1. หนังสือที่ถ่ายทอดความรู้ และประสบการณ์ของคนทำงานที่เคยผ่านทั้งความสำเร็จ ล้มลุกคลุกคลาน กดดัน เห็นสัจธรรม งง ปลาบปลื้ม ฯลฯ นานาประสบการณ์ที่ได้พบในที่ทำงาน ทั้งจากที่ปรึกษา หัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน ได้ถูกนำมาเรียบเรียงนำเสนออย่างตรงไปตรงมาเพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้ที่กำลังจะลงมาในสนาม “การทำงาน” ที่มีคู่แข่งมากหน้าหลายตารออยู่ และเราอยากให้คุณได้อ่านหนังสือเล่มนี้ก่อนก้าวเท้าลงไปในสนาม เพราะรับประกันได้ว่าเมื่ออยู่ในสนามแล้ว คุณจะไม่มีโอกาสได้รู้ เรื่องราวเหล่านี้เพราะมันคือ “สิ่งที่เจ้านายไม่เคยบอก”
——————
2. การทำงานร่วมกัน ชื่อก็บอกชัดชัดอยู่แล้วว่า “ทำงาน” นั่นหมายถึง เรากำลังอยู่ในสถานที่ทำงานซึ่งเป็นที่รวมตัวของคนทำงาน คนทำงานล้วนมีความหลากหลายเนื่องจากมีพื้นฐานชีวิตแตกต่างกัน ทั้งด้านครอบครัว ความเชื่อ การศึกษา ฐานะ ค่านิยม ทัศนคติ ฯลฯ เมื่อทุกคนมารวมตัวกันเพื่อทำงานและมุ่งหวังให้งานสำเร็จตามเป้าหมายจึงต้องยึด “งาน” เป็นสาระสำคัญ เราควรปล่อยวางความคิด อคติ หรือมุมมองส่วนตัวเพียงด้านเดียวแล้วเปิดใจรับฟังและยอมรับแบบมีเหตุมีผลเพื่อความสำเร็จของงาน
——————
3. ทัศนคติเกิดจากส่วนผสมระหว่างความคิด อารมณ์และความรู้สึก ทัศนคติจึงมีอิทธิพลต่อการทำงาน และมุมมองในการใช้ชีวิต เมื่อเปลี่ยนทัศนคติจากคนที่ทำงานเพื่อเงินเป็นคนที่ทำงานเพื่อผลงาน มองเห็นความผิดพลาดจากจุดบกพร่องของตนเองมากกว่าอิจฉาความสำเร็จคนอื่น ลงมือปฏิบัติแทนการวิพากษ์วิจารณ์ ผลงานที่เกิดขึ้นย่อมแตกต่าง แล้วจะรีรออะไรมา “เปลี่ยนชีวิตการทำงาน ด้วยการเปลี่ยนทัศนคติ” กันเถอะ
——————
4. ความสำเร็จของบริษัทระดับโลกอย่างกูเกิล ส่วนหนึ่งมาจากการสร้าง “วัฒนธรรมองค์กร” ที่ได้รับการยอมรับจากพนักงานทั่วโลก การมีวัฒนธรรมองค์กรที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมกลายเป็นเครื่องมือคัดกรองพนักงานใหม่ที่จะเข้ามาทำงานในบริษัท ให้ทบทวนตนเองให้ชัดเจนก่อนว่ามีคุณสมบัติที่จะทำงาน และยินดีที่จะหมดเวลาส่วนใหญ่ในชีวิตภายใต้วัฒนธรรมองค์กรแบบนี้ได้หรือไม่
——————
5. เราสามารถสร้างความสุขให้กับชีวิตในรูปแบบง่าย ๆ ด้วยการลงมือทำในสิ่งที่เราไม่เคยทำ เช่น ตื่นแต่เช้ามาทำงานบ้าน กินข้าวด้วยมือที่ไม่ถนัด เปิดดูอัลบั้มรูปเก่า แต่ความสุขที่แท้จริงล้วนเกิดจากการลงมือทำเพื่อผู้อื่นหาใช่การทำเพื่อตัวเราเองไม่ “เมื่อใดที่เราทำเพื่อผู้อื่นได้เมื่อนั้นใจเราจึงเบิกบาน”
——————
6. คนที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ล้วนผ่านการฝึกฝนสิ่งที่ตนเองสนใจอย่างหนักหน่วงจนเกิดเป็นความเชี่ยวชาญทั้งสิ้น คนส่วนใหญ่มักมองเห็นในมุมความสำเร็จของคนเหล่านั้นโดยไม่เคยรู้ถึงความยากลำบากกว่าจะไปถึงความสำเร็จ แต่เชื่อเถอะว่าความหลงใหลคลั่งไคล้บางสิ่งบางอย่างชนิดหมดหัวใจบวกกับความพยายามและความอดทนเท่านั้น ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ
