เปิดแล้วค่ะทุกคนนน เขาช้างเผือก เส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะไกล (8กม.เองงงง)ความสูง 1,249 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ณ หมู่บ้านอิต่อง ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
พวกเราไปกันมาเมื่อ วันที่3-5ม.ค.61 ค่ะ ทั้งหมด8คนจ้าา
(รูปถ่ายจากสันคมมีดด้านบนค่ะ)
โดยปีนี้จะเปิดตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. 2561-31 ม.ค. 2562 ข้ามปีกันเลยทีเดียวค่ะ
ใครจะไปต้องโทรไปจองก่อนน้า โดยโทรไปที่อุทยานได้เลยค่ะ เปิดให้ขึ้นแค่วันละ 60 คนเท่านั้น(แต่เอาจริงๆก็มีwalk-inนะคะแต่ประมาณวันละไม่เกิน5คน)
โทร. : 034-510979 (ใครๆว่าโทรยาก ใช่ค่ะโทรยากมากกก เราโทรประมาณ3วันค่ะ เวลาราชการ โทรติดเค้าก็โอนสายให้ แต่ปรากฏว่าเต็มค่ะ เพื่อนๆเราจองได้5คน เรา3คนไปwalk inเอาค่ะ ลุ้นกันหน้างานมากกก)
การเดินทางพวกเราขับรถไป2คันค่ะ ถนนดีไม่ต้องรถD4D ก็ขึ้นได้จ้า
ส่วนการตั้งเต้นท์นะคะค้างด้านบนได้แค่ 1 คืนค่ะะ เราไป3วัน 2คืน
โดยคืนแรกนอนที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิค่ะ
ไม่ได้ถ่ายรูปตรงลานกางเต้นท์ของอุทยานไว้ มัวแต่กางเต้นท์กันฟ้ามืดเลยค่ะ
ช่วงค่ำๆก็ออกไปหาข้าวเย็นกินกันที่หมู่บ้านกัน มาดูแนวทางสำหรับวันพรุ่งนี้ด้วยว่าต้องเข้าทางไหน ต้องเจอลูกหาบตรงไหน
ที่กินข้าวของเราก็คืออออ
สถานีตำรวจค่ะ คุณเเม่ห่อข้าวมาให้จากที่บ้านก็เลยขอยืมพื้นที่คุณตำรวจหน่อยนะค้าาา
พวกเราตื่นกันอาบน้ำที่อุทยาน ห้องน้ำดีมากค่ะ รีบอาบก่อนจะไม่ได้อาบอีก55555(ข้างบนไม่มีห้องอาบน้ำนะค้าาา)ออกกันตอนประมาณ6โมงค่ะ มาทานข้าวเช้าที่หมู่บ้านอิต่อง แล้วก็หาข้าวเที่ยงห่อขึ้นไปค่ะ
•เอารถไปจอดตรงโรงเรียน
•ขนของลงไว้ตรงที่ลูกหาบอยู่+รอชั่งกิโล
•ไปหาข้าวกิน ห่อข้าวเที่ยงไว้กินระหว่างทาง
•อย่าลืมน้ำเปล่าเด็ดขาดดดด ไม่มีให้ระหว่างทางนะจ๊ะ
•กลับมาที่จุดชั่งกระเป๋า จ่ายเงิน (ของเรากิโลละ40บาทฮะะะ) ลุงลูกหาบบอก เราตอนขึ้นไปข้างบนแล้วว่าหาบน้ำขึ้นไปเพื่อใช้ต้มอะไรแบบนี้ ขึ้นมาซื้อน้ำดิบกับลุงดีกว่า ราคาพอกันเลย ขวดลิตรรู้สึก40บาทมั้งคะ พอๆกันจริงด้วย แค่เป็นน้ำแบบน้ำดิบอะเนอะะ
•ลูกหาบกับเราแยกย้าย เราก็เดินขึ้นพร้อมพี่ทหารจ้า (แต่ละกลุ่มไม่เกิน10คนจะมีพี่ทหารคอยดูแลอยู่ค่ะทั้งไปและกลับจ้า ให้เดินเกาะกลุ่มกัน คุยกับพี่เค้าบอกว่าต้องมีทหารคอยดูแลเพราะมันติดกับพม่าค่ะ)
•เดินผ่านร้านข้าวเข้าไปเกือบสุดเลยค่ะเลี้ยวซ้าย ทางเข้าจะมีป้าย เขาช้างเผือก8กม.จ้า
เบ็ดเสร็จแล้วรอลูกหาบชั่งน้ำหนักต่างๆก็ออกตอนประมาณ8โมงค่ะ
พวกเราใช้เวลาเดินกันประมาณ6ชั่วโมงค่ะ เดินไปพักไป วันนั้นร้อนมากกก ลุงป้าลูกหาบบอกร้อนสุดๆแล้ว เมื่อวานยังหนาวอยู่เลย
ก่อนขึ้นถ่ายรูปกันหน่อยค้าาา
ระหว่างทางก็มีทั้งทางเรียบทางชัน มีร่มไม้ ไม่มีร่มไม้ค่ะ ไม่ค่อยได้ถ่ายเท่าไหร่ พี่เค้าบอกว่าถ้าเล่นโทรศัพท์เยอะ มัวแต่เซลฟี่ จะเป็นตะคริวเอานะ 55555 โดนขู่ไม่เล่นเลยยย กลัวแบตหมดด้วยค่ะ
พักบ้างงงง
เห็นเขาด้านหน้ามั้ยคะ อีกครึ่งทาง!!!!
