ทริปนี้เกิดขึ้นเนื่องจากเราอยากจะพาแม่เที่ยวต่างประเทศดูซักครั้ง แม่อายุเกือบๆจะ 70 แล้ว เดินไกลๆไม่ค่อยจะไหว ดังนั้นเราจึงมองหาประเทศที่เดินทางง่าย บินไม่นานเอาแบบที่บินตรงได้จากเชียงใหม่ ที่สำคัญราคาต้องไม่แพง มีตัวเลือกดีๆหลายๆประเทศ แต่เมื่อเทียบราคาตั๋วเครื่องบิน ความสะดวกสบายในการเดินทางและใช้ชีวิตตลอด 3 วัน 2 คืนแล้วละก็ เราเลือก มาเก๊า เป็นคำตอบสุดท้ายครับ
นี่คือแผนการท่องเที่ยวของเรา เผื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆในการวางแผนเที่ยวมาเก๊าครับ
.
DAY1
สนามบินมาเก๊า - The Venetian - The Parisian Macao - เข้าที่พักโรงแรม Sofitel Macau - fisherman's wharf - โชว์นำพุ Wynn Hotel
.
DAY2
ร้าน casa de cha long wa - ตลาด Red Market - วัดเจ้าแม่กวนอิม - วัดอาม่า - จตุรัสบาร่าห์ - จตุรัสเซนาโด้ - โบสถ์เซนด์โดมินิก - ถนนหมูแผ่น - ซากโบสถ์เซ็นปอลล์ - ถนนแห่งความสุข(happy street)
.
DAY3
โคโลอาน - ทาร์ตไข่ลอร์ดสโตร์ - โบสถ์เซ็นฟรานซิสซาเวียร์ - ลอร์ดสโตร์คาเฟ่ - หมู่บ้านโคโลอาน - รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมริมทะเล(ตรงข้ามMGM) - มาเก๊าทาวเวอร์ - ร้านห่าน Chan Kong’s kei - Studio City Hotel - สนามบินมาเก๊า
ตัวอย่างทีเซอร์คลิปเที่ยวมาเก๊าด้วยตัวเอง 3 วัน 2 คืน ทาง YouTube ความยาว 2 นาที
https://youtu.be/byXnftrR878
คลิปเที่ยวมาเก๊าด้วยตัวเอง 3 วัน 2 คืน ทาง YouTube ความยาว 57 นาที
https://youtu.be/ereM01N1na0
Facebook แฟนเพจ
https://www.facebook.com/happylazylady/
การเดินทางครั้งนี้เราทดลองเช่าเก้าอี้รถเข็นพับได้สำหรับผู้สูงอายุไปด้วยครับ น้ำหนักเพียง 6 กิโลกรับ สามารถเอาขึ้นเครื่องบินได้เลยโดยที่ไม่ต้องโหลด เจ้าหน้าที่ของสนามบินและเจ้าหน้าที่ของแอร์เอเชียดูแลผู้สูงอายุที่มีรถเข็นดีมากๆครับ เปิดช่องทางพิเศษให้ เก็บรถเข็นและนำรถเข็นมาให้ ที่ประทับใจสุดๆก็คือเจ้าหน้าที่แอร์เอเชียอัพเกรดที่นั่งของแม่ให้เป็นแบบที่นั่งสะดวกสบายขึ้นครับ โดยเฉพาะขากลับเชียงใหม่ ได้ที่นั่งหน้าสุดฮ๊อตซีทแบบไม่ต้องเสียงเงินเพิ่มกันเลยทีเดียว ประทับใจมากจริงๆครับ ต้องบอกก่อนว่าเราไม่ได้สปอนเซอร์ในการเดินทางครั้งนี้แต่อย่างใดนะครับ