——————
7. จงเป็นคนทำงานที่มีรอยยิ้ม สร้างเสียงหัวเราะ และกล้าแสดงความคิดเห็นต่อเนื้อหาของงาน โดยไม่ใส่อคติลงไป
——————
8. ความกล้าในการแสดงความคิดเห็นยังไม่เพียงพอต่อการก้าวไปข้างหน้าหรือเติบโตในอาชีพ แต่เรายังต้องรู้จักรับฟังความคิดเห็นของทุกคนแม้จะเป็นเพียงคนเล็กคนน้อยก็ตาม เพราะบางครั้งเราพบว่าคำแนะนำจากพนักงานที่ทำงานจริงอยู่ทุกวัน มีความน่าสนใจมากกว่าคำพูดของผู้บริหารที่ไม่เคยปฏิบัติจริงเสียอีก
——————
9. ควรเรียนรู้ ยอมรับ และใช้ประโยชน์จากความล้มเหลว เรียนรู้ว่าความล้มเหลวเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นกับใครก็ได้ ยอมรับว่าตัวเราก็ล้มเหลวได้เหมือนคนอื่น ๆ ใช้ความล้มเหลวเป็นแรงผลักดันนำเราไปสู่การเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น เพราะ “คนที่ไม่เคยแพ้ ย่อมไม่รู้จักคุณค่าของชัยชนะ”
——————
10. รูปแบบการใช้ชีวิตแบบเร่งรีบของคนยุคใหม่ มองอะไรอย่างผิวเผิน ทำให้ตัดสินใจผิดพลาดได้โดยง่าย อย่าด่วนตัดสินใจเรื่องราวใดใดที่ผ่านเข้ามาในชีวิตโดยไม่ไตร่ตรอง บ่อยครั้งเรื่องราวต่าง ๆ ที่เราด่วนสรุปกลับไม่เป็นไปอย่างที่เราคิดไว้ การไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนตัดสินใจในเรื่องราวต่างๆ จะช่วยชะลอความผิดพลาดจากการด่วนสรุป และทำให้เรามีโอกาสทบทวนความคิดจิตใจไปพร้อม ๆ กัน
——————
11. ความทุกข์อย่างหนึ่งของคนทำงาน คือ การถูกตำหนิติเตียนจากหัวหน้างานเมื่องานไม่เรียบร้อย ซึ่งความรู้สึกแรกมักจะเสียใจหรือเสียความรู้สึก ยิ่งเจอคำติที่รุนแรงยิ่งบั่นทอนจิตใจ แต่ถ้าเราตั้งสติแล้วค่อยๆ คิดถึงคำตำหนิแล้วทบทวนตนเองว่าเรามีข้อบกพร่องตรงจุดไหน แล้วปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น คำติชมเหล่านั้น เราเรียกว่า “ติเพื่อก่อ” ก่ออะไร?? ก่อให้เกิดการปรับปรุง ก่อ ให้เกิดการพัฒนา ก่อให้เกิดการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ
——————
12. รักษาสมดุลในชีวิตด้วยการแบ่งเวลาออกไปพักผ่อนท่องเที่ยวซะบ้าง ซึ่งสิ่งที่ได้รับเพิ่มเติม คือ แรงบันดาลใจจากประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เราจะเลือกเอามาปรับใช้เป็นต้นทุนในการทำงานต่อไปได้
——————
13. ไม่ว่าจะทำอะไร จงเริ่มต้นด้วยความรักและความหลงใหล เพราะความรักถึงขั้นหลงใหลจะกลายเป็นแรงขับเคลื่อนให้เราพยายามและมุ่งมั่นอดทนต่อปัจจัยต่าง ๆ ที่จะมากระทบต่อความตั้งใจของเราได้เป็นอย่างดี สิ่งหนึ่งที่เจ้านายไม่เคยบอกคุณ คือ การเริ่มต้นด้วยความรักและความหลงใหลยังคงเป็นปัจจัยอมตะต่อการริเริ่มสร้างคุณค่าความสุข และความสำเร็จอยู่เสมอ
——————