ยอดปลายนิ้วชี้นั่นแหละะะ 360องศาที่ต้องไปให้ถึง ฮึ้บ!!!
ถึงเขาช้างน้อยแล้วค่ะ ลงไปขึ้นมาก็ถึงและ55555
ไฮไลท์ของการเดินทางอยู่ที่สันคมมีดด้านบนค่ะ มองไกลจะเห็นแอ่งกระทะ นั่นคือที่พักของเราค่าาาา ลมแรงมากกก
เห็นเต้นท์กางอยู่ใช่มั้ยคะ ลูกหาบเค้าขึ้นมาถึงเค้าจะกางมห้ก่อนเลยค่ะ เพราะงั้นไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องทำเลจ้า เค้าจะมองว่าเราอยู่ตรงไหนแล้วตอนกลางคืนนอนจะเต้นท์ไม่ปลิวค่ะ
พี่ทหารจะพาเราขึ้นสันคมมีดกันตอนประมาณ3โมงครึ่ง4โมงเย็นค่ะเดินซัก15นาทีก็ถึงยอด สันเขาที่สวยมากกกก แต่ไม่ต้องห่วงนะคะเราเซ็นใบกันก่อนขึ้นแล้วว อ่ะไม่ใช่ พี่ทหารกับลูกหาบเซฟเราค่ะ เค้าจะช่วยจับ ยิ่งเป็นผู้หญิงกลัวปีนไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องห่วงเลยจ้า
เห็นตรงนี้มั้ยคะคล้ายๆศรีษะของข้างเลยยย กลางคืนสวยมากๆเลยค่ะ
นี่ค่าาา พี่ทหารคอนเซฟให้อยู่จ้า
เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาจะสามารถมองเห็นวิวได้รอบทิศทาง 360 องศาเลยค่ะ
Check pointกันหน่อยยยย
วิวสวยมากๆเลยค้าาาา
อันนี้ที่ได้ยินมา เค้าบอกว่าเป็นฝั่งพม่ากันค่ะ ถ้าฟ้าเปิดน่าจะสวยมากๆเลย
😆😆😆😆 อยากไปอีกเลยค่ะ
อันนี้กลางคืนจ้าา นั่งซึมซับบรรกาศกันหน่อย นานๆทีได้มาพักผ่อน
- [ ]
ใครอยากถ่ายดาวทางช้างเผือกลองดูวันดีๆนะคะไปครั้งนึง ถ้าเห็นทางช้างเผือกคือคุ้มมากกกก พระจันทร์ดวงบะเร่อเลยค่ะ
นี่เป็นห้องน้ำและบรรยากาศด้านบนจ้า
พระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าาา
เพื่อนร่วมทริปของเราพาคุณยอดขึ้นไปด้วยย น่ารักมากๆเลยค่ะ
กลับลงมาก็แวะถ่ายรูปเล่นไปเรื่อย
ถึงด้านล่างถ่ายรูปรวมหน่อยค้าาา ขึ้นครบลงครบ😂
และเราก็แวะไปน้ำตกจ๊อกกระดิ่นค่ะ เป็นทางผ่านขาออกพอดี สวยมากๆเลยค้าาา
จบแล้วค่าาาาาา หวังว่าจะเป็นประโยชน์ หรือไว้อ่านเพลินๆนะคะ
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย เราขับรถกันไป2คันค่ะ ค่ากินอยู่ ค่าลูกหาบ ค่าน้ำมัน(หาร3สำหรับคันเรา) เบ็ดเสร็จแล้วตกคนละไม่เกิน1,500จ้า
เขาช้างเผือก จ.กาญจนบุรี เปิดแล้วววันนี้ ใครอยากดูทางช้างเผือกแบบใกล้กรุง เดินง่าย ไม่ไกลเกินเอื้อม
ณ หมู่บ้านอิต่อง ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
พวกเราไปกันมาเมื่อ วันที่3-5ม.ค.61 ค่ะ ทั้งหมด8คนจ้าา
(รูปถ่ายจากสันคมมีดด้านบนค่ะ)
โดยปีนี้จะเปิดตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. 2561-31 ม.ค. 2562 ข้ามปีกันเลยทีเดียวค่ะ