เราเคยเที่ยวมาเก๊าแค่ 1 วัน เมื่อคราวไปฮ่องกงเมื่อหลายปีก่อน บอกตรงๆเลยว่าครั้งนั้นอยู่ในบ่อนคาซิโนซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่รู้เป็นอะไรมือขึ้นซะเหลือเกิน ทำให้ติดอยู่ในคาซิโนหลายชั่วโมงเลยทีเดียวครับ เอาจริงๆแล้วก็เหมือนไม่ได้เที่ยวมาเก๊าเลยนะครั้งนั้น ยิ่งมารู้ทีหลังว่ามาเก๊ามีอะไรให้เที่ยวอีกเยอะมากๆ ทำให้เราตัดสินใจไม่ยากเลยที่จะมาเยือนมาเก๊าอีกครั้ง ยิ่งมีบินตรงจากเชียงใหม่ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย ราคารวม ไป – กลับ แล้วตกแค่คนละ 3,950 บาทเท่านั้นเอง
DAY1
เราเดินทางเช้ามืดจากเชียงใหม่ถึงมาเก๊าสายๆประมาณ 10 โมง เรายังเช็คอินที่โรงแรมไม่ได้ เราจึงนั่งรถชัตเตอร์บัสฟรีของเวเนเชียนเข้าไปเที่ยวเล่นหาอะไรกินกันก่อน ผ่าน ตม. มาอย่างง่ายดาย เดินออกจากสนามบินก็เจอรถบัสเลย แต่ละโรงแรมก็จะมีรถบัสฟรีมารับนักท่องเที่ยวทำให้เราประหยัดค่าเดินทางไปได้มาก นั่งรถบัสได้ไม่ถึง 20 นาทีก็เข้าสู่ เดอะเวเนเชี่ยนมาเก๊า ที่นี่มีบริการรับฝากกระเป๋าราคาใบละ 30 MOP พอฝากสัมภาระตัวปลิวแล้วเราก็เข้าไปเที่ยวเล่นถ่ายรูปบริเวรที่เป็นคลองเวนิสจำลองกันอยู่นาน ว่าแล้วก็เริ่มคันไม้คันมืออย่างลองเสี่ยงโชคดูบ้าง แต่คราวนี้มือไม่ขึ้นเลยครับ หรือเพราะเครื่องเล่นแต่ละอย่างมันปรับเปลี่ยนใหม่หมดทำให้เราไม่คุ้นเคย ขอจบย่อหน้านี้แบบหล่อๆเลยนะครับว่า การพนันไม่เคยทำให้ใจริงๆครับ
เริ่มหิวขึ้นมาแล้ว อันที่จริงเราอยากจะปล่อยให้หิวแบบสุดๆเพราะร้านอาหารต่อไปที่เราจะเข้าไปรับประทานนั้นเป็นอาหารบุฟเฟ่นานาชาติชื่อดัง ร้านแบมบู (Bambu Restaurant) เข้าไปถ้ามราคาพนักงานบอกว่า หัวละ 250 MOP ซึ่งก็ตกประมาณ 1000 บาท เห็นเราลังเลๆพนักงานก็เสนอโปรโมชั่นต่างๆนาๆ มาเรื่อยๆ เช่นใช้บัตรสมาชิกของเวเนเชี่ยนได้ลดราคา แต่ที่ถูกที่สุดแล้วคือราคาโปรโมชั่นจากบัตร มาสเตอร์การ์ด ครับ คนแรกเต็มราคา คนที่ 2 ครึ่งราคา จากที่จะต้องจ่าย 4 คน 1000 MOP ก็ลดเหลือแค่ 775 MOP ลดไปเยอะเหมือนกันนะครับ ใครไปร้านแบมบู อย่าลืมถามเอาส่วนลดแบนี้ด้วยนะครับ ประหยัดไปได้เยอะเลย
ไลน์บุฟเฟ่ในร้านแบมบู จัดว่าคุ้มค่าเกินราคามากๆ หมูกรอบ เป็ด ห่าน อย่างดี ซาซึมิปลาดิบคุณภาพดีมาก ขนมของหวานต่างๆดีมาก โดยเฉพาะนมตุ๋นอร่อยมากจริงๆ แต่ผิดหวังนิดหน่อยตรงที่ดูจากรีวิวจะมีขาปูชิ้นใหญ่ๆให้กินด้วยแต่คราวนี้ไม่ยักกะมี แต่โดยรวมแล้วอาหารอร่อยมากครับ ถือว่าได้กินอาหารฮ่องกงมาเก๊าครบทุกอย่างในมื้อเดียว