14. ถ้าอยากลาออกครั้งสุดท้ายเพื่อเริ่มต้นใหม่กับสิ่งที่ดีกว่า ขอให้แน่ใจก่อนว่าคุณได้ไตร่ตรองอย่างดีแล้วว่าคุณได้เตรียมตัวรับมือกับผลที่จะตามมาภายหลังจากการลาออก ทั้งเรื่องรายได้ งานใหม่ เพื่อนร่วมงานใหม่ และต้องมั่นใจว่าการลาออกครั้งนี้จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตคุณได้จริง ๆ และต้องเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นด้วย แต่ถ้ายังไม่มีแผนรองรับที่ดีพอ ก็อย่าเพิ่งยื่นใบลาออกจะดีกว่า
——————
15. กลวิธีจัดการชีวิตให้เกิดการเปลี่ยนแปลง (ไปในทางที่ดีขึ้น) /หัดสงสัย/หัดสังเกต/หัดตั้งคำถาม/หัดจินตนาการ/หัดวางแผน
——————
16. เรามักดำเนินชีวิตภายใต้ความรู้สึกเคยชิน เนื่องจากการใช้ชีวิตส่วนใหญ่ของเราต่างก็ทำอะไรซ้ำ ๆ การทำซ้ำ ๆ ทำให้เกิดความชำนาญก็จริงอยู่ แต่ก็จะไม่เกิดมุมมองอะไรใหม่ ๆ สิ่งที่ทำให้เราไม่อยู่กับความเคยชินมากเกินไป คือ การสังเกตสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวให้มากขึ้น สังเกตการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมรอบตัวเรา เพื่อนำสิ่งที่เห็นมาเป็นวัตถุดิบในการสร้างงานใหม่ ๆ หรือต่อยอดนวัตกรรมจากความคิดของผู้อื่นที่เคยทำไว้
——————
17. ในชีวิตของการทำงานทุกคนล้วนมีคู่แข่งทั้งในบริษัทเดียวกันหรือแม้แต่บริษัทคู่แข่ง คนที่ต้องการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานล้วนต้องแข่งขันอย่างดุเดือด แต่คู่แข่งคนสำคัญที่สุด ก็คือ “ตัวเราเอง” มีคนมากมายที่พยายามจะเอาชนะคนอื่นแต่แพ้ตัวเอง การเอาชนะตัวเองจึงเป็นสิ่งที่ยากที่สุด แต่ถ้าเรามี “ความเชื่อ” อย่างแรงกล้าเป็นตัวจุดประกาย มุ่งมั่น และลงมือทำอย่างจริงจัง เราก็จะก้าวข้ามขีดความสามารถ และเอาชนะตนเองได้
——————
18. การทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานซึ่งมีความแตกต่างกัน ต้องพึ่งพาอาศัยกัน และบางครั้งก็ต้องถกเถียงกันเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วง ผู้ที่จะทำงานให้สำเร็จไปพร้อม ๆ กับรักษามิตรภาพกับเพื่อนร่วมงานต้องรู้จัก “การควบคุมอารมณ์ของตนเอง” ซึ่งต้องอาศัย “สติ” ในการระลึกได้ว่าตัวเรากำลังทำอะไร คนที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ นอกจากจะลดการขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงานแล้วยังเท่ากับเพิ่มความอดทนอดกลั้นต่อแรงกดดันต่าง ๆ ได้อีกด้วย
——————
19. จงรักษาพลังแห่งความกระหายใคร่รู้ เพราะความอยากรู้นำไปสู่การออกไปค้นหาไปสำรวจสิ่งใหม่ๆ ข้อมูลใหม่ๆ ซึ่งสามารถนำมาต่อยอดไปสู่การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ต่อไปได้อย่างไม่รู้จบสิ้น
——————
