เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดกับตัวผมเอง เมื่อปี 2560 เดือน พฤศจิกายน ในระหว่างผมทำงานผมมักจะมีอาการปวดหัวทุกเย็น ผมต้องกินยาพาราอย่างน้อยวันละ 2 เม็ดก่อนกลับบ้านเป็นแบบนี้อยู่สักเดือนได้ ผมเริ่มมีอาการหนาวสั่นกลางดึกทุกวัน ตัวสั่น สั่นๆๆ จากเดิมที่กินพารา2เม็ดในช่วงเย็นแล้ว กลางดึกยังต้องใช้เพิ่มอีก 2 เม็ดเพื่อลดอาการหนาวสั่น
วันหนึ่งผมนอนในครัวสักช่วงประมาน 3โมงเย็น และรู้สึกตัวอีกที 5 โมงเย็น ผมมีอาการเพ้อพูดไม่รู้เรื่อง แม่ผมตกใจมากเลยรีบพาผมส่งโรงพยาบาล ผลวินิจฉัยเป็นเพราะร่างกายขาดน้ำ และจากการตรวจอย่างละเอียดแล้ว ทั้ง mri x-ray เจาะน้ำจากไขกระดูกสันหลังมาตรวจ ก็เจอหลายโรคในตัวผม ทั้งวัณโรค โลหิตจาง
(บางเหตุการณ์มีตกหล่นเพราะผมเองจำไม่ได้หมด)
ผมต้องกินยาก่อนนอนเป็นกำๆ 15 เม็ด หมอที่รักษาให้ผมไปฉีดยาที่ก้นกันการดื้อยาทุกวัน จันทร์ -ศุกร์ ผมไม่ชอบไม่อยากจะมาฉีดเลยแต่ที่บ้านบังคับ ผมไม่แน่ใจระยะเวลาในการฉีดยา แต่คร่าวๆน่าจะ 2 เดือนได้ ทั้งหมอและพยาบาลไม่ได้แจ้งผมหรือแม่ผมใดๆ ว่าการฉีดยามันมีผลกระทบ และหลังจากนั้นหูผมทั้ง 2 ข้างก็หนวกในที่สุด ซึ่งภายหลังหมอแจ้งว่าเป็นผลมาจากการฉีดยานั้นเอง
คำถาม ? ผมอยากรู้ว่าโรงพยาบาลควรรับผิดชอบอะไรไหม หรือว่าเราควรยอมรับผลของมันครับ
โรงพยาบาลจับฉีดยากันดื้อยาจนหูหนวก
วันหนึ่งผมนอนในครัวสักช่วงประมาน 3โมงเย็น และรู้สึกตัวอีกที 5 โมงเย็น ผมมีอาการเพ้อพูดไม่รู้เรื่อง แม่ผมตกใจมากเลยรีบพาผมส่งโรงพยาบาล ผลวินิจฉัยเป็นเพราะร่างกายขาดน้ำ และจากการตรวจอย่างละเอียดแล้ว ทั้ง mri x-ray เจาะน้ำจากไขกระดูกสันหลังมาตรวจ ก็เจอหลายโรคในตัวผม ทั้งวัณโรค โลหิตจาง
(บางเหตุการณ์มีตกหล่นเพราะผมเองจำไม่ได้หมด)
ผมต้องกินยาก่อนนอนเป็นกำๆ 15 เม็ด หมอที่รักษาให้ผมไปฉีดยาที่ก้นกันการดื้อยาทุกวัน จันทร์ -ศุกร์ ผมไม่ชอบไม่อยากจะมาฉีดเลยแต่ที่บ้านบังคับ ผมไม่แน่ใจระยะเวลาในการฉีดยา แต่คร่าวๆน่าจะ 2 เดือนได้ ทั้งหมอและพยาบาลไม่ได้แจ้งผมหรือแม่ผมใดๆ ว่าการฉีดยามันมีผลกระทบ และหลังจากนั้นหูผมทั้ง 2 ข้างก็หนวกในที่สุด ซึ่งภายหลังหมอแจ้งว่าเป็นผลมาจากการฉีดยานั้นเอง
คำถาม ? ผมอยากรู้ว่าโรงพยาบาลควรรับผิดชอบอะไรไหม หรือว่าเราควรยอมรับผลของมันครับ