ออกจาก เดอะเวเนเชี่ยนเราเดินไปถ่ายรูปที่หอไอเฟลจำลองของเดอะปารีเซียน ซึ่งก็อยู่ติดๆกันเลยครับ ก็แน่ละเค้าเจ้าของเดียวกัน มีทางในตึกเชื่อมหากันแต่ถ้ารีบๆไม่อยากเดินไกลแนะนำให้เดินออกมาข้างนอก ใช้ทางเดินนอกอาคารจะใกล้กว่าครับ แม้ว่าจะยังไม่มีบารมีได้ไปมหานครปารีส แต่การมาเห็นหอไอเฟลจำลองที่มาเก๊าแห่งนี้ก็ทำให้เราทั้งครอบครัวตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย เค้าจำลองมาได้เหมือนมาก (รู้ได้ยังไง ยังไม่เคยเห็นของจริง) ฉากหลังที่เป็นตึกสไตล์ยุโรป ทำให้ถ่ายรูปสนุกขึ้นอีกเป็นกอง
ถึงเวลาจะต้องเข้าไปเช็คอินที่โรงแรมซักที ให้เจ้าหน้าที่ที่เดอะเวเนเชี่ยนเรียกแท็กซี่ให้ (ที่มาเก๊านี้ดีอย่าง เจ้าหน้าที่หน้าโรงแรมหรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆจะมีเจ้าหน้าที่ให้บริการเราตอลด อยากได้แท็กซี่ก็แค่พูดว่า แท็กซี่พลีสสส ง่ายและสะดวกสบายมากครับ) มุ่งหน้าสู่ โรงแรมโซฟิเทลมาเก๊า ลากกระเป๋าเข้าไปเช็คอิน เราจองจาก อโกด้า ได้ราคา 3900 บาทต่อ 1 คืน อาจจะคิดว่าราคาค่อนข้างสูง ผมก็คิดว่าราคาค่อนข้างสูงเหมือนกันครับ แต่จะมีซักกี่ครั้งที่เราจะได้พักโรงแรมระดับ 5 ดาว กลางเมืองใหญ่ ในราคาไม่ถึง 4000 บาทแบบนี้ ที่มาเก๊าโอกาสดีๆแบบนี้มีให้คุณแทบจะทุกโรงแรมครับ เกือบทุกโรงแรมเป็น 5 ดาว และแต่ละโรงแรมก็ลดราคาจัดโปรโมชั่นเรียกลูกค้ากันน่าดู
การเข้าพักในโรงแรมโซฟิเทล ทำให้เราประทับใจตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าไปเช็คอิน มีเวลคัมดริงค์เล็กๆน่ารักๆ น้องพนักงานสาวสวยบอกบอกว่า ห้องแบบที่เราอยากได้ไม่มี ถ้าเราไม่ถือสาว่าห้องจะต้องติดกันละก็ น้องจะอัพเกรดให้ให้พี่แบบฟรีๆ มีเหรอครับที่เราจะไม่เอา
เปิดประตูห้องเข้าไป ก็ต้องร้องว้าววววว (ร้องว้าวววว....หนักมาก มีคลิปในยูทูปเป็นหลักฐานยืนยัน) ห้องพักกว้างขวางหรูหรา อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำ มีทีวีติดที่ปลายอ่าง ให้คุณนอนแช่น้ำร้อนจิบไวน์ดูทีวีได้สบายๆ ที่ภรรยาผมเจาะจงเอา โซฟิเทล เพราะว่า ที่นี่มีอุปกรณ์อาบ พวกแชมพูสบู่ครีมนวด ของ ล๊อกซิแทน แบรนด์หรูจากฝรั่งเศส อันที่จริงผมก็ไม่รู้จักหรอกครับ แต่ทางโรงแรมมีขวดเล็กให้ใช้ฟรีๆ 4 ขวดและเปลี่ยนขวดใหม่ให้ทุกวัน ยังไม่ทันจะถ่ายรูปเสร็จภรรยาผมคว้า 4 ขวดนั้นเก็บเข้ากระเป๋าอย่างไวเลยครับ ในห้องมีชุดคลุมอาบน้ำ สลีปเปอร์ ตู้เซฟปกติ มีเครื่องชั่งน้ำหนัก เตารีด ไดร์เป่าผม ครบครัน สำหรับผู้ชายอย่างผมคงจะต้องตื่นเต้นกับเครื่องชงกาแฟเนสเปรสโซ่ มีบริการให้ใช้กันแบบไม่คิดเงินเพิ่ม ปลั๊กไฟก็ใช้ได้สบายเหมือนบ้านเราเลยครับ วิวที่หน้าต่างก็เป็นวิวแม่น้ำสวยงาม สรุปแล้วว่าประทับใจโรงแรมโซฟเทลที่มาเก๊ามากๆครับ ลืมบอกไปว่าอยู่ตรงข้ามกับถนนแห่งความสุข Happy Street และสามารถเดินจากโรงแรมไปจัตุรัสเซนาโด้ได้เลย ระยะทางประมาณ 700 – 800 เมตรเท่านั้นครับ
เย็นวันนั้นเราออกไปเที่ยวใกล้ๆ fisherman wharf ไปดูโชวน้ำพุหน้าโรงแรม ซึ่งจะมีทุกๆ 15 นาที โดยที่เมื่อเวลาที่ลงท้ายด้วย :30 จะเป็นการแสดงชุดใหญ่แสงสีเสียงอลังการตระการตามากๆ ก่อนกลับห้องเราแวะทานอาหารร้านที่คนมาเก๊าแนะนำ อาหารหร่อยมากแต่เสียดายที่เราอ่านชื่อร้านไม่ออกจริงๆ ร้านอยูเยื้องๆกับโรงแรมแกรนลิสบัวเลยครับ
จบการเดินทางท่องเที่ยวในวันที่ 1 สำหรับวันที่ 2 และ 3 ต่อในคอมเมนท์ด้านล่างเลยครับ
มาเก๊า...ยังมีที่เที่ยวสนุกๆ ร้านอาหารหร่อยๆอีกเพียบครับ
ตัวอย่างคลิปเที่ยวมาเก๊าด้วยตัวเอง 3 วัน 2 คืน ทาง YouTube ความยาว 2 นาที
คลิปเที่ยวมาเก๊าด้วยตัวเอง 3 วัน 2 คืน ทาง YouTube ความยาว 57 นาที
ทริปนี้เราพาแม่ที่เป็นผู้สูงอายุไปด้วยครับ และได้ทดลองเช่าเก้าอี้รถเข็นแบบพับได้ไปใช้งานด้วย
ใช้งานดีมากๆ จึงทำรีวิวเอาไว้ เผื่อใครจะพาผู้สูงอายุไปเที่ยวอาจจะเป็นประโยชน์ครับ
Facebook แฟนเพจ
https://www.facebook.com/happylazylady/
เที่ยวมาเก๊า2018 ง่ายๆ จ่ายแค่นิดเดียว ผู้สูงวัยก็เที่ยวได้นะ
ทริปนี้เกิดขึ้นเนื่องจากเราอยากจะพาแม่เที่ยวต่างประเทศดูซักครั้ง แม่อายุเกือบๆจะ 70 แล้ว เดินไกลๆไม่ค่อยจะไหว ดังนั้นเราจึงมองหาประเทศที่เดินทางง่าย บินไม่นานเอาแบบที่บินตรงได้จากเชียงใหม่ ที่สำคัญราคาต้องไม่แพง มีตัวเลือกดีๆหลายๆประเทศ แต่เมื่อเทียบราคาตั๋วเครื่องบิน ความสะดวกสบายในการเดินทางและใช้ชีวิตตลอด 3 วัน 2 คืนแล้วละก็ เราเลือก มาเก๊า เป็นคำตอบสุดท้ายครับ
นี่คือแผนการท่องเที่ยวของเรา เผื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆในการวางแผนเที่ยวมาเก๊าครับ
.
DAY1
สนามบินมาเก๊า - The Venetian - The Parisian Macao - เข้าที่พักโรงแรม Sofitel Macau - fisherman's wharf - โชว์นำพุ Wynn Hotel
.
DAY2
ร้าน casa de cha long wa - ตลาด Red Market - วัดเจ้าแม่กวนอิม - วัดอาม่า - จตุรัสบาร่าห์ - จตุรัสเซนาโด้ - โบสถ์เซนด์โดมินิก - ถนนหมูแผ่น - ซากโบสถ์เซ็นปอลล์ - ถนนแห่งความสุข(happy street)
.
