[CR] ##REVIEW## เด็กใหม่ Girl From Nowhere The Series (2018) | ซีรี่ส์น้ำดี ฝีมือคนไทย [ไร้ส้มป่อย]

     ผมเข้าใจครับ ว่าซีรี่ส์นี้มันออกอากาศตั้งนานแล้วทำไมพึ่งมาเขียนรีวิว คำตอบก็ง่ายๆ เลยครับ "ผมไม่ได้ดูตอนมัน On Air แต่พึ่งมาดูตอนมันฉายลง Netflix เนี่ยแหละ" เหตุผลที่ผมตัดสินใจเสียเวลาทำการบ้านของผม(ขี้เกียจนั่นแหละ)มาดูซีรี่ส์เรื่องนี้ ก็เพราะคำชมตาม Facebook, Instagram, Twitter, Pantip มันล้นหลามมากครับ(ก่อนจะค่อยๆ จางหายเพราะเลือดข้นฯฉายตามมา) จนผมคาดหวังไว้ในระดับนึงว่าอย่างน้อยผมก็น่าจะแฮปปี้กับมันไม่มากก็น้อย กระทั่งเมื่อดู Episode แรก ผมก็ตั้งเป้าหมายไว้กับตัวเองว่า "ตรูต้องดูซีรี่ส์เรื่องนี้ให้จบในอาทิตย์เดียวให้ได้"
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
เรื่องย่อ

