อยากรีวิวทั้ง 2 ภาครวมกัน จากคนที่ตามมาตั้งแต่ภาคแรก สำหรับใครที่อยากรู้มุมมองของคนที่ดูแต่ภาพยนตร์อย่างเดียว คุณเข้ามาถูกกระทู้แล้ว เพราะ จขกท. ไม่เคยอ่านหนังสือแฮรี่พอตเตอร์เลยแม้แต่นิดเดียว ดูหนังก็ดูครบแต่ก็ดูแบบงงๆ คิดว่าคงเหมาะกับคนที่เป็นแฟนหนังสือแฮรี่มากกว่า แต่พอเป็นสัตว์มหัศจรรย์รู้ว่าเขาเขียนขึ้นมาใหม่คนไม่เคยอ่านหนังสือก็สนุกได้เหมือนกัน เลยตั้งใจดูเป็นพิเศษ และนี้คือความรู้สึกหลังจากที้ดูจบครับ
กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิแบบสปอยล์ 100% นะ
1.แผลจากสงคราม
เรื่องราวเกิดขึ้นหลังจากมีสงครามโลกครั้งที่ 1 โลกเวทมนตร์ก็เพิ่งผ่านสงครามมาเช่นเดียวกัน ธีซิอุส(พี่ชายพระเอก)เป็นวีรบุรุษสงคราม หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เยอรมนีเป็นประเทศแพ้สงคราม ชายชื่อ อดอล์ฟฮิตเลอร์ ได้ปลุกลัทธิชาตินิยมขึ้นมา และลุกขึ้นฉีกสนธิสัญญาแวซาย(สัญญาสงบศึก) และพาโลกเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 แต่นั้นมา บุคลิกของกรินเดลวัลด์ตัวร้ายของเรื่องแอบมีความคล้ายคลึงกับอดอล์ฟฮิตเลอร์อยู่ ปลุกใจเก่ง คลั่งเชื้อชาติ และอยากฉีกสัญญา ซึ่งในโลกเวทมนตร์มันคือกฎหมายข้อ 1 ที่มีในทุกประเทศ เรื่องการปกปิดตัวตนของพ่อมดแม่มดเป็นความลับจากมนุษย์ วิเคราะห์จากคำพูดของนิวท์(พระเอก)และมาคูซ่า(ผู้นำกระทรวงเวทมนตร์สหรัฐ) เมื่อหลายร้อยปีก่อน มนุษย์และผู้มีเวทมนตร์อยู่ร่วมกันแต่มนุษย์เกิดความหวาดระแวง ผู้มีเวทมนตร์เลยต้องพยายามสะกดเก็บพลังตนเองไว้ แต่เด็กที่เก็บกดมาก ๆ จะควบคุมตนเองไม่ได้กลายเป็นพลังด้านมืด อ็อบสคูรัส เข้าโจมตี เมื่อก่อนเด็กที่เป็นอ็อบสคูรัสมีอยู่มาก และก็ตายด้วยวัยไม่เกิน 10 ขวบ สุดท้ายพ่อมดจึงเลือกวิธีหลบซ่อนตนเองและแยกโลกออกไป อ็อบสคูรัสจึงหายไป หลายร้อยปี จนกระทั่งมาปรากฎอีกครั้งในปัจจุบัน "ความบ้าคลั่งก็เหมือนแรงโน้มถ่วง ที่เราแค่ต้องผลักเบา ๆ " กรินเดลวัลด์ฉลาดมากที่อาศัยเรื่องราวที่อยู่ในใจเหล่าพ่อมดแม่มดอย่างยาวนานมาตั้งคำถามหาความจริง 1. ความเบื่อหน่ายที่ต้องหลบซ่อน 2. ความเบื่อหน่ายจากสงคราม 3. ความพิเศษของผู้มีเวทมนตร์ เมื่อเขาแสดงภาพในอนาคตให้เห็นว่ามนุษย์จะสร้างสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้นอีกอย่างแน่นอน ก็เหมือนเอาน้ำมันราดบนเปลวไฟ เหมือนส่งแรงผลักเบา ๆ ว่ากฎข้อ 1 ที่ทำต่อ ๆ กันมา เรื่องห้ามยุ่งเกี่ยวกับมนุษย์มันถูกต้องแล้วหรือ? ซึ่งเป็นการท้าทายต่ออำนาจรัฐ แม้ในใจคนดูอย่างเรา จะรู้ว่าความทะเยอทะยานของกรินเดลวัลด์มันมีมากกว่านั้น คือจะครองทั้งโลกพ่อมดและมนุษย์ต่างหาก แต่ก็อดคล้อยตามไม่ได้เหมือนกัน เพราะคำประกาศนี้มันมีพลัง และโน้มน้าวได้ดี พวกโนแมจ! พวกมักเกิ้ล! (สงสัยมาจาก smuggle) ฟังดูเหยียดหยามได้อารมณ์ดีแท้ โลกพ่อมดก็แบ่งเป็น 2 ฝ่าย ความรุนแรงก็เริ่มทวีขึ้นมา
2.ควีนนี่
เจ.เค. สร้างตัวละครควีนนี่ให้เป็นตัวแทนความคิดของเหล่าผู้มีเวทมนตร์ที่เข้าร่วมกับกรินดัลวัลด์ คือไม่ได้มีอุดมการณ์อะไรหรอกแต่เบื่อกับกฎเกณฑ์เดิม ๆ อย่างควีนนี่อยู่ครอบครัวที่เคร่งครัด เจค็อบ(เพื่อนพระเอก)คือโนแมจคนแรกที่ได้คุยด้วย แล้วก็ตกหลุมรักกัน แต่ก็ไม่สามารถแต่งงานกันได้เพราะกฎข้อ 1 ควีนนี่บอกว่าเจค็อบขี้ขลาดที่ไม่กล้าแหกกฎ ส่วนเจค็อบบอกว่าควีนนี่บ้ามากมันเสี่ยงเกินไป ความรู้สึกของควินนี่คงเหมือนกับมองไปข้างหลังก็ตาย ไปข้างหน้าก็ตาย ไปข้างหน้าดีกว่าอย่างน้อยยังมีทางรอด ถ้ากลับไปทำแบบเดิม วิธีการเดิม ๆ ผลลัพธ์คงเหมือนเดิม แต่มันเสี่ยง ซึ่งเราก็คงพูดเหมือนเจค็อบอะ เธอ..บ้าไปแล้ว แต่มองอีกมุมนึงเธอก็กล้าหาญที่จะสู้เพื่อความรัก เพื่อเอาชนะกฎเกณฑ์ที่ล้าหลัง ซึ่งตอนนั้นมองเห็นแต่กรินเดลวัลด์เท่านั้นที่เป็นทางออกได้
3. อัลบัส ดัมเบิลดอร์
ประโยคที่ว่า "ฉันชื่นชมเธอที่ไม่แสวงหาอำนาจหรือชื่อเสียง แค่สนใจว่าสิ่งที่ทำมันถูกหรือผิด ถ้าเป็นสิ่งที่ถูก เธอจะทำแม้ว่าจะเสี่ยงแค่ไหน" ประโยคนี้พูดกับนิวท์ แต่ทำไมกลับรู้สึกว่ามันคือประโยคที่แตกหักกับกรินดัลวอลด์มากกว่า ตามที่เข้าใจคือ กรินเดลวัลด์กับดัมเบิลดอร์เป็นเพื่อนรักกันมา จนทำสัญญาเลือดว่าจะไม่ทำร้ายกัน ต่อมาด้วยความทะเยอทะยานเกินไปของกรินเดลวัลด์ ดัมเบิลดอร์จึงขอแยกทางออกมา เพราะเขาไม่ชอบที่กรินเดลวัลด์ฝักใฝ่ในอำนาจและชื่อเสียงเกินไป ส่วนคำพูดประโยคหลังดัมเบิลดอร์น่าจะหมายถึงตัวเอง เมื่อเขามองนิวท์เหมือนมองเห็นตัวเอง การทำสิ่งที่ถูกต้อง แม้ว่าเสี่ยงแค่ไหนก็ควรทำ ภาพในกระจกที่เป็นรูปสัญญาเลือดและกรินเดลวัลด์ ซึ่งเราเชื่อว่าดัมเบิลดอร์ตัดสินใจแล้วว่าการขัดขวางกรินเดลวัลด์คือสิ่งที่ถูกต้อง ส่วนความประทับใจในตัวนิวท์ คงเพราะเป็นวีรกรรมที่เคยจับกุมกรินเดลวัลด์ไว้ได้ที่อเมริกา
