระหว่าง 15/6 กับ 18/10 เจ้าค่ะ
ก่อนจากแม่มณีอยากจะฝากไว้ว่าการเลือกซื้อประกันเพื่อลดหย่อนภาษี เราจะเลือกแบบไหน มันก็ลดหย่อนภาษีต่อปีได้เท่า ๆ กัน ดังนั้นไหน ๆ เราจะทำ เราก็น่าจะเลือกแบบประกันที่มันเหมาะสมกับชีวิตเรานะเจ้าคะ มันไม่มีแบบประกันที่เหมาะที่สุด และ ดีที่สุดสำหรับคนทุกคน บางคนก็เหมาะกับแบบสั้น เพราะเค้าบริหารเงินเองเก่งกว่าให้บริษัทประกันบริหาร และเค้าก็ไม่ต้องการความคุ้มครองชีวิตให้คนข้างหลัง อันนี้มันก็มีเหตุให้เหมาะกับแบบสั้น ๆ แต่บางคนนั้นก็เป็นหัวหน้าครอบครัว และเก็บเงินเองไม่ค่อยอยู่ ถ้าเรารู้ตัวเองแบบนี้ ทำทั้งทีเลือกทำแบบประกันที่มีความคุ้มครองชีวิตเยอะหน่อย เก็บเงินยาวหน่อย มันก็อาจจะเหมาะกว่า ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะตัดสินด้วย irr ได้เสมอไป เพราะจริงๆ แล้วพื้นฐานของการคิด irr คือมองว่าเงินที่คืนออกมาในแต่ละปี นำไปลงทุนหรือออมต่อ แต่สำหรับบางคนแล้วละก็ เงินคืนรายปีออกมาเป็นรายจ่ายไปหมด อย่างนี้เลือกที่ irr น้อยกว่า แต่ว่าได้เงินคืนปลายทางก้อนเดียวยังดีซะกว่า อย่าไปกลัวการเก็บเงินระยะยาวเลยเจ้าค่ะ ประกันออมทรัพย์มันคือเงินออมก้อนที่ไกลจากอำนาจกิเลสของเราที่สุด มันเป็นวิธีที่ดีที่จะแอบเงินจากตัวเราเองในปัจจุบัน เก็บไว้ให้ตัวเราเองในอนาคตนะเจ้าคะ
เริ่มต้นจากกองทุนกินข้าวกะเพราหลังเกษียณก่อนก็ได้เจ้าคะ ตอนนี้อายุ 30 ข้าวกะเพราจานละ 50 บาท อีก 25 ปีข้างหน้าเกษียณ คิดอัตราเงินเฟ้อซัก 3% ข้าวกะเพราก็จะราคาประมาณจานละ 100 สมมุติว่าตายซักอายุ 75 กินกะเพราวันละ 3 มื้อ เราก็จะกินข้าวกะเพราทั้งหมด 21,900 จาน ตลอด 20 ปี รวมแล้ว 2,190,000 เบา ๆ สำหรับค่ากะเพราหลังเกษียณ
เก็บทีละน้อยค่อยบรรจง เราก็คงสบายใจ อย่างน้อยมีข้าวกะเพรา whole life กินได้ตลอดชีพ ยังไม่รีบเก็บเงินกันอีกเหรอเจ้าคะ (คุณพระ! นี่แค่ค่ากะเพรา)
#Ms.many
++บัดเดี๋ยวนี้แม่มณีมีเพจเป็นของตนแล้วเจ้าค่ะ หากแม้นมีคำถามใด ๆ จะโอภาปราศรัยกับแม่ แวะไป ในกล่องถึงแม่ที่เพจแม่นะเจ้าคะ ตรงนั้นแม่มณีคอยเช็คอยู่ตลอดเจ้าค่ะ บทความรีวิวประกันก็ได้รวบรวมไว้ในเพจให้ไปทัศนากันได้ตามอัธยาศัยเจ้าค่ะ
http://www.msmany.com/
https://www.facebook.com/MsManyMaemanee/
สงครามสิบกว่าทับ 2018 .....ระยะยอดนิยม ทางสายกลางแห่งประกันออมทรัพย์
เทยประกัน 15/6 ชนะอีกแล้วเหรอเจ้าคะ ค่ายนี้มีดีที่เงินออม