20. อย่าพึงพอใจกับความสำเร็จเดิมๆ การพอใจกับผลงานที่สำเร็จลุล่วงเกิดขึ้นกับคนทำงานทุกคน แต่ความรู้สึกพึงพอใจกับความสำเร็จเดิม ๆ นานเกินไปก็ทำให้เราหยุดการเรียนรู้ ฝึกฝน พัฒนาสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ จะทำให้คนทำงานกลายเป็นคนเฉื่อยชา เคยสังเกตไหมว่าทำไมนักกีฬาจึงมุ่งจะทำลายสถิติเดิมที่มีคนทำไว้ก่อนหน้า ทั้งหมดก็เพื่อทำให้ตนเองไม่หยุดพัฒนาและก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง และไม่หยุดอยู่กับความสำเร็จแบบเดิมๆ
CREDIT : www.saroopbook.com
สรุปหนังสือ "สิ่งที่เจ้านายไม่เคยบอก"
——————
2. การทำงานร่วมกัน ชื่อก็บอกชัดชัดอยู่แล้วว่า “ทำงาน” นั่นหมายถึง เรากำลังอยู่ในสถานที่ทำงานซึ่งเป็นที่รวมตัวของคนทำงาน คนทำงานล้วนมีความหลากหลายเนื่องจากมีพื้นฐานชีวิตแตกต่างกัน ทั้งด้านครอบครัว ความเชื่อ การศึกษา ฐานะ ค่านิยม ทัศนคติ ฯลฯ เมื่อทุกคนมารวมตัวกันเพื่อทำงานและมุ่งหวังให้งานสำเร็จตามเป้าหมายจึงต้องยึด “งาน” เป็นสาระสำคัญ เราควรปล่อยวางความคิด อคติ หรือมุมมองส่วนตัวเพียงด้านเดียวแล้วเปิดใจรับฟังและยอมรับแบบมีเหตุมีผลเพื่อความสำเร็จของงาน
——————
3. ทัศนคติเกิดจากส่วนผสมระหว่างความคิด อารมณ์และความรู้สึก ทัศนคติจึงมีอิทธิพลต่อการทำงาน และมุมมองในการใช้ชีวิต เมื่อเปลี่ยนทัศนคติจากคนที่ทำงานเพื่อเงินเป็นคนที่ทำงานเพื่อผลงาน มองเห็นความผิดพลาดจากจุดบกพร่องของตนเองมากกว่าอิจฉาความสำเร็จคนอื่น ลงมือปฏิบัติแทนการวิพากษ์วิจารณ์ ผลงานที่เกิดขึ้นย่อมแตกต่าง แล้วจะรีรออะไรมา “เปลี่ยนชีวิตการทำงาน ด้วยการเปลี่ยนทัศนคติ” กันเถอะ
——————
4. ความสำเร็จของบริษัทระดับโลกอย่างกูเกิล ส่วนหนึ่งมาจากการสร้าง “วัฒนธรรมองค์กร” ที่ได้รับการยอมรับจากพนักงานทั่วโลก การมีวัฒนธรรมองค์กรที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมกลายเป็นเครื่องมือคัดกรองพนักงานใหม่ที่จะเข้ามาทำงานในบริษัท ให้ทบทวนตนเองให้ชัดเจนก่อนว่ามีคุณสมบัติที่จะทำงาน และยินดีที่จะหมดเวลาส่วนใหญ่ในชีวิตภายใต้วัฒนธรรมองค์กรแบบนี้ได้หรือไม่
——————
5. เราสามารถสร้างความสุขให้กับชีวิตในรูปแบบง่าย ๆ ด้วยการลงมือทำในสิ่งที่เราไม่เคยทำ เช่น ตื่นแต่เช้ามาทำงานบ้าน กินข้าวด้วยมือที่ไม่ถนัด เปิดดูอัลบั้มรูปเก่า แต่ความสุขที่แท้จริงล้วนเกิดจากการลงมือทำเพื่อผู้อื่นหาใช่การทำเพื่อตัวเราเองไม่ “เมื่อใดที่เราทำเพื่อผู้อื่นได้เมื่อนั้นใจเราจึงเบิกบาน”
——————
6. คนที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ล้วนผ่านการฝึกฝนสิ่งที่ตนเองสนใจอย่างหนักหน่วงจนเกิดเป็นความเชี่ยวชาญทั้งสิ้น คนส่วนใหญ่มักมองเห็นในมุมความสำเร็จของคนเหล่านั้นโดยไม่เคยรู้ถึงความยากลำบากกว่าจะไปถึงความสำเร็จ แต่เชื่อเถอะว่าความหลงใหลคลั่งไคล้บางสิ่งบางอย่างชนิดหมดหัวใจบวกกับความพยายามและความอดทนเท่านั้น ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ
——————
7. จงเป็นคนทำงานที่มีรอยยิ้ม สร้างเสียงหัวเราะ และกล้าแสดงความคิดเห็นต่อเนื้อหาของงาน โดยไม่ใส่อคติลงไป
——————