4. นิวท์ สคามันเดอร์
นอกจากกฎห้ามยุ่งเกี่ยวกับมนุษย์แล้ว มันมีกฎห้ามเรื่องสัตว์ด้วยนะ ห้ามเลี้ยงสัตว์ ห้ามผสมพันธุ์สัตว์วิเศษ ในภาคแรกที่ทีน่า(นางเอก)ถามว่า "คุณศึกษาเพื่อจะกำจัดมันเหรอ" นิวท์ตอบ "ไม่ใช่ ผมศึกษาเพื่อให้เพื่อนผมเลิกกลัวมัน" เป้าหมายของนิวท์คงต้องการให้พ่อมดเปิดใจกว้างเรื่องสัตว์ อาจถึงการแก้กฎหมาย ต้องการให้ทุกโรงเรียนจะมีสอนเรื่องสัตว์วิเศษ ซึ่งเราก็รู้ว่าเขาจะทำสำเร็จ แต่จะเกี่ยวพันยังไงกับสงครามครั้งนี้น่าติดตามเหมือนกัน ชื่อเสียงของนิวท์ไม่ใช่แค่ดัมเบิลดอร์เท่านั้นที่ประทับใจ กระทรวงเวทมนตร์อังกฤษก็ประทับใจ ถึงขนาดมอบงานให้นิวท์ไปฆ่าครีเดนซ์ที่ฝรั่งเศส แต่เขาปฏิเสธ ดัมเบิลดอร์บอกว่าอยากให้ไปเพื่อช่วยครีเดนซ์ นิวท์ลังเลนิด ๆ แต่ก็ไม่ไปอยู่ดี เหตุผลจริง ๆ ที่ทำให้นิวท์ไปฝรั่งเศส กลับเป็นทีน่าที่กำลังปฏิบัติงานอยู่ที่นั่น และเขาอยากไปพบเธอ และก็ได้เจอกับ ลิต้า เลสแตรง เพื่อนสมัยเรียน ที่นิวท์บอกว่าทั้งคู่เข้ากันได้ดีเพราะเกือบถูกไล่ออกจากโรงเรียนเหมือนกัน เรารู้สึกว่าลิต้ายังรักนิวท์อยู่ แต่ก็ตามที่ควีนนี่เคยอ่านใจเอาไว้ เป็นความรักที่ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายร้องขอ(ฝ่ายเดียว) มันมีหักมุมด้วยว่า นกเรเวน นกประจำตระกูลบ้านเลสแตรง คล้ายกับนกที่ครีเดนซ์ป้อนอาหาร จากที่คิดว่าครีเดนซ์เป็นน้องของลิต้า นกตัวนั้นกลายเป็นนกฟีนิกซ์ และครีเดนซ์เป็นคนบ้านดัมเบิลดอร์ซะงั้น ส่วนลิต้าต้องเสียสละตัวเองตายตอนเข้าสู้กับกรินดัลวัลด์ เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้นิวท์ตัดสินใจเลือกฝ่ายในที่สุด
เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์
ถ้านับภาคแรกที่แปลงร่างเป็นคุณเกรฟ กรินเดลวัลด์มีบทค่อนข้างมากทีเดียวในเรื่องนี้ เริ่มจากข่าวที่กรินเดลวัลด์โจมตีสถานที่ต่าง ๆ ผิดกฎการปกปิดตัวตน เป็นบุคคลที่ทางการต้องการตัวมากที่สุด จนแฝงตัวไปตามหาเด็กที่เป็นออบสคูรัส ซึ่งทีแรกกรินเดลวัลด์ก็ไม่รู้ว่าเป็นครีเดนซ์ "เธอเป็นพวกไร้เวทมนตร์ แม่ของเธอตายแล้ว หมดธุระของฉันแล้ว" กรินเดลวัลด์รู้ว่าครีเดนซ์เป็นคนบ้านเลสแตรง ชื่อคอร์อุส จนถึงภาค 2 เมื่อได้ขโมยแผนภูมิตระกูลเลสแตรงมา จึงพบว่าไม่ใช่! คอร์อุสตายแล้ว คราวนี้กรินเดลวัลด์ปักใจเชื่อเลยว่าครีเดนซ์ก็คือ ออเรเรียส ดัมเบิลดอร์ จากคำทำนายของครอบครัวที่มีออบสคูเรียล ครอบครัวเลสแตรงไม่มีออลสคูเรียล ดังนั้น คำทำนายจึงตกเป็นของบ้านดัมเบิลดอร์ บุตรชายที่โดนเนรเทศ บุตรสาวที่สิ้นหวัง บุตรที่ครอบครัวพินาศจะกลับมาล้างแค้น จะเห็นว่า บุตรครอบครัวพินาศจะกลายเป็นผู้พิชิตสุดท้าย กรินเดลวัลด์จึงมั่นใจว่าเขามีไม้เด็ดไว้ข่มอัลบัสดัมเบิลดอร์แล้ว ส่วนว่าเขาสามารถรู้เรื่องของออเรเรียสได้ยังไง คงเป็นปมที่จะถูกเฉลยในภาคต่อไป แต่คำทำนายยังไม่สมบูรณ์อาจจะมีอะไรซุกซ่อนอยู่อีกก็ได้ ภาคต่อไปสงครามจะถูกยกระดับไปทั้งยุโรปและอเมริกา กรินเดลวัลด์หาความชอบธรรมให้ตัวเองสำเร็จ ประกาศข่าวออกไปแล้วว่าเราไม่ได้เป็นผู้ริเริ่มใช้ความรุนแรง ชอบซีนจบในภาค 2 มาก เป็นภาพตัดไปมาระหว่าง กรินดัลวัลด์พูดกับครีเดนซ์ และดัมบัลดอร์พูดกับนิวท์ ต่างคนต่างมีไม้เด็ดไว้เล่นงานฝ่ายตรงข้าม ให้อารมณ์เหมือนเรื่อง 2 คน 2 คม ดูแล้วฮึกเหิม จะรอติดตามชมภาคต่อไปอย่างแน่นอน
จบแล้วครับ ขอขอบคุณที่อ่านจนจบ กะว่าเว้นช่วงอาทิตย์หนึ่งแล้วค่อยสปอยล์ทีเดียว คิดเห็นยังไงกันบ้าง ส่วนตัวคิดว่าเจ.เค.ผูกเรื่องได้น่าติดตามดี แต่การดำเนินเรื่องช้าไปนิด เรารู้ว่าดัมเบิลดอร์จัดการกรินเดลวัลด์ได้แน่ แต่จะพลิกสถานการณ์ยังไง แถมยังมีเรื่องคำทำนายเข้ามาอีก ระดับความน่าติดตามให้ 8/10 ไปเลย
[CR] รีวิว Fantastic Beasts 1-2 สงครามกลางเมือง (civil war) ฉบับโลกพ่อมด
กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิแบบสปอยล์ 100% นะ
1.แผลจากสงคราม
เรื่องราวเกิดขึ้นหลังจากมีสงครามโลกครั้งที่ 1 โลกเวทมนตร์ก็เพิ่งผ่านสงครามมาเช่นเดียวกัน ธีซิอุส(พี่ชายพระเอก)เป็นวีรบุรุษสงคราม หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เยอรมนีเป็นประเทศแพ้สงคราม ชายชื่อ อดอล์ฟฮิตเลอร์ ได้ปลุกลัทธิชาตินิยมขึ้นมา และลุกขึ้นฉีกสนธิสัญญาแวซาย(สัญญาสงบศึก) และพาโลกเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 แต่นั้นมา บุคลิกของกรินเดลวัลด์ตัวร้ายของเรื่องแอบมีความคล้ายคลึงกับอดอล์ฟฮิตเลอร์อยู่ ปลุกใจเก่ง คลั่งเชื้อชาติ และอยากฉีกสัญญา ซึ่งในโลกเวทมนตร์มันคือกฎหมายข้อ 1 ที่มีในทุกประเทศ เรื่องการปกปิดตัวตนของพ่อมดแม่มดเป็นความลับจากมนุษย์ วิเคราะห์จากคำพูดของนิวท์(พระเอก)และมาคูซ่า(ผู้นำกระทรวงเวทมนตร์สหรัฐ) เมื่อหลายร้อยปีก่อน