DAY3
โคโลอาน - ทาร์ตไข่ลอร์ดสโตร์ - โบสถ์เซ็นฟรานซิสซาเวียร์ - ลอร์ดสโตร์คาเฟ่ - หมู่บ้านโคโลอาน - รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมริมทะเล(ตรงข้ามMGM) - มาเก๊าทาวเวอร์ - ร้านห่าน Chan Kong’s kei - Studio City Hotel - สนามบินมาเก๊า
ตัวอย่างทีเซอร์คลิปเที่ยวมาเก๊าด้วยตัวเอง 3 วัน 2 คืน ทาง YouTube ความยาว 2 นาที
https://youtu.be/byXnftrR878
คลิปเที่ยวมาเก๊าด้วยตัวเอง 3 วัน 2 คืน ทาง YouTube ความยาว 57 นาที
https://youtu.be/ereM01N1na0
Facebook แฟนเพจ
https://www.facebook.com/happylazylady/
การเดินทางครั้งนี้เราทดลองเช่าเก้าอี้รถเข็นพับได้สำหรับผู้สูงอายุไปด้วยครับ น้ำหนักเพียง 6 กิโลกรับ สามารถเอาขึ้นเครื่องบินได้เลยโดยที่ไม่ต้องโหลด เจ้าหน้าที่ของสนามบินและเจ้าหน้าที่ของแอร์เอเชียดูแลผู้สูงอายุที่มีรถเข็นดีมากๆครับ เปิดช่องทางพิเศษให้ เก็บรถเข็นและนำรถเข็นมาให้ ที่ประทับใจสุดๆก็คือเจ้าหน้าที่แอร์เอเชียอัพเกรดที่นั่งของแม่ให้เป็นแบบที่นั่งสะดวกสบายขึ้นครับ โดยเฉพาะขากลับเชียงใหม่ ได้ที่นั่งหน้าสุดฮ๊อตซีทแบบไม่ต้องเสียงเงินเพิ่มกันเลยทีเดียว ประทับใจมากจริงๆครับ ต้องบอกก่อนว่าเราไม่ได้สปอนเซอร์ในการเดินทางครั้งนี้แต่อย่างใดนะครับ
เราเคยเที่ยวมาเก๊าแค่ 1 วัน เมื่อคราวไปฮ่องกงเมื่อหลายปีก่อน บอกตรงๆเลยว่าครั้งนั้นอยู่ในบ่อนคาซิโนซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่รู้เป็นอะไรมือขึ้นซะเหลือเกิน ทำให้ติดอยู่ในคาซิโนหลายชั่วโมงเลยทีเดียวครับ เอาจริงๆแล้วก็เหมือนไม่ได้เที่ยวมาเก๊าเลยนะครั้งนั้น ยิ่งมารู้ทีหลังว่ามาเก๊ามีอะไรให้เที่ยวอีกเยอะมากๆ ทำให้เราตัดสินใจไม่ยากเลยที่จะมาเยือนมาเก๊าอีกครั้ง ยิ่งมีบินตรงจากเชียงใหม่ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย ราคารวม ไป – กลับ แล้วตกแค่คนละ 3,950 บาทเท่านั้นเอง
DAY1
เราเดินทางเช้ามืดจากเชียงใหม่ถึงมาเก๊าสายๆประมาณ 10 โมง เรายังเช็คอินที่โรงแรมไม่ได้ เราจึงนั่งรถชัตเตอร์บัสฟรีของเวเนเชียนเข้าไปเที่ยวเล่นหาอะไรกินกันก่อน ผ่าน ตม. มาอย่างง่ายดาย เดินออกจากสนามบินก็เจอรถบัสเลย แต่ละโรงแรมก็จะมีรถบัสฟรีมารับนักท่องเที่ยวทำให้เราประหยัดค่าเดินทางไปได้มาก นั่งรถบัสได้ไม่ถึง 20 นาทีก็เข้าสู่ เดอะเวเนเชี่ยนมาเก๊า ที่นี่มีบริการรับฝากกระเป๋าราคาใบละ 30 MOP พอฝากสัมภาระตัวปลิวแล้วเราก็เข้าไปเที่ยวเล่นถ่ายรูปบริเวรที่เป็นคลองเวนิสจำลองกันอยู่นาน ว่าแล้วก็เริ่มคันไม้คันมืออย่างลองเสี่ยงโชคดูบ้าง แต่คราวนี้มือไม่ขึ้นเลยครับ หรือเพราะเครื่องเล่นแต่ละอย่างมันปรับเปลี่ยนใหม่หมดทำให้เราไม่คุ้นเคย ขอจบย่อหน้านี้แบบหล่อๆเลยนะครับว่า การพนันไม่เคยทำให้ใจริงๆครับ
