[CR] ลุยเดี่ยว เที่ยว 3 จังหวัดชายแดนใต้ Alone trip เป้ 1 ใบกับใจงงๆ

เดินคนเดียวมันเหงา
บางทีก็อยากมีเขามาเดินข้างๆ
ผ่าม!!!!!!
เพี้ยนรู้สึกเงียบ เพี้ยนกริบ
พอๆๆ มาเดินทางกันดีกว่า
เราเคยคิดนะ ว่าเราจะเดินทางคนเดียวไปได้ไกลสักแค่ไหน ????
การเดินทางครั้งนี้ ต่างจากหลายครั้งที่ผ่านมา ระยะทางกว่า 1 พันโล จากเมืองหลวงสู่ใต้สุดของประเทศไทย
มันไม่ใช่การเดินทางคนเดียวครั้งแรก
แต่มันเป็นครั้งแรกที่เดินทางคนเดียวด้วยระยะทางไกลขนาดนี้
เอาจริงๆก็ใจหวิวๆเหมือนกันนะ
แน่นอนว่าจุดหมายปลายทางของเราในครั้งนี้ คือ อ.เบตง จ.ยะลา

สวัสดีค่ะเพื่อนๆเหล่านักเดินทาง เราชื่อแจ๊ค เราเขียนรีวิวไว้หลายเรื่องนะ ไปหาอ่านกันได้ค่ะ
แจ๊คทำเพจบอกเล่าเรื่องราวการเดินทาง ชื่อเพจ นักเดินทางตัวน้อย
https://www.facebook.com/journeymemories
ฝากกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะคะ
โอเค รู้จักเราแล้ว เดินทางกันต่อค่ะ
ช่วงก่อนหน้านี้ เป็นช่วงหยุดวันสงกรานต์ (15-19 April 2018)เราได้เดินทางไปที่จ.นราธิวาส เที่ยวผืนป่าฮาลาบาลา  แล้วขึ้นฆูนุงซีลีปัตที่เบตง
แต่ครั้งนั้นไปเป็นหมู่คณะและเวลาจำกัดมีภาระกิจบางอย่างทำให้เราต้องกลับกทม. เรายังเที่ยวไม่หนำใจเลยอ่ะ
หลังจากกลับมาเราก็ยังข้องใจ ว่าปัตตานีเป็นยังไง
เอาจริงๆคือ เราอยากรู้ว่าบ้านเมืองของ 3 จังหวัดชายแดนใต้เป็นยังไง คนที่นั่นเขาใช้ชีวิตกันยังไง ถ้าเราไปคนเดียวมันน่ากลัวมั้ย
แล้วฉันจะรอดรึป่าวว๊า มันมีความสงสัยหลายๆอย่าง เอาวะ ลองดู คงไม่เลวร้ายขนาดนั้นหรอก
กลับมาอยู่กทม.ได้ไม่กี่วัน แจ๊คก็เดินทางสู่ชายแดนใต้อีกครั้ง
ทริปลุยเดี่ยวสามจังหวัดชายแดนใต้ จึงเกิดขึ้น (24-30 April 2018)
พาหนะที่ใช้ในการเดินทางคือ รถไฟ รถสองแถว รถบัส รถตู้ เช่ามอเตอร์ไซค์  
จากความสงสัยอยากเห็นว่าปัตตานีเป็นยังไง อยากไปเห็นเมืองปัตตานีค่ะ
เราเลยคิดว่านั่งรถไฟไปปัตตานีแล้วค่อยต่อรถไปยะลา
DAY 1 เริ่มเดินทางจากหัวลำโพงด้วยรถไฟชั้น 3 เวลาของความสนุกเริ่มขึ้นแล้ว
เราได้ที่นั่งฝั่งแดด คือแดดแรงมากจ้า หน้าต่างก็ค้างเอาลงไม่ได้ ไม่มีแรง
ใกล้ๆเราเป็นกลุ่มหนุ่มมุสลิม เขาคุยภาษายาวีกัน ซึ่งเราก็ฟังไม่รู้เรื่อง