ใครจะไปต้องโทรไปจองก่อนน้า โดยโทรไปที่อุทยานได้เลยค่ะ เปิดให้ขึ้นแค่วันละ 60 คนเท่านั้น(แต่เอาจริงๆก็มีwalk-inนะคะแต่ประมาณวันละไม่เกิน5คน)
โทร. : 034-510979 (ใครๆว่าโทรยาก ใช่ค่ะโทรยากมากกก เราโทรประมาณ3วันค่ะ เวลาราชการ โทรติดเค้าก็โอนสายให้ แต่ปรากฏว่าเต็มค่ะ เพื่อนๆเราจองได้5คน เรา3คนไปwalk inเอาค่ะ ลุ้นกันหน้างานมากกก)
การเดินทางพวกเราขับรถไป2คันค่ะ ถนนดีไม่ต้องรถD4D ก็ขึ้นได้จ้า
ส่วนการตั้งเต้นท์นะคะค้างด้านบนได้แค่ 1 คืนค่ะะ เราไป3วัน 2คืน
โดยคืนแรกนอนที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิค่ะ
ไม่ได้ถ่ายรูปตรงลานกางเต้นท์ของอุทยานไว้ มัวแต่กางเต้นท์กันฟ้ามืดเลยค่ะ
ช่วงค่ำๆก็ออกไปหาข้าวเย็นกินกันที่หมู่บ้านกัน มาดูแนวทางสำหรับวันพรุ่งนี้ด้วยว่าต้องเข้าทางไหน ต้องเจอลูกหาบตรงไหน
ที่กินข้าวของเราก็คืออออ
สถานีตำรวจค่ะ คุณเเม่ห่อข้าวมาให้จากที่บ้านก็เลยขอยืมพื้นที่คุณตำรวจหน่อยนะค้าาา
พวกเราตื่นกันอาบน้ำที่อุทยาน ห้องน้ำดีมากค่ะ รีบอาบก่อนจะไม่ได้อาบอีก55555(ข้างบนไม่มีห้องอาบน้ำนะค้าาา)ออกกันตอนประมาณ6โมงค่ะ มาทานข้าวเช้าที่หมู่บ้านอิต่อง แล้วก็หาข้าวเที่ยงห่อขึ้นไปค่ะ
•เอารถไปจอดตรงโรงเรียน
•ขนของลงไว้ตรงที่ลูกหาบอยู่+รอชั่งกิโล
•ไปหาข้าวกิน ห่อข้าวเที่ยงไว้กินระหว่างทาง
•อย่าลืมน้ำเปล่าเด็ดขาดดดด ไม่มีให้ระหว่างทางนะจ๊ะ
•กลับมาที่จุดชั่งกระเป๋า จ่ายเงิน (ของเรากิโลละ40บาทฮะะะ) ลุงลูกหาบบอก เราตอนขึ้นไปข้างบนแล้วว่าหาบน้ำขึ้นไปเพื่อใช้ต้มอะไรแบบนี้ ขึ้นมาซื้อน้ำดิบกับลุงดีกว่า ราคาพอกันเลย ขวดลิตรรู้สึก40บาทมั้งคะ พอๆกันจริงด้วย แค่เป็นน้ำแบบน้ำดิบอะเนอะะ
•ลูกหาบกับเราแยกย้าย เราก็เดินขึ้นพร้อมพี่ทหารจ้า (แต่ละกลุ่มไม่เกิน10คนจะมีพี่ทหารคอยดูแลอยู่ค่ะทั้งไปและกลับจ้า ให้เดินเกาะกลุ่มกัน คุยกับพี่เค้าบอกว่าต้องมีทหารคอยดูแลเพราะมันติดกับพม่าค่ะ)
•เดินผ่านร้านข้าวเข้าไปเกือบสุดเลยค่ะเลี้ยวซ้าย ทางเข้าจะมีป้าย เขาช้างเผือก8กม.จ้า
เบ็ดเสร็จแล้วรอลูกหาบชั่งน้ำหนักต่างๆก็ออกตอนประมาณ8โมงค่ะ
พวกเราใช้เวลาเดินกันประมาณ6ชั่วโมงค่ะ เดินไปพักไป วันนั้นร้อนมากกก ลุงป้าลูกหาบบอกร้อนสุดๆแล้ว เมื่อวานยังหนาวอยู่เลย
ก่อนขึ้นถ่ายรูปกันหน่อยค้าาา
ระหว่างทางก็มีทั้งทางเรียบทางชัน มีร่มไม้ ไม่มีร่มไม้ค่ะ ไม่ค่อยได้ถ่ายเท่าไหร่ พี่เค้าบอกว่าถ้าเล่นโทรศัพท์เยอะ มัวแต่เซลฟี่ จะเป็นตะคริวเอานะ 55555 โดนขู่ไม่เล่นเลยยย กลัวแบตหมดด้วยค่ะ
พักบ้างงงง
เห็นเขาด้านหน้ามั้ยคะ อีกครึ่งทาง!!!!