8. ความกล้าในการแสดงความคิดเห็นยังไม่เพียงพอต่อการก้าวไปข้างหน้าหรือเติบโตในอาชีพ แต่เรายังต้องรู้จักรับฟังความคิดเห็นของทุกคนแม้จะเป็นเพียงคนเล็กคนน้อยก็ตาม เพราะบางครั้งเราพบว่าคำแนะนำจากพนักงานที่ทำงานจริงอยู่ทุกวัน มีความน่าสนใจมากกว่าคำพูดของผู้บริหารที่ไม่เคยปฏิบัติจริงเสียอีก
——————
9. ควรเรียนรู้ ยอมรับ และใช้ประโยชน์จากความล้มเหลว เรียนรู้ว่าความล้มเหลวเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นกับใครก็ได้ ยอมรับว่าตัวเราก็ล้มเหลวได้เหมือนคนอื่น ๆ ใช้ความล้มเหลวเป็นแรงผลักดันนำเราไปสู่การเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น เพราะ “คนที่ไม่เคยแพ้ ย่อมไม่รู้จักคุณค่าของชัยชนะ”
——————
10. รูปแบบการใช้ชีวิตแบบเร่งรีบของคนยุคใหม่ มองอะไรอย่างผิวเผิน ทำให้ตัดสินใจผิดพลาดได้โดยง่าย อย่าด่วนตัดสินใจเรื่องราวใดใดที่ผ่านเข้ามาในชีวิตโดยไม่ไตร่ตรอง บ่อยครั้งเรื่องราวต่าง ๆ ที่เราด่วนสรุปกลับไม่เป็นไปอย่างที่เราคิดไว้ การไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนตัดสินใจในเรื่องราวต่างๆ จะช่วยชะลอความผิดพลาดจากการด่วนสรุป และทำให้เรามีโอกาสทบทวนความคิดจิตใจไปพร้อม ๆ กัน
——————
11. ความทุกข์อย่างหนึ่งของคนทำงาน คือ การถูกตำหนิติเตียนจากหัวหน้างานเมื่องานไม่เรียบร้อย ซึ่งความรู้สึกแรกมักจะเสียใจหรือเสียความรู้สึก ยิ่งเจอคำติที่รุนแรงยิ่งบั่นทอนจิตใจ แต่ถ้าเราตั้งสติแล้วค่อยๆ คิดถึงคำตำหนิแล้วทบทวนตนเองว่าเรามีข้อบกพร่องตรงจุดไหน แล้วปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น คำติชมเหล่านั้น เราเรียกว่า “ติเพื่อก่อ” ก่ออะไร?? ก่อให้เกิดการปรับปรุง ก่อ ให้เกิดการพัฒนา ก่อให้เกิดการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ
——————
12. รักษาสมดุลในชีวิตด้วยการแบ่งเวลาออกไปพักผ่อนท่องเที่ยวซะบ้าง ซึ่งสิ่งที่ได้รับเพิ่มเติม คือ แรงบันดาลใจจากประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เราจะเลือกเอามาปรับใช้เป็นต้นทุนในการทำงานต่อไปได้
——————
13. ไม่ว่าจะทำอะไร จงเริ่มต้นด้วยความรักและความหลงใหล เพราะความรักถึงขั้นหลงใหลจะกลายเป็นแรงขับเคลื่อนให้เราพยายามและมุ่งมั่นอดทนต่อปัจจัยต่าง ๆ ที่จะมากระทบต่อความตั้งใจของเราได้เป็นอย่างดี สิ่งหนึ่งที่เจ้านายไม่เคยบอกคุณ คือ การเริ่มต้นด้วยความรักและความหลงใหลยังคงเป็นปัจจัยอมตะต่อการริเริ่มสร้างคุณค่าความสุข และความสำเร็จอยู่เสมอ
——————
14. ถ้าอยากลาออกครั้งสุดท้ายเพื่อเริ่มต้นใหม่กับสิ่งที่ดีกว่า ขอให้แน่ใจก่อนว่าคุณได้ไตร่ตรองอย่างดีแล้วว่าคุณได้เตรียมตัวรับมือกับผลที่จะตามมาภายหลังจากการลาออก ทั้งเรื่องรายได้ งานใหม่ เพื่อนร่วมงานใหม่ และต้องมั่นใจว่าการลาออกครั้งนี้จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตคุณได้จริง ๆ และต้องเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นด้วย แต่ถ้ายังไม่มีแผนรองรับที่ดีพอ ก็อย่าเพิ่งยื่นใบลาออกจะดีกว่า