     แรงบันดาลใจจากข่าวจริง  เล่าสิ่งที่ผู้หญิงไม่กล้าลุกขึ้นมาทำ  หรือบางกรณีก็ตกเป็นเหยื่อ แต่ “เด็กใหม่” ที่เป็นตัวแทนของพวกเธอ จะไม่ยอมอีกต่อไป “แนนโน๊ะ” เป็นเด็กใหม่ของทุกโรงเรียนที่จะเข้าไปเผยเบื้องลึก ด้านมืดของคนรอบข้าง และในทุกๆ ตอน จะเท่ากับเริ่มต้นใหม่เสมอ
     พอดูจบ Episode แรกผมกลับชอบเฉยเลยครับ มันโดนใจมากๆ กับสาระที่หนังพยายามจะสื่อกับคนดู และการกระทำอันแสนเผ็ชของแนนโน๊ะมันทำให้ผมตราหน้าไว้เลยว่า "อีนี่มัน Bitch ของแท้!" ผมก็เลยกะว่าจะดูต่อไปเรื่อยๆ ครับ ผมก็เลยดูไปเรื่อยๆๆๆๆๆ จนมาหยุดชะงักที่ Episode 7 ที่รู้สึกว่ามันเริ่มจะแผ่วแล้ว แล้วก็กะว่าจะดูแค่วันละ Episode พอ แต่เมื่อได้ดู Episode 8 เท่านั้นแหละ.....ผมก็กลับมาดูไปเรื่อยๆๆๆๆๆ อีกครั้ง จนจบซีซั่น เพราะผมคิดว่า "นี่แหละ...คือแนนโน๊ะที่ฉันรู้จักใน Episode แรกๆ"
     ใน Episode แรกจะพูดถึงประเด็นครูที่ลวนลามนักเรียนจนเสียอนาคต และเมื่อแนนโน๊ะปรากฎตัวขึ้นมาในฐานะเด็กใหม่ ทุกอย่างก็เริ่มจะชัดเจนขึ้น
     ผมว่าเปิดตัวซีรี่ส์ได้แรงเลยนะ ทำออกมาสอนใจวัยรุ่นกับสะท้อนความโหดร้ายของสังคมในรั้วโรงเรียนได้กำลังดีเลย และบทวางโครงได้ดีมากครับ พอมันมาถึงไคล์แมกซ์นี่ผมสะใจไม่ใช่เล่นเลยกับความฉลาดและความBitch ในตัวของแนนโน๊ะ ถือว่าเปิดตัวดีครับ แรงกระสุนค่อนข้างแข็งแกร่งและน่าติดตาม
     พอมาถึง Episode ที่สองก็ยังทำได้น่าติดตามเช่นเคยครับ ทีนี้พูดถึงประเด็นการทำผิดของวัยรุ่นแล้วก็ใช้คำว่า"ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ"เป็นเกราะบังหน้าและเป็นใบเบิกทางในการทำผิดครั้งต่อไป ใน Episode นี้ความBitch ของแนนโน๊ะยังคงเผ็ชเหมือนเดิมครับ พอถึงช่วงเธอแก้แค้นก็สะใจไม่ใช่เล่น ถือว่าผ่านครับ
     ใน Episode ที่สามก็จะพูดถึงการนำงานคนอื่นมาแล้วแก้ไขใหม่ให้เป็นผลงานของตัวเอง หรือที่เราเรียกว่า Copy(Ctrl+C & Ctrl+V) นั่นเอง ผมว่า Episode นี้ค่อนข้างเรื่อยๆ นะ ผมว่าแนนโน๊ะไม่ค่อยออกแรงเท่า Episode ก่อนๆ เลย แต่พอหนังเดินทางมาถึงไคล์แมกซ์ ผมนี่ลุ้นมากครับ และก็สะใจในเวลาเดียวกัน หรือเรียกง่ายๆ ว่า"มันส์" นั่นแหละครับ เนื้อหาก็ยังมีข้อคิดเช่นเคยครับว่า "ในการเอางานคนอื่นมาเป็นของตัวเองและไม่คิดว่าจะให้เครดิตเขาเลย(หรือเรียกง่ายๆ ว่าก๊อบอ่ะ) สักวันหนึ่งแมวที่เราขโมยเขายังไงมันก็ต้องออกจากกระเป๋าเราอยู่ดีครับ" แถมยังสะท้อนสังคมได้ดีเลยนะ ว่าสมัยนี้คุณครูหรือว่าผอ.ชอบอวยเด็กตัวเองเพราะอยากให้ชื่อเสียงของโรงเรียนของตัวเองแข็งแกร่ง แต่ไม่สนว่าสิ่งที่ทำให้โรงเรียนดังมันถูกหรือผิด โดยรวมแล้ว Episode นี้ ผมนิยามสั้นๆ ว่า "ไม่เผ็ช แต่มันส์มาก"
     ใน Episode ที่สี่จะพูดถึงเรื่องฐานะของนักเรียนในโรงเรียนว่ามันเป็นยังไง สำหรับผม Episode นี้มันใช่มากครับ เพราะโรงเรียนของผมก็จะประมาณเนี๊ยแหละ ก็คือเด็ก MEP, Gifted, EIS, Pre-Doctor มักจะเหนือกว่าเด็กห้องอื่นๆ เสมอ(แต่ปัจจุบันห้องโหล่ๆ กำลังมาแรง อิอิ) สารภาพเลยครับว่าผมอยู่ห้องที่โหล่ของชั้นเลย อันนี้จริงๆ (อย่าพึ่งหาว่าผมโง่555) แล้วเด็กห้องโหล่อย่างพวกเราก็ต้องคอยมองดูห้องต้นๆ ขึ้นไปรับรางวัลอะไรต่างๆ หน้าเสาธงตลอด มีน้อยมากที่ห้องโหล่ๆ จะได้รางวัลอะไรแบบนั้นกับเขา กับเนื้อหาในหนังไม่ต่างกันครับ เหมือนที่ผมบรรยายมาไม่มีผิด และหนังก็ยังพูดถึงประเด็น"เงิน...ซื้อได้ทุกอย่าง" ได้เด็ดขาดมากครับ และจุดหักมุมช่วงกลางถือว่าเป็นอะไรที่พีคมาก พีค_ัสๆ แถมตอนจบก็สะท้อนถึงประเด็นที่ผมว่ามาได้น่าคิดจริงๆ
     จาก Episode แรกๆ จนถึง Episode นี้ กราฟของซีรี่ส์เริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ครับ และผมก็ตื่นเต้นและเพลินกับมันไม่น้อย แต่กราฟและความเมามันส์ของผมก็เริ่มลดลง เมื่อผมได้ดู Episode 5-7
     Episode ที่ห้าจะพูดถึงโลกสีชมพูของโซเชียลครับ คือเวลาที่เราเจออะไรที่มันดูหวานแหววหรือว่าชวนจิ้นมากๆ เรามักจะเก็บเอาไปจิ้นเองบ่อย หรือไม่ก็โพสต์บอกชาวโลกได้รู้ผ่าน Facebook ไปเลย จนกระแสจิ้นมันแรงขึ้น ใครหน้าไหนก็แทบจะไม่กล้าไปแตะเรื่องพวกนี้เลยครับ เพราะสาวกจิ้นนี่เขาจิ้นแรงจริงๆ ขืนไปขัดความสุขเราไม่แน่เราอาจจะกลายเป็นตัวประหลาดในสายตาเขาไปโดยปริยาย ผมว่า Episode นี้ดูได้เรื่อยๆ ครับ คือถ้ามองในฐานะเพื่อนร่วมเรื่องเนี่ย ตอนนี้เนื้อหาจะบางกว่าตอนที่ผ่านมามากๆ ครับ สาระมันก็ค่อนข้างจะน้อยมาก แถมแนนโน๊ะก็ไม่ได้ทำอะไรมากเลย เหมือนมาเป็นตัวผ่านทางให้เนื้อหามันดำเนินไปได้จนจบอ่ะ ฉะนั้น Episode นี้ผมค่อนข้างผิดหวังเล็กน้อยครับ
     ส่วน Episode 6-7 นี่จะเป็นเนื้อหาเดียวกันครับ เพียงแต่หั่นออกมาสองท่อนเท่านั้น ผมว่าเนื้อหาในสองตอนนี้ค่อนข้างเบาบางและไม่มีอะไรที่ชัดเจนเลยนะ การดำเนินเรื่องก็ค่อนข้างยืดเยื้อ ขนาดที่มาของกำแพงศักดิ์สิทธิ์นี่ยังไม่ได้รับการอธิบายอย่างชัดเจนว่ามันคืออะไรยังไง และตอนจบยังปลายเปิดไว้อีก ผมว่าตอนนี้ดร็อปลงมามากเลยครับ มันดูงั้นๆ ไงไม่รู้
     หลังจากดู Episode 6-7 จบ ทัศนคติของผมต่อหนังก็เริ่มบิดเบี้ยวครับ จากที่ชอบดูรวดเดียว 5-6 ตอน กลับกลายเป็นอยากดูวันละตอนแทน แต่พอดู Episode 8 จบ ทัศนคติเก่าๆ ของผมที่มีต่อหนังก็กลับมาอีกครั้งครับ
     ใน Episode ที่แปดจะพูดถึงการขโมยของ ซึ่งจนมาถึงนาทีนี้ ตอนนี้เป็นตอนที่ผมชอบมากที่สุดในซีรี่ส์ชุดนี้แล้วครับ
     ถ้าพูดถึงเนื้อหามันไม่ได้มีอะไรมากนะ แต่มันสื่อออกมาแล้วมันโดนอ่ะครับ เราได้เห็นอีกโมเม้นท์ที่มีต่อคนอื่นของแนนโน๊ะ เราได้รู้ว่าแนนโน๊ะก็มีความรู้สึกนึกคิดเหมือนคนปกติธรรมดา และก็ได้รู้ว่า...แนนโน๊ะก็รักใครเป็นเหมือนกัน ผมชอบโมเม้นท์ที่เธออยู่ทีเคมากครับ มันน่ารักนะ มันไม่ได้หวานอะไรมากหรอกแต่มันน่ารักอ่ะ(อธิบายไม่ถูก555) แล้วผมชอบประโยค "แนนโน๊ะสัญญาได้มั้ย ว่าจะไม่หายไป" ที่ทีเคพูดกับแนนโน๊ะมากครับ ถ้าสังเกตุจากแววตาของแนนโน๊ะ จะรู้ได้เลยครับว่าเธอไม่ได้จากเขาไปไหนเลย แต่มันจำเป็นเพราะมันเป็นหน้าที่ของเธอที่จะต้องไปทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้น แล้วในแนนโน๊ะก็ได้มอบหัวใจของเธอให้กับทีเคเรียบร้อย หรือเรียกง่ายๆ ตามคอนเซปต์ว่า "ทีเคได้ขโมยหัวใจของแนนโน๊ะไปนั่นเอง" พอหนังดำเนินมาถึงตอนจบ ตอนที่แนนโน๊ะต่องทำหน้าที่ของเธอต่อไป แล้วก็ปล่อยให้ทีเคอยู่กับความอ้างว้าง เชื่อมั้ยครับ...ผมกลับน้ำตาซึมออกมาเฉยเลย ทั้งๆ ผมไม่เคยอินมากในแต่ละ Episode มาก่อนเลย แต่ว่า Episode นี้ทำได้ ชอบมากๆ ครับ
     หลังจาก Episode 9-13 ขึ้นไปก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจครับ ไม่ได้เด็ดดวงเท่า Episode 1-4 แต่ดีกว่า Episode 5-7 มากโขเลย
😊จุดดี😊