ยอดปลายนิ้วชี้นั่นแหละะะ 360องศาที่ต้องไปให้ถึง ฮึ้บ!!!
ถึงเขาช้างน้อยแล้วค่ะ ลงไปขึ้นมาก็ถึงและ55555
ไฮไลท์ของการเดินทางอยู่ที่สันคมมีดด้านบนค่ะ มองไกลจะเห็นแอ่งกระทะ นั่นคือที่พักของเราค่าาาา ลมแรงมากกก
เห็นเต้นท์กางอยู่ใช่มั้ยคะ ลูกหาบเค้าขึ้นมาถึงเค้าจะกางมห้ก่อนเลยค่ะ เพราะงั้นไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องทำเลจ้า เค้าจะมองว่าเราอยู่ตรงไหนแล้วตอนกลางคืนนอนจะเต้นท์ไม่ปลิวค่ะ
พี่ทหารจะพาเราขึ้นสันคมมีดกันตอนประมาณ3โมงครึ่ง4โมงเย็นค่ะเดินซัก15นาทีก็ถึงยอด สันเขาที่สวยมากกกก แต่ไม่ต้องห่วงนะคะเราเซ็นใบกันก่อนขึ้นแล้วว อ่ะไม่ใช่ พี่ทหารกับลูกหาบเซฟเราค่ะ เค้าจะช่วยจับ ยิ่งเป็นผู้หญิงกลัวปีนไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องห่วงเลยจ้า
เห็นตรงนี้มั้ยคะคล้ายๆศรีษะของข้างเลยยย กลางคืนสวยมากๆเลยค่ะ
นี่ค่าาา พี่ทหารคอนเซฟให้อยู่จ้า
เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาจะสามารถมองเห็นวิวได้รอบทิศทาง 360 องศาเลยค่ะ
Check pointกันหน่อยยยย
วิวสวยมากๆเลยค้าาาา
อันนี้ที่ได้ยินมา เค้าบอกว่าเป็นฝั่งพม่ากันค่ะ ถ้าฟ้าเปิดน่าจะสวยมากๆเลย
😆😆😆😆 อยากไปอีกเลยค่ะ
อันนี้กลางคืนจ้าา นั่งซึมซับบรรกาศกันหน่อย นานๆทีได้มาพักผ่อน
- [ ]
ใครอยากถ่ายดาวทางช้างเผือกลองดูวันดีๆนะคะไปครั้งนึง ถ้าเห็นทางช้างเผือกคือคุ้มมากกกก พระจันทร์ดวงบะเร่อเลยค่ะ
นี่เป็นห้องน้ำและบรรยากาศด้านบนจ้า
พระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าาา
เพื่อนร่วมทริปของเราพาคุณยอดขึ้นไปด้วยย น่ารักมากๆเลยค่ะ
กลับลงมาก็แวะถ่ายรูปเล่นไปเรื่อย
ถึงด้านล่างถ่ายรูปรวมหน่อยค้าาา ขึ้นครบลงครบ😂
และเราก็แวะไปน้ำตกจ๊อกกระดิ่นค่ะ เป็นทางผ่านขาออกพอดี สวยมากๆเลยค้าาา
จบแล้วค่าาาาาา หวังว่าจะเป็นประโยชน์ หรือไว้อ่านเพลินๆนะคะ
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย เราขับรถกันไป2คันค่ะ ค่ากินอยู่ ค่าลูกหาบ ค่าน้ำมัน(หาร3สำหรับคันเรา) เบ็ดเสร็จแล้วตกคนละไม่เกิน1,500จ้า