——————
15. กลวิธีจัดการชีวิตให้เกิดการเปลี่ยนแปลง (ไปในทางที่ดีขึ้น) /หัดสงสัย/หัดสังเกต/หัดตั้งคำถาม/หัดจินตนาการ/หัดวางแผน
——————
16. เรามักดำเนินชีวิตภายใต้ความรู้สึกเคยชิน เนื่องจากการใช้ชีวิตส่วนใหญ่ของเราต่างก็ทำอะไรซ้ำ ๆ การทำซ้ำ ๆ ทำให้เกิดความชำนาญก็จริงอยู่ แต่ก็จะไม่เกิดมุมมองอะไรใหม่ ๆ สิ่งที่ทำให้เราไม่อยู่กับความเคยชินมากเกินไป คือ การสังเกตสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวให้มากขึ้น สังเกตการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมรอบตัวเรา เพื่อนำสิ่งที่เห็นมาเป็นวัตถุดิบในการสร้างงานใหม่ ๆ หรือต่อยอดนวัตกรรมจากความคิดของผู้อื่นที่เคยทำไว้
——————
17. ในชีวิตของการทำงานทุกคนล้วนมีคู่แข่งทั้งในบริษัทเดียวกันหรือแม้แต่บริษัทคู่แข่ง คนที่ต้องการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานล้วนต้องแข่งขันอย่างดุเดือด แต่คู่แข่งคนสำคัญที่สุด ก็คือ “ตัวเราเอง” มีคนมากมายที่พยายามจะเอาชนะคนอื่นแต่แพ้ตัวเอง การเอาชนะตัวเองจึงเป็นสิ่งที่ยากที่สุด แต่ถ้าเรามี “ความเชื่อ” อย่างแรงกล้าเป็นตัวจุดประกาย มุ่งมั่น และลงมือทำอย่างจริงจัง เราก็จะก้าวข้ามขีดความสามารถ และเอาชนะตนเองได้
——————
18. การทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานซึ่งมีความแตกต่างกัน ต้องพึ่งพาอาศัยกัน และบางครั้งก็ต้องถกเถียงกันเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วง ผู้ที่จะทำงานให้สำเร็จไปพร้อม ๆ กับรักษามิตรภาพกับเพื่อนร่วมงานต้องรู้จัก “การควบคุมอารมณ์ของตนเอง” ซึ่งต้องอาศัย “สติ” ในการระลึกได้ว่าตัวเรากำลังทำอะไร คนที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ นอกจากจะลดการขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงานแล้วยังเท่ากับเพิ่มความอดทนอดกลั้นต่อแรงกดดันต่าง ๆ ได้อีกด้วย
——————
19. จงรักษาพลังแห่งความกระหายใคร่รู้ เพราะความอยากรู้นำไปสู่การออกไปค้นหาไปสำรวจสิ่งใหม่ๆ ข้อมูลใหม่ๆ ซึ่งสามารถนำมาต่อยอดไปสู่การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ต่อไปได้อย่างไม่รู้จบสิ้น
——————
20. อย่าพึงพอใจกับความสำเร็จเดิมๆ การพอใจกับผลงานที่สำเร็จลุล่วงเกิดขึ้นกับคนทำงานทุกคน แต่ความรู้สึกพึงพอใจกับความสำเร็จเดิม ๆ นานเกินไปก็ทำให้เราหยุดการเรียนรู้ ฝึกฝน พัฒนาสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ จะทำให้คนทำงานกลายเป็นคนเฉื่อยชา เคยสังเกตไหมว่าทำไมนักกีฬาจึงมุ่งจะทำลายสถิติเดิมที่มีคนทำไว้ก่อนหน้า ทั้งหมดก็เพื่อทำให้ตนเองไม่หยุดพัฒนาและก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง และไม่หยุดอยู่กับความสำเร็จแบบเดิมๆ
CREDIT : www.saroopbook.com