เริ่มหิวขึ้นมาแล้ว อันที่จริงเราอยากจะปล่อยให้หิวแบบสุดๆเพราะร้านอาหารต่อไปที่เราจะเข้าไปรับประทานนั้นเป็นอาหารบุฟเฟ่นานาชาติชื่อดัง ร้านแบมบู (Bambu Restaurant) เข้าไปถ้ามราคาพนักงานบอกว่า หัวละ 250 MOP ซึ่งก็ตกประมาณ 1000 บาท เห็นเราลังเลๆพนักงานก็เสนอโปรโมชั่นต่างๆนาๆ มาเรื่อยๆ เช่นใช้บัตรสมาชิกของเวเนเชี่ยนได้ลดราคา แต่ที่ถูกที่สุดแล้วคือราคาโปรโมชั่นจากบัตร มาสเตอร์การ์ด ครับ คนแรกเต็มราคา คนที่ 2 ครึ่งราคา จากที่จะต้องจ่าย 4 คน 1000 MOP ก็ลดเหลือแค่ 775 MOP ลดไปเยอะเหมือนกันนะครับ ใครไปร้านแบมบู อย่าลืมถามเอาส่วนลดแบนี้ด้วยนะครับ ประหยัดไปได้เยอะเลย
ไลน์บุฟเฟ่ในร้านแบมบู จัดว่าคุ้มค่าเกินราคามากๆ หมูกรอบ เป็ด ห่าน อย่างดี ซาซึมิปลาดิบคุณภาพดีมาก ขนมของหวานต่างๆดีมาก โดยเฉพาะนมตุ๋นอร่อยมากจริงๆ แต่ผิดหวังนิดหน่อยตรงที่ดูจากรีวิวจะมีขาปูชิ้นใหญ่ๆให้กินด้วยแต่คราวนี้ไม่ยักกะมี แต่โดยรวมแล้วอาหารอร่อยมากครับ ถือว่าได้กินอาหารฮ่องกงมาเก๊าครบทุกอย่างในมื้อเดียว
ออกจาก เดอะเวเนเชี่ยนเราเดินไปถ่ายรูปที่หอไอเฟลจำลองของเดอะปารีเซียน ซึ่งก็อยู่ติดๆกันเลยครับ ก็แน่ละเค้าเจ้าของเดียวกัน มีทางในตึกเชื่อมหากันแต่ถ้ารีบๆไม่อยากเดินไกลแนะนำให้เดินออกมาข้างนอก ใช้ทางเดินนอกอาคารจะใกล้กว่าครับ แม้ว่าจะยังไม่มีบารมีได้ไปมหานครปารีส แต่การมาเห็นหอไอเฟลจำลองที่มาเก๊าแห่งนี้ก็ทำให้เราทั้งครอบครัวตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย เค้าจำลองมาได้เหมือนมาก (รู้ได้ยังไง ยังไม่เคยเห็นของจริง) ฉากหลังที่เป็นตึกสไตล์ยุโรป ทำให้ถ่ายรูปสนุกขึ้นอีกเป็นกอง
ถึงเวลาจะต้องเข้าไปเช็คอินที่โรงแรมซักที ให้เจ้าหน้าที่ที่เดอะเวเนเชี่ยนเรียกแท็กซี่ให้ (ที่มาเก๊านี้ดีอย่าง เจ้าหน้าที่หน้าโรงแรมหรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆจะมีเจ้าหน้าที่ให้บริการเราตอลด อยากได้แท็กซี่ก็แค่พูดว่า แท็กซี่พลีสสส ง่ายและสะดวกสบายมากครับ) มุ่งหน้าสู่ โรงแรมโซฟิเทลมาเก๊า ลากกระเป๋าเข้าไปเช็คอิน เราจองจาก อโกด้า ได้ราคา 3900 บาทต่อ 1 คืน อาจจะคิดว่าราคาค่อนข้างสูง ผมก็คิดว่าราคาค่อนข้างสูงเหมือนกันครับ แต่จะมีซักกี่ครั้งที่เราจะได้พักโรงแรมระดับ 5 ดาว กลางเมืองใหญ่ ในราคาไม่ถึง 4000 บาทแบบนี้ ที่มาเก๊าโอกาสดีๆแบบนี้มีให้คุณแทบจะทุกโรงแรมครับ เกือบทุกโรงแรมเป็น 5 ดาว และแต่ละโรงแรมก็ลดราคาจัดโปรโมชั่นเรียกลูกค้ากันน่าดู