แล้วก็มีหนุ่มคนหนึ่ง จากในกลุ่ม เดินเข้ามาไม่มีคำพูดอะไร
ยื่นมือมาปิดหน้าต่างให้ เราสนทนากันด้วยรอยยิ้ม และคำขอบคุณ
นานาขอบคุณ
เสน่ห์อีกอย่างของการนั่งรถไฟ คงจะเป็นของกิน
ระหว่างทางจะมีพ่อค้าแม่ค้าขึ้นมาขายของกันตลอด ไม่ต้องกลัวอดค่ะ
อันนี้ๆๆ กล่องละ 10 บาท ก๋วยเตี๋ยวแห้งลูกชิ้นปลา ของเด็ดเลย อร่อยมากค่ะ
ไก่ทอดหาดใหญ่ต้องโดนค่ะ
ระหว่างทาง
แล้วรถไฟก็พาฉัน
พาหวัง สู่หนทางที่ฉันไม่รู้.....ได้
แว่วหวูดรถไฟ มีกำลังใจแว่วลอยตามลม
DAY 2 รถไฟเที่ยบชานชลา ที่สถานีปัตตานี

ลงจากรถไฟ เพลียกับการเดินทาง ขอดึงสตินิดนึงแล้วเดินออกจากสถานีรถไฟ
เราใช้วิธีนั่งรถสองแถวเพื่อเดินทางเข้าเมือง
คิดอะไรไม่ออก ไปมัสยิดกลางก็แล้วกัน ขอตั้งหลักก่อนนะ

หาอะไรกิน แล้วค่อยหาที่พัก
อร่อย มาม่าต้มยำทะเล
หลังจากเดินสำรวจเมือง เมืองนี้เงียบๆนะ ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใสดี
ไม่น่ากลัวเลยค่ะ


ด่านตรวจ ทหาร ตำรวจก็เยอะเหมือนกับยะลาและนราธิวาส
แต่ที่เที่ยวของปัตตานี ส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งปลูกสร้าง วัด มัสยิด ศาลเจ้า ไม่ใช่แนวเราสักเท่าไร เราจะเล่าถึงที่นี่สั้นๆละกันเนาะ
ไหนๆมาแล้วเราตั้งใจไปไหว้เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว คนบาปไง ไปไม่ทัน ศาลเจ้าปิดก่อน โถ่วววววว
กลางคืนเดินไปถ่ายภาพมัสยิดกลางอีกครั้ง
การเดินทางไปในที่ที่รถสาธารณะไม่ผ่านนี่ลำบาก ปัตตานีไม่มีร้านเช่ามอเตอร์ไซค์
เราแทบจะไม่ได้ไปสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนเลย เดินสำรวจเมืองอย่างเดียว กลางคืนฝนก็ตกหนัก
คืนนี้มีคอนเสิร์ตคาราบาวด้วยแหละ บรรยากาศคืนนี้เลยคึกคักเป็นพิเศษ แต่เราพักดีกว่า
สำหรับปัตตานีก็ประมาณนี้ค่ะ
DAY 3 เช้านี้เราจะเดินทางต่อมุ่งหน้าสู่ จ.ยะลา
เราเดินทางโดย นั่งรถบัส ยืนรอฝั่งตรงข้ามมัสยิดกลาง รอนานมากค่ะกว่ารถจะมา
นี่ๆๆๆๆ คันนี้แหละที่เราจะขึ้น
ใช้เวลาประมาณ 1ชั่วโมงกับ15นาที เราก็เดินทางถึงยะลา ลงรถบัสแล้วนั่งตุ๊กๆไปคิวรถตู้ ยะลา-เบตง
ระหว่างทางไปเบตงฝนก็เทลงมาอีกรอบ
ใช้เวลา 3-4 ชั่วโมงรถตู้ก็เดินทางถึงอำเภอเบตง
เราไม่ได้จองที่พักไว้ ไม่รู้จะไปลงตรงไหน ตั้งหลักกลางเมืองละกันค่ะ บอกรถตู้ว่าลงแถวๆหอนาฬิกา หาอะไรกินแล้วหาที่พัก
สุดท้ายเราได้ที่พัก ที่นี่ค่ะ โฟโต้ โฮสเทล เบตง ที่นี่เป็นที่พักแบบโฮสเทลที่เดียวในเบตง อยู่ใจกลางเมือง ใกล้หอนาฬิกา
ตอนนั้นที่ได้พูดคุย ที่นี่เปิดให้พักมาได้ไม่นานค่ะ เจ้าของชื่อพี่ฟก พี่เค้าถ่ายภาพสวยค่ะ
เรียกว่าเป็นช่างภาพของเบตงเลยก็ได้
ใครเคยเข้าเว็ป โอเคเบตง คงได้เห็นผลงานของพี่เค้าค่ะ