หลังจากที่อ่านสงครามสิบทับ แบบประกันที่สั้นสุดแห่งสยามสำหรับการลดหย่อนภาษี แม่มณีก็อยากจะแนะนำแบบประกันออมทรัพย์ระยะกลางกันอีกสักตระกูลเจ้าค่ะ เป็นระยะที่ยาวขึ้นมาจักน้อย การรอคอยช่วงให้เงินครบกำหนดมันเป็นกอบเป็นกำมากขึ้น แม้ไม่ได้ทำให้อัตราผลตอบแทนเพิ่มขึ้นมากมาย แต่ระยะเวลาช่วยเราได้นะเจ้าคะ ระยะสิบกว่า ๆ ปีเนี่ย จริง ๆ แล้วเป็นระยะยอดนิยมนะเจ้าคะ ขายง่าย มีแบบประกันมากมายหลากหลายมาก ๆ แต่แม่มณีเลือกมาให้เฉพาะที่ irr มากกว่า 2% จาก 7 บริษัทประกันเหมือนเดิม ส่องเบิ่งจากตารางได้เลยเจ้าค่ะทุกคน
แม่มณียกตัวอย่างเบี้ยประกันเท่า ๆ กันคือประมาณหนึ่งแสนต่อปี (ใครใคร่ทำน้อย-มากกว่านี้ คิดเป็นอัตราส่วนเอาได้นะเจ้าคะ) ยังคงเหมือนเดิมว่าแผนที่ได้ผลตอบแทนสูงที่สุดคือ เทยประกัน 15/6 ซึ่งได้ irr เกือบ 3% ซึ่งถือว่าเป็นของหายากในตลาดประกันออมทรัพย์ปัจจุบัน พอ ๆ กับหมูสามขา ม้าห้ากีบ ซื้อแล้วเอาเลขกรมธรรม์ไปซื้อหวยได้ มันไม่ค่อยจะเหลือแล้วนะเจ้าคะ ประกันออมทรัพย์ที่ได้ผลตอบแทนสูง ๆ แล้วก็อยู่ในบริษัทประกันที่ใหญ่โต มั่นคง พอที่เราจะมั่นใจได้ว่ามันจะไม่เจ๊งไปก่อนที่เราจะได้เงินครบกำหนดคืน
รองลงมาที่น่าสนใจก็กระจายกันไปตามบริษัทขนาดกลาง เช่น F อะไรดี 15/7 หรือ R คะเน 12/6 ก็ได้ irr สูงพอสมควรเจ้าค่ะ แบบประกันออมทรัพย์ระยะกลางแบบนี้ ก็ไม่โดดเด่นที่ทุนประกันชีวิตนะเจ้าคะ คนที่ตัดสินใจทำ ล้วนตั้งจิตไว้ว่าจะมีชีวิตอยู่รับเงินครบกำหนดทั้งสิ้น อย่างไรก็ดีเราก็จะเห็นได้ว่า บางค่ายก็ให้ทุนประกันกรณีเสียชีวิตสูง ไม่ขี้เหร่ เช่น เมืองเทย 14/7 หรือ R คะเน 15/8 เป็นต้น แต่บางค่ายก็แทบจะไม่มีผลประโยชน์ด้านการเสียชีวิตเลย เช่น F อะไรดี 15/7 เบี้ยเท่าทุน ตายก็เอาเงินที่ออมคืนไป กำไรที่ได้มาก็คือเงินคืนรายปี อันนี้ก็ต้องเลือกกันเองนะเจ้าคะว่าให้ความสำคัญกับทุนประกันชีวิตขนาดไหน หากผิดแผนจบชีวิตก่อนครบกำหนด มีคนข้างหลังสลดกันขนาดไหน ถ้าไม่มีใครเดือดร้อนอะไรมาก ก็เลือกเทยประกัน เน้นผลตอบแทนไปโลดเจ้าค่ะ แต่ถ้าเกิดมีคนข้างหลังที่ต้องห่วงใย อาจจะมองไปที่เมืองเทย 14/7 หรือ R คะเน 15/8 ที่มีทุนประกันที่สูงตั้งแต่เริ่มต้น อันนี้ก็แล้วแต่เงื่อนไขของแต่ละคนนะเจ้าคะ
ต่อไปเป็นค่ายที่แม่มณีต้องแยกออกมาเป็นพิเศษ เนื่องจากให้ผลตอบแทนในลักษณะเงินปันผล ไม่การันตี อันนี้เป็นเอกลักษณ์ของค่ายอลั้นลา กรุงเก่าเลยนะเจ้าคะ ลอยตัวอยู่เหนือคำสัญญาใด ๆ ทั้งนั้น สองแบบประกันที่พอจะมีความน่าซื้อคือ 15/6 กับ 18/10 เจ้าค่ะ เพราะว่าหากมองที่เงินปันผลประมาณการขั้นสูงสุดแล้วมีสิทธิ์จะได้เกิน 3% มันก็ยังมีเหตุผลให้เราลุ้นบ้าง เพราะมีความเป็นไปได้บ้างที่จะได้ผลตอบแทนมากกว่าค่ายที่ให้การันตี แต่สำหรับ 12/6 กับ 15/10 นั้น แม่มณีมิเห็นเหตุให้ต้องซื้อ ทั้ง ๆ ที่มีค่ายอื่นที่ทำระยะเดียวกัน แล้วการันตีผลตอบแทน แล้วก็ยังได้ผลตอบแทนมากกว่า ดังนั้นหากใครรักชอบค่ายอลั้นลา อยากสนับสนุนอยุธยาจริง ๆ แม่มณีแนะนำให้เลือกระหว่าง 15/6 กับ 18/10 เจ้าค่ะ