มนุษย์และผู้มีเวทมนตร์อยู่ร่วมกันแต่มนุษย์เกิดความหวาดระแวง ผู้มีเวทมนตร์เลยต้องพยายามสะกดเก็บพลังตนเองไว้ แต่เด็กที่เก็บกดมาก ๆ จะควบคุมตนเองไม่ได้กลายเป็นพลังด้านมืด อ็อบสคูรัส เข้าโจมตี เมื่อก่อนเด็กที่เป็นอ็อบสคูรัสมีอยู่มาก และก็ตายด้วยวัยไม่เกิน 10 ขวบ สุดท้ายพ่อมดจึงเลือกวิธีหลบซ่อนตนเองและแยกโลกออกไป อ็อบสคูรัสจึงหายไป หลายร้อยปี จนกระทั่งมาปรากฎอีกครั้งในปัจจุบัน "ความบ้าคลั่งก็เหมือนแรงโน้มถ่วง ที่เราแค่ต้องผลักเบา ๆ " กรินเดลวัลด์ฉลาดมากที่อาศัยเรื่องราวที่อยู่ในใจเหล่าพ่อมดแม่มดอย่างยาวนานมาตั้งคำถามหาความจริง 1. ความเบื่อหน่ายที่ต้องหลบซ่อน 2. ความเบื่อหน่ายจากสงคราม 3. ความพิเศษของผู้มีเวทมนตร์ เมื่อเขาแสดงภาพในอนาคตให้เห็นว่ามนุษย์จะสร้างสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้นอีกอย่างแน่นอน ก็เหมือนเอาน้ำมันราดบนเปลวไฟ เหมือนส่งแรงผลักเบา ๆ ว่ากฎข้อ 1 ที่ทำต่อ ๆ กันมา เรื่องห้ามยุ่งเกี่ยวกับมนุษย์มันถูกต้องแล้วหรือ? ซึ่งเป็นการท้าทายต่ออำนาจรัฐ แม้ในใจคนดูอย่างเรา จะรู้ว่าความทะเยอทะยานของกรินเดลวัลด์มันมีมากกว่านั้น คือจะครองทั้งโลกพ่อมดและมนุษย์ต่างหาก แต่ก็อดคล้อยตามไม่ได้เหมือนกัน เพราะคำประกาศนี้มันมีพลัง และโน้มน้าวได้ดี พวกโนแมจ! พวกมักเกิ้ล! (สงสัยมาจาก smuggle) ฟังดูเหยียดหยามได้อารมณ์ดีแท้ โลกพ่อมดก็แบ่งเป็น 2 ฝ่าย ความรุนแรงก็เริ่มทวีขึ้นมา
2.ควีนนี่
เจ.เค. สร้างตัวละครควีนนี่ให้เป็นตัวแทนความคิดของเหล่าผู้มีเวทมนตร์ที่เข้าร่วมกับกรินดัลวัลด์ คือไม่ได้มีอุดมการณ์อะไรหรอกแต่เบื่อกับกฎเกณฑ์เดิม ๆ อย่างควีนนี่อยู่ครอบครัวที่เคร่งครัด เจค็อบ(เพื่อนพระเอก)คือโนแมจคนแรกที่ได้คุยด้วย แล้วก็ตกหลุมรักกัน แต่ก็ไม่สามารถแต่งงานกันได้เพราะกฎข้อ 1 ควีนนี่บอกว่าเจค็อบขี้ขลาดที่ไม่กล้าแหกกฎ ส่วนเจค็อบบอกว่าควีนนี่บ้ามากมันเสี่ยงเกินไป ความรู้สึกของควินนี่คงเหมือนกับมองไปข้างหลังก็ตาย ไปข้างหน้าก็ตาย ไปข้างหน้าดีกว่าอย่างน้อยยังมีทางรอด ถ้ากลับไปทำแบบเดิม วิธีการเดิม ๆ ผลลัพธ์คงเหมือนเดิม แต่มันเสี่ยง ซึ่งเราก็คงพูดเหมือนเจค็อบอะ เธอ..บ้าไปแล้ว แต่มองอีกมุมนึงเธอก็กล้าหาญที่จะสู้เพื่อความรัก เพื่อเอาชนะกฎเกณฑ์ที่ล้าหลัง ซึ่งตอนนั้นมองเห็นแต่กรินเดลวัลด์เท่านั้นที่เป็นทางออกได้