ที่พักรีโนเวทใหม่จากบ้านที่พี่เค้าอยู่ตั้งแต่เด็ก ดูมีความเป็นมา
บรรยากาศจะสบายๆ มีมุมให้นั่งเล่น เย็นๆ ค่ำๆ มานั่งคุยกัน เหมือนไปบ้านเพื่อนยังไงยังงั้น ที่สำคัญ สะอาดสะอ้าน  

มีน้ำเปล่าให้ กาแฟ ไมโล ขนม บริการตัวเองในครัวได้เลยค่ะ ห้องเป็นแบบเตียง 2 ชั้น มีแบบ 4 เตียง 6 เตียง
ราคาเตียงละ 380 บาท ใครไปกันหลายๆคนจะเหมาทั้งห้อง ก็ราคาพิเศษค่ะ ห้อง 4 เตียงน่าจะอยู่ราวๆ 1,200 จำไม่ได้ละ
ชื่อห้องจะตั้งตามสถานที่ท่องเที่ยวในเบตง เช่น ฆูนุงซีลีปัต,อัยเยอร์เวง อะไรประมานนี้ อ่อ ลืมบอก ที่นี่ wifi แรง
มีบริการพาเที่ยวด้วยค่ะ มาน้อยๆคนเดียว 2คน พี่เค้าจัด จอยกรุ๊ปให้ ไม่ต้องกังวลค่ะ
facebook : Foto Hostel โฟโต้โฮสเทล เบตง โทร 087-8155906(พี่ฟก)หรือ 080-5659145(พี่กานต์)
เราติดต่อเช่ามอไซค์จากพี่ฟกเพื่อขี่ไปอัยเยอร์เวงในตอนเช้ามืด
ได้ที่พักได้รถแล้วเดี๋ยวเย็นๆเราจะพาไปเก็บภาพเมืองเบตง
ที่นี่จะมีสนามกีฬาที่ช่วงเย็น คนเบตงจะไปออกกำลังกายกัน


รถทีมงานของ LABANOON พรุ่งนี้มีคอนเสิร์ตค่ะ แหม มาถูกจังหวะเลยเรา
DAY 4 เราตื่นกี่โมงจำไม่ได้ แต่ขี่มอไซค์ไปกม. 32 ตอนเช้ามืด จุดชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวงรถถึงค่ะ สบายๆ
ถึงอัยเยอร์เวง 06.15 น. นายเฮงทักมาถามว่าถึงยัง 555 (เขาคือเฮงแมนยูไกค์นำเที่ยวฆูนุงซีลีปัตนั่นเองค่ะ)
คือเฮงบอกตั้งแต่เมื่อคืนว่าจะพากลุ่มพี่ๆวงลาบานูนขึ้นไปเที่ยวอัยเยอร์เวงเช้านี้


คือแบบ อยู่กทม.ไม่เจอกันนะ ดันมาเจอกันแบบพิเศษสุดๆบนเขา ดินแดนใต้สุดของประเทศไทย
พี่ๆน่ารักมากๆค่ะเดี๋ยวคืนนี้ตามไปๆเชียร์หน้าขอบเวทีเลย
มาดูความสวยงามของทะเลหมอกกันค่ะ


มองไปทางไหนก็สวย
อลังกาล



รูปเยอะมาก


บางทีเราก็ไม่มีอะไรจะพูด แค่เราจะบอกว่าอัยเยอร์เวงสวยมาก
ชื่อสินค้า:   เบตง ยะลา ฆูนุงซีลีปัต
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่