     ๏ บทดี วางโคลงเรื่องได้ดีมากๆ
     ๏ สะท้อนสังคมได้เจ็บแสบสุดๆ
     ๏ สาระเยอะ สอนใจคนได้ยอดเยี่ยม
     ๏ คิตตี้แจ้งเกิดได้เด่นมากๆ ในบทนี้
     ๏ ฉากเอาคืนสะใจสุดๆ
     ๏ สัญลักษณ์ที่น่าสนใจในแต่ละ Episode

😈จุดด้อย😈

     ๏ ช่วงกลางซีซั่นดูดร็อปลงมาก
     ๏ เล่าเรื่องยืดเยื้อในช่วงกลาง
     ๏ สาระบางในช่วงกลาง


สรุป

     ๏ ธรรมดา = Wonderwall>Social Love
     ๏ ดี = Trap>BBF>Thank You, Teacher>The Rank
     ๏ ดีมาก = Hi-So>The Ugly Truth>Apologies>Trophy
     ๏ สุดยอด = Lost & Found


คะแนนเฉลี่ยรวม : 8/10


* แก้ไขเนื้อหาช่วงสรุป
ชื่อสินค้า:   เด็กใหม่ Girl From Nowhere The Series
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

    ข้อมูลเพิ่มเติม

  • - ดูใน Netflix นะจ๊ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่