3. อัลบัส ดัมเบิลดอร์
ประโยคที่ว่า "ฉันชื่นชมเธอที่ไม่แสวงหาอำนาจหรือชื่อเสียง แค่สนใจว่าสิ่งที่ทำมันถูกหรือผิด ถ้าเป็นสิ่งที่ถูก เธอจะทำแม้ว่าจะเสี่ยงแค่ไหน" ประโยคนี้พูดกับนิวท์ แต่ทำไมกลับรู้สึกว่ามันคือประโยคที่แตกหักกับกรินดัลวอลด์มากกว่า ตามที่เข้าใจคือ กรินเดลวัลด์กับดัมเบิลดอร์เป็นเพื่อนรักกันมา จนทำสัญญาเลือดว่าจะไม่ทำร้ายกัน ต่อมาด้วยความทะเยอทะยานเกินไปของกรินเดลวัลด์ ดัมเบิลดอร์จึงขอแยกทางออกมา เพราะเขาไม่ชอบที่กรินเดลวัลด์ฝักใฝ่ในอำนาจและชื่อเสียงเกินไป ส่วนคำพูดประโยคหลังดัมเบิลดอร์น่าจะหมายถึงตัวเอง เมื่อเขามองนิวท์เหมือนมองเห็นตัวเอง การทำสิ่งที่ถูกต้อง แม้ว่าเสี่ยงแค่ไหนก็ควรทำ ภาพในกระจกที่เป็นรูปสัญญาเลือดและกรินเดลวัลด์ ซึ่งเราเชื่อว่าดัมเบิลดอร์ตัดสินใจแล้วว่าการขัดขวางกรินเดลวัลด์คือสิ่งที่ถูกต้อง ส่วนความประทับใจในตัวนิวท์ คงเพราะเป็นวีรกรรมที่เคยจับกุมกรินเดลวัลด์ไว้ได้ที่อเมริกา
4. นิวท์ สคามันเดอร์
นอกจากกฎห้ามยุ่งเกี่ยวกับมนุษย์แล้ว มันมีกฎห้ามเรื่องสัตว์ด้วยนะ ห้ามเลี้ยงสัตว์ ห้ามผสมพันธุ์สัตว์วิเศษ ในภาคแรกที่ทีน่า(นางเอก)ถามว่า "คุณศึกษาเพื่อจะกำจัดมันเหรอ" นิวท์ตอบ "ไม่ใช่ ผมศึกษาเพื่อให้เพื่อนผมเลิกกลัวมัน" เป้าหมายของนิวท์คงต้องการให้พ่อมดเปิดใจกว้างเรื่องสัตว์ อาจถึงการแก้กฎหมาย ต้องการให้ทุกโรงเรียนจะมีสอนเรื่องสัตว์วิเศษ ซึ่งเราก็รู้ว่าเขาจะทำสำเร็จ แต่จะเกี่ยวพันยังไงกับสงครามครั้งนี้น่าติดตามเหมือนกัน ชื่อเสียงของนิวท์ไม่ใช่แค่ดัมเบิลดอร์เท่านั้นที่ประทับใจ กระทรวงเวทมนตร์อังกฤษก็ประทับใจ ถึงขนาดมอบงานให้นิวท์ไปฆ่าครีเดนซ์ที่ฝรั่งเศส แต่เขาปฏิเสธ ดัมเบิลดอร์บอกว่าอยากให้ไปเพื่อช่วยครีเดนซ์ นิวท์ลังเลนิด ๆ แต่ก็ไม่ไปอยู่ดี เหตุผลจริง ๆ ที่ทำให้นิวท์ไปฝรั่งเศส กลับเป็นทีน่าที่กำลังปฏิบัติงานอยู่ที่นั่น และเขาอยากไปพบเธอ และก็ได้เจอกับ ลิต้า เลสแตรง เพื่อนสมัยเรียน ที่นิวท์บอกว่าทั้งคู่เข้ากันได้ดีเพราะเกือบถูกไล่ออกจากโรงเรียนเหมือนกัน เรารู้สึกว่าลิต้ายังรักนิวท์อยู่ แต่ก็ตามที่ควีนนี่เคยอ่านใจเอาไว้ เป็นความรักที่ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายร้องขอ(ฝ่ายเดียว) มันมีหักมุมด้วยว่า นกเรเวน นกประจำตระกูลบ้านเลสแตรง คล้ายกับนกที่ครีเดนซ์ป้อนอาหาร จากที่คิดว่าครีเดนซ์เป็นน้องของลิต้า นกตัวนั้นกลายเป็นนกฟีนิกซ์ และครีเดนซ์เป็นคนบ้านดัมเบิลดอร์ซะงั้น ส่วนลิต้าต้องเสียสละตัวเองตายตอนเข้าสู้กับกรินดัลวัลด์ เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้นิวท์ตัดสินใจเลือกฝ่ายในที่สุด
เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์
ถ้านับภาคแรกที่แปลงร่างเป็นคุณเกรฟ กรินเดลวัลด์มีบทค่อนข้างมากทีเดียวในเรื่องนี้ เริ่มจากข่าวที่กรินเดลวัลด์โจมตีสถานที่ต่าง ๆ ผิดกฎการปกปิดตัวตน เป็นบุคคลที่ทางการต้องการตัวมากที่สุด จนแฝงตัวไปตามหาเด็กที่เป็นออบสคูรัส ซึ่งทีแรกกรินเดลวัลด์ก็ไม่รู้ว่าเป็นครีเดนซ์ "เธอเป็นพวกไร้เวทมนตร์ แม่ของเธอตายแล้ว หมดธุระของฉันแล้ว" กรินเดลวัลด์รู้ว่าครีเดนซ์เป็นคนบ้านเลสแตรง ชื่อคอร์อุส จนถึงภาค 2 เมื่อได้ขโมยแผนภูมิตระกูลเลสแตรงมา จึงพบว่าไม่ใช่! คอร์อุสตายแล้ว คราวนี้กรินเดลวัลด์ปักใจเชื่อเลยว่าครีเดนซ์ก็คือ ออเรเรียส ดัมเบิลดอร์ จากคำทำนายของครอบครัวที่มีออบสคูเรียล ครอบครัวเลสแตรงไม่มีออลสคูเรียล ดังนั้น คำทำนายจึงตกเป็นของบ้านดัมเบิลดอร์ บุตรชายที่โดนเนรเทศ บุตรสาวที่สิ้นหวัง บุตรที่ครอบครัวพินาศจะกลับมาล้างแค้น จะเห็นว่า บุตรครอบครัวพินาศจะกลายเป็นผู้พิชิตสุดท้าย กรินเดลวัลด์จึงมั่นใจว่าเขามีไม้เด็ดไว้ข่มอัลบัสดัมเบิลดอร์แล้ว ส่วนว่าเขาสามารถรู้เรื่องของออเรเรียสได้ยังไง คงเป็นปมที่จะถูกเฉลยในภาคต่อไป แต่คำทำนายยังไม่สมบูรณ์อาจจะมีอะไรซุกซ่อนอยู่อีกก็ได้ ภาคต่อไปสงครามจะถูกยกระดับไปทั้งยุโรปและอเมริกา กรินเดลวัลด์หาความชอบธรรมให้ตัวเองสำเร็จ ประกาศข่าวออกไปแล้วว่าเราไม่ได้เป็นผู้ริเริ่มใช้ความรุนแรง ชอบซีนจบในภาค 2 มาก เป็นภาพตัดไปมาระหว่าง กรินดัลวัลด์พูดกับครีเดนซ์ และดัมบัลดอร์พูดกับนิวท์ ต่างคนต่างมีไม้เด็ดไว้เล่นงานฝ่ายตรงข้าม ให้อารมณ์เหมือนเรื่อง 2 คน 2 คม ดูแล้วฮึกเหิม จะรอติดตามชมภาคต่อไปอย่างแน่นอน
จบแล้วครับ ขอขอบคุณที่อ่านจนจบ กะว่าเว้นช่วงอาทิตย์หนึ่งแล้วค่อยสปอยล์ทีเดียว คิดเห็นยังไงกันบ้าง ส่วนตัวคิดว่าเจ.เค.ผูกเรื่องได้น่าติดตามดี แต่การดำเนินเรื่องช้าไปนิด เรารู้ว่าดัมเบิลดอร์จัดการกรินเดลวัลด์ได้แน่ แต่จะพลิกสถานการณ์ยังไง แถมยังมีเรื่องคำทำนายเข้ามาอีก ระดับความน่าติดตามให้ 8/10 ไปเลย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้