ก่อนจากแม่มณีอยากจะฝากไว้ว่าการเลือกซื้อประกันเพื่อลดหย่อนภาษี เราจะเลือกแบบไหน มันก็ลดหย่อนภาษีต่อปีได้เท่า ๆ กัน ดังนั้นไหน ๆ เราจะทำ เราก็น่าจะเลือกแบบประกันที่มันเหมาะสมกับชีวิตเรานะเจ้าคะ มันไม่มีแบบประกันที่เหมาะที่สุด และ ดีที่สุดสำหรับคนทุกคน บางคนก็เหมาะกับแบบสั้น เพราะเค้าบริหารเงินเองเก่งกว่าให้บริษัทประกันบริหาร และเค้าก็ไม่ต้องการความคุ้มครองชีวิตให้คนข้างหลัง อันนี้มันก็มีเหตุให้เหมาะกับแบบสั้น ๆ แต่บางคนนั้นก็เป็นหัวหน้าครอบครัว และเก็บเงินเองไม่ค่อยอยู่ ถ้าเรารู้ตัวเองแบบนี้ ทำทั้งทีเลือกทำแบบประกันที่มีความคุ้มครองชีวิตเยอะหน่อย เก็บเงินยาวหน่อย มันก็อาจจะเหมาะกว่า ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะตัดสินด้วย irr ได้เสมอไป เพราะจริงๆ แล้วพื้นฐานของการคิด irr คือมองว่าเงินที่คืนออกมาในแต่ละปี นำไปลงทุนหรือออมต่อ แต่สำหรับบางคนแล้วละก็ เงินคืนรายปีออกมาเป็นรายจ่ายไปหมด อย่างนี้เลือกที่ irr น้อยกว่า แต่ว่าได้เงินคืนปลายทางก้อนเดียวยังดีซะกว่า อย่าไปกลัวการเก็บเงินระยะยาวเลยเจ้าค่ะ ประกันออมทรัพย์มันคือเงินออมก้อนที่ไกลจากอำนาจกิเลสของเราที่สุด มันเป็นวิธีที่ดีที่จะแอบเงินจากตัวเราเองในปัจจุบัน เก็บไว้ให้ตัวเราเองในอนาคตนะเจ้าคะ
เริ่มต้นจากกองทุนกินข้าวกะเพราหลังเกษียณก่อนก็ได้เจ้าคะ ตอนนี้อายุ 30 ข้าวกะเพราจานละ 50 บาท อีก 25 ปีข้างหน้าเกษียณ คิดอัตราเงินเฟ้อซัก 3% ข้าวกะเพราก็จะราคาประมาณจานละ 100 สมมุติว่าตายซักอายุ 75 กินกะเพราวันละ 3 มื้อ เราก็จะกินข้าวกะเพราทั้งหมด 21,900 จาน ตลอด 20 ปี รวมแล้ว 2,190,000 เบา ๆ สำหรับค่ากะเพราหลังเกษียณ
เก็บทีละน้อยค่อยบรรจง เราก็คงสบายใจ อย่างน้อยมีข้าวกะเพรา whole life กินได้ตลอดชีพ ยังไม่รีบเก็บเงินกันอีกเหรอเจ้าคะ (คุณพระ! นี่แค่ค่ากะเพรา)
#Ms.many
++บัดเดี๋ยวนี้แม่มณีมีเพจเป็นของตนแล้วเจ้าค่ะ หากแม้นมีคำถามใด ๆ จะโอภาปราศรัยกับแม่ แวะไป ในกล่องถึงแม่ที่เพจแม่นะเจ้าคะ ตรงนั้นแม่มณีคอยเช็คอยู่ตลอดเจ้าค่ะ บทความรีวิวประกันก็ได้รวบรวมไว้ในเพจให้ไปทัศนากันได้ตามอัธยาศัยเจ้าค่ะ
http://www.msmany.com/
https://www.facebook.com/MsManyMaemanee/