การเข้าพักในโรงแรมโซฟิเทล ทำให้เราประทับใจตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าไปเช็คอิน มีเวลคัมดริงค์เล็กๆน่ารักๆ น้องพนักงานสาวสวยบอกบอกว่า ห้องแบบที่เราอยากได้ไม่มี ถ้าเราไม่ถือสาว่าห้องจะต้องติดกันละก็ น้องจะอัพเกรดให้ให้พี่แบบฟรีๆ มีเหรอครับที่เราจะไม่เอา
เปิดประตูห้องเข้าไป ก็ต้องร้องว้าววววว (ร้องว้าวววว....หนักมาก มีคลิปในยูทูปเป็นหลักฐานยืนยัน) ห้องพักกว้างขวางหรูหรา อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำ มีทีวีติดที่ปลายอ่าง ให้คุณนอนแช่น้ำร้อนจิบไวน์ดูทีวีได้สบายๆ ที่ภรรยาผมเจาะจงเอา โซฟิเทล เพราะว่า ที่นี่มีอุปกรณ์อาบ พวกแชมพูสบู่ครีมนวด ของ ล๊อกซิแทน แบรนด์หรูจากฝรั่งเศส อันที่จริงผมก็ไม่รู้จักหรอกครับ แต่ทางโรงแรมมีขวดเล็กให้ใช้ฟรีๆ 4 ขวดและเปลี่ยนขวดใหม่ให้ทุกวัน ยังไม่ทันจะถ่ายรูปเสร็จภรรยาผมคว้า 4 ขวดนั้นเก็บเข้ากระเป๋าอย่างไวเลยครับ ในห้องมีชุดคลุมอาบน้ำ สลีปเปอร์ ตู้เซฟปกติ มีเครื่องชั่งน้ำหนัก เตารีด ไดร์เป่าผม ครบครัน สำหรับผู้ชายอย่างผมคงจะต้องตื่นเต้นกับเครื่องชงกาแฟเนสเปรสโซ่ มีบริการให้ใช้กันแบบไม่คิดเงินเพิ่ม ปลั๊กไฟก็ใช้ได้สบายเหมือนบ้านเราเลยครับ วิวที่หน้าต่างก็เป็นวิวแม่น้ำสวยงาม สรุปแล้วว่าประทับใจโรงแรมโซฟเทลที่มาเก๊ามากๆครับ ลืมบอกไปว่าอยู่ตรงข้ามกับถนนแห่งความสุข Happy Street และสามารถเดินจากโรงแรมไปจัตุรัสเซนาโด้ได้เลย ระยะทางประมาณ 700 – 800 เมตรเท่านั้นครับ
เย็นวันนั้นเราออกไปเที่ยวใกล้ๆ fisherman wharf ไปดูโชวน้ำพุหน้าโรงแรม ซึ่งจะมีทุกๆ 15 นาที โดยที่เมื่อเวลาที่ลงท้ายด้วย :30 จะเป็นการแสดงชุดใหญ่แสงสีเสียงอลังการตระการตามากๆ ก่อนกลับห้องเราแวะทานอาหารร้านที่คนมาเก๊าแนะนำ อาหารหร่อยมากแต่เสียดายที่เราอ่านชื่อร้านไม่ออกจริงๆ ร้านอยูเยื้องๆกับโรงแรมแกรนลิสบัวเลยครับ
จบการเดินทางท่องเที่ยวในวันที่ 1 สำหรับวันที่ 2 และ 3 ต่อในคอมเมนท์ด้านล่างเลยครับ
มาเก๊า...ยังมีที่เที่ยวสนุกๆ ร้านอาหารหร่อยๆอีกเพียบครับ
ตัวอย่างคลิปเที่ยวมาเก๊าด้วยตัวเอง 3 วัน 2 คืน ทาง YouTube ความยาว 2 นาที
คลิปเที่ยวมาเก๊าด้วยตัวเอง 3 วัน 2 คืน ทาง YouTube ความยาว 57 นาที
ทริปนี้เราพาแม่ที่เป็นผู้สูงอายุไปด้วยครับ และได้ทดลองเช่าเก้าอี้รถเข็นแบบพับได้ไปใช้งานด้วย
ใช้งานดีมากๆ จึงทำรีวิวเอาไว้ เผื่อใครจะพาผู้สูงอายุไปเที่ยวอาจจะเป็นประโยชน์ครับ
Facebook แฟนเพจ
https://www.facebook.com/happylazylady/